ก อกน ำม นแบบเกล ยว hoda ม ก แบบ

ฮอนด้าอัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายฤดูฝน

เผยแพร่: 14 ก.ย. 2555 11:16 โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ-ค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เดินกลยุทธ์กระตุ้นยอดจำหน่าย ด้วยการอัดกิจกรรมกีฬาฟุตบอล ควบคู่ไปกับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 2 รุ่นล่าสุดอย่าง Zoomer-X และ New CBR250R รับมือกับแนวโน้มชะลอตัวของตลาดรวม หลังยอดจดทะเบียนรวมในเดือนสิงหาคมได้รับผลกระทบจากฤดูฝน สุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหารบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ยอดจดทะเบียนรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 179,715 คัน ปรับตัวลดลง 6% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยฮอนด้ามียอดจดทะเบียนสูงสุดที่ 126,058 คัน ปรับตัวลดลง 6% เท่ากับตลาดรวม รักษาความเป็นผู้นำด้วยมาร์เกตแชร์ที่ 70% โดยรุ่นที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดในกลุ่มรถครอบครัวและสูงที่สุดในตลาดรวมทั้งหมดยังคงเป็น Honda Wave110i ที่ 54,660 คัน ในขณะที่รุ่นที่มียอดจดทะเบียนสูงที่สุดในกลุ่มรถเอ.ที.ยังคงเป็น Honda Scoopy i ที่ 27,299 คัน”

“การปรับตัวลดลงของปริมาณการซื้อขายรถจักรยานยนต์ในช่วงฤดูฝนถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาดได้วางกลยุทธ์ที่จะกระตุ้นความคึกคักรองรับไว้แล้วโดยเน้นหนักไปที่กิจกรรมสปอร์ตมาร์เกตติ้งเพื่อส่งมอบความสนุกตามแนวคิด “ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหา... อะไรใหม่ๆ” ให้กับแฟนบอลลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ผ่านทางร้าน Honda Wing Center ทั่วประเทศ

เผยแพร่: 10 พ.ย. 2552 12:18 โดย: MGR Online

ทิ้งระยะจากการเผยภาพคันจริงยั่วใจแฟนๆ ฮอนด้ามาได้เพียงเดือนเศษๆ ในตอนนี้ ฮอนด้า อเมริกาเหนือจัดการเปิดตัวเวอร์ชันอเนกประสงค์ของแอคคอร์ดออกมาแล้ว โดยมีคำว่า ‘ครอสส์ทัวร์-Crosstour’ ต่อท้าย โดยตัวรถมากับตัวถัง 5 ประตูท้ายลาดที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับแอคคอร์ดรุ่นปัจจุบัน และในตอนแรกมีขายเฉพาะตลาดอเมริกาเหนือเป็นหลัก

ครอสส์ทัวร์ถือเป็นผลผลิตที่ 2 ของฮอนด้าในการเพิ่มทางเลือกด้วยความอเนกประสงค์บนตัวถังแบบแฮทช์แบ็กท้ายลาด โดยก่อนหน้านั้นแบรนด์อาคูราเปิดตัวรุ่น ZDX ออกมาทำตลาดภายใต้แนวคิดที่คล้ายกัน แต่เน้นเจาะตลาดระดับหรูเป็นหลัก

สำหรับครอสส์ทัวร์เป็นการพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับแอคคอร์ด เวอร์ชันอเมริกาเหนือ (และบ้านเรา) ตัวถังด้านหน้าจนถึงเสากลางใช้ร่วมกัน แต่เพื่อสร้างความแตกต่างในเรื่องความรู้สึกว่าไม่ได้ลดต้นทุนถึงขนาดใช้ชิ้นส่วนตัวถังที่เป็นเปลือกนอกของตัวถังร่วมกัน ฮอนด้าก็เลยออกแบบกันชนหน้า ไฟหน้า และกระจังหน้าใหม่มีขนาดใหญ่และเป็นแบบ 6 เหลี่ยมหรือ 6-Point Grille ส่วนด้านท้ายได้รับการออกแบบใหม่อยู่แล้ว และเน้นความสปอร์ตและสัมผัสที่โฉบเฉี่ยวด้วยแนวเส้นหลังคาด้านท้านลาดเทลงเช่นเดียวกับแนวของขอบฝากระโปรงหลัง

ส่วนใครจะตีข่าวต่อเนื่องว่าที่เห็นอยู่นี้อาจจะกลายเป็นเวอร์ชันไมเนอร์เชนจ์ของแอคคอร์ด (ซึ่งก็น่าจะใกล้ถึงแล้ว เพราะขายมาร่วม 2 ปี) ก็ว่ากันไป เพราะทางฮอนด้ายังไม่ได้ระบุว่า เมื่อถึงเวลาปรับโฉมของแอคคอร์ด เวอร์ชันอเมริกาเหนือ จะเล่นกันง่ายๆ แบบนี้หรือเปล่า

ในช่วงแรกของการอุ่นเครื่องด้วยภาพคันจริง ฮอนด้าไม่ได้เผยภาพของภายในห้องโดยสารออกมาด้วย ซึ่งก็คาดหมายกันไปต่างๆ นานาๆ ว่า ในเมื่อลงทุนปรับหน้าตากันขนาดนี้แล้ว ภายในก็น่าจะออกแบบใหม่ แต่สุดท้ายแล้ว ก็ผิดหวังกันเป็นแถว เพราะฮอนด้าเลือกที่จะปรับปรุงเพิ่มความหรูบนรูปแบบและโครงสร้างของแผงหน้าปัดชุดเดียวกับแอคคอร์ด ซีดาน ที่ต่างออกไปแบบสังเกตเห็นได้คือ พวงมาลัยเป็นลายใหม่แบบ 3 ก้าน ส่วนเบาะหลังสามารถเลือกพับได้ทั้งแบบ 40:60 หรือว่าจะพับลงทั้งหมดในการเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระก็ได้

หนึ่งเดียวกับความแรงที่มีให้สัมผัส ด้วยเครื่องยนต์วี6 SOHC i-VTEC 3,500 ซีซีของรุ่นซีดาน และคูเป้ มีกำลังขับเคลื่อน 271 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 35.0 กก.-ม. ที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมระบบ VCM-Variable Cylinder Management ซึ่งจะลดการจ่ายน้ำมันเข้าสู่กระบอกสูบจากเดิม 6 สูบให้เหลือเพียง 3 สูบ หรือ 4 สูบโดยอัตโนมัติในช่วงของการขับด้วยความเร็วคงที่ เพื่อความประหยัดน้ำมัน

ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ และมีให้เลือกทั้งแบบขับล้อหน้าแบบเดียว หรือแบบ 4 ล้อแบบ Real-Time ซึ่งมีรูปแบบการทำงานคล้ายกับของฮอนด้า ซีอาร์-วี หมายความว่าในการขับแบบปกติจะอาศัยล้อหน้าเป็นหลักในการขับเคลื่อน แต่จะกระจายแรงบิดไปยังล้อหลังเมื่อเกิดการลื่นไถล หรือขับบนเส้นทางที่ลื่น เพื่อการทรงตัวที่ดีขึ้น

ระบบกันสะเทือนใช้พื้นฐานเดียวกับซีดานและคูเป้ ด้านหน้าเป็นแบบปีกนก 2 ชั้น และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ โดยทุกรุ่นติดตั้งล้อขนาด 17 นิ้วเป็นมาตรฐานจากโรงงาน แต่ถ้าอยากสวยก็จ่ายเพิ่มเปลี่ยนเป็นล้อ 18 นิ้วพร้อมยาง 225/40R18 ก็ได้

ราคาในสหรัฐอเมริกาตั้งเอาไว้ที่ 29,670-36,220 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 979,000-1,190,000 บาท ถือว่าแพงกว่าแอคคอร์ด ซีดานและคูเป้เอาเรื่องเหมือนกัน เพราะทั้ง 2 ตัวถังมีราคาอยู่ระหว่าง 21,000-31,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 639,000-1,023,000 บาท ขณะที่การทำตลาดในข่วงแรกจะมีเฉพาะอเมริกาเหนือเท่านั้น

ส่วนเรื่องขายในตลาดต่างแดน คงมีแค่ญี่ปุ่นเท่านั้นที่มีสิทธิ์ เพราะในตลาดแดนปลาดิบ มีการส่งแอคคอร์ด ซีดาน เวอร์ชันอเมริกาเหนือเข้าไปขายในบ้านตัวเองด้วยชื่ออินสไปร์ (Inspire) มาตั้งแต่รุ่นที่แล้ว ขณะที่ผลผลิตจากตลาดอเมริกาเหนือหลายรุ่นก็เคยถูกส่งเข้ามาขายที่นี่ด้วยเช่นกัน อย่าง โอดิสซีส์ เวอร์ชันอเมริกันรุ่นที่แล้ว หรือเอสยูวีรุ่นเอเลเมนท์

ดังนั้น ลูกค้าฮอนด้าในบ้านเราถ้าอยากขับคงต้องรอลุ้นให้มีส่งเข้าไปขายในญี่ปุ่น แล้วสั่งผ่านทางผู้นำเข้ารายย่อยอีกที แล้วก็เตรียมเงินเอาไว้เยอะๆ หน่อย เพราะค่าตัวไม่ถูกแน่

HRV 2023 EL กับ RS ต่างกันยังไง

แต่ประเด็นที่บอกว่าแตกต่างกัน รุ่น RS คือ รุ่น EL ช่วงล่างจะนุ่มกว่าเล็กน้อย ซึ่งหลักๆ มาจากเซ็ตติ้งโช้คอัพ และตัวของล้อและยางนั่นแหละครับ ขณะเดียวกันพวงมาลัย แบบผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าออกแนวเบามือไปนิด ยิ่งใช้ความเร็วสูงจะรับรู้ได้ชัดเจน ซึ่งต่างจาก รุ่นท็อป RS ที่มีระบบปรับความหนืดตามความเร็วของรถ

HRV 2023 มีกี่รุ่น

HONDA HR-V e:HEV ปี 2023 โมเดลปัจจุบัน ยังคงทำตลาดด้วย 3 ทางเลือก เริ่มจาก รุ่น e:HEV E ราคา 979,000 บาท , รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท และรุ่นท็อบ e:HEV RS ที่เรามีโอกาส รีวิว ทดลองขับ ในครั้งนี้ ราคา 1,179,000 บาท

HRV รุ่น EL มีสีอะไรบ้าง

สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก).

สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก).

สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก).

สีขาวแพลทินัม (มุก).

สีดำคริสตัล (มุก).

HRV จัดอยู่ในรถประเภทไหน

Honda HRV เรียกได้ว่าเป็นหัวแถวในกลุ่มรถอเนกประสงค์ หรือรถยนต์ประเภท Crossover Utility Vehicle ด้วยขนาดภายในที่กว้างขวาง รวมถึงฟังก์ชันและที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กับทั้งการใช้งานที่หลากหลายแบบไม่เป็นสองรองใคร โดยที่สำคัญ Honda HRV ยังใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่ในขณะอยู่บนท้องถนนด้วย จึงไม่น่า ...