Panasonic smart tv ต อ hdmi ไม ม ภาพ

ถ้าหากท่านใช้ระบบเสียงเช่นแอมพลิฟายเออร์ หรือระบบเธียเตอร์ระหว่างทีวี และแหล่งวิดีโอของท่าน ตรวจสอบให้มั่นใจว่าการตั้งค่าอินพุตในระบบเสียงสอดคล้องกับของแหล่งเอาต์พุตวิดีโอ

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ด้วยนั้นมีการกำหนดค่าให้ส่งเอาต์พุตออกทางการเชื่อมต่อ HDMI และฟอร์แมทของวิดีโอที่จะส่งออกไปนั้นใช้งานได้กับทีวีนั้น เอาต์พุตที่เลือกไว้อาจจะมีการแสดงบนหน้าจอของอุปกรณ์ของท่านหรือในเมนู ข้อสำคัญ: อุปกรณ์บางตัวอาจจะให้เอาต์พุตออกมาเป็นสัญญาณวิดีโอ 1080/24p หรือ 1080/30p, แต่ทีวีบางเครื่องสามารถที่จะรับสัญญาณวิดีโอได้เฉพาะ 1080/60p เท่านั้น การเปลี่ยนฟอร์แมทของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ด้วยนั้นอาจจะสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ตรวจเช็คดูคู่มือหรือติดต่อกับผู้ผลิตสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนฟอร์แมทของวิดีโอเอาต์พุตนี้
  • ถ้าหากอุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่กับตัวรับ A/V หรือคอมโปเนนท์อื่นก่อนที่จะเชื่อมต่อเข้ากับทีวี กรุณาลองทำการเชื่อมต่อเข้ากับอินพุต HDMI ของทีวีนั้นโดยตรง ถ้าใช้ได้ ตัวรับหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ของท่านอาจจะไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัว HDMI repeater ให้ และอาจจะไม่ส่งสัญญาณนี้ออกไปให้กับทีวี หมายเหตุ: ตัว HDMI repeater จะทำหน้าที่รับสัญญาณออดิโอ/วิดีโอ จากอุปกรณ์ HDMI หนึ่งและส่งผ่านสัญญาณไปให้กับอุปกรณ์ HDMI อื่นที่เชื่อมต่ออยู่ด้วย ในขณะที่เครื่องของ Sony รองรับการใช้งานกับ HDMI repeater ได้ เครื่องของบริษัทอื่นอาจจะไม่รองรับก็ได้
  • ถ้าหากท่านเชื่อมต่อเข้ากับตัวรับ A/V โดยใช้การเชื่อมต่อแบบอนาล็อก (Coaxial, Composite A/V, Component A/V หรือ S-Video) ตัวรับนั้นอาจจะไม่สามารถทำการอัปคอนเวิร์ตสัญญาณนั้นไปเป็น HDMI เพื่อส่งไปให้กับทีวีได้ กรุณาอ้างอิงกับคู่มือการใช้งานที่มาพร้อมกับตัวรับ A/V ของท่านสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมในตัวเลือกการเชื่อมต่อแบบอื่น ๆ
  • ดำเนินการรีเซ็ตพาวเวอร์ให้อุปกรณ์เหล่านั้น ดังต่อไปนี้:
  • ปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ด้วยและทีวี
  • ถอดปลั๊กสายไฟของอุปกรณ์และทีวีออก
  • ปล่อยให้ทั้งอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่และทีวีไว้โดยไม่มีกำลังไฟนาน 30 วินาที
  • เสียบปลั๊กกำลังไฟของอุปกรณ์และทีวีกลับเข้าไปที่เต้ารับไฟฟ้า
  • เปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่และทีวี
  • ลองใช้สาย HDMI เส้นอื่นดู หมายเหตุ: ถ้าหากท่านต้องการจะดูภาพในระดับคุณภาพ 1080p (50p/60p) บนทีวี จากอุปกรณ์ภายนอก กรุณาใช้สาย High Speed HDMI ที่มีโลโก้ "HDMI" เป็นสายสำหรับเชื่อมต่อ บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 58,154 ครั้ง บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ถ่ายทอดสัญญาณวิดีโอต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ กล้อง และเครื่องเกม เข้ากับพอร์ท HDMI ของทีวีให้คุณเอง โดย HDMI (High-Definition Multimedia Interface) นั้นเป็นฟอร์แมตที่นิยมใช้รับส่งสัญญาณดิจิตอลคุณภาพสูงทั้งภาพและเสียงระหว่างอุปกรณ์ ถึงอุปกรณ์นั้นจะไม่มีพอร์ท HDMI ถ้าหาสายเฉพาะหรือ adapter มาใช้เพิ่มเติม ก็จะเชื่อมต่อได้ตามปกติ
  • ทีวีรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะมีพอร์ท HDMI ขนาดมาตรฐาน 13.9 มม. x 4.45 มม. (Type A) อย่างน้อย 1 ช่อง พอร์ทพวกนี้จะเขียนว่า "HDMI" ถ้ามีมากกว่า 1 ช่อง แต่ละช่องจะมีหมายเลขกำกับไว้ (เช่น HDMI 1, HDMI 2)
    • ทีวีบางเครื่องจะมีพอร์ท HDMI ที่แผงด้านหน้าหรือด้านข้าง
  • ถ้าอุปกรณ์นั้นมีพอร์ทขนาดเดียวกันกับของทีวี (Type A/13.99 มม. x 4.45 มม.) ต้องใช้สาย HDMI Type-A ขนาดมาตรฐาน ที่หัวเสียบมี 19 pin ทั้ง 2 ด้าน แต่บางอุปกรณ์ (ส่วนใหญ่จะเป็นกล้องหรือ media player แบบพกพา) จะมีพอร์ท HDMI ที่เล็กกว่า แบบนี้ต้องใช้สายแบบอื่น
    • Type C/Mini-HDMI: พอร์ท HDMI แบบนี้จะพบบ่อยตามกล้อง/กล้องวิดีโอ DSLR รุ่นเก่า จะมีขนาด 10.42 มม. x 2.42 มม. ซึ่งจะเล็กกว่า Type A ถ้าอุปกรณ์ของคุณใช้พอร์ทแบบนี้ ก็ต้องใช้ สายแปลง Mini-HDMI-C เป็น HDMI-A
    • Type D/Micro-HDMI: ขนาดจะเล็กกว่า Type C เป็นพอร์ท 6.4 มม. x 2.8 มม. พบได้ตามอุปกรณ์อัดวิดีโอขนาดเล็ก เช่น GoPro และสมาร์ทโฟนบางรุ่น แบบนี้ต้องใช้ สายแปลง Micro HDMI-D เป็น HDMI-A
  • เปิดเครื่องอุปกรณ์ที่จะเสียบกับทีวี แล้วค่อยๆ เสียบสายที่เข้ากันกับพอร์ท HDMI
    • ปกติจะเสียบ HDMI ที่พอร์ทได้ทางเดียว เสียบได้ก็คือได้ เสียบไม่ได้ก็คือไม่ได้ เพราะงั้นห้ามฝืนออกแรงเวลาเสียบสายที่พอร์ท เพราะเสี่ยงจะเสียหายทั้งสายและอุปกรณ์
  • เปิดทีวีก่อน ถ้ายังไม่ได้เปิด แล้วเสียบสายให้แน่น ถ้าทีวีมี HDMI หลายพอร์ท ให้เช็คว่าใช้พอร์ท HDMI เลขอะไร
  • กดปุ่ม SOURCE หรือ INPUT ที่ทีวีหรือรีโมท เพื่อเลือกพอร์ท HDMI ปกติต้องกดหลายครั้งหน่อย ถึงจะเจอพอร์ทที่ถูกต้อง พอเจอช่องที่ถูกแล้ว ภาพจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ จะโผล่มาในหน้าจอ
    • ถ้าใช้ Windows ให้กด ⊞ Win+P เพื่อเปิดกรอบ Windows Project แล้วเลือกตัวเลือกการแสดงภาพในหน้าจอทีวี เช่น ถ้าจะ mirror หรือแสดงภาพเดียวกับในหน้า desktop ให้เลือก Duplicate
    • ถ้าใช้ Mac ปกติจะ mirror ภาพหน้าจอขึ้นทีวีโดยอัตโนมัติ ถ้าสัดส่วนผิดเพี้ยนไป ให้ไปที่ Apple menu > System Preferences > Displays > Display แล้วเลือก Default for display ถ้าจะกำหนด resolution เอง ให้เลือก Scaled แทน แล้วกรอกเลข resolution ที่ต้องการ
  • ตั้งค่า audio ของคอม ให้เสียงออกไปที่ทีวี (ไม่บังคับ). ถ้าเชื่อมต่อคอมกับทีวี แล้วอยากเช็คให้ชัวร์ว่าเสียงจะออกลำโพงทีวี ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • Mac: ไปที่ Apple menu > System Preferences > Sound > Output แล้วเลือก output ของทีวีหรือ HDMI
    • Windows: คลิกขวาที่ไอคอน volume ใน system tray (ข้างนาฬิกา) เลือก Sound Settings แล้วเลือก default audio device (อุปกรณ์หลักที่เสียงออก) ของคอม ปกติจะเป็น Speakers (High Definition Audio) อยู่ในเมนู "Choose your output device" โฆษณา
  • หาพอร์ทที่ใช้กับ HDMI ได้ กรณีเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ HDMI. ถึงทีวีเป็น HDMI แต่เครื่องเกม คอม หรืออุปกรณ์อื่นไม่ใช่ ก็ยังเชื่อมต่อ adapter เพื่อแปลงพอร์ทที่มีเป็น HDMI Type A (มาตรฐาน) ได้ ให้คุณหาสาย/adapter HDMI ที่ใช้กับพอร์ทต่อไปนี้
  • DisplayPort: เป็นพอร์ทที่รองรับทั้งสัญญาณเสียงดิจิตอล และวิดีโอแบบ high-resolution หลังแปลงเป็น HDMI แล้ว ให้สังเกตพอร์ทชื่อ "DP" หรือ "DisplayPort" ถ้าแล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตมี DisplayPort ก็ต้องใช้สาย/adapter แปลง DisplayPort เป็น HDMI-A
    • บางอุปกรณ์อย่าง Microsoft Surface จะมีพอร์ท DisplayPort Mini เล็กกว่าแบบปกติ ต้องใช้สาย/adapter แปลง DisplayPort Mini เป็น HDMI-A
  • DVI: DVI output จะส่งสัญญาณ audio ไม่ได้ แต่จะส่งสัญญาณวิดีโอคุณภาพสูงได้ ถ้าใช้สาย/adapter แปลง DVI เป็น HDMI-A แต่พอร์ท DVI ก็มีหลายขนาด เพราะงั้นต้องใช้สายให้ถูกต้อง ลองนับจำนวน pin ของพอร์ท DVI ดูก็ได้ แล้วเทียบกับของสายและ adapter ที่มี
  • VGA: ถ้าเป็นพอร์ท VGA แบบเก่า ภาพที่ได้ในทีวีจะไม่คมชัดเท่าที่ควร ที่สำคัญคือส่งสัญญาณเสียงไม่ได้ แต่จะยังเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ด้วยตัวแปลงสัญญาณหรือ adapter จาก VGA เป็น HDMI-A
  • * ทีวีรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะมีพอร์ท HDMI ขนาดมาตรฐาน (Type A) 13.9 มม. x 4.45 มม. อย่างน้อย 1 พอร์ท คุณก็หาสายที่ข้างหนึ่งเป็น HDMI-A ส่วนอีกข้างเป็น DVI, DisplayPort หรือ VGA มาใช้ โดยเช็คให้ดีว่าด้านที่ไม่ใช่ HDMI นั้นขนาดพอดีกับพอร์ทของอุปกรณ์
  • อีกวิธีคือหาซื้อ adapter/converter ขนาดเล็กมาใช้ ถ้ามี adapter ก็เสียบสาย HDMI ขนาดมาตรฐานที่ด้าน HDMI และสาย DVI, DisplayPort หรือ VGA ขนาดมาตรฐานที่อีกด้านได้เลย แบบนี้ต้องเสียบสาย 2 แบบที่ adapter เดียว
  • สาย HDMI ต้องยาวพอจะต่อจากอุปกรณ์นั้นถึงทีวี ให้เลือกสายที่ยาวกว่าที่ต้องใช้จริงนิดหน่อย สายที่เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์จะได้ไม่ตึง
  • เปิดทีวีก่อน ถ้ายังไม่ได้เปิด แล้วเสียบสายให้แน่น ถ้าทีวีมี HDMI หลายพอร์ท ให้เช็คว่าใช้พอร์ท HDMI เลขอะไร
  • ถ้าใช้สายแปลง HDMI เป็น (อื่นๆ) ให้เสียบสายกับพอร์ทที่ตรงกัน แต่ถ้าซื้อ adapter มาใช้ ให้เสียบสาย HDMI อีกด้านที่ adapter ฝั่ง HDMI แล้วเสียบ adapter ที่อุปกรณ์ โดยใช้สาย (DVI, DisplayPort หรือ VGA) ที่ต้องใช้กับอุปกรณ์นั้น
  • เวลาเสียบสายที่พอร์ท อย่ากดแรงหรือฝืน ถ้าเสียบได้ก็คือได้เลย ถ้าเสียบไม่เข้า แสดงว่าใช้สายผิดประเภท
  • ถ้าใช้ adapter สำหรับพอร์ท VGA ก็ต้องเสียบแต่ละปลั๊กของ adapter ที่พอร์ท audio กับ video สีเดียวกันของคอม

    ขั้นแรกให้เปิดอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ HDMI ถ้ายังไม่ได้เปิด แล้วกดปุ่ม SOURCE หรือ INPUT ที่ทีวีหรือรีโมท เพื่อเลือกพอร์ท HDMI อาจจะต้องกดหลายทีหน่อยกว่าจะเจอพอร์ทที่ถูกต้อง พอเจอช่องที่ถูกแล้ว ภาพจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ จะโผล่มาในหน้าจอ

    ทำไมเชื่อม HDMI ไม่ได้

    ตรวจสอบสาย HDMI ของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสาย HDMI เชื่อมต่อกับพอร์ต HDMI ที่ด้านหลังของทีวีอย่างถูกต้อง หากสายเคเบิลไม่ได้เชื่อมต่ออย่างแน่นหนา จะไม่สามารถส่งหรือรับสัญญาณอินพุตได้อย่างถูกต้อง ㆍถอดสาย HDMI แล้วเชื่อมต่อใหม่

    สาย HDMI ต่อ ทีวี มีกี่ แบบ

    ตอบ : มีทั้งหมด 3 แบบ 1. สาย HDMI แบบ STANDARD : จะรองรับความละเอียดที่ 720p – 1080i. 2. สาย HDMI แบบ HIGH SPEED : จะรองรับความละเอียดที่ 1080p – 4K30. 3. สาย HDMI แบบ ULTRA HIGHSPEED : รองรับความละเอียดที่ 4K120 – 8K60.

    สาย HDMI ต่อทีวียังไง

    วิธีการเชื่อมต่อสาย HDMI. ขั้นตอนที่ 1 จัดเตรียมสาย HDMI.. ขั้นตอนที่ 2 เสียบสายเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต HDMI IN (ARC) ของทีวี. ขั้นตอนที่ 3 เสียบสายเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต HDMI OUT (TV-ARC) ของลำโพงที่คุณต้องการเชื่อมต่อ. ขั้นตอนที่ 4 เปิดลำโพงที่เชื่อมต่อกับทีวี. ขั้นตอนที่ 5 เสียงจากทีวีจะถูกเล่นผ่านลำโพงภายนอก.

    สาย HDMI ARC ดูยังไง

    ช่องต่อ HDMI ARC มีชื่อเต็มๆ ว่า Audio Return Channel เป็นฟีเจอร์ที่มีมาตั้งแต่ HDMI เวอร์ชั่น 1.4 พบเห็นได้ทั่วไปบน ทีวี, ซาวด์บาร์ หรือเอวีรีซีฟเวอร์ เป็นต้น จุดสังเกตอยู่ที่บริเวณช่องต่อ HDMI ของอุปกรณ์นั้นๆ จะมีวงเล็บพ่วงท้ายว่า HDMI (ARC)