พัฒนาการทารกแรกเกิด 2 เดือน

พัฒนาการทารก 2 เดือน อาจเปลี่ยนแปลงไปในหลายด้าน เช่น ด้านการสื่อสาร ด้านกายภาพ ทารก 2 เดือนมักเจริญเติบโตและตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาวิธีการส่งเสริมพัฒนาการทารก 2 เดือนให้เหมาะสม เพื่อช่วยกระตุ้นให้ทารกมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ และควรสังเกตสัญญาณเตือนของภาวะพัฒนาการล่าช้าในทารกด้วย หากพบจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที

สายใยความผูกพันระหว่างแม่ลูกจะถักทอแน่นแฟ้นขึ้นผ่านการสัมผัสเนื้อตัวกันและกัน เป็นเรื่องมหัศจรรย์เหลือเชื่อที่การกอดกันเพียงไม่กี่วินาทีจะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกคนเราได้มากมาย โดยเฉพาะกับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นและเต็มไปด้วยความห่วงใย

พัฒนาการทารก 2 เดือน มีการเติบโต และเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านที่จะเห็นได้ชัด ทั้งทางด้านร่างกาย และการสนใจสิ่งรอบตัว น้ำหนักและส่วนสูงของทารกน้อย 2 เดือนจะเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังจะสามารถเริ่มหันมองสิ่งต่างๆ รอบตัว คุณจะเริ่มเห็นลูกเริ่มยิ้มและเริ่มสนใจส่งรอบตัวเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นจะเริ่มเห็นลูกวัยนี้เริ่มจับสิ่งของขึ้นมาได้ ให้ระวังลูกเอาสิ่งของแปลกปลอมเข้าปาก และตรวจดูของแข็งมีคมที่พ่อแม่อาจเผลอวางไว้รอบตัวลูกน้อย

ที่สำคัญคุณอาจเริมได้ยินลูกน้อยพยายามออกเสียงอ้อ แอ้ เป็นครั้งแรก กับการเริ่มจำเสียงที่ได้ยิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทารกวัย 2 เดือนนี้ ดังนั้น ถือเป็นช่วงพัฒนาการของทารกที่คุณพ่อคุณแม่ควรต้องเริ่มพูดคุยกับลูกให้มากขึ้น

การมองเห็นของเด็กทารก 2 เดือน

ตาของลูกน้อยวัย 2 เดือนจะเริ่มเห็นแยกแยะความห่างของวัตถุ แต่ประสาทตาและหูยังไม่สัมพันธ์กัน จะสนใจในสิ่งที่เห็นมากกว่าสิ่งที่ได้ยิน เช่น การเริ่มจำใบหน้า เริ่มมองหน้าคนมากขึ้น ปฏิกิริยาตอบสนองของลูกตาทารก จะทำงานตั้งแต่แรกเกิด จะเริ่มไวต่อแสง และทำงานเต็มที่เมื่ออายุ 2-3 เดือน พ่อแม่ควรแขวนของเล่น 3 มิติ เช่น โมบาย หรือ นกกระดาษ โดยเฉพาะที่เคลื่อนไหวได้ลูกวัยนี้จะชอบมองมากกว่า และแขวนหรือวางในจุดที่ลูกน้อยสามารถมองเห็นได้บ่อย ที่ๆ สามารถใช้มือเอื้อมหยิบถึงได้จะช่วยพัฒนาสายตาได้เร็วขึ้น และอาจเปลี่ยนตำแหน่งนอนของลูกบ้าง เพื่อให้ลูกน้อยได้มองเห็น และจดจำมุมมอง และสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เมื่อลูกน้อยมองหน้าและยิ้มให้ แสดงว่าลูกเริ่มจะจำคุณได้แล้ว พ่อแม่ควรหาของเล่นให้ลูกมองและจับเล่น เริ่มจากวัยนี้

เมื่อทารก 2 เดือนเริ่มรู้จักคุณแม่

เด็กทารก 2 เดือน จะเริ่มคุ้นเคยกับอ้อมกอดของแม่แล้ว และอาจส่งเสียงร้องถ้าคนที่อุ้มไม่ใช่แม่ ลูกจะแกว่งแขนถีบขาเมื่อถูกกระตุ้นหรือรู้สึกตื่นเต้น และมีความสุขกับการดูดนิ้วหรือนิ้วหัวแม่มือด้วย

เด็กทารกอายุ 2 เดือนจะเป็นช่วงที่มีพัฒนาการภายในร่างกายอย่างหลากหลาย ทั้งการเจริญเติบโต กล้ามเนื้อ ดวงตา และส่วนอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเด็กในช่วงวัยนี้จะมีพัฒนาการบางอย่างที่เพิ่มจากช่วงเดือนแรก แต่การที่เด็กยังไม่สามารถพูดได้อาจเป็นอุปสรรคหนึ่งในการสื่อสาร ผู้ปกครองจึงควรใส่ใจดูแลลูกน้อยเป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กห่างไกลจากโรคร้ายและมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง

พัฒนาการทารกแรกเกิด 2 เดือน

การเจริญเติบโตของเด็กทารกอายุ 2 เดือน

เด็กทารกวัยนี้จะใช้เวลาไปกับการนอนเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพัฒนาการในแต่ละด้านก็เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยกล้ามเนื้อในร่างกายจะแข็งแรงขึ้นและเริ่มใช้งานได้ดีขึ้น รวมถึงมีการเจริญเติบโตในด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จึงอาจแบ่งพัฒนาการของเด็กทารกวัย 2 เดือนออกเป็นแต่ละด้าน ดังนี้

  • การเจริญเติบโตทางร่างกาย เด็กทารกวัย 2 เดือนอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากเดือนแรกประมาณ 0.7-0.9 กิโลกรัม และมีความยาวเพิ่มขึ้นประมาณ 2.5-3.8 เซนติเมตร ซึ่งเด็กทารกเพศชายในวัยนี้อาจมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 5.6 กิโลกรัม และมีความยาวลำตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าประมาณ 58 เซนติเมตร ส่วนทารกเพศหญิงจะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 5.1 กิโลกรัม และมีความยาวลำตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าประมาณ 57 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม เด็กทารกที่มีสุขภาพดีบางคนอาจมีน้ำหนักหรือความยาวไม่ตรงกับเกณฑ์ดังกล่าว เพราะการเจริญเติบโตของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วย
  • การใช้กล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อคอของเด็กจะแข็งแรงขึ้น โดยเด็กจะเริ่มยกคอในขณะนอนคว่ำ และควบคุมการเคลื่อนไหวของศีรษะได้ดีขึ้นเมื่อประคองตัวเด็กไว้ในท่านั่ง โดยเด็กในวัยนี้จะแบมือพอ ๆ กับกำมือ อีกทั้งยังชอบดูดนิ้วมือหรือกำปั้นของตัวเองอีกด้วย นอกจากนี้ เด็กอาจยืดกล้ามเนื้อและใช้กล้ามเนื้อเพื่อการเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยเด็กอาจจับของเล่นที่นำไปวางไว้บนมือข้างหนึ่งได้ และอาจยืดขาหรือเตะขาได้อย่างแข็งแรงมากขึ้น
  • การกิน สำหรับนมแม่ ควรให้เด็กดื่มนมทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง หากเป็นนมผง อาจให้เด็กดื่มนมจากขวดครั้งละประมาณ 120-150 มิลลิลิตร หรือ 4-5 ออนซ์ ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง แต่ไม่จำเป็นต้องปลุกลูกให้ตื่นมากินนมหากเด็กกำลังหลับอยู่ เพราะเด็กมักจะส่งสัญญาณบอกเองเมื่อหิวนม นอกจากนี้ ไม่ควรให้เด็กดื่มน้ำหรือกินอาหารอย่างอื่น เพราะอาจเป็นอันตรายได้ เว้นแต่เป็นคำแนะนำของแพทย์
  • การนอน การนอนของเด็กวัยนี้โดยทั่วไปยังคงคล้ายคลึงกับเด็กทารกวัย 1 เดือน โดยอาจนอนวันละประมาณ 15.5 ชั่วโมง ซึ่งแบ่งเป็นนอนตอนกลางคืนประมาณ 8.5 ชั่วโมง และนอนตอนกลางวันอีกประมาณ 7 ชั่วโมงที่แบ่งเป็นนอนช่วงสั้น ๆ ประมาณ 3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม การนอนหลับอาจแตกต่างกันไปในเด็กแต่ละคน และควรให้เด็กนอนหงายเท่านั้น โดยนำหมอน ผ้าห่ม และสิ่งของอื่น ๆ ออกจากเปลเด็ก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไหลตายในทารก (SIDS)
  • การมองเห็น เด็กอายุ 2 เดือนอาจมองวัตถุและคนได้ในระยะไกลถึงประมาณ 45 เซนติเมตร และมองเห็นได้กว้างถึง 180 องศา โดยเด็กอาจมองตามการเคลื่อนไหวเมื่อมีคนเดินเข้ามาใกล้ อีกทั้งยังชอบมองรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากกว่าวัตถุหรือสีเรียบ ๆ อย่างสีขาวดำ ซึ่งแตกต่างจากเด็กทารกอายุ 1 เดือน
  • การสื่อสาร เด็กวัยนี้ยังคงร้องไห้เป็นการสื่อสารหลัก แต่อาจเริ่มทำเสียงในลำคอได้บ้างแล้ว และเด็กอาจแสดงอารมณ์ได้มากขึ้น โดยอาจยิ้มเมื่อรู้สึกชอบหรือพอใจ

เทคนิคต่าง ๆ ในการดูแลเด็กทารก

เทคนิคบางอย่างอาจช่วยให้พ่อแม่ดูแลเด็กทารกอายุ 2 เดือนได้ดีขึ้น ดังนี้

การสัมผัสและพูดคุย
ผู้ปกครองควรสัมผัสใกล้ชิดกับเด็ก อาจลองนวดตัวเด็กคล้าย ๆ กันกับเด็กทารกวัย 1 เดือน นอกจากนี้ พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกน้อยด้วย เพราะเด็กอาจตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยิน และอาจช่วยกระตุ้นให้เด็กฝึกออกเสียงได้ในภายหลัง

การกล่อมเด็ก
เมื่อเด็กร้องไห้ อาจเดาได้ยากว่าเด็กต้องการอะไร ดังนั้น ให้ลองใช้เทคนิคต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไปเพื่อปลอบเด็ก เช่น ให้เด็กดื่มนม ใช้จุกหลอก ร้องเพลงกล่อม เปิดเสียงธรรมชาติอย่างเสียงในป่าดิบชื้น หรือเสียงริมชายหาดให้เด็กฟัง เป็นต้น

การให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกาย
เด็กวัยนี้ต้องการการเรียนรู้และฝึกฝน ไม่ว่าจะเป็นด้านกล้ามเนื้อ การมองเห็น การฟัง และการสื่อสาร จึงไม่ควรให้เด็กนอน นั่งในเปล หรือนั่งบนเบาะสำหรับเด็กนานเกินไป แต่ควรให้เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อเพื่อขยับร่างกาย คลาน กลิ้งตัว และให้เด็กได้ฝึกกล้ามเนื้อคอและแขนจากการนอนคว่ำภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของพ่อแม่ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อและทักษะด้านต่าง ๆ ของตัวเด็กเอง

การขอคำปรึกษา
พ่อแม่ควรพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ที่มาจากอินเตอร์เน็ตให้ดี ไม่ควรเชื่อในทันที เพราะอาจเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือเป็นข้อมูลเท็จได้ โดยหากต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับเด็กไม่ว่าจะเป็นด้านพัฒนาการ ของใช้ หรือยาต่าง ๆ ให้ดูจากเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้ หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกร เพราะจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และยังสามารถซักถามข้อสงสัยได้อีกด้วย

การดูแลสุขภาพเด็ก
ให้พาเด็กทารกอายุ 2 เดือนไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อรับการตรวจสุขภาพและรับการฉีดวัคซีนตามที่กำหนด ส่วนแม่ที่ให้นมบุตร ควรสอบถามแพทย์เกี่ยวกับการป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดกับตนและอาจส่งผลไปถึงทารกได้

ปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กทารก

เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับเด็กทารก ผู้ปกครองอาจสังเกตเห็นได้ยาก เพราะด้วยขนาดตัวที่เล็กและการสื่อสารที่ยังทำได้ไม่เต็มที่ ผู้ปกครองจึงต้องคอยสังเกตอาการของลูกน้อย หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกวิธี โดยอาจมีความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้กับเด็กวัยนี้ เช่น

  • น้ำลายไหล ร้องไห้ ไม่ยอมดื่มนม
  • ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ไม่ดูดนิ้วหรือเล่นมือตนเอง
  • แขนหรือขาขยับไม่สัมพันธ์กัน หรือขยับข้างเดียว

ทั้งนี้ พ่อแม่ของเด็กควรใส่ใจดูแลเด็กทารก หากเด็กมีปัญหาสุขภาพแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม เด็กมีสิ่งที่เคยทำได้แล้วแต่กลับทำอีกไม่ได้ หรือเด็กมีอาการอ่อนแรงของลำตัวซีกใดซีกหนึ่ง ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์

อายุ2เดือนทำอะไรได้บ้าง

เด็กในวัย 2 เดือน จะเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ได้แล้ว อีกทั้งยังพยายามทำเสียงต่างๆ ในคอ ทำท่าเงี่ยหูฟัง สามารถแยกเสียงต่างๆ และส่งเสียงโต้ตอบเสียงพูดและรอยยิ้มของคุณแม่ได้ค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมพัฒนาการลูกในช่วงวัยนี้ด้วยการสนใจตอบสนองลูกทันทีนะคะ เช่น หากลูกส่งเสียงให้รีบหันหน้าสบตา หมั่นเรียกชื่อลูก ทำเสียงสูงๆต่ำๆ ...

เล่นอะไรกับลูก 2 เดือน

ของเล่นเด็ก 2 เดือน พ่อแม่เล่นอะไรกับลูกได้บ้าง.
ลูก 2 เดือนแล้ว.
1.จับคว่ำ.
5.ปล่อยลูกลงพื้น.
6.เต้นไปมา.
7.พื้นผิวที่หลากหลาย.
8.นิ้วเต้นระบำ.
9.มองดูสิ่งต่างๆ.
10.หาของให้ลูกเขย่า.