Show
แบบทดสอบครั้งที่ 1เรื่อง เวลาและวิธีการทางประวัติศาสตร์แบบทดสอบการเรียนรู้ครั้งที่ 2ชุดที่ 1 เวลา ศักราช และวิธีการทางประวัติศาสตร์ชุดที่ 2 ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนไทยชุดที่ 3 รัฐโบราณในดินแดนไทยใบงานที่ 1 เรื่อง แผนผังการแบ่งช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ใบงานที่ 2 เรื่องการเทียบศักราชใบงานที่ 3 พัฒนาการของชนชาติไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันแบบทดสอบ ครั้งที่ 3เรื่อง พัฒนาการของชาติไทยแบบทดสอบการเรียนรู้ครั้งที่ 4เรื่อง พัฒนาการของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใบงานหลังสอบกลางภาคใบงงานเความสำคัญของหลักฐานทางประวัติศาสตร์Advertisement Posted by saipinn นิ้ว Uncategorized ตอบกลับ รวมใบงานแบบฝึกหัดประวัติศาสตร์ ม.1 โดยในแบบฝึกหัดนี้จะช่วยเสริมสร้างความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและเพื่อนบ้าน ต่อยอดจากเรื่องที่เรียนมาในหลักสูตร ให้เด็กได้ทบทวนจากแบบฝึกหัดหลักไปในตัว เช่น เวลาและช่วงเวลาต่างๆ อาณาจักรสุโขทัย ความสัมพันธ์ของอาณาจักร ฯลฯ และเรียนรู้ใบงานแบบฝึกหัดตามหัวข้อต่างๆ ตามการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภายในแบบฝึกหัดมีภาพประกอบและเฉลยสำหรับครูผู้สอน ให้นักเรียน สื่อสารออกมาได้ง่ายขึ้น กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Expand Evaluate Explain Explain อธบิ ายความรู (๔) ชุมชนยุคสําริด พบรองรอยชุมชนกสิกรรมท่ีมีพัฒนาการตอเนื่องมาต้ังแต 1. ครซู ักถามนกั เรียนวา เพราะเหตุใดพฒั นาการ ยคุ หนิ ใหมมาถึงยคุ สํารดิ ในเขตจังหวดั แมฮอ งสอน เชียงใหม เชยี งราย นา น อุตรดติ ถ ตาก ลําพูน ของชุมชนโบราณในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื โดยพบวามีการใชทั้งเคร่ืองมือสําริดและหินขัด เครื่องมือเครื่องใชหลายชนิดของชุมชนในภาคน้ี จงึ นา จะมีความเกา แกกวาชุมชนโบราณใน แสดงใหเหน็ วามีการผสมผสานแลกเปล่ียนทางวฒั นธรรมระหวา งชมุ ชนตางๆ ดวย ภาคอนื่ ๆ ของประเทศไทย (แนวตอบ เพราะบริเวณนม้ี สี ภาพภมู ิศาสตรท่ี กาํ ไลสาํ รดิ ขดุ พบทแ่ี หลง โบราณคดบี า นยางทองใต 1 เหมาะแกการต้ังถน่ิ ฐานของมนษุ ยม ากกวา อาํ เภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชยี งใหม แหลง อ่นื กลาวคือ มสี ภาพภูมศิ าสตรเปน กลองมโหระทึกสําริด พบท่ีอําเภอเมือง จังหวัด ทุง หญา ปา โปรง มีแมน ํ้าลาํ คลอง ทําใหม นุษย อุตรดติ ถ สามารถตง้ั หลักแหลงและดํารงชพี อยูไ ด จงึ มี การพฒั นาจากชุมชน หมบู าน ไปสูเมืองซึง่ อยู (๕) ชมุ ชนยคุ เหลก็ ไดพ บแหลง ชมุ ชนโบราณที่ใชเ ครอื่ งมอื ทาํ จากเหลก็ กระจาย ตดิ ท่ี ไมไ ดเ รร อน ดังพบรอ งรอยการอยูอาศยั อยูตามลุม แมน ํ้าสายตา งๆ ในเขตจงั หวดั แมฮ องสอน เชียงใหม เชียงราย นา น อุตรดติ ถ ลําพูน ของมนุษยม าอยา งตอ เนอ่ื ง) หลักฐานทางโบราณคดีตางๆ แสดงใหเห็นวาชุมชนในบริเวณภาคเหนือมี 2. จากนน้ั ครูใหน กั เรยี นชวยกันยกตัวอยาง พัฒนาการชากวาภูมิภาคอื่น แตถึงกระน้ันในภาคเหนือก็มีการตั้งหลักแหลงอยูอาศัยกันอยาง ชุมชนโบราณสมยั กอ นประวตั ิศาสตรใ นภาค ตอ เนือ่ ง และสามารถพัฒนาจากชุมชนเปนบานเมือง เปน แควน และเปน อาณาจักรเชน เดยี วกัน ตะวนั ออกเฉียงเหนือมาพอสังเขป (แนวตอบ เชน ชุมชนโบราณที่บานเชียง จังหวัด ๓) พัฒนาการของชุมชนโบราณบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นท่ี อุดรธานี ชุมชนทีบ่ านนาดี บานโนนนกทา จังหวัดขอนแกน เนนิ อุโลก จงั หวดั นครราชสีมา สวนใหญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปนท่ีราบสูงท่ียกตัวสูงทางตะวันตกและลาดเอียงไปทาง เปนตน) ตะวันออกลงสูแมน้ําโขง ตอนกลางของภาคมีลักษณะเปนแองคลายกนกระทะ มีแมนํ้าชีและ แมน ํ้ามูลไหลผา น มแี นวทวิ เขากนั้ เปนขอบของภาคทางดา นตะวันตกและดา นใต บรเิ วณภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของไทยเปน แหลง ทม่ี มี นษุ ยอ าศยั อยตู ง้ั แตส มยั กอ นประวัตศิ าสตร โดยพบหลักฐานหลายแหง เชน (๑) ชมุ ชนยคุ หนิ เกา ทอ่ี าํ เภอเชยี งคาน จงั หวดั เลย และอาํ เภอดอนตาล จงั หวดั มุกดาหาร พบเครื่องมอื หนิ กะเทาะท่เี ปนเครอื่ งมอื ขุด สบั และตดั (๒) ชุมชนยคุ หนิ กลาง ทอ่ี าํ เภอเชียงคาน จงั หวัดเลย อําเภอดอนตาล จงั หวัด มกุ ดาหาร พบหลักฐานเครอื่ งมอื ขุดและเคร่ืองมอื สบั ตัด ซ่งึ ตอเน่ืองมาจากยุคหินเกา (๓) ชมุ ชนยคุ หนิ ใหม ทบี่ า นโนนนกทา อาํ เภอภเู วยี ง จงั หวดั ขอนแกน พบภาชนะ ดินเผา ลูกปด ทาํ จากเปลอื กหอย ขวานหินขดั หนิ สบั ๕๓ ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นักเรียนควรรู การหลอโลหะมีความสาํ คัญตอ ชมุ ชนโบราณสมัยกอนประวตั ิศาสตร 1 กลองมโหระทึกสาํ รดิ กลองมโหระทึกน้นั จะมลี วดลายท่คี อนขา งหลากหลาย อยา งไร ซึ่งลวดลายแตละลายจะมีความหมายทสี่ าํ คัญตอวถิ ชี ีวิตของมนษุ ยใ นสมัยกอน แนวตอบ การหลอโลหะแสดงใหเห็นถึงการพัฒนาทางดานเทคโนโลยี ประวตั ศิ าสตร เชน กบ ปลา เปนสัญลักษณท ่ีเกยี่ วขอ งกับนา้ํ ความอดุ มสมบรู ณ การผลิตเคร่อื งมือเครื่องใชที่มปี ระสิทธิภาพดีกวาเครื่องมือหนิ นอกจากชว ย หรอื พิธกี รรมขอฝน สว นนกยงู อาจเกี่ยวกับความรงุ เรอื งและการคมุ ครอง เปน ตน เพ่ิมผลผลิตแลว ยังทาํ เปนอาวธุ ทีแ่ ขง็ แกรง ซงึ่ มีสวนในการพฒั นาทางสังคม จากชมุ ชนไปสูบ า นเมืองและแควน ในเวลาตอมา มุม IT ศึกษาคนควา ขอมลู เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกับแหลง โบราณคดบี า นโนนนกทา ไดที่ http:// cd.mculture.go.th/vdn/index.php?c=showitem&item=97 เวบ็ ไซตศนู ยขอ มลู กลางทางวฒั นธรรมจงั หวัดขอนแกน คมู อื ครู 53 กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครูใหนกั เรยี นดภู าพเคร่อื งปน ดินเผาเขียนสีแดง (๔) ชุมชนยคุ สาํ รดิ ที่บ้านเชียง อา� เภอหนองหาน ซงึ่ พบที่บา นเชียง จากหนงั สือเรยี น หนา 54 จงั หวดั อดุ รธาน ี ซง่ึ ไดร้ บั การประกาศใหเ้ ปน็ มรดกโลก เปน็ แหลง่ แลวใหแสดงความคิดเหน็ วา เคร่ืองปน ดนิ เผา ชมุ ชนสา� รดิ ทเ่ี กา่ แกแ่ ละสา� คญั ทสี่ ดุ ในประเทศไทย สง่ิ ของทพี่ บ มีความสําคัญตอ พฒั นาการของชมุ ชนสมยั กอน คอื ภาชนะดนิ เผาลายเขยี นสแี ดงบนพน้ื สนี วล มที ง้ั ลายเชอื กทาบ ประวตั ิศาสตรใ นภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื อยางไร ลายขดู ขดี บนผวิ ขดั มนั โครงกระดกู มนษุ ย ์ โครงกระดกู สตั ว ์ เครอ่ื ง (แนวตอบ มคี วามสําคญั ในฐานะที่เปนหลกั ฐาน ประดบั ทา� จากลกู ปดั สง่ิ ของเครอื่ งใชท้ า� จากหนิ และโลหะ ทางประวตั ศิ าสตรป ระเภทหนึ่ง ท่แี สดงใหเห็นถึง เครอื่ งปนั ดนิ เผาเขยี นสแี ดง พบทบ่ี า้ นเชยี ง จงั หวดั ภาชนะและเคร่ืองมือเครื่องใช้ที่ท�าจากส�าริด แม่พิมพ์ การตง้ั ถิน่ ฐานของชมุ ชนโบราณในสมัยกอน อุดรธานี แสดงพัฒนาการของชุมชนในสมัยก่อน หินทรายท่ีใช้หล่อส�ารดิ ประวตั ศิ าสตร ซึ่งมพี ฒั นาการในดานเทคโนโลยี ประวตั ศิ าสตร์ ในการประดิษฐ์เครือ่ งมอื เคร่ืองใช้ การผลติ เครอ่ื งมือเครือ่ งใช อีกทงั้ เปนภาชนะท่ี เเพชื่อ่นก ารภดาา� รพงชเขีวิตียนสีที่ผาแต้ม 1ผาหมอนน้อย นอกจากน้ียังพบภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ผลติ ขน้ึ เพ่ือประโยชนใชสอยในชวี ติ ประจําวนั อ�าเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ภาพเขียนสีท่ี และมีการตกแตง ลวดลายใหมคี วามสวยงาม) เขาจนั ทนง์ าม อา� เภอสีควิ้ จงั หวดั นครราชสีมา เปน็ ต้น (๕) ชมุ ชนยคุ เหลก็ ชุมชนโบราณที่บ้านเชียง จงั หวดั อุดรธานี นา่ จะเป็นผนู้ �าใน 2. ครูใหนักเรียนคน ควา การทําเครอื่ งปน ดินเผา การใชเ้ หลก็ ก่อนทีอ่ นื่ ซงึ่ จากหลักฐานทางดา้ นโบราณคดีแสดงใหเ้ หน็ วา่ ชมุ ชนท่บี ้านเชียงมีความ ลายเขียนสบี านเชยี งเพม่ิ เตมิ จากแหลงการเรียนรู ก้าวหนา้ ดา้ นโลหกรรมมาก นอกจากทบ่ี า้ นเชยี งแลว้ ยงั คน้ พบเครอื่ งมอื ยุคเหลก็ ในทีอ่ ื่นๆ อีก เช่น ตา งๆ จากนนั้ นําขอ มูลมาอภปิ รายรวมกันใน ทบ่ี า้ นนาด ี บ้านโนนนกทา จงั หวดั ขอนแกน่ เนนิ อโุ ลก จงั หวดั นครราชสมี า เปน็ ตน้ นอกจากน้ี ชั้นเรียน ยงั พบแหลง่ แรเ่ หลก็ ในเขตจงั หวดั เลยทมี่ อี ายุประมาณ ๒,๘๐๐ ปีล่วงมาแล้ว พัฒนาการของชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเก่าแก่กว่าภาคอ่ืนๆ เพราะใน สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตรบ์ รเิ วณนม้ี สี ภาพภมู ศิ าสตรเ์ หมาะสมกวา่ แหลง่ อนื่ คอื มที งั้ ปา่ โปรง่ ทงุ่ หญา้ แมน่ า�้ ลา� คลอง ทร่ี าบสงู เปน็ แหลง่ เกลอื สนิ เธาว ์ ซง่ึ มนษุ ยส์ ามารถตง้ั หลกั แหลง่ และดา� รงชพี อยไู่ ด้ และมีการพัฒนาเข้าสูก่ ารเป็นชมุ ชน หมบู่ า้ น ชุมชนเมอื ง ทอ่ี ยู่ติดท ่ี เพราะจากการสา� รวจช้ันดนิ พบร่องรอยการอยู่อาศัยของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับภาคกลางแล้ว ชุมชนใน ภาคกลางมคี วามตอ่ เนื่องในการพัฒนาเป็นชุมชนเปน็ เมอื ง เป็นแคว้น และเป็นอาณาจกั รเรว็ กวา่ เนื่องจากดินแดนบริเวณภาคกลางมีความ อุดมสมบูรณ์กว่า และสะดวกในการ ตดิ ต่อกับชมุ ชนต่างแดนมากกวา่ แต่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็มี พัฒนาการของชุมชนจนเข้าสู่ยุค ขวานส�ารดิ พบท่บี ้านเชยี ง อา� เภอหนองหาน จังหวดั อุดรธานี อาณาจกั รเช่นกัน ๕๔ นักเรียนควรรู กจิ กรรมทาทาย 1 ภาพเขยี นสีทผี่ าแตม ภาพเขยี นสกี ลุมผาแตมน้แี บงไดเ ปน 4 กลุม ตามช่อื ครใู หนกั เรียนสบื คนขอมลู เพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั พฒั นาการของชุมชนโบราณ หนา ผาเรียงตอ กันไป ดงั น้ี สมัยกอนประวัตศิ าสตรใ นภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ภาคใต โดยนาํ ขอ มูล มาจัดทาํ เปน เสน เวลา (Timeline) 1. ผาขาม มภี าพเขียนดวยสีแดงเปนภาพปลาและภาพชา ง 2. ผาหมอนนอย มภี าพนาขาว ภาพคนกําลังไลส ตั วท่มี ีเขาเปน กง่ิ คลา ยกวาง ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT ถานักเรยี นไปพบหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรทยี่ งั ไมเ คยมีใครสาํ รวจพบ ภาพคนยนื เหนี่ยวคนั ธนหู รือหนา ไมเลง็ ไปที่สตั วส่ีเทา มากอ น ควรดาํ เนินการอยา งไร 3. ผาแตม มีช่ือเสียงโดง ดงั ทีส่ ดุ โดยเขียนบนผนงั เพงิ ยาวประมาณ 180 เมตร แนวตอบ แจง ใหหนวยงานท่ีเกยี่ วขอ งโดยตรง เชน สํานกั งานศิลปากร กาํ นัน ผูใหญบ านในทองถนิ่ ใหรับทราบโดยเร็ว เพื่อจะไดดาํ เนนิ การสาํ รวจ มีภาพเขยี นประมาณ 300 รูป ประกอบดวย ภาพสตั วตางๆ คน วัตถุ ฝา มอื และเกบ็ รักษา และรูปสัญลักษณ สาํ หรับรปู ฝา มอื เขยี นดว ยสีแดง มีสดี าํ บางเลก็ นอ ย ปรากฏประมาณ 200 ภาพ 4. ผาหมอน มีภาพเขยี นดว ยสีแดงเหมือนกับโครงบา น ภาพคนยนื เทา สะเอว นุงผายาวแบบกระโปรงครงึ่ นอง 54 คมู ือครู กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate Engage กระตนุ ความสนใจ ò. ป˜¨¨ัยทมèÕ ÕÍิทธพิ ลµÍ‹ พัฒนาการãนสมยั สโุ ขทยั 1. ครูกระตุนความสนใจดวยการใหน กั เรยี น เลน เกมตอบคําถามความรูท ว่ั ไปเกยี่ วกบั ภำยหลังจำกท่ีไดม้ ีกำรสถำปนำสุโขทัยเปน็ รำชธำนีใน พ.ศ. ๑๗๙๒ เปน็ ต้นมำ อำณำจักร อาณาจกั รสุโขทยั โดยแบงนักเรียนในหอง สุโขทยั ไดม้ พี ฒั นำกำรอยำ่ งตอ่ เนอ่ื งในทุกๆ ด้ำน ไดแ้ ก่ กำรเมือง กำรปกครอง เศรษฐกจิ สังคม ออกเปน 2 ทมี ศิลปวัฒนธรรม และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ ปัจจยั ทม่ี ีอิทธพิ ลตอ่ พฒั นำกำรในสมัยสโุ ขทัย ประกอบด้วย 2. นักเรียนท้งั 2 ทีมสงตัวแทนออกมาหนา ช้นั เรยี น เพอื่ จบั ฉลากเลือกชุดคําถามจาก ๒.๑ ปัจจัยด้ำนภมู ิศำสตร์และสง่ิ แวดลอ้ ม ชดุ คาํ ถาม 2 ชุด คอื ชดุ คําถาม A และ ชดุ คําถาม B เมื่อจับฉลากไดแลว ใหไ ปรับ ปจั จัยดำ้ นภมู ศิ ำสตร์และสิง่ แวดล้อมของอำณำจกั รสุโขทัย มลี กั ษณะทัว่ ไปดังนี ้ ชดุ คําถามจากครผู ูสอน ยม๑ ) แสลภะนาำ่ พนภ 1ไูมหิปลรผะำ่ เนทจศำก เสหุโนขอื ทลัยงตใตั้งส้อลู่ยมุู่่ในแมอำน่ ณำ�้ เำจบำ้ พริเรวะณยำท ่ีปแรละะกไหอลบสดทู่ ้วะยเทล ี่รำเหบมลำุ่มะทก่ีมบั ี 3. นกั เรียนในแตล ะทีมชว ยกนั ตอบคําถาม แลว สง ตวั แทนออกมาเขยี นคาํ ตอบท่ีหนา กระดาน แมน่ ำ�้ ปงิ ครูเฉลยคําตอบ แลวกลา วชมเชยทีมท่ีชนะ กำรด�ำรงชีพด้ำนเกษตรกรรมและกำรค้ำขำยทั้งกับภำยในและภำยนอก ส่วนทำงด้ำนตะวันตก มีทิวเขำถนนธงชัยและตะนำวศร ี และทำงด้ำนตะวันออกมที ิวเขำเพชรบรู ณ์ สาํ รวจคน หา Explore ๒) สภาพภมู อิ ากาศ สโุ ขทยั ตงั้ อยทู่ ำ่ มกลำงทวิ เขำขนำนทงั้ ทวิ เขำถนนธงชยั ทวิ เขำ ตะนำวศร ี และทวิ เขำเพชรบรู ณ ์ ทำ� ใหอ้ ำกำศไมร่ อ้ นเกนิ ไป ประกอบกบั มลี มมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และลมมรสุมตะวันออกเฉยี งใต้พัดผำ่ น จึงมีฝนตกชกุ ในฤดูมรสุม ครใู หน กั เรียนศกึ ษาเกีย่ วกับปจ จัยท่ีมอี ทิ ธิพล ตอ พฒั นาการในสมยั สุโขทยั จากหนงั สือเรยี น แม่น�้ายมเปรียบเสมือนเส้นโลหิตหลักของสุโขทัย เพราะเป็นแหล่งน้�า หนา 91-92 หรอื จากแหลงการเรียนรอู นื่ ๆ เชน เพื่อการอปุ โภคบริโภค เพาะปลูก และเป็นเส้นทางสญั จรตดิ ตอ่ ค้าขาย หอ งสมุดกลุม สาระ หอ งสมุดโรงเรียน ขอ มลู ทาง อินเทอรเ น็ต เปนตน เพื่อนํามาอภิปรายรวมกันใน ช้ันเรียน 9๑ ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นกั เรยี นควรรู แมว า อาณาจักรสโุ ขทยั จะมีสภาพพน้ื ท่คี อนขางแหงแลงเพราะขาดแคลนนาํ้ 1 แมน ํ้าปง วงั ยม และนาน แมน า้ํ แตล ะสายเหลานีล้ วนมคี วามสาํ คญั ตอ แตสโุ ขทยั กส็ ามารถพฒั นาอาณาจักรใหร งุ เรืองได ทง้ั นเี้ ปน เพราะปจจัยใด กรุงสุโขทัยในดานการคมนาคมขนสง และทร่ี าบลุมแมน ้าํ ยงั เปน ทต่ี ง้ั หวั เมืองสาํ คัญ ดงั นี้ 1. เมอื งรายรอบเปนเครอื ญาติกนั 2. มแี หลง แรธ าตุสะสมอยใู ตดิน • ปง อยูท างทิศตะวนั ตกของสุโขทยั เปนที่ต้งั เมอื งสาํ คัญ เชน ชากงั ราว 3. มที ําเลทตี่ ้ังเอื้อตอ การตดิ ตอคาขายทีส่ ะดวก นครชมุ ไตรตรึงษ คณฑี เปน ตน 4. พระมหากษัตรยิ ใ หการอปุ ถมั ภดานการคาขาย • วงั ไหลมารวมกับแมน้าํ ปง ทต่ี าก วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. สโุ ขทยั มที าํ เลทตี่ ง้ั ครอบคลุมบรเิ วณลุมแมนํา้ • ยม เปน ทีต่ ง้ั ของกรงุ สโุ ขทยั ซึง่ มเี มอื งสาํ คัญถดั ขึ้นไปทางเหนอื คอื ปง วัง ยม และนาน ซง่ึ เปนแมนา้ํ ที่ไหลมาบรรจบกันเปนแมนาํ้ เจาพระยา ศรีสัชนาลัย ไปลงอา วไทย ทําใหส ะดวกในการตดิ ตอคาขายระหวา งเมืองภายในและ • นาน อยทู างทิศตะวนั ออกของสโุ ขทัย มีเมืองท่สี ําคญั เชน สระหลวง ภายนอก สองแคว เปน ตน คูม ือครู 91 |