การประมาณการกำไรสุทธิ เป็นหน้าที่ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไป (ไม่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือสถาบันการเงินฯ) เมื่อต้องยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (ยื่นภาษีครึ่งปี) ด้วยแบบฟอร์ม ภ.ง.ด.51 ซึ่งจะต้องทำภายในระเวลา 2 เดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาหกเดือน ซึ่งมีข้อควรระวังสำคัญคือห้ามประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิ โดยไม่มีเหตุอันสมควร Show
วิธีการประมาณการกำไรสุทธิครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีเมื่อถึงเวลายื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (ยื่นภาษีครึ่งปี) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะต้องจัดทำประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิที่คาดว่าจะเกิดขึ้นไปจนตลอดทั้งรอบระยะเวลาบัญชี (ไม่ใช่เฉพาะกำไร/ขาดทุนแค่ครึ่งปีแรก) ในกรณีที่ประมาณการรอบระยะเวลาบัญชีนี้ (ปีนี้) คาดว่าจะขาดทุนก็จะไม่มีภาษีต้องจ่ายเพิ่มตอนยื่น ภ.ง.ด.51 แต่ถ้าประมาณการรอบระยะเวลาบัญชีนี้แล้วคาดว่าจะกำไร ก็ให้ประมาณการว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิกี่บาท แล้วให้คำนวณภาษีจากจำนวนกึ่งหนึ่ง (50%) ของประมาณการกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนี้แล้วชำระภาษีไปพร้อมกับการยื่น ภ.ง.ด.51 เพื่อเสียภาษีเงินได้ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี ลำดับการคำนวณภาษีจากกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิโดยทั่วไป ขั้นตอนการคำนวณภาษีเงินได้ครึ่งปีสำหรับบริษัทและห้างหุ้นส่วนจะทำตามลำดับ ดังนี้
ตัวอย่างการประมาณการกำไรเพื่อเสียภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีในช่วง 6 เดือนแรก บริษัท A ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดทั่วไป มีรายรับ ฿500,000 และมีรายจ่าย ฿400,000 บริษัท A คาดการณ์ว่าตลอดทั้ง 12 เดือน ตนจะมีรายรับ ฿1,000,000 และมีรายจ่าย ฿900,000 จึงประมาณการกำไรสุทธิตลอดทั้งปีได้ ฿100,000 (ประมาณรายรับ ฿1,000,000 – ประมาณการรายจ่าย ฿900,000) เมื่อถึงเวลาต้องยื่นภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) บริษัท A ต้องคำนวณภาษีจากจำนวนกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนี้ เมื่อบริษัท A ประมาณการกำไรสุทธิตลอดทั้งปีได้ ฿100,000 การคำนวณภาษีครึ่งปีจึงใช้จำนวน ฿50,000 (กึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิ) เป็นฐานสำหรับคำนวณภาษีครึ่งปี (50% x ประมาณการกำไรสุทธิตลอดทั้งปี ฿100,000) ถ้าบริษัท A เสียภาษีในอัตราคงที่ 20% การยื่นภาษีครึ่งปีนี้ บริษัท A จะคำนวณค่าภาษีครึ่งปีได้ ฿10,000 (กึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิตลอดทั้งปี ฿50,000 x อัตราภาษี 20%) ประมาณการกำไรสุทธิคลาดเคลื่อน ขาดไปเกิน 25% ของกำไรสุทธิผู้เสียภาษีจะพบเหตุการณ์นี้เมื่อได้ผ่านพ้นรอบระยะเวลาบัญชีไปแล้ว แล้วพบในภายหลังว่ากำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาสูงกว่าประมาณกำไรสุทธิที่เคยคาดการณ์ไว้ตอนยื่นภาษีครึ่งปี หากประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกิน 25% ของกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริง ขาดไปเกินร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ก็อาจได้รับบทลงโทษตามกฎหมายได้ ตัวอย่างประมาณการกำไรสุทธิตอนยื่นภาษีครึ่งปีกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีส่วนต่างที่คลาดเคลื่อนคำนวณส่วนต่างที่คลาดเคลื่อนเป็นเปอร์เซ็นต์ผ่านเกณฑ์ประมาณการกำไรสุทธิขาดไปไม่เกิน 25% ของกำไรสุทธิ฿1,000,000฿1,000,000฿00%✓ ผ่าน฿500,000฿1,000,000-฿500,000-50%✘ ไม่ผ่าน (เพราะขาดเกิน 25%)฿800,000฿1,000,000-฿200,000-20%✓ ผ่าน฿749,000฿1,000,000-฿251,000-25.1%✘ ไม่ผ่าน (เพราะขาดเกิน 25%)฿750,000฿1,000,000฿250,000-25%✓ผ่าน (เพราะขาด 25% พอดี ยังไม่เกิน)บทลงโทษกรณีประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกิน 25% ของกำไรสุทธิ โดยไม่มีเหตุอันสมควรหากประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกิน 25% ของกำไรสุทธิ โดยไม่มีเหตุอันสมควร บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระ หรือของกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินภาษีที่ต้องเสียในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น หรือของภาษีที่ชำระขาด แล้วแต่กรณี ข้อยกเว้นว่าประมาณการกำไรสุทธิคลาดเคลื่อนเพราะ ‘เหตุอันสมควร’แม้จะประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกิน 25% ก็จริง แต่ถ้ามี เหตุอันสมควร ก็สามารถใช้เป็นข้อยกเว้นเพื่อไม่ต้องรับผิดได้ ซึ่งเหตุอันสมควรที่สามารถนำมาอ้างได้ ได้แก่
ติดต่อ iTAX sme เพื่อรับบริการวางแผนภาษีธุรกิจ ตั้งบริษัท ทำบัญชี จด VAT ภาษีเงินได้นิติบุคคล และอื่นๆ โทร. 062-486-9787 |