อ่าน 0 จะว่ากันว่าประสบการณ์ต่างจากการเรียนในห้องเรียนนั้นเห็นจะเป็นเรื่องจริง มีบางคนยังบอกอีกว่าประสบการณ์มีค่ากว่าใบปริญญา
เห็นได้จากบรรดานักร้อง นักแสดงที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงไทย เพราะนักแสดงที่ทำงานในวงการบันเทิงหลายคนเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยไม่ไหว เลยหันมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงานในวงการมากกว่าให้ความสำคัญกับใบปริญญา วันนี้เลยขอเปิดแฟ้มตัวอย่างดาราที่ยังเรียนไปจบปริญญาตรีมาฝากกันจะมีใครบ้างมาดูกันเลย.... 1.ชาคริต แย้มนาม
ที่กระโดดเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่เรียนจบไฮสคูลมาจากประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งช่วงแรกๆหนุ่มคริตก็ยังพยายามเรียนระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาผ่านทางไปรษณีย์ แต่ว่าด้วยเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ก็คงจะหนักเอางาน เลยหันเอาดีด้านทำงานอย่างเดียวเลย 2.บี น้ำทิพย์
หลังเรียนจบระดับ ม.ปลาย ปุ๊บ โชคชะตาก็ชักนำให้เธอเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เลยติดใจลุยทำงานอย่างเดียวไม่กลับไปเรียนอีกเลย 3.โดม ปกรณ์
หลังเรียนจบระดับ ม.ปลาย
มาทำงานในวงการเต็มตัว สำหรับการเป็นนักร้อง ซึ่งพอรู้ตัวว่าชื่นชอบเสียงเพลง ก็เหินฟ้าไปเรียนต่อด้านซาวนด์เอ็นจิเนีย ที่สหรัฐอเมริกา เกือบปีประมาณว่าไม่จำเป็นต้องจบปริญญาอะไร ขอแค่ได้เรียนและรู้ลึกในสิ่งที่ชอบก็พอแล้ว 4.แตงโม นิดา
เป็นหนึ่งดาราสาวที่มองว่า ปริญญาเป็นเพียงค่านิยมของเมืองไทยเท่านั้น โดยเจ้าตัวบอกว่า การทำงานในวงการนั้นได้ค่าตอบแทนมากกว่าบัณฑิตเสียด้วย 5.อนันดา
เอเวอริ่งแฮม
ยอมรับว่าเคยเกเรมากๆ สมัยเรียน ถึงขั้นถูกเชิญออกจากโรงเรียนตั้งแต่ยังไม่จบไฮสคูล คุณพ่อจึงส่งไปเรียนที่ประเทศอินเดีย แต่ปรากฏว่าถูกชวนเข้าวงการบันเทิงเสียก่อน 6.กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์
สาวกุ๊บกิ๊บ เคยเรียนคณะนิติศาสต์ มหาวิทยลัยรามคำแหง
แต่ก็ยังเรียนไม่จบเพราะหันมาเอาดีทางด้านการแสดง และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวงการเสียมากกว่า 7.ใบเตย อาร์สยาม
เคยเผยถึงเรื่องการเรียนว่าก่อนออกอัลบั้มใบเตย เคยเรียนที่มหาวิทยลัยธุรกิจบัณฑิตย์มา 2 ปี แต่พอเริ่มมีงานตั้งแต่เช็คเรตติ้งเราก็ได้ดรอปไป
แล้วมาเริ่มต้นใหม่ ที่ซูเปอร์สตาร์ อะคาเดมี่ ออฟ เอเชีย 8.ตั๊ก บงกช
เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่ยังเรียนมัธยมเช่นกัน แรกๆ จึงทุลักทุเลไม่น้อยที่ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย แต่เธอก็ไม่ท้อนะคะ สมัครเรียนระดับปริญญาตรีกับเค้าเหมือนกันแต่เพราะต้องการโฟกัสกับการทำงานมากกว่า สุดท้ายจึงพักโครงการเรียนไปแบบยาวววววเลย บทความแนะนำ  ผู้คนส่วนใหญ่มักโตมาพร้อมกับความเชื่อที่ว่า การไปโรงเรียน ทำคะแนน ทำเกรดให้ดี หางานดีๆ ทำงานให้หนัก ถือเป็นเส้นทางบังคับหลักของชีวิตหากต้องการจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่หารู้ไม่ว่าทุกวันนี้ ไม่ว่าจะการศึกษาดีๆ หรือการงานเด่นๆ ต่างก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จ หรือความมั่งคั่งอีกต่อไป แน่นอนว่าการศึกษาเป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นมากมายเสมอไป เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ประกอบการมากมายที่แม้จะไม่ได้จบการศึกษาตามหลักสูตร แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ในระดับที่น่าทึ่ง ซึ่งในส่วนที่จะพูดถึงต่อไปนี้จะเป็นข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณลักษณะที่สำคัญซึ่งสามารถนำพาไปสู่ความสำเร็จได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการศึกษาในระบบ ลองศึกษากรณีตัวอย่างของบุคคลผู้เป็นที่รู้จักเหล่านี้ดู แล้วคุณจะรู้ว่าการไปโรงเรียนอาจไม่ใช่หนทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตอีกต่อไป 1.สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs)เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกับเรื่องราวเกี่ยวกับ สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple มาบ้างแล้ว แม้ว่าเขาจะสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียน Homestead High School ในปี 1972 จริง แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หยุดเรียนกลางคันเมื่อเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย Reed College ที่ซึ่งพ่อแม่ของเขารับผิดชอบค่าใช้จ่ายไม่ไหว ทำให้เขาไม่สามารถเรียนต่อไปได้ แต่ทว่าในปี 2011 ที่เขาเสียชีวิต ทรัพย์สินโดยรวมของ จอบส์ มีถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับว่าสุดยอดมากสำหรับผู้ที่ลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน นอกจากนี้ยังมี สตีฟ วอซเนียค (Steve Wozniak) เพื่อนคู่คิดของ จอบส์ ผู้ที่เรียนไม่จบเช่นเดียวกัน และมีทรัพย์สินมูลค่าถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ! 2.ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson)ว่ากันว่าทรัพย์สินของ ริชาร์ด แบรนสัน มีประมาณ 4.9 พันล้านเหรียญ เขาเป็นถึงผู้ก่อตั้งสายการบิน Virginia Airways บริษัท Virgin Records, Virgin Mobile และอื่นๆ ที่ใช้ชื่อแบรนด์ Virgin ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะเรียนไม่จบแม้กระทั่งระดับชั้นมัธยมเนื่องจากเขาลาออกตั้งแต่อายุได้เพียง 16 ปี แถมยังป่วยเป็นโรค Dyslexic หรือมีความบกพร่องในด้านการอ่านและเขียน ทำให้ความสามารถในทางวิชาการไม่ค่อยเอาไหนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั่นกลับไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการก้าวไปสู่ความสำเร็จของเขาเลยสักนิด นอกจากนี้ ในปัจจุบัน แบรนสัน ยังมีการกล่าวถึงความสำคัญของการศึกษา และเชื่อว่าโรงเรียนควรให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ และช่วยจัดหาทุนให้มากกว่านี้ 3.เดฟ โทมัส (Dave Thomas)เดฟ โทมัส ผู้ก่อตั้งและเป็น CEO แห่งอาณาจักรอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่าง “Wendy’s” เขาลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย และทำงานเป็นพนักงานประจำที่ภัตตาคาร Hobby House ในเมือง Fort Wayne รัฐอินเดียน่า แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตในปี 2002 ด้วยอายุ 69 ปี แต่ในขณะนั้นเขากลับก็มีทรัพย์สินมูลค่าสูงถึง 99 ล้านเหรียญสหรัฐ โทมัส เปิดกิจการ Wendy’s ครั้งแรกในปี 1969 จากนั้นก็มีสาขาย่อยๆ ตามมาจนกระทั่งเขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้ออกโทรทัศน์จนกลายเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่โด่งดังมากที่สุดในช่วงปี 1990 4.เดวิด กรีน (David Green)เดวิด กรีน ผู้มีทรัพย์สินโดยรวมประมาณ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผู้ที่ไม่เคยแม้แต่จะได้เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เขามีเพียงใบสำเร็จการศึกษาระดับมัธยม แต่กลับเป็นถึงผู้ก่อตั้ง “Hobby Lobby” กิจการแฟรนไชส์ชื่อดังที่ทำงานเกี่ยวกับศิลปะ และงานฝีมือจากการพยายามศึกษาเฉพาะทางเพื่อเริ่มก่อตั้งกิจการเล็กๆ ในบ้านของเขาเองเมื่อปี 1970 ด้วยการกู้เงินทุนจำนวน 600 เหรียญ จนกระทั่งในปี 1972 กิจการของเขาประสบความสำเร็จมากในระดับที่ทำให้เขามีเงินพอจะเปิดร้านขายปลีกเป็นของตนเองได้ นอกจากนี้ กรีน ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีใจบุญอีกด้วย เขามักจะหักรายได้ของบริษัทครึ่งหนึ่งเพื่อนำไปบริจาคให้กับสถาบันทางศาสนาหลายแห่งอยู่เสมอ ซึ่งจนถึงปี 2012 ว่ากันว่าเขาได้ทำการบริจาคมาทั้งหมดประมาณ 500 ล้านเหรียญเลยทีเดียว 5.แลร์รี่ เอลลิสัน (Larry Ellison)แลร์รี่ เอลลิสัน อดีต CEO ของ Oracle เคยลาออกจากมหาวิทยาลัยถึงสองแห่งด้วยกัน ถึงอย่างนั้นเขาก็มีทรัพย์สินส่วนตัวถึง 5.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว! หลังจากที่ได้สร้างฐานข้อมูลให้กับ CIA เขาก็ได้สร้างศูนย์พัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development Laboratories, SDL) ขึ้นร่วมกับเพื่อนอีกสองคนในปี 1977 ซึ่งในที่สุดมันก็ได้กลายเป็นบริษัท Oracle Systems Corporation ในอีกห้าปีต่อมา ในปัจจุบัน อภิมหาเศรษฐีผู้มุ่งมั่นคนนี้ได้ก้าวลงจากเก้าอี้ CEO เป็นที่เรียบร้อย ถึงอย่างนั้นก็ยังคงสถานะประธานบริษัท และหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีที่บริษัท Oracle เอาไว้ อันที่จริงแล้ว เป้าหมายของเขาไม่เคยอยู่ที่ความร่ำรวยเลย แต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เขาสามารถสนุกสนานไปกับมันได้ต่างหาก 6.เควิน โรส (Kevin Rose)ผู้ประกอบการแห่งโลกออนไลน์ผู้ที่มีอายุยังไม่ถึง 40 ปีคนนี้ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Revision3, Pownce และ Milk ทว่ามักเป็นที่รู้จักกันในฐานะที่มีความเกี่ยวข้องกับ Digg เสียมากกว่า เขาเคยเข้ารับการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Nevada ในลาสเวกัส ในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่สองปีให้หลังเขาก็ลาออก ทุกวันนี้ โรส เป็น CEO ของบริษัท HODINKEE และเป็นสมาชิกของบอร์ดบริหารให้กับมูลนิธิ Tony Hawk รวมถึงเป็นที่ปรึกษาให้กับ Google Ventures อีกด้วย 7.ไมเคิล เดลล์ (Michael Dell)แน่นอนว่า ไมเคิล เดลล์ คือผู้ก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ Dell ว่ากันว่าทรัพย์สินของเขามีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านเหรียญเลยทีเดียว! เขาเคยเข้ารับการศึกษาในมหาวิทยาลัยเทกซัส แต่ก็ลาออกก่อนที่จะเรียนจบ เนื่องจากขณะที่เขาพักอาศัยอยู่ในหอพักมหาวิทยาลัย เขาได้ริเริ่มสร้างสิ่งที่ในเวลาต่อมาจะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Dell ขึ้น ซึ่งเมื่อเขาพบว่าสามารถประสบความสำเร็จได้ กับการประดิษฐ์ชิ้นส่วนอัพเกรดเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคอมพิวเตอร์ เขาจึงคิดที่จะก้าวออกสู่โลกนอกรั้วมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าในที่สุด ภายในปี 1992 เดลล์ ได้กลายมาเป็น CEO ที่เด็กที่สุด และมีทรัพย์สินส่วนตัวมากที่สุดเป็นอันดับ 27 ของโลก! 8.เรเชล เรย์ (Rachael Ray)ดารารายการทำอาหาร นักเขียน และนักธุรกิจสาวผู้นี้ เธอไม่เคยได้เข้ารับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังไม่เคยเข้าเรียนหรือฝึกฝนการทำอาหารอย่างจริงจังเลยสักครั้ง ถึงอย่างนั้นทรัพย์สินส่วนตัวของเธอก็มีมูลค่าถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับว่าสูงมากสำหรับผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพในสาขาที่เธอทำงานเลย หลังจากที่รายการทอล์กโชว์ของเธอได้ออกอากาศในปี 2006 เธอได้ทำการโปรโมทมันในหลายๆ รูปแบบ ทั้งผ่านทางรายการ The Oprah Winfrey Show และนอกจากนี้เธอยังได้ทำรายการชื่อดังอีกหลากหลายรายการอีกด้วย จนสามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด |
เรียนไม่จบมหาลัย
ลิขสิทธิ์ © 2024 ihoctot Inc.
