หลายคนที่เริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองมักเริ่มที่การเปลี่ยนอาหารที่ทานให้มีคุณค่าทางสารอาหาร และดีต่อร่างกายมากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะคำกล่าวที่ว่า “You are what you eat” หรือกินอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ยังคงเป็นข้อเท็จจริงถูกต้อง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม การเลือกน้ำมันในการปรุงอาหารจึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่หลายคนให้ความสนใจ แต่น้ำมันมะพร้าว 100% ที่หลายคนกำลังทานกันอยู่ กลับมีข้อโต้แย้งจากผู้เชี่ยวชาญที่กล่าวว่า “น้ำมันมะพร้าวเป็นอาหารที่แย่ที่สุดที่คุณจะทานได้” หรือ “ยาพิษบริสุทธ์” เลยทีเดียว Karin Michels นักระบาดวิทยาจาก Harvard T.H. Chan School of Public Health ระบุว่า น้ำมันมะพร้าวมีปริมาณของไขมันอิ่มตัวสูงมาก หากทานเข้าไปมากๆ จะเป็นการเพิ่มระดับไขมันเลวในเลือกของเรามากขึ้น จนเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของโรคอันตรายที่เกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือดมากมาย และในน้ำมันมะพร้าวยังมีปริมาณไขมันอิ่มตัวมากถึง 80% ซึ่งสูงเป็น 2 เท่าของปริมาณไขมันอิ่มตัวที่พบในไขมันหมู และมากกว่า 60% ของปริมาณไขมันที่พบในมันเนื้อ นอกจากนี้ ในปี 2017 สถาบันโรคหัวใจของสหรัฐอเมริกาพบว่ามีน้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนผสมของอาหารอื่นๆ มากมายในประเทศ และประชากรราว 3 ใน 4 จากทั้งหมดคิดว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ แต่จากการสำรวจความเห็นจากนักโภชนาการ กลับมีเพียง 37% เท่านั้นที่ระบุว่าน้ำมันมะพร้าวดีต่อสุขภาพจริง และทางสถาบันยังกล่าวอีกว่า การที่คนส่วนมากเชื่อว่าน้ำมันมะพร้าวดีต่อสุขภาพ มาจากการโฆษณาจากทางผู้ผลิตมากกว่า ซ้ำยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “น้ำมันมะพร้าวเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และไม่ได้มีผลดีต่อร่างกายที่พิสูจน์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าอย่าทานน้ำมันมะพร้าวจะดีกว่า” อีกด้วย อย่างไรก็ตาม สถาบันโภชนาการของสหราชอนาจักร กล่าวว่า “เรายังสามารถทานน้ำมันมะพร้าวได้ แต่เพราะน้ำมันมะพร้าวมีปริมารไขมันอิ่มตัวสูงมาก ดังนั้นจึงควรทานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้สารอาหารในแต่ละมื้อมีความสมดุลที่ดี แต่ก็เป็นความจริงที่ว่า ยังไม่มีข้อยืนยันทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าการทานน้ำมันมะพร้าวส่งผลดีอย่างไรต่อร่างกาย” นอกจากนี้ Victoria Taylor นักกำหนดอาหารชั้นอาวุโสของสถาบันโรคหัวใจของสหราชอนาจักรกล่าวว่า “น้ำมันมะพร้าวมีปริมาณไขมันอิ่มตัวสูงถึง 86% ซึ่งสูงกว่าไขมันที่พบอยู่ในเนยถึง 1 ใน 3 ส่วน และเราทุกคนก็ทราบกันดีว่าไขมันอิ่มตัว เพิ่มความเสี่ยงของภาวะไขมันเลวในเลือดสูงขึ้น และปริมาณคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีต่อร่างกายที่สูงขึ้นก็เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง แม้ว่าจะมีการพูดต่อๆ กันมาว่าไขมันอิ่มตัวในน้ำมันมะพร้าวยังดีกว่าไขมันอิ่มตัวที่พบจากแหล่งอาหารอื่นๆ แต่จริงๆ แล้วยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ระบุเลยว่าเป็นเช่นนั้น และสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนั่นคือ การลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวด้วยการหันไปทานน้ำมันพืช น้ำมันมะกอก และน้ำมันเมล็ดทานตะวัน จะช่วยลดปริมาณไขมันเลวในเลือด และเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าแน่นอน” แต่ใครก็ตามที่หลงรักในรสชาติของน้ำมันมะพร้าวจนถอนตัวไม่ขึ้นไปแล้ว มีคำแนะนำว่าสามารถทานได้บ้างเล็กน้อย แต่อย่าทานมากจนเกินไป และอย่าทานทุกวัน ควรเลือกทานน้ำมันที่ไม่มีไขมันอิ่มตัวในทุกๆ วันจะดีกว่า พี่ซีชอบป้ายยา ตอน เจาะลึกคุณประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้พี่ซีจะมาป้ายยา “น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น” น้ำมันอะไรก็ไม่รู้เนอะมีประโยชน์ครอบจักรวาลจริงๆ สามารถใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า บ้าจริง! ทำไมดีอย่างนี้ ฮ่าๆ สาวๆ อย่างเรามันต้องมีไอเทม Must have ที่ต้องมีติดบ้านไว้ให้อุ่นใจ เวลาเกิดอะไรฉุกเฉินก็จับหยิบสิ่งนี้มาใช้ประโยชน์ได้ทุกครั้งที่ต้องการ ยิ่งถ้าช่วงไหนมีโปรโมชั่นยิ่งต้องซื้อตุนเก็บไว้เลยแหละ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีอะไรบ้าง?
สำหรับวิธีทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
ทั้งนี้ทั้งนั้นปริมาณการทานขึ้นอยู่กับความต้องการของร่างกายว่าอย่างลดน้ำหนักไว้ก็ทานเยอะขึ้นวันละ 2-3 ช้อนโต๊ะ สามารถทานได้เยอะโดยที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างแน่นอน สำหรับใครที่กำลังสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ คลิก |