พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ปวช2

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับความหมายและประเภทของพลังงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ของพลังงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมกับการดำรงชีวิต ปัญหาการใช้พลังงานที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หลักและวิธีการอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม การป้องกันและแก้ไขปัญหา พลังงานทดแทน กฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้อง

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ได้ผา่ นการตรวจประเมินคณุ ภาพจากส�ำ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
ประจ�ำ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ครงั้ ท่ี 2
หมวดวชิ า สมรรถนะวิชาชพี กลุ่มสมรรถนะ วชิ าชพี พ้นื ฐาน ประกาศล�ำ ดับที่ 618

ผแู้ ต่ง : ผศ. ดร.พัฒนา ศริ ิโชตบิ ณั ฑติ

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักดรหัสวชิ า 20001-1002
ชื่อวิชา พลังงาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม

ตรงตามจุดประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวิชา และค�ำอธิบายรายวิชา
หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี พทุ ธศกั ราช 2562
ส�ำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ

ผู้แต่ง
ผศ. ดร.พฒั นา ศิริโชติบณั ฑิต

ปที พ่ี มิ พ์ 2562
จำ� นวนทีพ่ มิ พ ์ 5,000 เล่ม
ราคา 100 บาท
ISBN 978-616-05-4641-1

จดั พมิ พแ์ ละจัดจำ�หน่ายโดย
สำ�นักพิมพ์ บริษทั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
1256/9 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสติ กรงุ เทพฯ 10300
โทร. 0-2243-8000 (อัตโนมตั ิ 15 สาย), 0-2241-8999
แฟกซ:์ ทกุ หมายเลข, แฟกซ์อตั โนมัต:ิ 0-2241-4131, 0-2243-7666
website: www.iadth.com

สงวนลิขสิทธิ์
ส�ำ นกั พมิ พ์ บริษทั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักดค�ำ นำ�

หนงั สอื เรยี นวชิ า พลงั งาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม รหสั วชิ า 20001-1002 จดั ท�ำ ขน้ึ ตาม
หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวิชาชีพ พทุ ธศักราช 2562 เป็นหลกั สูตรระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชพี
หลงั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ หรอื เทยี บเทา่ ดา้ นวชิ าชพี ทส่ี อดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คม
แหง่ ชาติ แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ เป็นไปตามกรอบคณุ วฒุ ิแห่งชาติ มาตรฐานการศกึ ษาของชาติ
และกรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ ตลอดจนยึดโยงกับมาตรฐานอาชีพ โดยเน้นการเรียนรู้
สกู่ ารปฏบิ ตั ิ เพอ่ื ผลติ และพฒั นากาํ ลงั คนระดบั ฝมี อื ใหม้ สี มรรถนะ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม
จรรยาบรรณวชิ าชพี และกจิ นสิ ยั ทเี่ หมาะสมในการทาํ งาน ใหส้ ามารถประกอบอาชพี ไดต้ รงตาม
ความต้องการกําลังคนของตลาดแรงงาน ชุมชน สังคม และสามารถประกอบอาชีพอิสระได้
โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกระบบและวิธีการเรียนได้อย่างเหมาะสมตามศักยภาพ
ตามความสนใจและโอกาสของตน ส่งเสริมให้มีการประสานความร่วมมือเพ่ือจัดการศึกษาและ
พฒั นาหลกั สูตรร่วมกันระหว่างสถาบนั สถานศึกษา หนว่ ยงาน สถานประกอบการ และองคก์ ร
ตา่ งๆ ท้งั ในระดบั ชมุ ชน ระดับท้องถน่ิ และระดับชาติ
หนังสือเรียนวิชา พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม รหัสวิชา 20001-1002 เล่มนี้
ได้จัดทำ�ข้ึนโดยผ่านการวิเคราะห์ความสอดคล้องของเน้ือหาให้ตรงตามจุดประสงค์รายวิชา
สมรรถนะรายวชิ า และค�ำ อธบิ ายรายวชิ าทกี่ �ำ หนดไวใ้ นหลกั สตู รฯ แตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้ มเี นอื้ หา
สาระ กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ และแบบทดสอบ เพื่อสร้าง
กระบวนการเรียนรู้และฝึกทักษะที่เหมาะสม โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะเฉพาะด้าน
ด้วยการปฏิบัติจริง สามารถเลือกวิธีการเรียนตามศักยภาพและโอกาสของผู้เรียน และเกิด
การเรียนรสู้ งู สดุ
ผแู้ ตง่ หวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ หนงั สอื เลม่ นจี้ ะชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในเนอ้ื หาสาระ
ของวชิ า สามารถพฒั นากระบวนการเรยี นรแู้ ละความคดิ รวมทง้ั สามารถน�ำ ความรแู้ ละสมรรถนะ
ท่ีเกิดขึ้นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ�วันได้สมดังเจตนารมณ์ของหลักสูตรฯ และการปฏิรูปการ
ศึกษาอยา่ งครบถว้ นทุกประการ

พฒั นา ศิรโิ ชตบิ ัณฑิต

คำ� อธบิ ายรายวชิ า

รหัสวิชา 20001-1002 ชื่อวิชา พลังงาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อม 2-0-2
(Energy, Resources and Environment Conservation)
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
จดุ ประสงค์รายวชิ า เพอื่ ให้
1. เข้าใจหลักการ วิธีการป้องกันแก้ไขปัญหาและการอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรและ
ส่ิงแวดล้อม
2. สามารถประยุกต์ใช้หลักการและวิธีการเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาและอนุรักษ์พลังงาน
ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อมในงานอาชพี
3. มเี จตคติทีด่ ตี อ่ การอนรุ ักษพ์ ลงั งาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อมในงานอาชพี

สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับพลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม หลักการและวิธีป้องกันแก้ไข
ปญั หาและอนรุ ักษพ์ ลังงาน ทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ ม
2. วิเคราะห์สภาพปัญหาและผลกระทบทเี่ กดิ จากการใช้พลังงาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อม
3. วางแผนป้องกันแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการใช้พลังงาน ทรัพยากรและ
สง่ิ แวดล้อมในงานอาชพี
4. วางแผนการอนุรักษพ์ ลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อมในงานอาชพี

ค�ำ อธิบายรายวชิ า
ศึกษาเกี่ยวกับพลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ประเภทของพลังงาน ทรัพยากรและ
ส่งิ แวดล้อม ความสมั พนั ธข์ องพลงั งาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ มกบั การด�ำ รงชีวติ การใช้ประโยชน์
ของพลังงาน พลังงานทดแทนและทรัพยากร สถานการณ์ปัญหาและผลกระทบท่ีเกิดจากการใช้
พลังงานและทรัพยากร แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาพลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
หลกั การและวธิ กี ารอนรุ ักษ์พลังงาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อม กฎหมายและนโยบายทีเ่ กย่ี วขอ้ ง

ตารางวิเคราะห์ความสอดคลอ้ งของเนอื้ หา
จดุ ประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม

รหัสวชิ า 20001-1002 ชื่อวิชา พลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม 2-0-2

ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม

จุดประสงค์ สมรรถนะ พุทธพิ สิ ัย (80)
รายวิชา รายวิชา
ความจำ�สํา ันก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จํา ักด รวม
ความเ ้ขาใจ
การประยุก ์ตใ ้ช1231234
การวิเคราะ ์ห
การประเ ิมน
ความคิดส ้รางสรรค์
จิต ิพสัย (10)
ัทกษะ ิพสัย (10)
ลำ� ัดบความสำ� ัคญ
1. ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกยี่ วกบั พลงั งาน ✓ ✓ ✓ ✓ - - - 2 2 2 1 - - 1 1 9 4
ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม

2. ประเภทของพลงั งาน ✓✓✓✓ - - - 2 2 2 1 - - 1 1 9 4
ทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ ม ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ - 2 3 3 1 - - 1 1 11 3

3. ความสัมพันธข์ องพลังงาน
ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม

4. การใชป้ ระโยชน์จากพลังงาน ✓ ✓ ✓ ✓ --- 3 4 4 1 - - 1 1 14 2

พลงั งานทดแทน และ

ทรพั ยากร

5. ปัญหาและผลกระทบจาก ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ - - 3 4 4 1 - - 1 1 14 2
การใชพ้ ลงั งานและทรพั ยากร

6. แนวทางป้องกนั และแก้ ✓✓✓✓ ✓ 3 4 4 2-- 2 2 17 1
ปญั หาพลงั งาน ทรัพยากร --
และสิง่ แวดล้อม

7. หลักการและวธิ ีการอนรุ ักษ์ ✓ ✓ ✓ ✓ -- ✓ 3 4 4 2 - - 2 2 17 1

พลังงาน ทรัพยากรและ

สิง่ แวดล้อม

8. กฎหมายและนโยบายด้าน ✓✓✓✓ ✓2 2 2 1-- 1 1 9 4
พลังงาน ทรัพยากรและ - -
สิง่ แวดลอ้ ม

รวม 20 25 25 10 - - 10 10 100

ลำ�ดับความสำ�คญั 1111 22

หมายเหตุ ความจ�ำ (Remembering), ความเขา้ ใจ (Understanding), การประยกุ ตใ์ ช้ (Applying),
การวิเคราะห์ (Analysis), การประเมนิ (Evaluating), ความคิดสรา้ งสรรค์ (Creating)
(ท่ีมา : Bloom’s Revised Taxonomy)

สารบญั

หน้า

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ความรเู้ บื้องต้นเกี่ยวกบั พลังงาน ทรัพยากร

และส่งิ แวดลอ้ ม 1

1. พลังงาน 3
2. ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อม 6
กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ 13
กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนร ู้ 15
แบบทดสอบ 17

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ประเภทของพลังงาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม 20
1. ประเภทและแหลง่ กำ�เนดิ ของพลงั งาน 22
2. ประเภทและแหล่งกำ�เนดิ ของทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม 36
กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 49
กิจกรรมสง่ เสริมการเรยี นร ู้ 51
แบบทดสอบ 53

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 ความสัมพันธข์ องพลังงาน ทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ ม 55
1. พลงั งานกบั การดำ�รงชวี ิต 57
2. ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มกบั การดำ�รงชวี ิต 62
3. การพัฒนาท่ีย่ังยนื สำ�หรบั การดำ�รงชวี ิต 66
กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 69
กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนร ู้ 71
แบบทดสอบ 73

หนา้

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 การใชป้ ระโยชน์จากพลงั งาน พลังงานทดแทน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
และทรัพยากร 76

1. การใชป้ ระโยชนจ์ ากพลังงานและพลังงานทดแทน 78
2. การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติ 91
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 94
กิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นร ู้ 95
แบบทดสอบ 97

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ปญั หาและผลกระทบจากการใช้พลงั งานและทรพั ยากร 100

1. ปญั หาและผลกระทบจากการใชพ้ ลงั งานตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม 102
2. ปญั หาและผลกระทบจากการใช้ทรพั ยากรตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม 106
กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 115
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนร ู้ 116
แบบทดสอบ 118

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 แนวทางป้องกนั และแกป้ ญั หาพลงั งาน ทรัพยากร

และส่งิ แวดลอ้ ม 121

1. การป้องกันและการแกป้ ัญหาพลังงาน 123
2. การปอ้ งกนั และการแก้ปัญหาทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ ม 133
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 148
กจิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นร ู้ 149
แบบทดสอบ 151

หนา้

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 หลกั การและวิธกี ารอนุรกั ษพ์ ลังงาน ทรัพยากร
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
และสง่ิ แวดล้อม 154

1. การอนรุ กั ษ์พลงั งาน 156
2. การอนุรักษ์ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อม 160
กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 165
กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ 166
แบบทดสอบ 168

หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 กฎหมายและนโยบายด้านพลงั งาน ทรพั ยากร

และสงิ่ แวดลอ้ ม 171

1. กฎหมายดา้ นพลงั งาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม 173
2. นโยบายด้านพลังงาน ทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม 181
กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 186
กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ 187
แบบทดสอบ 188
บรรณานุกรม 192

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
1หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ความรู้เบอ้ื งตน้ เก่ียวกับพลงั งาน
ทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ ม

พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เป็นองค์ประกอบหน่ึงของ

สาระสำ�คัญ สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวเรา มีความสำ�คัญต่อมนุษยชาติมาก เนื่องจาก
การดำ�รงชีวิตของมนุษย์ในทุกสังคมจำ�เป็นต้องใช้พลังงาน ทรัพยากร และ

สิ่งแวดล้อม เพราะมนุษย์ต่างมีถิ่นท่ีอยู่อาศัยร่วมกับสิ่งแวดล้อมต่างๆ

ที่แตกต่างกนั

ในยุคปัจจุบัน มนุษย์ต้องเผชิญกับสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้พลังงาน

ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม เช่น ปัญหาภาวะโลกร้อน การปล่อยแก๊สเรือนกระจก สภาพอากาศ

เปลี่ยนแปลง มลพิษและมลภาวะ การขาดแคลนอาหาร การสูญสิ้นของพืชพันธ์ุสัตว์ป่า และถ่ินที่อยู่

อาศัยของมนุษย์มีการลดจ�ำ นวนลง ส่ิงเหล่าน้ีก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำ�รงชีพของมนุษย์ ผู้คนใน

สงั คม และการพัฒนาประเทศ ดังน้ันความร้เู กี่ยวกบั พลงั งาน ทรพั ยากร และสงิ่ แวดล้อม จึงเปน็ ปจั จัย

ในดา้ นความรทู้ สี่ ำ�คัญตอ่ ผูค้ นในสังคมโดยท่วั ไปอย่างหลีกเลี่ยงไมไ่ ด้

สาระการเรียนรู้ 1. พลงั งาน
2. ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อม

2 พลังงาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ ม

สมรรถนะ 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั พลังงาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม
ประจำ�หน่วย 2. ประยกุ ต์ใช้ความรูพ้ ้นื ฐานเกี่ยวกบั พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมใน
ชวี ิตประจำ�วนั และงานอาชีพ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
จดุ ประสงค์ 1. บอกความหมายของพลงั งานได้
การเรียนรู้ 2. บอกความหมายของทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมได้
3. อธิบายความสำ�คัญของพลงั งาน และการน�ำ ไปใช้ประโยชน์ในดา้ นตา่ งๆได้
4. อธิบายความสำ�คัญของทรัพยากร และการนำ�ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ
ได้

ผงั สาระ
การเรยี นรู้

ความรเู้ บ้อื งต้นเก่ียวกับ พลังงาน
พลังงาน ทรพั ยากร ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม
และสิ่งแวดลอ้ ม

ส�ำ หรบั
ผสู้ อน

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักดความรเู้ บอื้ งตน้ เกีย่ วกับพลังงาน ทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม 13

สรปุ พลังงานมีความสำ�คัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นส่ิงท่ีมนุษย์ต้องนำ�มาใช้

ประโยชน์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัย การดำ�รงชีพ และการพัฒนา
ด้านต่างๆ ของสังคมและประเทศชาติ พลังงานมีท้ังพลังงานหมุนเวียนและพลังงานท่ีใช้แล้ว
หมดไป พลังงานเหล่านี้สามารถใชป้ ระโยชนใ์ นการผลิต การขนส่ง การบรกิ าร และภาคครัวเรือน
รวมถึงสิ่งมชี วี ติ ทั้งหลายทอี่ าศยั อย่ใู นระบบนเิ วศอีกดว้ ย
ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มเปน็ สงิ่ ทอี่ ยรู่ อบๆ ตวั เราทง้ั ทเ่ี ปน็ สง่ิ มชี วี ติ และไมม่ ชี วี ติ
สามารถจบั ต้องไดแ้ ละไม่สามารถจับต้องได้ ใช้แลว้ หมดไปและสามารถสรา้ งเพิม่ ขึ้นใหมไ่ ด้ โดย
มอี งคป์ ระกอบดา้ นต่างๆ เชน่ พืชพันธ์ุ สตั วป์ ่า ป่าไม้ ดนิ นำ�ํ้ อากาศ พลังงาน และแรธ่ าตุต่างๆ มี
ความสำ�คัญต่อมนุษย์และส่ิงมีชีวิตในธรรมชาติ เช่น เป็นที่อยู่อาศัยทางกายภาพ การดำ�รงชีพ
การสรา้ งอาหาร การสบื พนั ธ์ุ และการแลกเปลยี่ นผลประโยชนซ์ ง่ึ กนั และกนั ของระบบนเิ วศวทิ ยา
และชวี วิทยา รวมถึงเกย่ี วขอ้ งในดา้ นสังคมและวฒั นธรรมอีกด้วย

(แนวทางการตอบอย่ใู นภาคผนวกหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1)

กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ

ตอนท่ี 1

คำ�ส่ัง ค�ำ กลา่ วในประโยคใดต่อไปนถ้ี ูก () หรือผิด ()

____ 1. พลังงานมี 2 ลกั ษณะท่ีส�ำ คัญ คอื พลังงานจลน์ และพลงั งานศกั ย์
____ 2. พลงั งานแสง ได้แก่ เคร่อื งยนต์ เครือ่ งปั่นกระแสไฟฟ้า และหลอดไฟ
____ 3. พลังงานท่ใี ชแ้ ลว้ หมดไป ไดแ้ ก่ น้ำํ�มันเชอื้ เพลิง ถา่ นหนิ และนิวเคลียร์
____ 4. ความส�ำ คญั ของพลังงานที่มตี ่อการผลติ ได้แก่ การเพาะปลูก และการผลติ สินค้า
____ 5. ความส�ำ คัญของพลงั งานทม่ี ีต่อส่ิงมชี ีวิต ได้แก่ การอยอู่ าศยั และการรกั ษาพยาบาล

พลังงานศักย์ (Potential Energy)  เป็นพลังงานที่เกิดข้ึนเม่ือวัตถุถูกวาง
อยู่ในตำ�แหน่งท่ีสามารถ เคล่ือนที่ได้ไม่ว่าจากแรงโน้มถ่วงหรือแรงดึงดูด
จากแมเ่ หลก็ เชน่ กอ้ นหนิ ที่วางอยบู่ นขอบท่สี ูง มะพร้าวทีร่ ว่ งหล่นจากต้น

สำ�หรับ
ผู้สอน

14 พลงั งาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด

ตอนที่ 2

คำ�สง่ั จงจบั คคู่ ำ�ถามและคำ�ตอบทม่ี คี วามถกู ต้องมากท่ีสุด

ค�ำ ถาม
___ง._ 1. ความหมายของทรัพยากรโดยท่ัวไป
___จ._ 2. ความหมายของทรัพยากรด้านสิ่งแวดลอ้ ม
___ช._ 3. ความสำ�คญั ของทรัพยกรท่มี ตี ่อเศรษฐกิจ
___ก_. 4. ความสำ�คัญของทรัพยากรด้านชวี วิทยาและนเิ วศวิทยา
___ค_. 5. ความสำ�คญั ของทรพั ยกรทม่ี ตี ่อธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม

ค�ำ ตอบ
ก. พืชพนั ธ์ุ สตั วป์ ่า ป่าไม้ และสิ่งมชี วี ิตต่างๆ
ข. การตดิ ต่อส่อื สารและการขนส่ง
ค. ทอี่ ยู่อาศยั อาหาร เคร่ืองนงุ่ หม่ และยารักษาโรค
ง. สิ่งท่ีเปน็ แหล่งหรือปจั จยั ที่นำ�มาใช้สร้างประโยชน์ดา้ นตา่ งๆ ส�ำ หรบั มนษุ ย์
จ. ทรพั ยากรหมุนเวยี นและทรพั ยากรท่ีใชแ้ ล้วหมดไป
ฉ. ส่งิ ทีม่ นษุ ยส์ ร้างข้นึ และสง่ิ ทม่ี ีอยใู่ นธรรมชาติ
ช. ปัจจัยนำ�เขา้ ในกระบวนการผลิตและบริการตา่ งๆ

ตอนท่ี 3

คำ�สง่ั จงคน้ หาคำ�ตอบส�ำ หรับคำ�ถามตอ่ ไปนจี้ ากแหลง่ ข้อมูลตา่ งๆ

1. สิง่ แวดลอ้ มมคี วามหมายอยา่ งไรบ้าง ใหอ้ ธบิ าย
แหล่งข้อมูลจาก วันท่คี น้ ข้อมลู

(แนวทางการตอบหรืออน่ื ๆ ขึน้ อย่กู ับดลุ ยพนิ จิ ของผ้สู อน)
2. ความส�ำ คัญของสง่ิ แวดลอ้ มมีอะไรบ้าง ใหอ้ ธบิ ายพรอ้ มยกตวั อย่าง
แหล่งข้อมูลจาก วนั ท่คี น้ ขอ้ มลู

(แนวทางการตอบหรอื อน่ื ๆ ข้ึนอยูก่ บั ดลุ ยพนิ ิจของผู้สอน)
3. ความส�ำ คญั ของสง่ิ แวดลอ้ มด้านกายภาพมอี ะไรบ้าง ให้อธบิ ายพร้อมยกตัวอย่าง
แหลง่ ข้อมูลจาก วันที่คน้ ข้อมลู

(แนวทางการตอบหรอื อื่นๆ ขน้ึ อยกู่ ับดลุ ยพนิ จิ ของผู้สอน)

สำ�หรบั
ผ้สู อน

ความร้เู บื้องต้นเกี่ยวกบั พลังงาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อม 15

กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้

คำ�ช้ีแจง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรม(แหนวลทาากงกหารลตาอยบทข่ีฝ้ึนึอกยทูก่ ักบั ษดลุ ะยทพุกนิ ดจิ ข้าอนงผตสู้ าอมน)

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรม
ทั้งในและนอกสถานทตี่ ามความเหมาะสมของผู้เรียนและสิง่ แวดลอ้ มของสถานศกึ ษา

ค�ำ สงั่ จงแสดงขอ้ คิดเหน็ เกีย่ วกบั พลงั งาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมลงในช่องว่าง
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
สรปุ ขอ้ คดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
ส�ำ หรับ
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมท่ีผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติทุกข้อหรือเลือกปฏิบัติเป็นบางข้อ ผสู้ อน
ตามความเหมาะสม โดยผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรมตามเกณฑ์ของใบสรุปผลการทำ�กิจกรรม
และสามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรมไปเทียบกับการให้คะแนนกับตารางวิเคราะห์ความสอดคล้อง
ของเน้อื หากบั จุดประสงค์รายวิชาสมรรถนะรายวิชา และจุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมได้

16 พลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม

สรุปผลการทำ� กิจกรรม

ค�ำชแ้ี จง ให้ผู้เรยี นประเมินผลการท�ำกิจกรรม โดยเขยี นเครื่องหมาย ✓ลงในชอ่ ง ตามความเป็นจรงิ

ความรู้ (K) ทกั ษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) เกณฑ์การประเมนิ
การมมี นุษยสัมพนั ธใ์ น ทำ�เคร่ืองหมาย ✓
ความรู ้ ความเข้าใจ การปฏบิ ตั งิ านทีไ่ ดร้ บั
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด การนำ�ไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสร็จตามเวลา การปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ในแต่ละตอน 3 ขอ้
การสังเคราะห์ ท่กี ำ�หนด ความมีวนิ ัย ตรงต่อเวลา คอื ผา่ นการประเมนิ
การประเมนิ คา่ การปฏบิ ัติงานดว้ ยความ ความซ่ือสัตย์สจุ ริต
ละเอยี ด รอบคอบ ปลอดภัย ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K)
การศึกษาคน้ คว้า เรยี บรอ้ ย สวยงาม ประพฤตติ นด้วยความ ผา่ น ไมผ่ ่าน
การแสวงหาแหลง่ ขอ้ มูล
และการรวบรวมขอ้ มูล ความสมบูรณ์ของงาน ถกู ตอ้ งตามศีลธรรม 2. ทักษะ (P)
การแสดงความคดิ เหน็ การปฏบิ ตั ิงานทที่ ำ�ให้เกดิ อันดีงาม
อยา่ งมเี หตุผล หรอื แสดง สมรรถนะแก่ผเู้ รียน เจตคตทิ ีด่ ีในการปฏิบตั ิ ผ่าน ไมผ่ ่าน
กจิ กรรม
ข้ันตอนและกระบวนการ ทกั ษะการวางแผน การคิด ความพอเพียงและความ 3. คุณลกั ษณะ (A)
ทำ�กจิ กรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ผา่ น ไม่ผา่ น

การหาประสบการณ์ การผลิต พอประมาณ
ความรู้ใหม่ การตดั สินใจในการแก้ปญั หา

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำ�กิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบรบิ ทต่างๆ หรอื ไม่ โดยแบง่ เป็นเปน็ 3 ด้าน คอื ความรู้หรือพุทธิพสิ ยั = Knowledge (K)
ทกั ษะหรือทกั ษะพิสัย = Practice (P) คุณลักษณะหรือจิตพสิ ัย = Attitude (A)

ส�ำ หรบั
ผู้สอน

ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นท�ำ แบบทดสอบจากนนั้ ใหผ้ เู้ รยี น ความร้เู บ้ืองตน้ เกย่ี วกบั พลงั งาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม 17
แลกกนั ตรวจค�ำ ตอบ โดยผู้สอนเป็นผู้เฉลย

แบบทดสอบ

คำ�สัง่ จงเลือกคำ�ตอบทถ่ี ูกต้องท่สี ุดเพียงคำ�ตอบเดยี ว

1. พลังงานในข้อใดเปน็ พลงั งานท่เี กดิ ข้นึ เองตามธรรมชาติ

1. พลังงานไฟฟา้ และพลังงานกล
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด1. ตอบ 2. พลังงานจลน์และพลังงานน้ํา เนื่องจากพลังงานจลน์
2. พลงั งานจลน์และพลงั งานนํ้า เป็นพลังงานท่ีเกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ เช่น การหมุนของใบพัด
3. พลังงานความร้อนและพลงั งานกล อันเนื่องจากลมที่เกิดจากธรรมชาติ หรือการไหลของนํ้าตก
4. พลังงานความรอ้ นและพลังงานไฟฟ้า จากหน้าผาอนั เกดิ จากพลงั งานน้ําตามธรรมชาติ

5. พลังงานไฟฟ้าและพลังงานแสง

2. พลงั งานในขอ้ ใดไมม่ วี ันหมดส้ิน 2. ตอบ 5. ถกู ทง้ั ขอ้ 1. และ ข้อ 2. พลังงาน
แสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งเป็น
1. พลงั งานแสงอาทิตย ์ 2. พลงั งานลม พลังงานที่ไมม่ ีวนั หมดสน้ิ
3. พลงั งานไฟฟ้า 4. พลงั งานน้าํ
5. ถกู ท้งั ขอ้ 1. และขอ้ 2.

3. พลังงานที่ใช้แลว้ หมดไปคอื ขอ้ ใด

1. พลงั งานแสงอาทติ ย์ 3. ตอบ 3. พลังงานไฟฟ้า เป็นพลังงานท่ีใช้แล้วหมดไป
2. พลังงานลม
3. พลงั งานไฟฟา้ เน่ืองจากพลังงานไฟฟ้าอาศัยการผลิตจากพลังงาน

ความร้อนต่างๆ พลังงานนำ้� ตลอดจนแหล่งพลังงาน
ธรรมชาตอิ ืน่ ๆ จงึ มีปริมาณจำ�กัด
4. พลงั งานนำํ้�

5. พลงั งานคลืน่ ในมหาสมทุ ร

4. ความส�ำ คัญของพลังงานท่ีมีตอ่ การท�ำ งานของเครือ่ งมอื เครอ่ื งจักร และอุปกรณต์ า่ งๆ ได้แก่ข้อใด

1. การติดตอ่ สอื่ สารและการขนส่ง 4. ตอบ 3. พลงั งานมคี วามส�ำ คญั ตอ่ การท�ำ งานของเครอ่ื งมอื
เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ ของการผลิต การขนส่ง
2. การเคลือ่ นไหวของรา่ งกายมนุษย์ และการบรกิ าร
3. การผลติ การขนส่ง และการบรกิ าร
4. การเพาะปลกู และการผลติ อาหาร

5. ถกู ทกุ ขอ้

5. ทรัพยากรมคี วามหมายตรงกบั ข้อใดมากที่สดุ

1. สิ่งที่นำ�มาใช้หรอื ปัจจัยท่ีนำ�มาใช้ประโยชนข์ องมนษุ ย์ 5. ตอบ 4. ความหมายของทรัพยากรตรงกับ
2. สงิ่ ทนี่ ำ�มาใช้หรอื ปัจจยั ทน่ี �ำ มาใชป้ ระโยชน์ของสิง่ มีชีวิต ข้อ 1. และ ขอ้ 2. คอื ส่งิ ทนี่ ำ�มาใชห้ รอื ปัจจัย

3. ส่งิ ท่นี ำ�มาใชห้ รอื ปจั จยั ทนี่ �ำ มาใชป้ ระโยชน์ของโลกมนุษย์ ทีน่ �ำ มาใชป้ ระโยชนข์ องมนุษย์และส่งิ มชี ีวติ
4. ถกู ทงั้ ขอ้ 1. และข้อ 2.
5. ถูกท้งั ข้อ 2. และขอ้ 3. ส�ำ หรับ
ผ้สู อน

18 พลังงาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม

6. ทรพั ยากรในความหมายทางชวี วิทยาคอื ข้อใด

1. พชื พนั ธุ์ 6. ตอบ 5. ถูกทุกข้อ ในทางชีววิทยาทรัพยากร
2. สตั ว์ป่า คือ พืชพันธ์ุ สัตว์ป่า ป่าไม้ และส่ิงมีชีวิต
3. ปา่ ไม้ ขนาดเล็กตา่ งๆ

4. สง่ิ มีชวี ิตขนาดเลก็ ตา่ งๆ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
5. ถกู ทุกขอ้

7. ความส�ำ คัญของทรพั ยากรทมี่ ีตอ่ นิเวศวทิ ยาคือข้อใด

1. การใช้ประโยชนส์ ำ�หรับการอยอู่ าศัยของสิ่งมีชีวิต

2. การนำ�มาใชเ้ ป็นปัจจยั ในการผลติ 7. ตอบ 1. ทรพั ยากรมคี วามส�ำ คญั ตอ่ นเิ วศวทิ ยา
ในการใช้ประโยชน์สำ�หรับการอยู่อาศัยของ
3. การนำ�มาใชส้ ำ�หรับการใหบ้ ริการ สงิ่ มชี ีวติ
4. ถกู ท้งั ขอ้ 1. และขอ้ 2.

5. ถกู ทั้งข้อ 2. และขอ้ 3.

8. สิง่ แวดล้อมหมายถงึ ข้อใด

1. สิ่งทไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ตัวเรา แตอ่ ย่รู อบๆ ตัวเราท้งั หมด 8. ต อ บ 5 . ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ห ม า ย ถึ ง
2. สง่ิ ทอี่ ยรู่ อบๆ ตวั เราท้งั ทีเ่ ปน็ สิง่ มีชวี ติ และไมม่ ีชีวิต สิ่งท่ีอยู่รอบๆ ตัวเราท้ังท่ีเป็นส่ิงมีชีวิต
3. สิง่ ทอ่ี ยูร่ อบๆ ตวั เราท้งั ที่เปน็ ส่งิ ที่จบั ตอ้ งได้และจบั ต้องไมไ่ ด้ และไม่มีชีวิต สิ่งท่ีจับต้องได้และจับต้อง
ไม่ได้
4. ถกู ทั้งขอ้ 1. และข้อ 2.

5. ถกู ทั้งข้อ 2. และข้อ 3.

9. ความส�ำ คัญของสิ่งแวดล้อมทางกายภาพคอื ขอ้ ใด 9. ตอบ 5. ความสำ�คัญของส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ
คอื ทกุ ขอ้ ทก่ี ลา่ วมา ไดแ้ ก่ พน้ื ทสี่ �ำ หรบั อยอู่ าศยั สง่ิ
1. พ้ืนทีส่ �ำ หรับอยอู่ าศัย แวดลอ้ มทมี่ นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ สงิ่ แวดลอ้ มดา้ นพชื พนั ธ์ุ
2. ส่ิงแวดล้อมทม่ี นุษย์สร้างขึน้ สตั ว์ป่า และปา่ ไม้ สิ่งแวดลอ้ มดา้ นดนิ น�ำ้ อากาศ
3. สิ่งแวดล้อมด้านพชื พันธุส์ ตั ว์ป่า และปา่ ไม้

4. สิง่ แวดลอ้ มดา้ นดนิ น้�ํำ อากาศ พลังงาน และแรธ่ าตุ พลงั งาน และแร่ธาตุ

5. ถูกทกุ ข้อทีก่ ลา่ วมา

10. ความส�ำ คัญของสิ่งแวดล้อมตอ่ การดำ�เนนิ ชีวิตของมนษุ ย์ คือขอ้ ใด

1. ดา้ นกายภาพ

2. ด้านสงั คม 10. ตอบ 4. ความสำ�คัญของสงิ่ แวดลอ้ มต่อการด�ำ เนนิ ชีวิต
3. ดา้ นวัฒนธรรม ของมนษุ ย์ คือด้านกายภาพ ด้านสังคม
4. ถกู ทกุ ขอ้
และดา้ นวัฒนธรรม
5. ไม่มขี ้อใดถูก

สำ�หรับ
ผู้สอน

ความรูเ้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกับพลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม 19

แบบประเมนิ ตนเอง
ค�ำชี้แจง ตอนที่ 1 ให้ผูเ้ รียนประเมินผลการเรียนรู้ โดยเขยี นเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดับคะแนน
และเติมข้อมูลตามความเป็นจรงิ
ระดบั คะแนนตอนที่ 1 5 : มากทส่ี ดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : ควรปรบั ปรุง
ตอนท่ี 2 ใหผ้ ู้เรยี นน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งว่าง และเขยี นเครอื่ งหมาย ✓
ลงในชอ่ งสรปุ ผล
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ตอนท่ี 1 (ผลการเรยี นรู)้ ตอนที่ 2 (แบบทดสอบ)

รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ

1. ผเู้ รียนมีความรู้ ความเข้าใจในเน้อื หา คะแนน

2. ผเู้ รยี นได้ท�ำกจิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ที่สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หา (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
และจุดประสงค์การเรยี นรู้
สรปุ ผล
3. ผ้เู รยี นไดเ้ รียนและท�ำกิจกรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรูท้ ี่ส่งเสริม 9-10 (ดีมาก)
กระบวนการคดิ เกดิ การคน้ พบความรู้ 7-8 (ดี)
5-6 (พอใช้)
4. ผู้เรียนสามารถประยกุ ตค์ วามร้เู พ่อืี ใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจ�ำวันได้ ตา่ํ กวา่ 5

5. ผู้เรียนไดเ้ รยี นรอู้ ะไรจากการเรียน (ควรปรับปรุง)

6. ผเู้ รยี นต้องการท�ำส่งิ ใดเพือ่ พฒั นาตนเอง

7. ความสามารถท่ถี ือวา่ ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ของผ้เู รียน คอื

ส�ำ หรับ
ผู้สอน

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด2หน่วยการเรียนรู้ที่ประเภทของพลังงาน
ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม

พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมประเภทต่างๆ ที่เกิดข้ึนตาม

สาระสำ�คญั ธรรมชาติ และพลงั งานทมี่ นษุ ยค์ ดิ คน้ วจิ ยั พฒั นา ลว้ นมแี หลง่ ก�ำ เนดิ มาจาก
ธรรมชาติ หากต้องการนำ�พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมต่างๆ มาใช้

ประโยชน์ในการดำ�รงชีวิต จำ�เป็นต้องศึกษาประเภทและแหล่งกำ�เนิด

ของพลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม เพ่ือความเข้าใจในการนำ�ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ

ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รวมทงั้ คำ�นึงถึงการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ มเหลา่ น้ีอย่างรูค้ ุณค่า

สาระการเรยี นรู้ 1. ประเภทและแหล่งกำ�เนดิ ของพลงั งาน
2. ประเภทและแหล่งกำ�เนดิ ของทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม

ประเภทของพลังงาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม 21

สมรรถนะ 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับประเภทของพลงั งาน ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อม
ประจำ�หน่วย 2. ประยุกต์ใช้ความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับพลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม
ในชีวิตประจำ�วันและงานอาชีพ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
จดุ ประสงค์ 1. บอกประเภทและแหล่งกำ�เนดิ ของพลงั งานได้
การเรยี นรู้ 2. บอกประเภทและแหลง่ ก�ำ เนดิ ของทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อมได้

ผงั สาระ
การเรยี นรู้

ประเภทของพลังงาน ประเภทและแหลง่ ก�ำ เนิดของพลังงาน
ทรพั ยากรและ ประเภทและแหล่งกำ�เนิดของทรัพยากร
สิง่ แวดลอ้ ม และส่งิ แวดล้อม

สำ�หรบั
ผู้สอน

แนวทางการตอบอยู่ในภาคผนวกหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ประเภทของพลังงาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม 49

กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ

คำ�ชี้แจง กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเปน็ กจิ กรรมฝึกทกั ษะเฉพาะดา้ นความรู-้ ความจำ�

เพ่ือใช้ในการตรวจสอบความเขา้ ใจตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ตอนที่ 1

ค�ำ ส่งั จงน�ำ คำ�ตอบทเ่ี ปน็ ตวั อักษรเตมิ ลงในช่องว่างทกี่ ำ�หนดไว้ใหถ้ ูกตอ้ ง
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
คำ�ตอบ ต.
1. ไมฟ้ นื จ. สำ�หรบั
2. ปฏกิ ิริยาฟิชชัน ค. ผสู้ อน
3. การสลายตวั ของพชื และสตั ว์ ก.
4. การท�ำ เหมอื งบนผิวดิน ฌ.
5. ใบพัดแกนหมนุ แนวต้ังและแนวนอน ช.
6. แสงและความร้อน ญ.
7. เขื่อนกนั้ นำ�ํ้ ข.
8. การท�ำ เหมืองใตด้ นิ ง.
9. หินนํำ้�มัน ฉ.
10. ปฏกิ ริ ิยาฟิวชัน ด.
11. คล่ืนและการขึ้นลงของน้ํำ�ทะเล ซ.
12. แผงโซลาร์เซลล์

50 พลังงาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ ม

ตอนที่ 2

ค�ำ ส่ัง จงน�ำ คำ�ตอบที่เปน็ ตัวอักษรเติมลงในช่องว่างที่ก�ำ หนดไว้ใหถ้ กู ต้อง

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
คำ�ตอบ จ.
1. พลังงานท่ใี ช้แล้วหมดไป ข.
2. ชั้นสตราโทสเฟยี ร.์ . ฌ.
3. ซากพชื และสัตวท์ ี่ทับถม ฎ.
4. ปา่ ผลดั ใบ. ฏ.
5. ปา่ ไมผ่ ลัดใบ ค.
6. น�้ำํ ในทะเลและมหาสมทุ ร........................ ช.
7. แร่โลหะและอโลหะ ก.
8. ออกซิเจนและไนโตรเจน ฐ.
9. สัตวเ์ ลี้ยงลกู ดว้ ยนมและมีกระดูกสันหลงั ฉ.
10. พลงั งานทางเลอื ก ซ.
11. แรน่ ้ำ�ํ มัน ฒ.
12. พชื ประเภทยนื ตน้ และลม้ ลกุ ญ.
ส�ำ หรบั 13. การย่อยสลายของหนิ ง.
ผู้สอน 14. น�ํ้ำ ในแม่นํ�ำ้ ล�ำ คลอง และบงึ

กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมท่ีผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติทุกข้อหรือเลือกปฏิบัติ
เป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดยผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรมตามเกณฑ์ของใบ 51
สรุปผลการทำ�กิจกรรม และสามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรมไปเทยี บกับการใหค้ ะแนนกับ ประเภทของพลังงาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ ม

ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเน้ือหากับจุดประสงค์รายวิชาสมรรถนะรายวิชา
และจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมได้

กจิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้

คำ�ช้ีแจง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายท่ีฝึกทักษะทุกด้านตาม

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรม
ทั้งในและนอกสถานทต่ี ามความเหมาะสมของผ้เู รยี นและส่ิงแวดล้อมของสถานศึกษา
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
คำ�สง่ั ใหผ้ เู้ รยี นคน้ หาแหลง่ ก�ำ เนดิ พลงั งาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม จากแหลง่ ขอ้ มลู ทางอนิ เทอรเ์ นต็

1. ประเภทและแหล่งก�ำ เนดิ พลงั งาน (แนวทางการตอบหรอื อน่ื ๆ

1.1 ประเภทและแหล่งก�ำ เนดิ พลงั งานท่ีใชแ้ ลว้ หมดไป ข้ึนอยกู่ บั ดลุ ยพินิจของผู้สอน)
แก๊สธรรมชาติ (Natural Gas) มกี ี่ชนิด อะไรบา้ ง และมใี นประเทศไทยหรือไม่

แหลง่ ข้อมูลจาก วนั ท่ีค้นข้อมูล

1.2 ประเภทและแหล่งก�ำ เนิดพลงั งานทางเลอื กหรอื พลงั งานหมนุ เวยี น
พลงั งานนํ้า (แนวทางการตอบหรอื อ่ืนๆ ข้นึ อยูก่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของผู้สอน)
แหล่งข้อมูลจาก วันที่ค้นขอ้ มูล

2. ประเภทและแหล่งกำ�เนดิ ทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อม

2.1 พชื พันธแุ์ ละสัตว์ป่า

สตั ว์ป่าสงวนของไทย (แนวทางการตอบหรอื อืน่ ๆ ขึน้ อยกู่ ับดลุ ยพนิ ิจของผูส้ อน)

แหล่งข้อมูลจาก วนั ที่ค้นข้อมูล

2.2 ปา่ ไม้

ป่าเบญจพรรณ (แนวทางการตอบหรืออนื่ ๆ ขึ้นอยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของผูส้ อน)

แหล่งข้อมลู จาก วันท่ีค้นข้อมูล

2.3 ดนิ
ดินปนทราย (แนวทางการตอบหรืออื่นๆ ขน้ึ อยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของผู้สอน)

แหลง่ ข้อมูลจาก วันทค่ี น้ ขอ้ มูล

2.4 น้�ำํ (แนวทางการตอบหรอื อ่ืนๆ ข้นึ อยู่กับดลุ ยพินจิ ของผสู้ อน)
นำํ้�เสยี

แหล่งข้อมูลจาก วนั ท่คี น้ ขอ้ มลู

2.5 อากาศ

ฝนกรด (แนวทางการตอบหรืออ่นื ๆ ขึ้นอย่กู บั ดุลยพนิ จิ ของผู้สอน) สำ�หรับ
ผสู้ อน
แหล่งขอ้ มูลจาก วันที่คน้ ขอ้ มลู

52 พลงั งาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม

2.6 แร่ธาตุและพลังงาน
เพชร
แหล่งขอ้ มลู จาก วันทคี่ น้ ข้อมูล

สรุปผลการท�ำกิจกรรม
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ค�ำชี้แจง ให้ผู้เรียนประเมนิ ผลการท�ำกจิ กรรม โดยเขียนเคร่ืองหมาย ✓ลงในช่อง ตามความเป็นจรงิ

ความรู้ (K) ทกั ษะ (P) คุณลักษณะ (A) เกณฑ์การประเมนิ
การมมี นษุ ยสัมพันธ์ใน ทำ�เครอื่ งหมาย ✓
ความรู้ ความเข้าใจ การปฏบิ ตั งิ านท่ีได้รับ
การนำ�ไปใช้ การวเิ คราะห์ มอบหมายเสร็จตามเวลา การปฏิบตั ิกิจกรรม ในแตล่ ะตอน 3 ข้อ
การสงั เคราะห์ ท่กี ำ�หนด ความมวี นิ ัย ตรงต่อเวลา คอื ผา่ นการประเมิน
การประเมินคา่ การปฏิบัตงิ านดว้ ยความ ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ
ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K)
การศกึ ษาคน้ ควา้ ละเอยี ด รอบคอบ ปลอดภัย ประพฤติตนดว้ ยความ ผ่าน ไม่ผา่ น
การแสวงหาแหลง่ ขอ้ มลู เรยี บร้อย สวยงาม
และการรวบรวมข้อมลู ความสมบูรณข์ องงาน ถกู ตอ้ งตามศลี ธรรม 2. ทักษะ (P)
การแสดงความคิดเห็น การปฏิบัตงิ านท่ที ำ�ให้เกิด อนั ดีงาม
อยา่ งมีเหตุผล หรอื แสดง สมรรถนะแก่ผเู้ รยี น เจตคติท่ีดีในการปฏบิ ตั ิ ผ่าน ไมผ่ า่ น
กจิ กรรม
ขั้นตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคิด ความพอเพียงและความ 3. คุณลักษณะ (A)
ทำ�กจิ กรรม สรา้ งสรรค์ การออกแบบ ผ่าน ไมผ่ า่ น

การหาประสบการณ์ การผลิต พอประมาณ
ความรูใ้ หม่ การตัดสนิ ใจในการแก้ปญั หา

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำ�กิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบรบิ ทต่างๆ หรือไม่ โดยแบง่ เปน็ เปน็ 3 ดา้ น คือ ความร้หู รอื พทุ ธพิ ิสยั = Knowledge (K)
ทกั ษะหรอื ทักษะพิสัย = Practice (P) คุณลักษณะหรือจิตพิสยั = Attitude (A)

สำ�หรับ
ผู้สอน

ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นท�ำ แบบทดสอบจากนนั้ ใหผ้ เู้ รยี น ประเภทของพลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม 53
แลกกันตรวจค�ำ ตอบ โดยผู้สอนเปน็ ผ้เู ฉลย

แบบทดสอบ

คำ�สงั่ จงเลอื กค�ำ ตอบท่ถี กู ต้องทีส่ ดุ เพยี งคำ�ตอบเดยี ว 1. ตอบ 1. ถา่ นหนิ เปน็ ประเภทและพลงั งานก�ำ เนดิ พลงั งานใชแ้ ลว้
หมดไปที่มลี ักษณะเป็นกอ้ นของแข็งสีดำ�
2. ตอบ 5. พลังงานขยะเปน็ ประเภทและพลังงานกำ�เนดิ พลงั งาน
จงนำ�คำ�ตอบตอ่ ไปนไ้ี ปตอบคำ�ถามข้อท่ี 1-4 ทางเลือกท่มี นุษยส์ ามารถสร้างขึ้นเองได้
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
1. ถ่านหนิ 3. ตอบ 2. พลังงานแสงอาทิตย์เป็นประเภทและแหล่งกำ�เนิด
พลงั งานทางเลือกทีต่ อ้ งใช้แผงโซลา่ ร์เซลล์ มาชว่ ยในการผลิต
2. พลงั งานแสงอาทติ ย์ ไฟฟ้า
3. แกส๊ ธรรมชาติ 4. ตอบ 4. พลังงานนํ้า เป็นพลังงานทางเลือกหน่ึงท่ีนำ�มาใช้
4. พลังงานนํ้ำ� ประโยชนใ์ นการผลิตไฟฟา้ จากเขือ่ นตา่ งๆ ในประเทศไทยได้
5. พลังงานขยะ 5. ตอบ 2. แร่ธาตุและพลังงานเป็นแหล่งกำ�เนิดส่ิงแวดล้อมที่

สามารถนำ�เอาความร้อนจากใต้พภิ พมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้

1. ขอ้ ใดเป็นประเภทและแหลง่ กำ�เนดิ พลงั งานใช้แล้วหมดไปท่ีมลี ักษณะเป็นก้อนของแข็งสีดำ� 1.

2. ขอ้ ใดเป็นประเภทและแหลง่ กำ�เนิดพลังงานทางเลือกทมี่ นษุ ยส์ ามารถสร้างมันขนึ้ เองได้ 5.

3. ขอ้ ใดเปน็ ประเภทและแหลง่ ก�ำ เนดิ พลงั งานทางเลอื กทตี่ อ้ งใชแ้ ผงโซลา่ รเ์ ซลล์ มาชว่ ยในการผลติ

ไฟฟ้า 2.

4. การผลติ ไฟฟ้าจากเข่อื นตา่ งๆ ในประเทศไทยเปน็ พลังงานทางเลือกหน่งึ ทีน่ ำ�มาใชป้ ระโยชน์ได้ 4.

6. ตอบ5.อากาศเปน็ แหลง่ ก�ำ เนดิ สงิ่ แวดลอ้ ม
จงนำ�คำ�ตอบต่อไปนไี้ ปตอบคำ�ถามขอ้ ท่ี 5-8 ท่สี ามารถแพร่กระจายมลภาวะไปสู่
ท้องถ่นิ อ่นื ๆ ได้ไกลกว่า
1. ปา่ ไม้ 2. แร่ธาตุและพลังงาน 7. ตอบ 3. ดินเป็นแหลง่ กำ�เนิดสงิ่ แวดลอ้ ม

3. ดิน 4. นํำ�้ ที่เกดิ ปัญหาดา้ นการใชป้ ยุ๋ เคมี
เพ่ือการเกษตรมากทส่ี ุด
5. อากาศ

5. แหลง่ ก�ำ เนิดสิง่ แวดล้อมที่สามารถนำ�เอาความร้อนจากใต้พิภพมาใช้ประโยชน์ได้ 2.
6. แหล่งก�ำ เนิดสงิ่ แวดล้อมที่สามารถแพร่กระจายมลภาวะไปสูท่ ้องถ่นิ อ่ืนๆ ไดไ้ กลกวา่ 5.
7. แหล่งก�ำ เนดิ สิ่งแวดล้อมที่เกิดปัญหาดา้ นการใช้ปุย๋ เคมีเพ่ือการเกษตรมากทส่ี ุด 3.
8. แหลง่ ก�ำ เนดิ ส่งิ แวดล้อมท่ีสามารถทำ�ให้มจี �ำ นวนเพิ่มข้ึนได้ ถา้ มนษุ ย์ไม่ไปบกุ รุกพน้ื ท่ีมัน 1.

9. พลังงานมีความส�ำ คญั เทา่ กับสง่ิ แวดล้อม หมายถงึ ข้อใด 8. ตอบ 1. ปา่ ไม้เป็นแหลง่ กำ�เนิดส่ิงแวดล้อม
1. พลงั งานเปน็ องคป์ ระกอบหน่งึ ของส่งิ แวดล้อม ที่สามารถทำ�ใหม้ ีจ�ำ นวนเพม่ิ ขน้ึ ได้ ถ้ามนษุ ย์
2. พลงั งานสามารถสร้างผลกระทบให้สิง่ แวดลอ้ มได้ ไมไ่ ปบุกรกุ พน้ื ที่

3. ถา้ พลงั งานไดร้ ับผลกระทบจะทำ�ใหส้ ่ิงแวดลอ้ มได้รบั ผลกระทบดว้ ยเชน่ กัน ส�ำ หรับ
ผู้สอน
4. เมื่อพลงั งานใชแ้ ล้วหมดไปสามารถสง่ ผลกบั สง่ิ แวดล้อมได้เชน่ กนั

5. ถกู ทกุ ข้อ 9. ตอบ 5. ทุกข้อกล่าวถึงความสำ�คัญของพลังงานซ่ึงเท่ากับ
สงิ่ แวดล้อม ควรตระหนกั ในการใชแ้ ละอนรุ ักษ์อย่างถกู ตอ้ ง

54 พลงั งาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อม

10. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ งในเร่ืองพลังงานเป็นแหลง่ กำ�เนดิ ของส่งิ แวดล้อม

1. แสงอาทิตย์เปน็ แหล่งก�ำ เนิดของสิ่งแวดล้อม

2. น้ํำ�เปน็ แหลง่ กำ�เนดิ ของสง่ิ แวดลอ้ ม 10. ตอบ 5. ทุกขอ้ ลว้ นเปน็ พลังงานทีเ่ ป็นแหลง่ กำ�เนดิ
34.. ลแรมธ่ เปาต็นุเแปหน็ ลแ่งหกล�ำ ่งเนกดิำ�เขนอดิ งขสอิ่งงแสวิ่งดแลว้อดมล้อม ของส่ิงแวดล้อม ไดแ้ ก่ แสงอาทติ ย์ นํ้า ลม และแร่ธาตุ
ยกเวน้ ดนิ ไมไ่ ดเ้ ปน็ พลงั งานทเ่ี ปน็ แหลง่ ก�ำ เนดิ ของสงิ่ แวดลอ้ ม

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
5. ดนิ เป็นแหล่งก�ำ เนิดของสงิ่ แวดล้อม

แบบประเมินตนเอง
ค�ำช้ีแจง ตอนที่ 1 ให้ผูเ้ รยี นประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยเขยี นเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั คะแนน
และเตมิ ขอ้ มลู ตามความเปน็ จรงิ
ระดบั คะแนนตอนที่ 1 5 : มากทส่ี ดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรบั ปรุง
ตอนท่ี 2 ให้ผู้เรียนน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓
ลงในช่องสรปุ ผล

ตอนที่ 1 (ผลการเรียนร)ู้ ตอนท่ี 2 (แบบทดสอบ)

รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ

1. ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเข้าใจในเน้อื หา คะแนน

2. ผู้เรียนได้ท�ำกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรูท้ ีส่ อดคล้องกับเนอ้ื หา (ข้อละ 1 คะแนน)
และจดุ ประสงค์การเรียนรู้
สรปุ ผล
3. ผูเ้ รียนไดเ้ รียนและท�ำกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรทู้ ่ีส่งเสริม 9-10 (ดมี าก)
กระบวนการคดิ เกิดการคน้ พบความรู้ 7-8 (ดี)
5-6 (พอใช้)
4. ผูเ้ รียนสามารถประยุกตค์ วามรู้เพือี่ ใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจ�ำวนั ได้ ต่าํ กว่า 5

5. ผู้เรยี นไดเ้ รียนร้อู ะไรจากการเรียน (ควรปรบั ปรุง)

6. ผู้เรียนต้องการท�ำสง่ิ ใดเพือ่ พัฒนาตนเอง

7. ความสามารถที่ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมนิ ของผ้เู รยี น คือ

ส�ำ หรับ
ผู้สอน

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
3หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ความสมั ปพรันะธเภ์ขอทงขพอลงังพงาลนังงทารนพั ยากร
แลทะสรงิ่พั แยวาดกลอ้รมแกลบั ะกสาง่ิ รแดวำ�ดรลงชอ้ ีวมิต

พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมมีความสำ�คัญและเกี่ยวข้อง

สาระสำ�คญั กบั มนษุ ย์ นอกจากมนษุ ยใ์ ชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มเพอ่ื การด�ำ รง
ชวี ิตแลว้ ยงั ชว่ ยกอ่ ให้เกิดความสะดวกสบายในดา้ นตา่ งๆ ในชีวิตประจ�ำ วนั

และการบริโภค ทั้งในดา้ นการคมนาคม ดา้ นอุตสาหกรรม ดา้ นเกษตรกรรม

ลว้ นต้องพึ่งพาพลังงานทงั้ สิน้

ดงั นน้ั การพฒั นาดา้ นตา่ งๆ ของสงั คม จงึ ตอ้ งค�ำ นงึ ถงึ และใหค้ วามส�ำ คญั ตอ่

การพฒั นาทย่ี งั่ ยนื มากขน้ึ เพอื่ ช้ ว่ ยลดและปอ้ งกนั ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มทอี่ าจเกดิ เพมิ่ มากขน้ึ ไดใ้ นอนาคต

1. พลังงานกับการดำ�รงชีวิต

สาระการเรยี นรู้ 2. ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมกับการดำ�รงชีวติ

3. การพฒั นาท่ีย่งั ยืนสำ�หรบั การด�ำ รงชีวติ

56 พลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม

สมรรถนะ 1. แสดงความรู้เก่ียวกับความสัมพันธ์ของพลังงาน ทรัพยากรและ
ประจำ�หน่วย สง่ิ แวดล้อมกบั การดำ�รงชีวติ
2. ประยุกต์ใชค้ วามรู้พนื้ ฐานเกย่ี วกบั พลังงาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ ม
ในชวี ิตประจำ�วันและงานอาชีพ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
จุดประสงค์ 1. อธบิ ายความสัมพนั ธข์ องพลังงานกับการดำ�รงชีวติ ได้
การเรียนรู้ 2. อธิบายทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อมกบั การดำ�รงชวี ติ ได้
3. บอกถงึ การพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื สำ�หรับการด�ำ รงชวี ติ ได้

ผังสาระ พลังงานกับการด�ำ รงชวี ติ
การเรยี นรู้ ทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อมกับการด�ำ รงชวี ิต
การพฒั นาทีย่ ั่งยืนส�ำ หรบั การด�ำ รงชีวิต
ความสมั พันธ์ของพลงั งาน
ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อม

กับการด�ำ รงชวี ติ

ส�ำ หรับ
ผสู้ อน

แนวทางการตอบอย่ใู นภาคผนวก ความสมั พนั ธ์ของพลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อมกับการด�ำ รงชีวิต 69
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3
กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ

คำ�ชแี้ จง กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเป็นกิจกรรมฝกึ ทักษะเฉพาะดา้ นความรู-้ ความจ�ำ

เพ่ือใชใ้ นการตรวจสอบความเข้าใจตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ตอนท่ี 1
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ค�ำ สั่ง จงจบั คู่ค�ำ ถามและค�ำ ตอบทม่ี คี วามถกู ต้องมากท่ีสดุ
คำ�ถาม

__ค_. _ 1. ปจั จยั 4 สำ�หรับการด�ำ รงชีวติ ของมนษุ ยใ์ นสงั คม

__ง_. _ 2. พลงั งานมปี ระโยชน์และเปน็ สิง่ จำ�เปน็ ตอ่ การด�ำ รงชีวติ ของมนษุ ยม์ าแลว้ 4 ยคุ

__ข_. _ 3. การดำ�รงชวี ติ อยา่ งมีคุณภาพของมนษุ ยใ์ นสังคม
__ก_. _ 4. การเพิ่มคุณภาพชีวติ ท่ดี ขี องมนุษยใ์ นสังคมมี 4 ลกั ษณะ

__ช_. _ 5. เป็นการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ดา้ นสังคมจึงสามารถกระทำ�ได้

ค�ำ ตอบ
ก. พัฒนาคุณภาพดา้ นร่างกาย จติ ใจ สตปิ ญั ญา และสังคม
ข. พัฒนาตนเองและปรับปรุงคณุ ภาพการดำ�เนินชวี ติ ให้สอดคลอ้ งและรองรับการเปลี่ยนแปลงได้
ค. ทอ่ี ยูอ่ าศยั อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค
ง. หินเก่า หนิ ใหม่ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม
จ. การคน้ หาขอ้ มลู ทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ การดำ�รงชพี และทกั ษะการทำ�งาน
ฉ. การออกกำ�ลังกาย การพกั ผ่อนหย่อนใจ และรับประทานอาหารท่ถี กู ต้อง
ช. เขา้ รว่ มท�ำ กจิ กรรมกับวัด สมาคม และชุมชน

สำ�หรับ
ผู้สอน

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด70 พลังงาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม

ตอนท่ี 2

คำ�สง่ั ค�ำ กลา่ วในประโยคใดตอ่ ไปน้ถี กู (✓) หรือผดิ (✗)
____ 1. สง่ิ แวดลอ้ มมอี ทิ ธิพลต่อมนุษย์ คอื จำ�นวน ความหนาแน่น และการกระจายตัวของประชากร
____ 2. ประชากรท่วั โลกมปี ระมาณ 7.3 พันล้านคน ประเทศจนี มีประชากรมากทส่ี ดุ
____ 3. ประเทศทม่ี คี วามหนาแนน่ ของประชากรมากทสี่ ดุ ใน 5 อนั ดบั ของโลก คอื ฮอ่ งกงและสงิ คโปร์
____ 4. สงั คมผูส้ งู อายุจะมจี ำ�นวนน้อยกวา่ สงั คมวยั เด็กท้งั ในต่างประเทศและในประเทศไทย
____ 5. การประกอบอาชพี ของมนุษย์มี 2 ขนั้ คือข้นั ปฐมภูมิและขน้ั ทตุ ิยภูมิ

ตอนที่ 3

คำ�ส่ัง จงค้นหาคำ�ตอบส�ำ หรับค�ำ ถามต่อไปนีจ้ ากแหลง่ ข้อมลู ตา่ งๆ
1. การพัฒนาเศรษฐกิจทีท่ ำ�ใหเ้ กดิ การพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื มีอะไรบ้าง บอกมาสกั 3 ขอ้
แหลง่ ขอ้ มลู จาก วนั ทีค่ น้ ข้อมลู
2. การพัฒนาสังคมท่ที ำ�ให้เกิดการพฒั นาท่ียัง่ ยนื มีอะไรบ้าง บอกมาสกั 3 ข้อ
แหล่งขอ้ มลู จาก วันท่ีค้นข้อมูล
3. การพัฒนาสง่ิ แวดลอ้ มทท่ี ำ�ให้เกิดการพัฒนาที่ยัง่ ยนื มอี ะไรบ้าง บอกมาสกั 3 ขอ้
แหล่งข้อมูลจาก วันที่ค้นข้อมลู

1. แนวทางการตอบ
1) สรา้ งช่องทางการเพิม่ รายได้ให้คนในสงั คม
2) สนับสนุนชอ่ งทางการหารายไดข้ องคนในสงั คม
3) กระตุ้นการบรโิ ภคและการลงทุนภายในประเทศ ขึ้นอยู่กบั ดุลยพินจิ ของผ้สู อน
2. แนวทางการตอบ
1) การพฒั นาด้านการศึกษาให้คนในสงั คมมคี ุณภาพ
2) การพัฒนาการคุม้ ครองทางสังคม
3) การสง่ เสริมและพัฒนาทุนทางสังคมต่างๆ ข้ึนอยู่กับดลุ ยพนิ ิจของผู้สอน
3. แนวทางการตอบ
1) การรจู้ กั รักษาคุณภาพสง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ อนุรกั ษร์ ะบบนิเวศ
2) การรูจ้ ักใช้ทรพั ยากรอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
3) ปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรมการบรโิ ภคเพอ่ื ลดปริมาณขยะและของเสีย ขึ้นอย่กู บั ดลุ ยพนิ จิ ของผ้สู อน

สำ�หรบั
ผสู้ อน

ความสัมพันธข์ องพลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ มกบั การด�ำ รงชีวติ 71

กิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้

คำ�ชี้แจง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายท่ีฝึกทักษะทุกด้านตาม

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพ่ือให้เกิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรม
ท้ังในและนอกสถานท่ีตามความเหมาะสมของผเู้ รียนและสิ่งแวดลอ้ มของสถานศึกษา
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
สรุปผลความสัมพนั ธ์ของพลังงาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อมกบั การด�ำ รงชีวติ

ผลกระทบจากพลังงานและสง่ิ แวดลอ้ ม ความสัมพนั ธ์ของพลงั งานกบั การด�ำ รงชวี ติ

1_______________________ 1_______________________

2_______________________ พลังงาน 2_______________________
3_______________________ 3_______________________

สง่ิ แวดล้อม การดำ�รงชวี ติ

ความสัมพนั ธ์ของทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม
กบั การดำ�รงชีวิต

1_______________________ (แนวทางการตอบหรืออื่นๆ ขึ้นอยู่กับ
2_______________________ ดลุ ยพินิจของผู้สอน)
3_______________________

สรุปขอ้ คดิ เห็นเพิม่ เตมิ _________________________________________________________ สำ�หรับ
____________________________________________________________________________ ผู้สอน
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________

กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่ผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติทุกข้อหรือเลือกปฏิบัติ
เป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดยผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรมตามเกณฑ์ของใบ
สรุปผลการทำ�กจิ กรรม และสามารถนำ�ผลการทำ�กจิ กรรมไปเทียบกบั การใหค้ ะแนนกบั
ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเน้ือหากับจุดประสงค์รายวิชาสมรรถนะรายวิชา
และจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมได้

72 พลงั งาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม

สรุปผลการท�ำกจิ กรรม

ค�ำช้แี จง ให้ผูเ้ รยี นประเมนิ ผลการท�ำกจิ กรรม โดยเขยี นเครือ่ งหมาย ✓ลงในชอ่ ง ตามความเป็นจรงิ

ความรู้ (K) ทักษะ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) เกณฑก์ ารประเมนิ

ความรู ้ ความเขา้ ใจ การปฏิบตั ิงานทีไ่ ด้รบั การมีมนุษยสมั พนั ธ์ใน ท�ำ เครื่องหมาย ✓
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด การนำ�ไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสร็จตามเวลา การปฏบิ ตั ิกิจกรรม ในแต่ละตอน 3 ข้อ
การสังเคราะห์ ที่กำ�หนด ความมีวนิ ัย ตรงตอ่ เวลา คอื ผา่ นการประเมนิ
การประเมินคา่ การปฏิบัตงิ านด้วยความ ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ
ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K)
การศึกษาคน้ คว้า เรียบร้อย สวยงาม ประพฤตติ นดว้ ยความ ผา่ น ไมผ่ ่าน
การแสวงหาแหล่งข้อมูล
และการรวบรวมข้อมูล ความสมบูรณข์ องงาน ถูกต้องตามศลี ธรรม 2. ทักษะ (P)
การแสดงความคิดเห็น การปฏบิ ตั ิงานทท่ี ำ�ให้เกดิ อันดีงาม
อยา่ งมีเหตผุ ล หรือแสดง สมรรถนะแกผ่ เู้ รยี น เจตคติทีด่ ีในการปฏิบตั ิ ผา่ น ไมผ่ ่าน
กจิ กรรม
ขนั้ ตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคดิ 3. คณุ ลกั ษณะ (A)
ทำ�กจิ กรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ความพอเพยี งและความ ผ่าน ไม่ผา่ น

การหาประสบการณ์ การผลติ พอประมาณ
ความรู้ใหม่ การตดั สนิ ใจในการแก้ปัญหา

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำ�กิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทตา่ งๆ หรอื ไม่ โดยแบง่ เปน็ เปน็ 3 ดา้ น คือ ความร้หู รอื พุทธิพิสัย = Knowledge (K)
ทกั ษะหรือทักษะพิสัย = Practice (P) คุณลักษณะหรือจติ พสิ ยั = Attitude (A)

ส�ำ หรับ
ผ้สู อน

ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นท�ำ แบบทดสอบ จากนนั้ ความสมั พนั ธ์ของพลังงาน ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมกบั การด�ำ รงชีวติ 73
ให้ผูเ้ รียนแลกกนั ตรวจค�ำ ตอบ
โดยผ้สู อนเป็นผ้เู ฉลย

แบบทดสอบ

ค�ำ ส่ัง จงเลอื กคำ�ตอบท่ีถูกต้องทสี่ ุดเพียงคำ�ตอบเดียว
1. ปจั จัยสีส่ �ำ หรบั การด�ำ รงชพี ของมนษุ ย์ในสงั คม มีอะไรบ้าง
1. ทอ่ี ย่อู าศัย อาหาร เคร่ืองน่งุ หม่ และยารักษาโรค 1. ตอบ 1. ปัจจยั ส่ใี นการด�ำ รงชีวิตของมนษุ ย์ในสังคม คือท่ี
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด 2. บ้าน อาหาร รถยนต์ และยารักษาโรคอย่อู าศยั อาหาร เครื่องนุง่ หุม่ และยารักษาโรค
3. บ้าน อาหาร รถยนต์ และเครอื่ งนุง่ ห่ม
4. ที่อยอู่ าศัย อาหาร เคร่ืองนงุ่ ห่ม และรถยนต์
5. ถกู ทกุ ข้อ
2. พลังงานมปี ระโยชน์และเป็นสงิ่ จำ�เปน็ ตอ่ การดำ�รงชวี ติ ของมนุษย์มาแลว้ 4 ยุค ได้แก่ยุคใดบา้ ง
1. ยคุ การคา้ การผลิต และอุตสาหกรรม
2. ยคุ หนิ เกา่ หินใหม่ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม 2. ตอบ 2. พลังงานมีประโยชน์และเป็นสิ่งจำ�เป็น
3. ยคุ การเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ตอ่ การด�ำ รงชวี ติ ของมนุษย์มา 4 ยคุ ได้แก่ ยุคหนิ เก่า
4. ยุคโบราณ ก�ำ ลังพฒั นา และพฒั นาแลว้ หินใหม่ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม

5. ยุคดอ้ ยพัฒนา กำ�ลังพฒั นา และพัฒนาแล้ว
3. การใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อมในการดำ�รงชีวิตของมนุษย์นับวันยิ่งจะมีเพิ่มมากขึ้นตามลำ�ดับ ท่าน
คิดวา่ อย่างไร
1. ไม่ใช่ เพราะประชากรจะมีความยากจนเพม่ิ ขึน้
2. ใช่ ถงึ แมว้ า่ ประชากรจะมคี วามยากจนเพม่ิ ข้ึน 3. ตอบ2.การใชพ้ ลงั งานและสง่ิ แวดลอ้ มในการด�ำ รงชวี ติ
3. ไม่ใช่ เพราะประชากรจะมีผู้สงู อายเุ พ่มิ มากข้ึน ของมนุษย์นบั วันยิ่งจะมีเพ่มิ มากขึ้นตามล�ำ ดับ ซ่งึ ใช่
4. ใช่ เพราะผู้สงู อายุจะใชพ้ ลงั งานมากกว่าวัยผใู้ หญ่ ถงึ แม้ว่าประชากรจะมีความยากจนเพ่ิมข้นึ

5. ถกู ทกุ ขอ้
4. ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมมีอิทธิพลตอ่ มนษุ ยใ์ นดา้ นใด
1. จำ�นวนประชากรทเ่ี พ่ิมข้ึน
2. ความหนาแนน่ ของประชากรในเขตเมอื ง 4. ตอบ 4. ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมมีอิทธิพลต่อมนุษย์ใน
หลายดา้ น คอื จ�ำ นวนประชากรทเ่ี พมิ่ ขน้ึ ความหนาแนน่ ของ
3. การกระจายตวั ของประชากรไปตามภูมภิ าคตา่ งๆ ประชากรในเขตเมือง การกระจายตัวของประชากรตาม
4. ถูกทกุ ขอ้ ภมู ิภาคต่างๆ

5. ไมม่ ีขอ้ ใดถูก
5. แนวโน้มโลกและประเทศไทยจะเป็นสงั คมผูส้ ูงอายุใช่หรอื ไม่
1. ไม่ใช่ เพราะจะมีวัยเด็กมากกว่าวยั ผสู้ งู อายุ
2. ไมใ่ ช่ เพราะจะมีวัยผ้ใู หญม่ ากกว่าวยั ผูส้ งู อายุ 5. ตอบ 5. แนวโนม้ โลกและประเทศไทยจะเปน็ สงั คมผสู้ งู อายุ
3. ใช่ เพราะจะมวี ยั เดก็ มากกว่าวัยผู้สูงอายุ เพราะจะมวี ัยผ้สู งู อายุมากกว่าวัยเดก็

4. ใช่ เพราะจะมวี ยั ผ้ใู หญ่มากกว่าวยั ผู้สูงอายุ สำ�หรบั
5. ใช่ เพราะจะมีวัยผสู้ ูงอายมุ ากกว่าวัยเดก็ ผู้สอน

74 พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม

6. การพัฒนาดา้ นต่างๆ ของมนษุ ยท์ ีผ่ า่ นมาเป็นอยา่ งไร 6. ตอบ 1. การพัฒนาดา้ นต่างๆ ของมนุษย์ที่ผา่ นมา
เปน็ การพฒั นาท่ีไม่ยัง่ ยืน
1. เป็นการพฒั นาทไ่ี ม่ยงั่ ยนื
2. เปน็ การพัฒนาทย่ี ง่ั ยืน

3. เป็นการพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ 7. ตอบ 2. ย่งิ มีการพฒั นาเท่าใดย่งิ ทำ�ให้ปัญหามากระทบต่อ
4. เป็นการพฒั นาดา้ นสังคม มนษุ ยม์ ากเทา่ นนั้ เปน็ ค�ำ กลา่ วทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การพฒั นาใน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
5. เป็นการพฒั นาดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ปัจจบุ ันทสี่ ดุ

7. ค�ำ กลา่ วข้อใดเกี่ยวขอ้ งกบั การพฒั นาในปัจจบุ ันถูกตอ้ งทส่ี ุด

1. ยง่ิ มกี ารพฒั นามากเทา่ ใดย่งิ ทำ�ให้ปญั หาตา่ งๆ หมดไปมากเท่านั้น

2. ยิ่งมกี ารพัฒนามากเทา่ ใดยง่ิ ทำ�ใหป้ ัญหามากระทบตอ่ นษุ ยม์ ากเทา่ น้นั

3. ยง่ิ มกี ารพฒั นานอ้ ยเท่าใดยง่ิ ทำ�ให้ปัญหามากระทบตอ่ มนุษย์มากเท่านนั้

4. ยง่ิ ไม่มกี ารพฒั นาเท่าใดยิง่ ทำ�ให้ปัญหามากระทบต่อมนุษยม์ ากเทา่ นัน้

5. ถกู ทุกขอ้

8. กลไกในการพฒั นาและการจดั การสิ่งแวดลอ้ มใหย้ ั่งยืนมีปัจจัยภายนอกดา้ นใดบ้าง

1. ดา้ นเศรษฐกิจ 8. ตอบ 5. กลไกในการพฒั นาและการจัดการสิ่งแวดล้อม
ใหย้ งั่ ยืนมีปจั จยั ภายนอกหลายด้าน คือ
2. ดา้ นสงั คม ด้านเศรษฐกิจ ดา้ นสงั คม ด้านเทคโนโลยี
3. ด้านเทคโนโลยี ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม
4. ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม

5. ถกู ทกุ ข้อ 9. ตอบ 4. การพัฒนาอย่างย่ังยืนมีเป้าหมายเพื่อสนองตอบ
9. การพฒั นาอย่างย่งั ยืนมีเปา้ หมายในเรอื่ งใดบา้ ง ความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน และต้องไม่ไปลดความ

1. การพฒั นาทส่ี นองความต้องการของคนรนุ่ ปจั จบุ นั สามารถและความตอ้ งการของคนรนุ่ อนาคตด้วย

2. การพฒั นาไมไ่ ปลดความสามารถและความตอ้ งการของคนรุน่ อนาคต

3. การพฒั นาทเี่ น้นตอบสนองความตอ้ งการของคนรนุ่ อนาคตมากกวา่ คนรนุ่ ปจั จบุ ัน

4. ถกู ทง้ั ขอ้ 1. และขอ้ 2.

5. ถูกทั้งข้อ 2. และขอ้ 3.

10. การพฒั นาอยา่ งย่ังยืนต้องเน้นการพัฒนาดา้ นใดเป็นสำ�คัญ

1. ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นสังคม และดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม 10. ตอบ 1. การพฒั นาอยา่ งยัง่ ยนื ต้องเน้นการพฒั นา
2. ดา้ นประชากรศาสตร์ ด้านเศรษฐกจิ และด้านสังคม ด้านเศรษฐกจิ ด้านสงั คม และด้านสิ่งแวดล้อม
3. ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นการเมอื ง และดา้ นกฎหมาย เปน็ สำ�คัญ

4. ดา้ นการเมือง ดา้ นกฎหมาย และดา้ นสังคมและวัฒนธรรม

5. ดา้ นสงั คม ดา้ นสิ่งแวดล้อม และดา้ นเทคโนโลยี

ส�ำ หรับ
ผู้สอน

ความสมั พันธข์ องพลงั งาน ทรัพยากรและส่งิ แวดลอ้ มกบั การด�ำ รงชวี ติ 75

แบบประเมินตนเอง

ค�ำชี้แจง ตอนที่ 1 ใหผ้ ู้เรียนประเมนิ ผลการเรียนรู้ โดยเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั คะแนน
และเตมิ ข้อมูลตามความเปน็ จรงิ
ระดับคะแนนตอนท่ี 1 5 : มากทีส่ ุด 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรบั ปรุง
ตอนท่ี 2 ให้ผเู้ รียนน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเติมลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเคร่ืองหมาย ✓
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด ลงในชอ่ งสรปุ ผล

ตอนที่ 1 (ผลการเรียนรู้) ตอนที่ 2 (แบบทดสอบ)

รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ

1. ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในเนือ้ หา คะแนน

2. ผ้เู รยี นได้ท�ำกจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ท่ีสอดคลอ้ งกบั เน้ือหา (ข้อละ 1 คะแนน)
และจุดประสงค์การเรยี นรู้
สรุปผล
3. ผเู้ รยี นได้เรยี นและท�ำกจิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้ทสี่ ง่ เสริม 9-10 (ดมี าก)
กระบวนการคิด เกดิ การค้นพบความรู้ 7-8 (ดี)
5-6 (พอใช้)
4. ผเู้ รียนสามารถประยกุ ต์ความรู้เพอ่ืี ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ�ำวันได้ ตํ่ากวา่ 5

5. ผูเ้ รียนไดเ้ รียนรอู้ ะไรจากการเรียน (ควรปรบั ปรุง)

6. ผเู้ รียนต้องการท�ำสงิ่ ใดเพอ่ื พัฒนาตนเอง

7. ความสามารถท่ถี ือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมินของผเู้ รยี น คือ

ส�ำ หรับ
ผูส้ อน

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
4หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ การใช้ประโยชน์จากพลังงาน
พลงั งานทดแทน และทรพั ยากร

พลังงานและพลังงานทดแทนเป็นพลังงานท่ีมีความสำ�คัญและมี

สาระสำ�คญั ประโยชน์ต่อการน�ำ มาใชใ้ นปจั จบุ ัน เนอื่ งจากการพฒั นาสังคมสว่ นต่างๆ ได้

สง่ ผลกระทบตอ่ การด�ำ เนนิ ชวี ติ ของมนษุ ย์ เนอ่ื งจากมกี ารใชพ้ ลงั งานมากขน้ึ
และจำ�นวนพลงั งานท่ลี ดลงหรอื หมดไป นอกจากนยี้ งั มผี ลกระทบท่ีมีต่อสง่ิ

แวดล้อมต่างๆ จากการใช้ประโยชน์จากพลังงานท่ัวไป ได้แก่ ถ่านหิน น้ํามันเชื้อเพลิง และนิวเคลียร์
และการใชป้ ระโยชนจ์ ากพลังงานทางเลือก ไดแ้ ก่ แสงอาทิตย์ นา้ํ ลม ชวี มวล ขยะ คล่นื และความร้อน
ใตพ้ ภิ พ
การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาตมิ ลี กั ษณะเชน่ เดยี วกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากพลงั งาน
และพลงั งานทดแทนตา่ งๆ เพอ่ื ไมใ่ หเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ จ�ำ นวนหรอื ปรมิ าณการใช้ และจ�ำ นวนทจี่ ะลดลง
ยังต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติประกอบด้วยพืชพันธุ์
สัตวป์ า่ และปา่ ไม้ ดนิ นํา้ อากาศ พลงั งาน และแร่ธาตุ ซง่ึ อยใู่ นรปู แบบทางดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม และ
สง่ิ แวดลอ้ มเป็นสง่ิ สำ�คัญ

สาระการเรยี นรู้ 1. การใชป้ ระโยชนจ์ ากพลงั งานและพลังงานทดแทน
2. การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ

การใช้ประโยชน์จากพลังงาน พลงั งานทดแทน และทรพั ยากร 77

สมรรถนะ 1. แสดงความรู้เก่ียวกับการใช้ประโยชน์จากพลังงาน พลังงานทดแทน
ประจำ�หนว่ ย และทรพั ยากร
2. ประยุกต์ใช้ความรู้พื้นฐานเก่ียวกับพลังงาน พลังงานทดแทน และ
ทรัพยากรในชวี ิตประจำ�วันและงานอาชพี
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
จุดประสงค์ 1. อธบิ ายเกย่ี วกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากพลงั งานและพลังงานทดแทนได้
การเรยี นรู้ 2. อธิบายเกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาตไิ ด้

ผงั สาระ
การเรียนรู้

การใช้ประโยชนจ์ าก การใช้ประโยชน์จากพลังงานและพลงั งานทดแทน
พลังงาน พลงั งานทดแทน การใชป้ ระโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาติ

และทรพั ยากร

สำ�หรับ
ผ้สู อน

94 พลังงาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม แนวทางการตอบอยู่ในภาคผนวก
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4

กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ

คำ�ชี้แจง กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเปน็ กจิ กรรมฝกึ ทักษะเฉพาะด้านความรู-้ ความจำ�

เพื่อใชใ้ นการตรวจสอบความเขา้ ใจตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ตอนที่ 1

ค�ำ สั่ง ค�ำ กล่าวในประโยคใดต่อไปนถ้ี ูก (✓) หรอื ผิด (✗)
____ 1. พลงั งานทว่ั ไป ไดแ้ ก่ พลงั งานถา่ นหิน และพลังงานเช้อื เพลิงตา่ งๆ
____ 2. พลังงานทางเลอื ก ได้แก่ พลังงานนิวเคลยี ร์ และพลังงานแสงอาทติ ย์
____ 3. ประโยชนท์ ี่ได้รับจากพลังงานนํ้า คอื การผลติ กระแสไฟฟา้ และการคมนาคม
____ 4. ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากพลังงานลม คือการผลิตกระแสไฟฟ้า และกงั หนั วดิ นา้ํ เขา้ แปลงนา
____ 5. ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากพลังงานขยะ คือการลดจำ�นวนขยะ และพลังงานไฟฟา้

ตอนที่ 2
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
คำ�สัง่ จงจบั คู่ค�ำ ถามและค�ำ ตอบทีม่ คี วามถกู ตอ้ งมากทีส่ ุด
คำ�ถาม
1. ความหมายของทรัพยากรโดยทั่วไป
__ก_. _ 1. การใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาติ
__ฉ_. _ 2. การใช้ประโยชน์จากสัตวป่า
__ค_. _ 3. การใช้ประโยชนจ์ ากพืชและผัก
__ข_. _ 4. การใช้ประโยชนจ์ ากน้ํา
__ฉ_._ 5. การใชป้ ระโยชนจ์ ากแร่ธาตุ
คำ�ตอบ
ก. พืชพันธุ์และสตั ว์ปา่ ป่าไม้ และส่งิ มีชวี ิตตา่ งๆ
ข. การตดิ ต่อสือ่ สารและการขนสง่
ค. การอยอู่ าศัย อาหาร เคร่ืองนุง่ หม่ และยารกั ษาโรค
ง. สิ่งท่ีเป็นแหลง่ หรอื ปัจจยั ท่ีนำ�มาใช้สรา้ งประโยชน์ต่างๆ สำ�หรบั มนษุ ย์
จ. ทรัพยากรหมุนเวยี นและทรพั ยากรทใ่ี ช้แลว้ หมดไป
ฉ. สงิ่ ท่ีมนุษย์สร้างขน้ึ และส่งิ ทม่ี อี ยู่ในธรรมชาติ
ช. ปัจจยั น�ำ เขา้ ในกระบวนการผลิตและบรกิ ารตา่ งๆ

สำ�หรับ
ผสู้ อน

กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรเู้ ปน็ กจิ กรรมทผี่ สู้ อนใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ทิ กุ ขอ้ หรอื เลอื ก
ปฏิบัติเป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดยผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรมตาม
เกณฑ์ของใบสรุปผลการทำ�กิจกรรม และสามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรมไปเทียบ การใช้ประโยชนจ์ ากพลงั งาน พลงั งานทดแทน และทรพั ยากร 95
กับการให้คะแนนกับตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหากับจุดประสงค์
รายวิชาสมรรถนะรายวชิ าและจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมได้

กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้

คำ�ช้แี จง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายท่ีฝึกทักษะทุกด้านตาม

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพ่ือให้เกิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรม
ทงั้ ในและนอกสถานทตี่ ามความเหมาะสมของผเู้ รยี นและสง่ิ แวดลอ้ มของสถานศึกษา
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
คำ�สงั่ ให้ผู้เรียนแสดงแนวคดิ เก่ยี วกบั พลงั งาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ มลงในชอ่ งว่าง

สรุปผลการใช้ประโยชน์จากพลงั งาน พลงั งานทดแทน และทรพั ยากร

พลงั งาน พลังงาน ทรัพยากร
ทดแทน

การใช้ประโยชนจ์ ากพลงั งาน การใชป้ ระโยชนจ์ ากพลังงาน การใชป้ ระโยชน์จากทรพั ยากร
ทดแทน

1 11
2 22
3 33
สรุปข้อคิดเหน็ เพิ่มเติม

ส�ำ หรับ
ผู้สอน

96 พลังงาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม

สรปุ ผลการทำ� กจิ กรรม

ค�ำช้แี จง ให้ผ้เู รียนประเมนิ ผลการท�ำกิจกรรม โดยเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ลงในชอ่ ง ตามความเปน็ จริง

ความรู้ (K) ทักษะ (P) คณุ ลักษณะ (A) เกณฑ์การประเมิน

ความรู้ ความเขา้ ใจ การปฏบิ ตั ิงานทไี่ ดร้ ับ การมีมนุษยสัมพันธ์ใน ทำ�เครอ่ื งหมาย ✓
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด การนำ�ไปใช้ การวเิ คราะห์ มอบหมายเสร็จตามเวลา การปฏบิ ัติกิจกรรม ในแต่ละตอน 3 ขอ้
การสงั เคราะห์ ที่กำ�หนด ความมวี นิ ัย ตรงตอ่ เวลา คือ ผา่ นการประเมิน
การประเมนิ คา่ การปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความ ความซื่อสตั ยส์ จุ ริต
ละเอียด รอบคอบ ปลอดภัย ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K)
การศกึ ษาค้นควา้ เรียบรอ้ ย สวยงาม ประพฤตติ นดว้ ยความ ผา่ น ไม่ผ่าน
การแสวงหาแหลง่ ขอ้ มลู
และการรวบรวมขอ้ มลู ความสมบรู ณ์ของงาน ถูกต้องตามศลี ธรรม 2. ทักษะ (P)
การแสดงความคดิ เห็น การปฏิบัตงิ านท่ที ำ�ให้เกดิ อนั ดีงาม
อย่างมีเหตุผล หรือแสดง สมรรถนะแก่ผู้เรียน เจตคติท่ีดใี นการปฏบิ ัติ ผา่ น ไม่ผา่ น
กิจกรรม
ขัน้ ตอนและกระบวนการ ทกั ษะการวางแผน การคิด 3. คณุ ลกั ษณะ (A)
ทำ�กิจกรรม สรา้ งสรรค์ การออกแบบ ความพอเพยี งและความ ผ่าน ไมผ่ ่าน

การหาประสบการณ์ การผลิต พอประมาณ
ความรู้ใหม ่ การตดั สนิ ใจในการแก้ปญั หา

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำ�กิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบ่งเปน็ เปน็ 3 ดา้ น คือ ความรู้หรือพุทธิพสิ ยั = Knowledge (K)
ทักษะหรือทักษะพิสัย = Practice (P) คณุ ลักษณะหรอื จติ พสิ ยั = Attitude (A)

ส�ำ หรบั
ผู้สอน

ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นท�ำ แบบทดสอบ จากนนั้ การใช้ประโยชน์จากพลังงาน พลงั งานทดแทน และทรพั ยากร 97
ให้ผเู้ รียนแลกกนั ตรวจค�ำ ตอบ
โดยผ้สู อนเปน็ ผู้เฉลย แบบทดสอบ

ค�ำ สง่ั จงเลือกค�ำ ตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสดุ เพยี งคำ�ตอบเดียว
1. การใช้ประโยชน์พลงั งานโดยท่ัวไปมาจากขอ้ ใด

1. พลังงานถา่ นหินและพลงั งานเช้อื เพลงิ
2. พลงั งานจลนแ์ ละพลงั งานศักย์
3. พลงั งานความร้อนและพลังงานกล
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด1. ตอบ 1. พลงั งานถา่ นหนิ และพลงั งานเชอ้ื เพลงิ คอื พลงั งาน
โดยทั่วไป

4. พลงั งานความรอ้ นและพลงั งานเคมี

5. พลงั งานเสยี งและพลังงงานแสง

2. การใช้ประโยชน์จากพลังงานนา้ํ มนั เชือ้ เพลงิ คือข้อใด

1. ยานพาหนะ

2. ผลิตกระแสไฟฟา้ 2. ตอบ 5. ทกุ ขอ้ การใชป้ ระโยชนจ์ ากพลงั งานน�้ำ มนั เชอื้ เพลงิ

3. เครอ่ื งสบู น้าํ

4. เครอื่ งจักร

5. ถกู ทกุ ข้อ

3. ข้อใดไมใ่ ช่พลังงานทางเลือก

1. พลังงานแสงอาทติ ย์

2. พลังงานลม 3. ตอบ 3. พลังงานไฟฟ้าไม่ใช่พลังงานทางเลือก แต่เป็น
3. พลงั งานไฟฟา้ พลงั งานที่ใชแ้ ลว้ หมดไป

4. พลังงานน้าํ

5. พลงั งานคลน่ื ในมหาสมทุ ร

4. การใช้ประโยชนจ์ ากพลังงานแสงอาทติ ย์คือขอ้ ใด

1. ไม่มีวนั หมดสิ้นไป

2. ชว่ ยลดมลพิษต่างๆ 4. ตอบ5.ทกุ ขอ้ เปน็ การใชป้ ระโยชนจ์ ากพลงั งานแสงอาทติ ย์
3. ผลิตกระแสไฟฟ้า

4. ผลติ นาํ้ ร้อน

5. ถกู ทุกขอ้

5. การใช้ประโยชน์จากพลงั งานนํา้ คอื ขอ้ ใด

1. ไมม่ ีวันหมดสนิ้ ไป 2. ผลิตกระแสไฟฟ้า

3. ลดภยั แลง้ ตา่ งๆ 4. ถูกท้ังขอ้ 1. และขอ้ 2. ส�ำ หรบั
ผูส้ อน
5. ถูกท้ังข้อ 2. และข้อ 3. 5. ตอบ 4. การใช้ประโยชน์จากพลังงานน้ํามีแค่ 2 ข้อ คือ

ผลิตกระแสไฟฟา้ และเป็นพลังงานท่ีไมม่ ีวันหมดสนิ้ ไป

98 พลงั งาน ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม

6. การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาตคิ ือข้อใด

1. พืชพันธ์ ุ

2. สัตวป์ ่า 6. ตอบ 5. ทกุ ขอ้ คอื การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาติ

3. ป่าไม ้

4. แร่ธาตุ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
5. ถูกทกุ ขอ้

7. การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาตปิ ระเภทพืชคอื ข้อใด

1. ลดมลพษิ ทางดิน

2. สร้างอากาศสะอาด 7. ตอบ 5. การใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาติประเภท พชื
3. เปน็ อาหารส�ำ หรบั สตั ว์และมนษุ ย์ คือ สร้างอากาศสะอาดและเปน็ อาหารสำ�หรับสัตว์และมนุษย์

4. ถูกทง้ั ขอ้ 1. และขอ้ 2.

5. ถกู ท้ังขอ้ 2. และข้อ 3.

8. การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติประเภทดินคือข้อใด

1. เปน็ ทอี่ ยู่อาศยั

2. ปอ้ งกันดินทรดุ 8. ตอบ 1. การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติประเภทดิน

3. ท�ำ ใหอ้ ากาศบริสทุ ธิ์ คอื การสร้างทอ่ี ยู่อาศยั ขอ้ อื่นไมใ่ ช่

4. ถูกทกุ ข้อ

5. ไมม่ ขี ้อใดถกู

9. การใชป้ ระโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาตปิ ระเภทป่าไม้คอื ขอ้ ใด

1. เป็นพน้ื ทส่ี �ำ หรบั อย่อู าศยั ของมนษุ ย์

2. เป็นสิ่งแวดลอ้ มท่มี นุษยส์ รา้ งขน้ึ 9. ตอบ 3. ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติประเภทป่าไม้ คือ

3. เปน็ พน้ื ทส่ี ำ�หรับอยู่อาศัยของพืชและสตั ว์ เป็นพื้นทสี่ ำ�หรับอยอู่ าศัยของพืชและสตั ว์
4. ถกู ท้ังขอ้ 1. และขอ้ 2.

5. ถกู ทงั้ ขอ้ 2. และข้อ 3.

10. การใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาติประเภทอากาศคอื ข้อใด

1. สรา้ งระบบหมุนเวียนอากาศ

2. สื่อสารบนช้นั บรรยากาศ 10. ตอบ 5. ทุกข้อเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
ประเภทอากาศ
3. ระบบหายใจของส่ิงมีชีวิต

4. ผลิตกระแสไฟฟ้า

5. ถกู ทุกขอ้

ส�ำ หรับ
ผู้สอน

การใช้ประโยชน์จากพลงั งาน พลังงานทดแทน และทรัพยากร 99

แบบประเมนิ ตนเอง

ค�ำช้ีแจง ตอนที่ 1 ใหผ้ เู้ รยี นประเมนิ ผลการเรียนรู้ โดยเขยี นเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั คะแนน
และเติมขอ้ มูลตามความเป็นจรงิ
ระดับคะแนนตอนท่ี 1 5 : มากทส่ี ุด 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : ควรปรบั ปรุง
ตอนที่ 2 ให้ผเู้ รยี นน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในช่องวา่ ง และเขียนเครื่องหมาย ✓
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด ลงในชอ่ งสรปุ ผล

ตอนที่ 1 (ผลการเรียนรู)้ ตอนที่ 2 (แบบทดสอบ)

รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ

1. ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจในเน้อื หา คะแนน

2. ผเู้ รยี นไดท้ �ำกจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรทู้ ี่สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หา (ข้อละ 1 คะแนน)
และจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
สรปุ ผล
3. ผู้เรยี นได้เรียนและท�ำกจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรูท้ ีส่ ่งเสรมิ 9-10 (ดมี าก)
กระบวนการคดิ เกดิ การค้นพบความรู้ 7-8 (ดี)
5-6 (พอใช้)
4. ผู้เรียนสามารถประยุกต์ความรเู้ พอี่ื ใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจ�ำวนั ได้ ต่ํากวา่ 5

5. ผเู้ รียนไดเ้ รยี นรอู้ ะไรจากการเรยี น (ควรปรับปรุง)

6. ผ้เู รียนตอ้ งการท�ำส่งิ ใดเพอื่ พฒั นาตนเอง

7. ความสามารถทถ่ี ือวา่ ผ่านเกณฑป์ ระเมินของผู้เรยี น คอื

สำ�หรับ
ผู้สอน

สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
5หน่วยการเรียนรู้ท่ี ปญั หาและผลกระทบจากการใช้
พลังงานและทรัพยากร

การใช้พลังงานโดยทั่วไปถึงแม้จะมีความสำ�คัญและมีประโยชน์ต่อ

สาระสำ�คัญ การนำ�มาใช้กับกิจกรรมของมนุษย์และการพัฒนาสังคมในส่วนต่างๆ แต่ก็
สร้างปัญหาและผลกระทบท่ีเกิดขึ้นจากการใช้พลังงานดังกล่าวได้

ไมว่ ่าจะเปน็ การลดจำ�นวนลงหรอื หมดส้นิ ไป ความมั่นคงดา้ นพลงั งาน และ

ผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงปัญหาการปล่อยแก๊สเรือนกระจก ภาวะ

โลกร้อน สภาพภูมอิ ากาศเปลยี่ นแปลง และการเกิดภาวะฝนกรด เนือ่ งจากปญั หาเหลา่ นีส้ ามารถสรา้ ง

ผลกระทบต่อผู้คนในสงั คมและส่งิ มีชีวติ ในระบบนเิ วศด้านสิ่งแวดล้อมได้เปน็ อยา่ งดี

การใช้ทรัพยากรธรรมชาติมีลักษณะเช่นเดียวกับการใช้พลังงานโดยท่ัวไป การใช้ทรัพยากร

จ�ำ นวนมากหรอื การใชโ้ ดยไมค่ �ำ นงึ ถงึ การสรา้ งขนึ้ ใหมจ่ ะท�ำ ใหจ้ �ำ นวนหรอื ปรมิ าณลดลงการขาดแคลน

และสญู สนิ้ ทรพั ยากรทมี่ อี ยู่ และยงั กอ่ ปญั หาใหก้ บั ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นดา้ นตา่ งๆ เชน่ ดนิ นา้ํ อากาศ