เป็นภาพจำมาหลายทศวรรษกับภาพการยืนเข้าแถวหน้าเสาธงของเหล่านักเรียน รอคิวตรวจทรงผมและต้องถูกตัดผมทั้งน้ำตา เพียงเพราะผิดกฎระเบียบของโรงเรียน ว่าด้วยเรื่องเด็กนักเรียนหญิงต้องตัดผมให้สั้นเสมอติ่งหู และเด็กนักเรียนชายต้องตัดผมทรงนักเรียนถูกระเบียบ ในเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เหล่าเด็กนักเรียนเริ่มตั้งคำถามว่า “ทำไมต้องตัดผมตามกฎระเบียบ” ซึ่งเป็นทรงผมที่ล้าสมัยทำให้ขาดความมั่นใจ แต่ดูเหมือนว่าการตั้งคำถามของเด็กนักเรียน กลายเป็นการกระทำที่ดูก้าวร้าวในสายตาของคุณครู ที่พร่ำบอกเสมอว่า การบังคับให้ทำตามกฎระเบียบทรงผมแบบนี้ เพราะครูรักและเป็นห่วง ทั้งเรื่องสุขภาพ เช่น การเป็นเหา และความปลอดภัย ทั้งเรื่องผมยาวทิ่มแทงลูกตา หรือการเป็นสาวไวขึ้นก่อให้เกิดคดีอาชญากรรม แต่การแสดงออกของคุณครู ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เหล่านักเรียนไม่เข้าใจ นำไปสู่แคมเปญ #lethergrow ซึ่งเป็นแคมเปญที่สร้างอิมแพ็คเป็นอย่างมากในสังคมไทยตอนนี้ โดยนอกจากวีดีโอแคมเปญที่ปล่อยออกมาก่อนหน้า ล่าสุดก็มีการเชิญบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการตัดผมนักเรียนโดยตรงมาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองจากทุกฝ่าย ซึ่งในงานเสวนาดังกล่าว ได้มีมุมมองที่น่าสนใจและนับว่าเป็นตัวกลางของการทำความเข้าใจระหว่างคุณครูและนักเรียนอย่างกระทรวงศึกษาธิการ โดยดร.นิพนธ์ ก้องเวหา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงทิศทางและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับกฎระเบียบในโรงเรียน “กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการปรับเปลี่ยนกฎกระทรวงว่าด้วยเรื่องทรงผมของเด็กนักเรียนแล้วในปี 2563 เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป นักเรียนชายจะไว้ผมยาวหรือสั้นก็ได้ แต่ความยาวต้องไม่เกินตีนผมด้านข้าง ในขณะที่นักเรียนหญิงจะไว้ผมยาวหรือสั้นก็ได้ แต่ต้องรวบเก็บให้เรียบร้อย แต่ถ้าทางสถานศึกษาต้องการออกกฎเพิ่มนอกเหนือจากที่ทางกระทรวงกำหนด ทางโรงเรียนต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาด้วย” อีกทั้งท่าน ดร. ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า “โรงเรียนควรจะเป็นสถานที่ที่เข้าใจเด็กนักเรียนมากที่สุด เพราะเป็นสถานที่เป็นบุคคลที่ใกล้ชิดเด็กมากที่สุด แต่ด้วยความที่เราเป็นครู บางเรื่องเราไม่สามารถไปก้าวก่ายไปสั่งไปสอนหรือไปกระทำสิ่งใดกับเด็กได้ คุณครูที่กระทำแบบนั้น ทางกระทรวงจะเอาจริงเอาจัง เพื่อที่จะดูแลเด็กนักเรียนที่เปรียบเสมือนลูกของเรา” ท้ายที่สุด แคมเปญ #lethergrow ที่ถูกจัดขึ้นนี้ ถือว่าเป็นเวทีสะท้อนบทเรียน กฎการลงโทษตัดผมนักเรียน เพื่อให้เด็กไทยเติบโตขึ้นอย่างมั่นใจในแบบที่ดีที่สุดของตัวเอง เพราะการตัดผมของเด็กนักเรียน เด็กไม่ได้ถูกตัดแค่ผม แต่เด็กถูกตัดความมั่นใจในตัวเองออกไปด้วย ประกาศระเบียบข้อบังคับโรงเรียนสตรีอ่างทองของ นักเรียนโรงเรียนสตรีอ่างทอง หมวดที่ 1 ข้อปฏิบัติของนักเรียนเกี่ยวกับการแต่งกาย นักเรียนหญิง ม.ต้น
นักเรียนหญิง ม.ปลาย
นักเรียนชาย
6.1 ม.ต้น ตัดทรงนักเรียน ผมด้านหน้ายาวไม่เกิน 3 ซม. ผมด้านบนยาวไม่เกิน 2 ซม. 6.2 ม.ปลาย ตัดผมรองทรงสูง ผมด้านหน้ายาวไม่เกิน 4 ซม. ผมด้านบนยาวไม่เกิน 2 ซม. ผมด้านข้างยาวไม่เกิน 1 ซม. และไม่ทำผมทรงแปลก ๆ ไม่ไว้จอน ไม่ไว้หนวด หรือเครา ไม่กันผม ** นักเรียนทุกคน ตัดผมตามตารางที่โรงเรียนกำหนดอย่างเคร่งครัด**
เครื่องแบบพละศึกษาสวมใส่เฉพาะวันที่มีเรียนพลศึกษาและกิจกรรมคณะสีเท่านั้น โดยจะต้องสวมใส่ ในขนาดที่มีความเหมาะสมกับตัวนักเรียน และไม่มีการแก้ไขแบบหรือรูปทรงทั้งเสื้อและกางเกง ของทางโรงเรียนโดยเด็ดขาด แยกเป็น - วันที่มีการเรียนวิชาพลศึกษา ให้สวมใส่ชุดพลศึกษาของโรงเรียนเหมือนกันทั้งนักเรียนชายและนักเรียนหญิง คือ เสื้อโปโลสีกรมท่าปักตราสัญลักษณ์โรงเรียนที่กระเป๋า โดยปักชื่อและดาว พร้อมทั้งติดแถบคณะสีที่สังกัดด้านตรงกันข้ามกับกระเป๋า กางเกงวอร์มขายาวสีกรมท่าติดแถบทอด้านข้างที่มี คำว่า SATRI ANGTHONG ตามแนวความยาวของแถบทอ นักเรียนหญิงสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวล้วน ส่วนนักเรียนชายสวมรองเท้าผ้าใบสีดำล้วน - วันที่มีกิจกรรมคณะสี ให้สวมใส่ชุดเหมือนกันทั้งนักเรียนชายและนักเรียนหญิง คือเสื้อยืดโปโลคณะสีที่สังกัด กางเกงวอร์มขายาวสีกรมท่าติดแถบทอด้านข้างที่มีคำว่า SATRI ANGTHONG ตามความยาวของแถบทอ และนุ่งทับโดยนำเสื้อใส่ในกางเกงให้เรียบร้อย นักเรียนหญิงสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวล้วน ส่วนนักเรียนชายให้ใช้รองเท้าผ้าใบสีดำล้วน - แต่งกายชุดพลศึกษา/ชุดคณะสี ไม่ถูกตามระเบียบจะถูกยึด เสื้อ/กางเกง/รองเท้า ที่ไม่ถูกระเบียบตามแต่กรณีและไม่มีการคืน เครื่องแบบยุวกาชาด ลูกเสือ เนตรนารี และเครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหาร
ข้อปฏิบัติของนักเรียนเกี่ยวกับการใช้กระเป๋า และการใช้โทรศัพท์ กระเป๋านักเรียน
ประดับวัตถุใด ๆ ที่กระเป๋า
เท่านั้น โทรศัพท์มือถือ โรงเรียนไม่สนับสนุนให้นักเรียนนำโทรศัพท์มือถือมาใช้ในโรงเรียน
ครั้งที่ 1 หัก 20 คะแนน ยึดโทรศัพท์เป็นเวลา 7 วันทำการ ครั้งที่ 2 หัก 30 คะแนน ยึดโทรศัพท์เป็นเวลา 30 วันทำการ ครั้งที่ 3 หัก 40 คะแนน และไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือมาโรงเรียน กรณีฝ่าฝืนเชิญผู้ปกครองทำทัณฑ์บน อื่น ๆ วิทยุเทป ลำโพง เครื่องมือสื่อสาร กล้องถ่ายรูปเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ห้ามนักเรียนนำมาใช้ หากมีความจำเป็นต้องใช้เป็นครั้งคราว เพื่อประกอบการเรียนหรือการจัดกิจกรรม ต้องขออนุญาตครูผู้สอน หรือฝ่ายกิจการนักเรียนก่อนและต้องดูแลรักษาหากชำรุดหรือสูญหายโรงเรียนจะไม่รับผิดชอบ ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับเครื่องประดับและเครื่องสำอางค์
**หมายเหตุ** ในกรณีที่นักเรียนไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับโรงเรียนสตรีอ่างทอง โรงเรียนจะดำเนินการยึดสิ่งของที่ผิดจากระเบียบ ยกเว้นเครื่องประดับที่มีมูลค่าสูง โดยโรงเรียนจะแจ้งผู้ปกครองมารับทันที |