Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

เมื่อใช้รายงานความเป็นต้นฉบับซึ่งเข้าถึงได้ผ่าน Classroom ครูจะสามารถประเมินความเป็นต้นฉบับได้อย่างรวดเร็วและช่วยให้นักเรียนส่งผลงานที่ดีที่สุด รวมทั้งเปรียบเทียบงานของนักเรียนได้โดยไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว

Show

กำลังวางแผนที่จะใช้ Google Classroom สำหรับห้องเรียนของคุณอยู่ใช่หรือไม่? ถ้าใช่บทความนี้ What Should I Do? ได้เขียนคู่มือตั้งแต่วิธีตั้งค่า Google Classroom รวมถึงวิธีการใช้งานต่าง ๆอย่างละเอียด โดยคู่มือนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ และผู้ที่กำลังหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนในยุคนี้ที่จำเป็นต้องเรียนออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มสร้างห้องเรียนกันเลยครับ

 

Table of Contents

  • Introduction : แนะนำเกี่ยวกับ Google Classroom เบื้องต้น
    • Google Classroom คืออะไร
    • Google Classroom ช่วยงานอย่างไรบ้าง?
    • ข้อควรรู้ก่อนเริ่มใช้งาน
  • ส่วนที่ 1 : เริ่มต้นใช้งาน Google Classroom
    • การเข้าสู่ระบบครั้งแรก
    • วิธีสร้างและปรับแต่งชั้นเรียนของคุณ
    • หน้าจอใช้งานหลักของ Google Classroom 
    • วิธีปรับแต่งห้องเรียน
    • วิธีเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มรายละเอียดของชั้นเรียน
    • การเพิ่มนักเรียนเข้าชั้นเรียน
    • การลบนักเรียนออกจากชั้นเรียน
    • การเพิ่มครูผู้สอนเข้าชั้นเรียน
  • ส่วนที่ 2 : การสตรีม
    • การเพิ่มสื่อการสอนในชั้นเรียน
    • การตั้งค่าความคิดเห็น
    • สตรีมในมุมมองของนักเรียน
  • ส่วนที่ 3 : งานของชั้นเรียน (Assignments)
    • การมอบหมายงาน (Assignments)
    • การจัดการงานที่ได้มอบหมาย
    • งานรอการตรวจ
  • ส่วนที่ 4 : งานที่ได้รับมอบหมายจากครู (มุมมองของนักเรียน)
    • การแจ้งเตือนเมื่อได้รับมอบหมายงาน
    • รายละเอียดการมอบหมาย (มุมมองของนักเรียน)
    • การส่งงาน (มุมมองของนักเรียน)
    • การยกเลิกส่งงาน (มุมมองของนักเรียน)
  • ส่วนที่ 5 : การตรวจงานและให้คะแนน
    • ขั้นตอนการตรวจงาน
    • การรวบรวมคะแนนและการออกเกรด
    • งานที่ส่งคืนแล้ว (มุมมองของนักเรียน)
  • ส่วนที่ 6 : การใช้โพสต์ซ้ำสำหรับชั้นเรียนอื่น (Reusing Posts)
    • การเพิ่มสื่อการสอน โดยการใช้โพสต์ซ้ำ
    • สร้างงานของชั้นเรียน โดยการใช้โพสต์ซ้ำ
  • ส่วนที่ 7 : การใช้งาน Google Classroom บนโทรศัพท์และแท็บเล็ต
  • สรุป

Introduction : แนะนำเกี่ยวกับ Google Classroom เบื้องต้น

Google Classroom คืออะไร

Google Classroom คือ แอปพลิเคชั่นของ Google ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ครู นักเรียนได้สื่อสารและทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ โดยครูผู้สอนสามารถจัดการงาน การบ้าน หรือข้อสอบผ่านระบบของ Google Classroom โดยไม่จำเป็นต้องใช้สมุด หนังสือ หรือกระดาษในรูปแบบเดิม ๆอีกต่อไป

โดย Google ได้อธิบายเกี่ยวกับ Google Classroom ว่าเป็น “เครื่องมือเพื่อการควบคุมภารกิจสำหรับห้องเรียนของคุณ”

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

Google Classroom ช่วยงานอย่างไรบ้าง?

ด้วยความเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การเรียนการสอนเป็นไปด้วยความสะดวกและมีความยืดหยุ่นสูง โดยเฉพาะในยุคที่จำเป็นต้องเรียนออนไลน์เช่นนี้ ซึ่งนักเรียนและคุณครูสามารถใช้ฟังก์ชั่นต่าง ๆจาก Google Classroom ได้มากมายดังนี้ :

  • การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการชั้นเรียน : แพลตฟอร์มนี้สามารถผสานเข้ากับเครื่องมืออื่น ๆของ Google เช่น Google Drive, Form, Meet, Google Calendar และอีกมากมาย เมื่อคุณครูสามารถเข้าถึงเครื่องมือต่าง ๆได้อย่างดีและมีความเข้าใจแล้ว จะเสมือนว่ามีผู้ช่วยในการจัดการห้องเรียน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณโพสต์งานหรือการบ้านที่มีการกำหนดวันส่งงานอย่างชัดเจน งานจะถูกส่งแจ้งเตือนไปยังอีเมลของนักเรียนและเพิ่มลงไปในปฎิทินชั้นเรียน อีกทั้งยังเชื่อมไปยังปฎิทินของนักเรียนโดยอัตโนมัติอีกด้วย
  • จัดระเบียบ แจกจ่าย และรวบรวมสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบดิจิตอล : เครื่องมือสำหรับทำสื่อการสอนดิจิตอลของ Google ประกอบด้วย Google Drive Tools ตั้งแต่ Doc, Sheets, Slide และ Site ที่ช่วยให้ครูสามารถสร้างสื่อการเรียนการสอนเพียงครั้งเดียวและนำมาปรับปรุง แก้ไข ใช้ใหม่ได้อยู่ตลอด แต่อาจจะต้องสอนให้นักเรียนของคุณเข้าถึงไฟล์จาก Google Classroom ให้ได้ ห้องเรียนของคุณก็จะลดความจำเป็นในการใช้กระดาษไปได้อย่างมาก
  • การสื่อสารในชั้นเรียนที่ราบรื่น รวดเร็ว : คุณสามารถใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อโพสต์ประกาศ เตือนความจำเกี่ยวกับการมอบหมายงานต่าง ๆ และยังสามารถดูได้ว่านักเรียนคนใดทำงานเสร็จหรือยังไม่เสร็จบ้าง อีกทั้งนักเรียนแต่ละคนสามารถสอบถาม ปรึกษาเป็นการส่วนตัวกับครูผ่าน Google Chat ได้อย่างทั่วถึงและทันทีอีกด้วย
  • ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับงานและการประเมินนักเรียน : ภายใน Google Classroom คุณสามารถใช้ Google Form เพื่อสร้างและแชร์แบบทดสอบ การบ้าน หรือข้อสอบ ซึ่งสามารถรวบรวมคะแนนได้อัตโนมัติเมื่อนักเรียนกดส่งข้อสอบ นอกจากจะช่วยประหยัดเวลาในการตรวจข้อสอบแล้ว นักเรียนของคุณก็จะได้ทราบผลการประเมินต่าง ๆได้ในทันที และครูยังสามารถดูข้อมูลของนักเรียนและชั้นเรียนภายใน Form หรือ Google Sheet ที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย

 

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มใช้งาน

  • GWFE : GWFE หรือ Google Classroom ใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีบัญชี Google หรือ Google Workspace for Education ในกรณีที่คุณยังไม่มีบัญชี Google แนะนำให้สมัคร Gmail ให้เรียบร้อยก่อน หรือหากคุณได้รับสิทธิ์ Google Workspace for Education จากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยของคุณแต่ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ แนะนำให้ติดต่อแผนกไอทีของสถาบันการศึกษาของคุณดูนะครับ
  • ระดับชั้นที่สามารถใช้งานได้ : Google Classroom สามารถใช้งานได้ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาไปจนถึงระดับอุดมศึกษาเลย ทั้งนี้ปัจจัยความสำเร็จของการเรียนการสอนผ่านแพลตฟอร์มนี้ขึ้นอยู่กับทักษะของครูและนักเรียนเป็นหลัก โดยเฉพาะนักเรียนที่ควรจะสามารถเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google และเข้าถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆได้ด้วยตัวเอง ส่วนมากการใช้งาน Google Classroom จึงมีความคล่องตัวกับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาขึ้นไป
  • Google Chrome : เพื่อการใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ครูและนักเรียนควรใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ Google Chrome เหตุผลคือ Chrome และ Classroom มีเจ้าของเดียวกันคือบริษัท Google ทำให้การใช้งานต่าง ๆ สามารถบูรณาการร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สามารถดาวน์โหลด >> Google Chrome ได้ที่นี่

 


ส่วนที่ 1 : เริ่มต้นใช้งาน Google Classroom

การเข้าสู่ระบบครั้งแรก

สำหรับการใช้งานครั้งแรก คุณจำเป็นต้องมีบัญชี Google Account หรือเป็นผู้ใช้งานผ่านระบบของ Google Workspace for Education ซึ่งในบทความนี้ผมจะนำเสนอตัวอย่างการใช้งานผ่าน Google Account เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คุณสามารถเริ่มต้นการใช้งานตามได้ดังนี้ :

  • สมัครบัญชี Google Account หรือการสมัคร Gmail นั่นเอง (ดูวิธีการสมัครได้ที่ >> สมัคร Gmail)
  • สำหรับครูหรืออาจารย์ที่สอนในสถาบันการศึกษา ต้องขออีเมลของสถาบันการศึกษาและรหัสใช้งาน Google Workspace for Education กับแผนกที่เกี่ยวข้อง

หลังจากได้บัญชีใช้งานและลงทะเบียนใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คลิกสัญลักษณ์จุด 9 จุดบริเวณมุมบนขวามือ และเลื่อนหาสัญลักษณ์เมนู Classroom หรือเข้าใช้งานผ่านลิงก์นี้ >> classroom.google.com

หลังจากคลิกลิงก์เพื่อเข้าใช้งาน ระบบจะขึ้นให้เราเลือกบัญชีหรืออีเมลที่ต้องการใช้งาน Classroom จากนั้นคลิก ทำต่อ

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

ผู้ใช้งานจะต้องเลือกบทบาทของตัวเองก่อน ดังนี้

  • บทบาทครู : จะสามารถสร้างชั้นเรียนและเข้าร่วมชั้นเรียนใน Google Classroom ได้
  • บทบาทนักเรียน : สามารถเข้าร่วมชั้นเรียนได้เท่านั้น

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

*สำคัญ หลังจากเลือกบทบาทแล้ว คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนบทบาทของคุณได้ในภายหลัง ดังนั้น การเลือกบทบาทของคุณให้ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากนักเรียนของคุณเลือกบทบาทไม่ถูกต้อง คุณต้องมีการติดต่อฝ่ายไอทีเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว

 

วิธีสร้างและปรับแต่งชั้นเรียนของคุณ

1. วิธีสร้างชั้นเรียน ทำได้โดยคลิก สร้างชั้นเรียน ที่บริเวณกลางหน้าจอ หรือคลิกเครื่องหมายบวก “+” แล้วเลือก สร้างชั้นเรียน

2. ระบบจะสอบถามว่า คุณได้ใช้ Classroom ที่โรงเรียนกับนักเรียนใช่หรือไม่ ให้ติ๊กที่ฉันอ่านและเข้าใจประกาศข้างต้นแล้ว และไม่ได้ใช้ Classroom ที่โรงเรียนกับนักเรียน คลิก ทำต่อ

  • ในกรณีที่คุณใช้ Google Workspace for Education ไม่ว่าจะเป็นแพ็คเกจไหนก็ตาม หน่วยงานของสถาบันการศึกษาจะเป็นผู้ดำเนินการให้ทั้งหมด เนื่องจากความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียนซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

3. หน้าสร้างชั้นเรียน จะประกอบด้วย

  • ใส่ชื่อชั้นเรียน (ต้องระบุ)
  • คลิกห้อง เช่น ระดับชั้น ช่วงเวลาเรียน หรือ Section (ไม่จำเป็นต้องระบุ ใส่รายละเอียดอะไรก็ได้)
  • คลิกเรื่อง เช่น วิชาที่สอน หรือเลือกจากที่ระบบมีให้ก็ได้ (ไม่จำเป็นต้องระบุ ใส่รายละเอียดอะไรก็ได้)
  • คลิกห้อง อาจใส่รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่เรียน (ไม่จำเป็นต้องระบุ ใส่รายละเอียดอะไรก็ได้)
  • คลิก สร้าง

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

หลังจากคลิกสร้าง Classroom จะสร้างรหัสชั้นเรียนโดยอัตโนมัติ โดยในหัวข้อถัด ๆไปผมจะแนะนำเครื่องมือและวิธีการใช้งานทีละส่วนครับ โดยหน้าตาหลังสร้างจะเป็นดังนี้

หน้าจอใช้งานหลักของ Google Classroom 

1. ชื่อชั้นเรียน หรือชื่อรายวิชา

2. หมายเลขห้องเรียน

3. รหัสชั้นเรียน เอาไว้สำหรับเชิญนักเรียนเข้าสู่ชั้นเรียนนั้น ๆที่คุณสร้าง (ผมได้เขียนถึงวิธีเพิ่มนักเรียนเข้าชั้นเรียนในหัวข้อถัดไป)

4. การแจ้งเตือนงานใกล้หมดเวลาในเร็ว ๆนี้

5. งานของชั้นเรียน เป็นกิจกรรม การบ้าน หรือข้อสอบที่เราต้องการมอบหมายให้กับนักเรียน

6. ผู้คน เป็นหน้าสำหรับบริหารจัดการผู้คนในห้องเรียนที่คุณสร้าง เช่น การเชิญอาจารย์เพื่อสอนร่วมกัน หรือการเพิ่มนักเรียนเข้าชั้นเรียน

7. คะแนน มีไว้เพื่อออกคะแนนหลังจากที่คุณได้ตรวจงาน การบ้าน หรือข้อสอบของนักเรียนแล้ว

8. ช่องที่ใช้สำหรับประกาศ แจ้งข่าวสาร หรือมอบหมายให้นักเรียนศึกษาข้อมูลจากสิ่งที่แนบมาให้ (ผมเขียนไว้ในหัวข้อ เพิ่มสื่อการสอนในชั้นเรียน)

9. ช่องเมนูสำหรับปรับแต่งธีมหรือรูปแบบของชั้นเรียน

10. การตั้งค่าสตรีม รายละเอียดของชั้นเรียน การตั้งค่าทั่วไป และการให้คะแนน

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

วิธีปรับแต่งห้องเรียน

คุณสามารถปรับแต่งห้องเรียนให้มีความแตกต่างกันได้ เพื่อป้องกันการสับสนเมื่อต้องสอนหลายวิชา หลายชั้นเรียน โดยวิธีปรับธีมหรือรูปแบบ (จากรูปหมายเลข 9) มีดังนี้

1. คลิก กำหนดเอง บริเวณมุมบนขวามือ จะมีให้เลือก 2 วิธีคือ อัพโหลดรูปภาพ / เลือกธีม

2. สำหรับวิธีการอัพโหลดรูปภาพ ให้ลากภาพที่คุณเตรียมไว้มาวางในพื้นที่ว่างสีขาว หรือคลิกเลือกรูปจากคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นคลิก เลือกธีมของชั้นเรียน (หมายเหตุ: รูปภาพมีขนาดอย่างน้อย 800×200 พิกเซล)

3. วิธีถัดมาคือ เลือกธีมที่ระบบมีให้ (ตอนนี้มีให้เลือกทั้งหมด 73 ธีม) เมื่อเลือกได้แล้วคลิก เลือกธีมของชั้นเรียน

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

วิธีเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มรายละเอียดของชั้นเรียน

ขั้นตอนเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มรายละเอียดของชั้นเรียน ให้คลิกที่ การตั้งค่าสตรีม หรือสัญลักษณ์รูปเฟือง (บริเวณมุมบนขวามือ) เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าชั้นเรียน ซึ่งจะประกอบด้วยรายละเอียดของชั้นเรียน การตั้งค่าทั่วไป และการให้คะแนน (การตั้งค่าทั่วไปและการให้คะแนนผมจะอธิบายในหัวข้อถัด ๆไปครับ)

การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของชั้นเรียน จะคล้ายกับหัวข้อการสร้างชั้นเรียน เมื่อเข้าสู่หน้ารายละเอียดชั้นเรียนเราสามารถแก้ไข

  • ใส่ชื่อชั้นเรียน (ต้องระบุ)
  • ในช่องอื่น ๆใส่รายละเอียดอะไรก็ได้ เช่น ระดับชั้น ช่วงเวลาเรียน Section วิชาหรือเรื่องที่สอน (ไม่จำเป็นต้องระบุ)
  • คลิก บันทึก

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

การเพิ่มนักเรียนเข้าชั้นเรียน

ขั้นตอนการเพิ่มนักเรียนเข้าสู่ชั้นเรียนบน Classroom สามารถทำได้ดังนี้

1. เข้าชั้นเรียนผ่าน “รหัสชั้นเรียน”

  • หลังจากครูสร้างชั้นเรียนก็จะได้รหัสชั้นเรียน จากตัวอย่างคือ “ap7yhdb” นำรหัสที่ได้ส่งให้นักเรียนของคุณ
  • นักเรียนที่จะเข้าสู่ชั้นเรียน ให้เลือก เข้าร่วมชั้นเรียน จะมีช่องสำหรับใส่รหัสที่ได้รับจากครู และคลิก เข้าร่วม

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

2. เชิญนักเรียนด้วยลิงก์เชิญ หรือเชิญด้วยการกรอกอีเมลของนักเรียน ให้เข้าที่เมนู ผู้คน จะมี 2 หัวข้อให้เลือก คือ ครูหรือนักเรียน ให้คลิกไอคอนรูปคนที่มีเครื่องหมาย + (มุมบนขวามือ) เพื่อเชิญนักเรียน

  • วิธีแรก : Copy ลิงก์เชิญแล้วส่งให้นักเรียน
  • วิธีที่สอง : พิมพ์ชื่อ (กรณีที่ในระบบมีรายชื่อติดต่อของนักเรียน) หรือพิมพ์อีเมลของนักเรียน แล้วกด เชิญ

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

เมื่อนักเรียนเข้าสู่ชั้นเรียนเรียบร้อยแล้ว จะแสดงรายชื่อให้ครูทราบตามรูปด้านล่างนี้

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

การลบนักเรียนออกจากชั้นเรียน

ขั้นตอนการลบนักเรียนออกจากชั้นเรียน สามารถทำได้ดังนี้

1. เข้าที่เมนู ผู้คน

2. เลือกนักเรียนที่ต้องการนำออกจากชั้นเรียน และคลิกจุดสามจุด (…) ตรงท้ายชื่อของนักเรียนคนนั้น คลิก นำออก

3. ระบบจะให้ยืนยันอีกครั้ง ว่าต้องการนำนักเรียนคนนั้นออกจากชั้นเรียน? ถ้าแน่ใจแล้วให้คลิก นำออก

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

การเพิ่มครูผู้สอนเข้าชั้นเรียน

วิธีการเพิ่มครูผู้สอนจะคล้ายกับวิธีการเพิ่มนักเรียน แต่จะสามารถทำได้วิธีเดียวเท่านั้นคือ

1. คลิกที่เมนู ผู้คน

2. คลิกไอคอนรูปคนที่มีเครื่องหมาย + (มุมบนขวามือ)

3. กรอกอีเมลของครูคนที่ต้องการเชิญ คลิก เชิญ

*ครูที่เข้ามาสอนร่วมกันสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนกับคุณ ยกเว้นการลบชั้นเรียน

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร


ส่วนที่ 2 : การสตรีม

สตรีม (Stream) คือ ที่ที่ครูผู้สอนจะใช้สำหรับดูองค์ประกอบทั้งหมดในชั้นเรียน ตั้งแต่การเพิ่มประกาศ, การมอบหมายงาน, การบ้าน, ข้อสอบ, การตั้งหัวข้อสนทนาและความคิดเห็น (ดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในชั้นเรียนนั้น)

การเพิ่มสื่อการสอนในชั้นเรียน

ในการเรียนการสอนแบบปกติ ครูอาจจะให้นักเรียนไปศึกษาข้อมูลก่อนมาเข้าเรียน โดยการอ่านจากหนังสือที่ต้องซื้อในทุกชั้นปี หรือจากการถ่ายเอกสารประกอบการเรียนการสอน แต่สำหรับการเรียนการสอนบน Google Classroom ครูสามารถเพิ่มสื่อการสอนที่ได้เตรียมไว้ให้นักเรียนอ่านทำความเข้าใจได้อย่างง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก และไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งการเพิ่มสื่อการสอน มีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกตรงแถบเมนู ประกาศบางสิ่งในชั้นเรียน

2. เลือกว่าจะใช้สื่อการสอน สำหรับนักเรียนชั้นเรียนใด วิชาอะไร หรือสำหรับนักเรียนคนใด (สามารถระบุเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล หรือเลือกทั้งชั้นเรียนก็ได้)

  • ในเมนูนี้จะมีให้เลือกตามจำนวนชั้นเรียนที่คุณได้สร้างเอาไว้ (ถ้ามีชั้นเรียนจำนวนมาก พยายามตรวจสอบความถูกต้องให้ดีก่อนโพสต์หรือประกาศด้วยนะครับ)

3. พิมพ์ประกาศบางสิ่งในชั้นเรียน อาจจะเป็นการแจ้ง การสั่ง หรือการอธิบายนักเรียนนักศึกษาให้อ่านเอกสารหรือดูวีดีโอคลิปที่คุณได้แนบมาในหัวข้อที่ 4

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

4. แนบเอกสารประกอบการสอนในชั้นเรียน ส่วนนี้คุณสามารถแนบเอกสารได้ 4 แบบ ดังนี้

  • แนบเอกสารจากใน Google Drive : (ไอคอนที่ 1) ต้องบอกว่า Google Drive เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีความจำเป็นและใช้กันอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะสำหรับ Google Classroom มันเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการเอกสารทั้งหมด ไม่ว่าจะจาก Google Docs, Google Sheets, Google Form  (คุณสามารถดูวิธีการใช้งาน Google Drive ได้ที่นี่ >> Google Drive)
  • อัพโหลดเอกสารจากในคอมพิวเตอร์ของคุณ : (ไอคอนที่ 2) ขั้นตอนนี้คุณสามารถนำเอกสารที่เตรียมไว้ ลากใส่ในหน้าอัพโหลดได้เลย เอกสารทั้งหมดจะถูกอัพโหลดไว้ที่ Google Drive
  • แนบเป็นลิงก์ : (ไอคอนที่ 3) คุณสามารถส่งเอกสารประกอบการสอนเป็นลิงก์เว็บไซต์ที่น่าสนใจได้ตรงไอคอนลิงก์
  • แนบวีดีโอจาก Youtube : (ไอคอนที่ 4) คุณสามารถแนบวีดีโอที่น่าสนใจจาก Youtube ได้ตรงไอคอนยูทูบ

เมื่อคุณเลือกวิธีการแนบเอกสารได้เรียบร้อยแล้ว ให้คลิก แทรก

5. เมื่อคุณแทรกไฟล์ในหัวข้อที่ 4 และพิมพ์คำอธิบายหรือคำสั่งในหัวข้อที่  3 แล้ว ให้กด โพสต์

*ในขั้นตอนนี้คุณสามารถตั้งเวลาโพสต์ได้ เพียงกดสัญลักษณ์ลูกศรชี้ลงแล้วเลือก กำหนดเวลา ระบบจะแสดงเมนูให้คุณกำหนดเวลาสำหรับการโพสต์นั้น

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

หลังจากที่คุณได้โพสต์แล้ว นักเรียนที่ถูกเพิ่มเข้ามาในห้องเรียนจะสามารถดาวน์โหลดเอกสารที่คุณเตรียมไว้ได้ ในหัวข้อถัดไปผมจะอธิบายถึงการเพิ่มนักเรียนเข้าสู่ชั้นเรียน

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

การตั้งค่าความคิดเห็น

เมื่อได้โพสต์สิ่งต่าง ๆลงบนช่องประกาศบางสิ่งในชั้นเรียนแล้ว คุณสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้นักเรียนโพสต์หรือแสดงความคิดเห็นต่อประกาศนั้นได้หรือไม่ วิธีการตั้งค่าความคิดเห็นมีดังนี้

1. คลิกที่ การตั้งค่าสตรีม หรือสัญลักษณ์รูปเฟือง (บริเวณมุมบนขวามือ)

2. เลื่อนลงด้านล่างหาหัวข้อ ทั่วไป > สตรีม เพื่อกำหนดรายละเอียดการแสดงความคิดเห็นของนักเรียน มีให้เลือก 3 แบบ ดังนี้

  • นักเรียนสามารถโพสต์และแสดงความคิดเห็น
  • นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นเท่านั้น
  • เฉพาะครูเท่านั้นที่โพสต์หรือแสดงความคิดเห็นได้

เมื่อกำหนดได้แล้วให้คลิก บันทึก 

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

สตรีมในมุมมองของนักเรียน

สตรีมในมุมมองของนักเรียนจะเหมือนกับของครูผู้สอน เว้นแต่ครูผู้สอนจะตั้งค่าให้เฉพาะครูเท่านั้นที่โพสต์หรือแสดงความคิดเห็นได้ รายละเอียดการใช้งานสตรีมในมุมมองของนักเรียน มีดังนี้

1. นักเรียนสามารถสร้างโพสต์ เปิดหัวข้อสนทนา และแนบไฟล์เอกสารได้เหมือนครูผู้สอน (สามารถดูรายละเอียดได้ที่หัวข้อ การเพิ่มสื่อการสอนในชั้นเรียน)

2. สำหรับโพสต์ที่ครูหรือเพื่อนร่วมชั้นเรียนได้โพสต์เอาไว้ เราจะเห็นโพสต์ดังกล่าวและสามารถแสดงความคิดเห็นได้ในช่อง เพิ่มความเห็นในชั้นเรียน

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร


ส่วนที่ 3 : งานของชั้นเรียน (Assignments)

งานของชั้นเรียน (Assignments) ในนิยามของการใช้งาน Google Classroom จะเป็นการสร้างการบ้าน งานที่ต้องส่ง แบบทดสอบเพื่อทบทวนความรู้ หรือใช้สำหรับการออกข้อสอบกลางภาคหรือปลายภาค ต่างทำได้ทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับความสามารถของครูผู้สอนที่จะประยุกต์การใช้งานได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งขั้นตอนการสร้างงานของชั้นเรียน มีวิธีดังนี้

1. เข้าไปที่หัวข้อ งานของชั้นเรียน คลิกตรง + สร้าง จะประกอบไปด้วย

  • งาน : จะเป็นการบ้าน แบบฝึกหัด หรือมอบหมายงานให้ไปศึกษาเพิ่มเติม
  • งานแบบทดสอบ : จะเป็นการส่งไฟล์ข้อสอบ หรือชุดคำถามจาก Google Form
  • คำถาม : จะเป็นการถามคำถามแบบปรนัยหรืออัตนัยให้นักเรียนตอบ
  • เนื้อหา : จะเป็นการแจ้งเนื้อหาให้นักเรียนไปศึกษาก่อนเข้าเรียน หรือศึกษาเพิ่มเติมหลังจากเรียน
  • ใช้โพสต์ซ้ำ : นำโพสต์ที่เคยใช้แล้ว นำไปใช้ซ้ำกับชั้นเรียนอื่น ๆ

2. Google ปฏิทิน (Google Calendar) : ปฏิทินที่เชื่อมโยงระหว่างของครูกับนักเรียน (เมื่อครูสร้างงานและกำหนดวันส่ง วันที่ได้แจ้งจะถูกระบุลงบนปฏิทินของทุกคนในชั้นเรียน)

3. โฟลเดอร์ไดรฟ์ของชั้นเรียน : เป็นที่สำหรับเก็บเอกสารของชั้นเรียน ทุกไฟล์ที่คุณสร้างสำเนาให้นักเรียนจะถูกรวบรวมไว้ทั้งหมดที่นี่

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

ในส่วนถัดไปผมจะอธิบานวิธีสร้างงานแต่ละแบบและมุมมองของนักเรียนหลังสร้างงานครับ

การมอบหมายงาน (Assignments)

การสร้างงานที่ได้อธิบายในหัวข้อก่อนหน้า สามารถสร้างงานได้ 5 รูปแบบด้วยกันคือ งาน งานแบบทดสอบ คำถาม เนื้อหา และใช้โพสต์ซ้ำ ขึ้นอยู่กับครูผู้สอนว่าจะประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนอย่างไร และเมื่อสร้างงานได้แล้วก็ต้องมีการมอบหมายงานซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนการสร้างงานเพื่อมอบหมายให้นักเรียน มีขั้นตอนดังนี้

0. เมื่อเข้ามาหัวข้อ งานของชั้นเรียน คลิก + สร้าง ให้คุณเลือกงานที่ต้องการจะสร้าง

1. ชื่อ ให้ระบุชื่องานที่ต้องการสร้างเพื่อมอบหมายให้นักเรียน

2. คำแนะนำ อาจใส่รายละเอียดของโจทย์หรืองานที่ต้องการมอบหมาย (ไม่บังคับ ใส่รายละเอียดอะไรก็ได้)

3. เป็นส่วนของการแนบไฟล์เอกสารประกอบการมอบหมายงาน

  • ไอคอน Google Drive : (ไอคอนที่ 1) เป็นการเลือกแนบไฟล์จากใน Drive ของคุณ
  • ไอคอน Upload : (ไอคอนที่ 2) เป็นการอัพโหลดไฟล์จากในคอมพิวเตอร์ของคุณ และจะถูกบันทึกลงใน Google Drive ด้วย
  • ไอคอน Link : (ไอคอนที่ 3) เป็นการแนบลิงก์ของเว็บไซต์ที่เราต้องการใช้เป็นแหล่งข้อมูล หรือโจทย์งานสำหรับนักเรียน
  • ไอคอน Youtube : (ไอคอนที่ 4) เป็นการแนบลิงก์เพื่อให้เข้าไปดูวีดีโอในยูทูป
  • ไอคอนเครื่องหมาย + : ใช้สำหรับการสร้างไฟล์ใหม่ มีให้เลือก 5 แบบ ได้แก่ Docs ไฟล์เอกสารคล้ายกับ Word, Slide ใช้สำหรับสร้างไฟล์นำเสนองาน, Sheets ไฟล์ตารางเหมือนกับ Excel,  และ Google Form ฟอร์มที่ใช้สำหรับสร้างแบบสอบถาม หรือประยุกต์ใช้สำหรับสร้างข้อสอบ

4. เลือกว่างานที่ได้มอบหมายนั้น ใช้สำหรับชั้นเรียนใดหรือสำหรับนักเรียนคนใด (สามารถเลือกมอบหมายทั้งชั้นเรียนหรือเป็นรายบุคคลก็ได้)

5. ระบุคะแนนของงานที่ได้มอบหมาย สามารถระบุได้สูงสุด 100 คะแนน หรือแจ้งว่าไม่ได้ให้คะแนนก็ได้

6. ระบุวันที่ครบกำหนดส่งงาน เมื่อระบุวันที่ครบกำหนดส่งงาน  วันนั้นจะถูกระบุลงในปฏิทินของชั้นเรียนให้นักเรียนทุกคนทราบด้วย

7. สร้างเกณฑ์การให้คะแนนตามต้องการ (จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)

8. เมื่อคุณได้แนบไฟล์ในหัวข้อที่ 3 (ไฟล์เอกสารประกอบ) คุณสามารถเลือกได้ว่า…

  • นักเรียนสามารถดูไฟล์ได้เพียงอย่างเดียว (เหมือนลักษณะของไฟล์ PDF)
  • นักเรียนสามารถแก้ไขไฟล์ได้ (นักเรียนสามารถแก้ไขไฟล์ต้นฉบับของคุณได้ ใช้สำหรับการทำงานร่วมกัน)
  • ทำสำเนาให้นักเรียนแต่ละคน (เป็นการสร้างสำเนาเพื่อให้นักเรียนแต่ละคนตอบคำถามแบบของใครของมันได้ และครูสามารถตรวจไฟล์เอกสารของนักเรียนแต่ละคนได้ โดยไฟล์จะถูกเก็บไว้ใน Google Drive ของชั้นเรียน)

9. มอบหมาย คุณสามารถคลิกมอบหมายเพื่อโพสต์งานลงสตรีมในทันที หรือกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการมอบหมายในภายหน้าได้ (เช่น คุณเตรียมงานหรือเตรียมข้อสอบเอาไว้ช่วงเย็น และระบุให้ระบบโพสต์ช่วงเช้าตอนเวลาสอนพอดี เป็นต้น)

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

หลังจากกดมอบหมายแล้วในข้อ 9 งานที่คุณได้มอบหมายให้นักเรียนในชั้นเรียนจะปรากฎที่หน้าสตรีมและในช่องหัวข้อเร็ว ๆนี้ (ทางซ้ายมือ) และจะแจ้งวันที่งานใกล้ครบกำหนดส่งให้ทราบด้วย

  • นักเรียนทุกคนในชั้นเรียน จะได้รับการแจ้งเตือนจากระบบผ่านทางอีเมล Gmail ว่ามีงานมอบหมายใหม่ รวมถึงระบบจะลงในปฏิทิน Google Calendar ให้ด้วย

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

การจัดการงานที่ได้มอบหมาย

หลังจากที่คุณได้มอบหมายงานและโพสต์ลงสตรีมไปแล้ว สามารถกลับเข้าไปจัดการและแก้ไขได้ดังนี้

1. คลิกที่จุดสามจุด (…) ด้านหลังหัวข้องานที่มอบหมายให้นักเรียน

2. เลือกหัวข้อตามต้องการ ดังนี้

  • ย้ายไปบนสุด : ในกรณีที่หน้าสตรีมมีหลายงาน การเลื่อนขึ้นไปบนสุดแสดงถึงความสำคัญหรือต้องการเน้นย้ำงานนั้น ๆ
  • แก้ไข : เมื่อคลิกจะเข้าสู่หน้าการแก้ไขรายละเอียด (เหมือนกับตอนสร้างงาน) เมื่อแก้ไขเรียบร้อยให้คลิก บันทึก
  • คัดลอกลิงก์ : เป็นการคัดลอกลิงก์ของงานนั้นเพื่อส่งให้นักเรียนโดยตรง

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

งานรอการตรวจ

เมื่อได้สร้างงานและมอบหมายให้นักเรียนทำเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถดูได้ว่างานที่มอบหมายไปนั้นมีนักเรียนเข้ามาทำแล้วหรือยัง โดยมีวิธีการดูดังนี้

1. คลิกที่สัญลักษณ์ ขีดสามขีด บริเวณมุมบนซ้ายมือ แล้วคลิกที่หัวข้อ การสอน > รอการตรวจ 

2. เมื่อคลิกรอการตรวจ จะแสดงรายการงานต่าง ๆที่คุณได้มอบหมาย ให้คลิกงานที่คุณต้องการ หรือคลิกงานที่คุณได้โพสต์ลงสตรีม

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

3. จากนั้นจะเข้าสู่หน้า คำตอบของนักเรียน ซึ่งจะแสดงรายละเอียดว่าคุณได้มอบหมายงานอะไร ให้ใคร และมีนักเรียนคนใดส่งงานแล้วบ้าง ในกรณีที่เลยกำหนดเวลาส่งงาน คุณสามารถคลิกที่ จุดสามจุด หลังรายชื่อนักเรียนคนนั้นเพื่อ ปิดรับ งานจากนักเรียนคนดังกล่าวได้

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร


ส่วนที่ 4 : งานที่ได้รับมอบหมายจากครู (มุมมองของนักเรียน)

เพื่อให้ครูผู้สอนเห็นภาพการใช้งาน Google Classroom มากยิ่งขึ้น ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากที่คุณได้สร้างและมอบหมายงานให้นักเรียนไปแล้ว เพราะถ้าไม่เข้าใจหรือไม่เห็นภาพว่านักเรียนได้รับงานที่มอบหมายไปแล้วจะแสดงผลออกมาเป็นอย่างไร คุณจะประยุกต์การใช้งานได้ไม่เต็มที่ตามที่ระบบของ Classroom สร้างมาเพื่อให้คุณใช้งาน

การแจ้งเตือนเมื่อได้รับมอบหมายงาน

สำหรับนักเรียนที่ถูกครูเชิญเข้าชั้นเรียนแล้ว ทุกครั้งที่ได้รับการมอบหมายงานใหม่ การบ้าน หรือข้อสอบ นักเรียนทั้งชั้นเรียนจะได้รับอีเมลแจ้งเตือนให้ทราบ โดยนักเรียนสามารถกดลิงก์เข้าไปทำงานที่ได้รับมอบหมาย ดังนี้

1. เข้าไปที่กล่องจดหมายในอีเมล Gmail ของคุณ จะแสดงอีเมลของงานที่ได้รับมอบหมายจากชั้นเรียนต่าง ๆ คลิกเพื่ออ่านจดหมาย

2. ภายในจดหมายจะแจ้งเป็น งานใหม่ ให้คุณได้ทราบ ซึ่งจะมีข้อความประกอบด้วย หัวข้องาน รายละเอียดเกี่ยวกับงาน วันครบกำหนดส่งงาน ให้คลิก เปิด เพื่อเข้าสู่หน้ารายละเอียดงานที่ได้รับมอบหมาย

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

3. อีกวิธีที่ช่วยให้คุณสามารถเห็นวันครบกำหนดส่งงานได้ก็คือ การเข้าไปดูในปฏิทิน Google Calendar ให้คลิกที่โลโก้ Google Calendar บริเวณแถบเครื่องมือขวามือ หรือเข้าแอพ Google Calendar เพื่อดูรายละเอียดงานในปฏิทินของชั้นเรียน

4. คลิกวันที่ครบกำหนดส่งงาน จะแสดงรายละเอียดประกอบด้วย หัวข้องาน รายละเอียดเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย วัน-เวลาครบกำหนดส่ง และลิงก์สำหรับเข้าสู่หน้ารายละเอียดงานที่ได้รับมอบหมาย

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

รายละเอียดการมอบหมาย (มุมมองของนักเรียน)

ในหน้าสตรีมของนักเรียนจะมีลักษณะเหมือนกับของครูเกือบทุกประการ นักเรียนจะเห็นประกาศหรืองานที่ครูสร้างผ่านหน้าสตรีม โดยนักเรียนสามารถเข้าไปจัดการงานที่ได้รับมอบหมายได้ดังนี้

1. เข้าไปที่ https://classroom.google.com/

2. เมื่อเข้าสู่หน้าชั้นเรียนหรือหน้าสตรีม คุณจะพบกับงานที่ได้รับมอบหมายจากครู งานแต่ละงานจะถูกแยกเป็นแต่ละชั้นเรียนที่คุณเข้าเรียน คลิกที่งานที่ได้รับมอบหมายเพื่อดูรายละเอียด

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

3. เมื่อคลิกเข้ามาในหน้างานที่ได้รับมอบหมาย จะประกอบด้วยหัวข้อดังนี้ (ตัวอย่างนี้คือการสร้างงานที่มีเอกสารแนบเป็นไฟล์จาก Google Docs ที่แจ้งสิทธิเข้าถึงเอกสาร สำเนาให้นักเรียนแต่ละคน)

  1. หัวข้องานที่ได้รับมอบหมาย
  2. รายละเอียดของงาน หรือคำอธิบายเพิ่มเติม
  3. วันครบกำหนดส่งงาน (จะถูกระบุในปฏิทิน Google Calendar ของทั้งชั้นเรียน)
  4. คะแนนของงานชิ้นนี้ (อาจมีหรือไม่มี)
  5. เพิ่มความคิดเห็นในชั้นเรียน : เมื่อนักเรียนแสดงความคิดเห็น จะแสดงผลในหน้าสตรีมให้นักเรียนทั้งชั้นได้เห็นร่วมกันด้วย
  6. งานที่นักเรียนได้รับมอบหมาย โดยชนิดของไฟล์จะมาจากสิ่งที่ครูสร้างไว้ตอนสร้างงาน เมื่อกดลิงก์จะไปสู่หน้างานที่ถูกสำเนาถึง (ผมได้เขียนอธิบายไว้ในหัวข้อถัดไป หัวข้อการส่งงาน)
  7. แสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวถึงครูผู้สอน
    Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

หลักจากที่นักเรียนคลิกไฟล์งานตรง งานของคุณ จะเข้าสู่หน้า Google Docs ที่ครูได้สร้างเอาไว้เพื่อทำงานและส่งงานครับ

 

การส่งงาน (มุมมองของนักเรียน)

เมื่อนักเรียนได้คลิกไฟล์เอกสารที่ครูได้สร้างไว้ (ไฟล์งานตรง งานของคุณ) ระบบจะเปลี่ยนไปที่หน้า Google Docs เพื่อให้นักเรียนทำงานนั้น โดยในหน้า Docs จะมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้

1. หัวข้องานที่ครูได้สร้าง

2. แถบเครื่องมือสำหรับปรับแต่งข้อความ

3. พื้นที่สำหรับทำงานที่ได้รับมอบหมายมา

4. เมื่อทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว คลิก ส่ง เพื่อกดส่งงาน (จะมีให้ยืนยันอีกครั้งว่าต้องการส่งงานคุณไหม? จากนั้นคลิกส่ง)

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

การยกเลิกส่งงาน (มุมมองของนักเรียน)

หลังจากที่นักเรียนได้กดส่งงานไปแล้วแต่ต้องการกลับเข้าไปแก้ไขอีก สามารถทำการยกเลิกส่งงานได้ดังนี้

1. คลิกที่หัวข้อของงานที่ได้รับมอบหมายในหน้าสตรีม

2. เมื่อเข้าสู่หน้าจัดการงานที่ได้รับมอบหมาย ให้คลิกตรง ยกเลิกการส่ง (ทางขวามือ)

3. ระบบจะถามเพื่อยืนยันอีกครั้งว่า ต้องการยกเลิกการส่งงานไหม? ให้คลิก ยกเลิกการส่ง (และอย่าลืมกลับมาส่งงานอีกครั้งหลังจากที่ได้แก้ไขเสร็จแล้ว)

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร


ส่วนที่ 5 : การตรวจงานและให้คะแนน

ขั้นตอนการตรวจงาน

มาถึงอีกขั้นตอนสำคัญของครูผู้สอนนั่นก็คือขั้นตอนการตรวจงานบน Google Classroom มีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกดูงานที่ได้มอบหมายผ่านหน้าสตรีม หรือเข้าที่หน้างานของชั้นเรียน คลิกเลือกงานที่ต้องการตรวจ

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

2. เมื่อคลิกเข้ามาที่หน้างานของนักเรียน จะแสดงรายการงานที่ได้มอบหมายและงานที่นักเรียนได้ส่งแล้ว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  1. ชื่อของงานที่คุณได้มอบหมายให้นักเรียน
  2. ส่วนของการแสดงสถานะงานของนักเรียน ว่ามีจำนวนคนที่ส่งงานแล้วกี่คนและยังไม่ส่งอีกกี่คน
  3. ไฟล์งานของนักเรียนที่คุณได้สำเนาให้นักเรียนแต่ละคน สำหรับเอกสารของนักเรียนที่ส่งแล้วจะถูกระบุว่า ส่งแล้ว (เอกสารทั้งหมดจะอยู่ใน Google Drive ทั้งหมด)

การตรวจงานให้คลิกที่ไฟล์งานของนักเรียนที่คุณต้องการตรวจ

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

3. หน้าการตรวจงาน จะขึ้นอยู่กับประเภทของงานที่คุณได้มอบหมายไปตอนสร้างงาน ถ้าคุณสร้างโดยการสำเนาไฟล์ด้วย Google Docs, Google Sheet หรือ Google Form การตรวจงานก็จะต้องไปตรวจในแอปตามประเภทของงานที่คุณสร้างไว้ในตอนต้น ซึ่งลักษณะการใช้งานโดยรวมจะใกล้เคียงกัน (ในตัวอย่างผมสร้างงานโดยการสำเนาเอกสารผ่าน Google Docs ตามหัวข้อการมอบหมายงานที่ได้อธิบายไปแล้ว)

องค์ประกอบของหน้าการตรวจงานมีดังนี้

  1. ชื่อของงานที่คุณได้มอบหมายให้นักเรียน
  2. ชื่อของนักเรียน (เจ้าของงาน)
  3. เนื้อหาของงานที่นักเรียนได้ทำ
  4. เครื่องมือสำหรับแสดงความคิดเห็นต่องาน (เมื่อคุณพิมพ์แสดงความคิดเห็นจะแสดงเป็นสีเขียว เพื่อแยกระหว่างเนื้อหาของนักเรียนกับความคิดเห็นของครู)
  5. ดูประวัติ จะแสดงประวัติการส่งงานของนักเรียน ตั้งแต่วันที่ได้มอบหมายงานจนถึงวันที่คุณได้ตรวจงาน
  6. ช่องสำหรับให้คะแนนหรือให้เกรด
  7. เพิ่มความคิดเห็นส่วนตัวไปยังนักเรียน
  8. ส่งคืน เป็นการส่งงานคืนนักเรียนพร้อมคะแนนหรือเกรด และความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจากครู

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

การรวบรวมคะแนนและการออกเกรด

หลังจากที่คุณได้ให้คะแนนสำหรับงานของนักเรียนแต่ละคนแล้ว ระบบของ Google Classroom จะแสดงให้ทราบว่าคุณได้ตรวจงานของนักเรียนคนใดไปแล้วบ้าง และงานของนักเรียนคนใดยังไม่ได้ตรวจบ้าง เมื่อจบปีการศึกษาคุณยังสามารถคำนวนคะแนนและให้เกรดแก่นักเรียนแต่ละคนได้ด้วย ดังนี้

1. เข้าไปที่ https://classroom.google.com/ แล้วคลิกตรงงานที่คุณได้สร้างไว้ในหน้าสตรีม

2. เมื่อเข้าสู่หน้างานของนักเรียน ให้คุณคลิกที่สัญลักษณ์เฟืองบริเวณมุมบนขวามือ จะมีให้เลือกการส่งคะแนนออก 3 แบบคือ

  • แบบที่ 1 Copy all grades to Google Sheets คือ การคัดลอกข้อมูลการให้คะแนน
    ทั้งหมดไว้ใน Google Sheets
  • แบบที่ 2 Download all grades as CSV คือ การส่งออกข้อมูลการให้คะแนนทั้งหมด
    ทุกกิจกรรมให้เป็นไฟล์ CSV ที่สามารถเปิดใน Microsoft Excel ได้
  • แบบที่ 3 Download these grades as CSV คือ การส่งออกข้อมูลการให้คะแนนของ
    กิจกรรมนั้น ๆให้เป็นไฟล์ CSV ที่สามารถเปิดใน Microsoft Excel ได้

ในขั้นตอนนี้แนะนำให้ใช้วิธีคัดลอกคะแนนไปที่ Google Sheets เพื่อความสะดวกในการทำงานเป็นเครือข่ายเดียวกัน และไฟล์คะแนนจะถูกเซฟไว้ที่ Google Drive ของคุณทันทีด้วย ทำให้ง่ายต่อการจัดการและการแชร์สู่ชั้นเรียนของคุณเอง

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

3. เมื่อคลิกคัดลอกคะแนนทั้งหมดไปที่ Google Sheets ระบบจะส่งผลคะแนนของชั้นเรียนออกไปที่ Google Sheets ประกอบด้วย

  • ชื่อของชั้นเรียน
  • รายละเอียดของนักเรียนแต่ละคน ชื่อ – นามสกุล และอีเมล
  • คะแนนแต่ละงานที่คุณได้มอบหมาย และคะแนนที่นักเรียนแต่ละคนได้รับ
  • คะแนนเฉลี่ยรวม จะแสดงออกมาเป็น %

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

ตัวอย่างการส่งคะแนนออกไป (Export) แบบที่ 1

การใช้ Google Classroom เพื่อจัดการงานทั้งหมดตลอดปีการศึกษา นอกจากจะช่วยให้คุณบริหารจัดการงานในชั้นเรียนได้สะดวกมากยิ่งขึ้นแล้ว ตอนปลายภาคเรียนคุณยังสามารถออกเกรดให้แก่นักเรียนเพียงกด 3 คลิกเท่านั้น

 

งานที่ส่งคืนแล้ว (มุมมองของนักเรียน)

เมื่อนักเรียนเข้าสู่หน้ารายละเอียดงานที่ได้รับมอบหมายหลังจากที่ครูส่งคืนงานมาให้แล้ว จะมีรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงไปดังนี้

1. ระบบจะแสดงผลคะแนนที่ได้รับจากครูผู้สอน

2. นักเรียนสามารถคลิกเข้าไปที่ไฟล์งานที่ได้ส่งคืนมา เพื่อดูรายละเอียดและข้อเสนอแนะจากครูผู้สอน

  • เมื่อครูได้แสดงความคิดเห็นจะแสดงผลเป็นข้อความสีที่แตกต่างออกไป อาจมาพร้อมความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆในกล่องข้อความ (ทางขวามือ) นักเรียนสามารถแก้ไขเพื่อส่งงานซ้ำอีกรอบได้ (ตามเงื่อนไขที่ครูได้ตกลงกับนักเรียน)

3. ถ้านักเรียนแก้ไขงานเรียบร้อยแล้ว ให้คลิก ส่ง เพื่อเป็นการส่งงานให้ครูตรวจซ้ำอีกครั้ง

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร


ส่วนที่ 6 : การใช้โพสต์ซ้ำสำหรับชั้นเรียนอื่น (Reusing Posts)

การใช้โพสต์ซ้ำ จะใช้ในกรณีที่คุณได้สร้างประกาศในสตรีมหรือมีการสร้างงานของชั้นเรียนเอาไว้แล้ว และคุณต้องการนำโพสต์นั้นกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ใช้ได้ 2 แบบดังนี้

การเพิ่มสื่อการสอน โดยการใช้โพสต์ซ้ำ

มีขั้นตอนดังนี้

1. เข้าหน้าชั้นเรียนที่ต้องการ คลิก สัญลักษณ์ลูกศรหมุนซ้ำ ที่หัวข้อประกาศบางสิ่งในชั้นเรียน

2. หากคุณมีหลายชั้นเรียน ให้เลือกชั้นเรียนที่เคยสร้างประกาศนั้นเอาไว้แล้ว

3. เลือกงานที่ต้องการใช้โพสต์ซ้ำ (ในตัวอย่างผมเคยโพสต์ไว้เพียง 1 ครั้ง) คลิก ใช้ซ้ำ

4. ระบบจะนำโพสต์ที่คุณเลือกมาให้แก้ไข คุณสามารถแก้ไขข้อความของประกาศ เปลี่ยนหรือเพิ่มสื่อการสอนอีกได้ คลิก โพสต์

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

สร้างงานของชั้นเรียน โดยการใช้โพสต์ซ้ำ

มีขั้นตอนดังนี้

1. เข้าสู่หน้างานของชั้นเรียน

2. คลิก + สร้าง และเลือก ใช้โพสต์ซ้ำ

3. เลือกชั้นเรียนที่ต้องการนำโพสต์นั้นกลับมาใช้โพสต์ซ้ำ

4. เลือกโพสต์ที่ต้องการนำกลับมาใช้โพสต์ซ้ำ คลิก ใช้ซ้ำ

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

5. เมื่อคุณคลิกโพสต์จะเข้าสู่หน้าการสร้างงานเพื่อจะมอบหมายงาน ซึ่งมีรูปแบบเหมือนกับการสร้างงานใหม่ทุกประการ เมื่อคุณทำการแก้ไขให้เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับชั้นเรียนที่คุณต้องการแล้ว คลิก มอบหมาย 

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร


ส่วนที่ 7 : การใช้งาน Google Classroom บนโทรศัพท์และแท็บเล็ต

ก่อนอื่นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Google Classroom ลงเครื่องก่อน สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ครับ

สำหรับไอโฟน และไอแพต : Google Classroom

สำหรับโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตระบบแอนดรอย : Google Classroom

Google Classroom มีความสําคัญอย่างไร

สรุป

Google Classroom เป็นแอปพลิเคชั่นเดียวที่ออกแบบมาเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ เป็นเครื่องมือช่วยให้ครูและนักเรียนสามารถสื่อสาร ทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และช่วยลดการใช้กระดาษ ซึ่งนอกจากจะช่วยโลกยังช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องเอกสารได้เป็นอย่างมาก

แต่เราก็หวังว่าครูและนักเรียนจะได้กลับมาใช้ชีวิตการเรียนการสอนแบบปกติในเร็ววัน เพราะการเรียนออนไลน์เพียงอย่างเดียว อาจจะเป็นเรื่องที่สะดวกก็จริง แต่การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพที่สุดควรได้มีการพบปะพูดคุยกันจริง ๆระหว่างผู้เรียนผู้สอนในห้องเรียนที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย

อย่างไรก็ตาม What should I do? ตั้งใจทำบทความนี้เพื่อหวังว่าจะช่วยให้ระบบการศึกษาของเรา สามารถนำเทคโนโลยีที่มีมาส่งเสริมการศึกษาไทยให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ 🙂

Google Classroom คืออะไร * คำตอบของคุณ

Google Classroom คือ บริการบนเว็บฟรี สำหรับสถานศึกษา องค์กรการกุศล และทุกคนที่มีบัญชี Google ส่วนบุคคล และ Classroom ยังช่วยให้ผู้เรียนและผู้สอนเชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย ทั้งภายในและภายนอก โรงเรียน (ปัจจุบันผู้ที่มีบัญชีของ Google และ Google Education ([email protected]) ล้วนสามารถใช้ บริการ Google Classroom ได้)

การนํา Google Classroom ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างไรบ้าง

Google Classroom ทำอะไรได้้บ้าง.
เพิ่มผู้เรียน หรือแจ้งรหัสเพื่อให้ผู้เรียนเข้าชั้นเรียนได้.
สร้าง ตรวจ และให้คะแนนงาน.
ตรวจสอบกำหนดการส่งงาน สถานะการส่งงานและคะแนน.
เนื้อหาที่อยู่ในชั้นเรียนจะถูกจัดเก็บอยู่ใน Google Drive..
ส่งประกาศ แชร์แหล่งข้อมูล พูดคุยหรือตอบคำถามตามหัวข้อที่ผู้สอนกำหนดให้.

Google Classroom มีข้อเสียอย่างไรบ้าง

1) ไม่มีแบบทดสอบและการทดสอบ 2) ไม่มีระบบติดต่อสื่อสารกับผู้เรียน หรือระหว่างครูด้วยกัน เช่น ห้องสนทนาออนไลน์ 3) ไม่มีรายการบันทึกกิจกรรมการเข้าใช้งานชั้นเรียนของผู้เรียน 4) ผู้ปกครองไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้Classroom ได้โดยตรง แต่ต้องรับอีเมลสรุปผ่านบัญชีอื่น 5) การใช้งาน Google Classroom หากเลือกเป็นครูผู้สอนหรือนักเรียน ...

เมนูหลักสำคัญของ Google Classroom มีกี่ส่วนอะไรบ้าง

หน้าจอการทำงานของ Google Classroom หมายเลข 1 : ชื่อรายวิชา หมายเลข 2 : ห้องเรียน หมายเลข 3 : เมนูการใช้งานของอาจารย์และนักศึกษา หมายเลข 4 : ส่วนสำหรับประกาศ และมอบหมายงาน หมายเลข 5 : การแจ้งเตือนงานใกล้หมดเวลา หมายเลข 6 : หัวข้อที่ใช้ในการเรียนการสอน หมายเลข 7 : การจัดการลักษณะหน้าตาของชั้นเรียน