การเสนอแบบอาคาร หรือ สิ่งก่อสร้างใดก็ตาม จำเป็นที่จะต้องมีแบบแปลน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้าใจแบบและก่อสร้างได้อย่างถูกต้อง แต่นอกจากแปลน รูปด้าน รูปตัดแล้ว ยังมีแบบอีกประเภทหนึ่งที่เรามักเห็นอยู่เป็นประจำ นั่นก็คือแบบ Axonometric views และแบบ Perspective view ทั้งแบบ Axonometric views และแบบ Perspective view ถือเป็นแบบส่วนประกอบ (ไม่ใช่แบบหลัก) เพื่อให้สามารถเข้าใจรูปแบบ รายละเอียดของอาคารหรือห้องนั้นๆ ได้ง่ายขึ้น โดยวัตถุประสงค์ของแบบทั้ง 2 นั้นอาจต่างกันเล็กน้อยดังนี้ Axonometric Drawingแอกโซโนเมตริก (Axonometric) คำว่าแอกซอน (Axon) มาจากคำว่า Axis ซึ่งแปลว่าแกนฉะนั้นภาพแอกโซโนเมตริจึงเป็นภาพสามมิติที่วัดจากแกนสามแกนมุมรวมกัน 360 องศา โดยมีแกนหลักทำมุมตั้งฉากกับแนวนอน ส่วนอีกสองแกนจะมีมุมเอียงลึกลงไปทั้งสองข้าง มีอยู่ 3 แบบดังนี้
เป็นภาพเขียนแบบสามมิติที่มีมุมรอบศูนย์กลางจำนวนสามแกน โดยทั้งสามแกนทำมุม 120 องศาเท่ากัน และแกนหลักต้องทำมุมตั้งฉากกับแนวนอน โดยมีสัดส่วนความกว้าง ความสูง และความลึกของภาพ Diametric Projection (ไดเมตริก) เป็นภาพเขียนแบบสามมิติที่มีมุมรอบศูนย์กลางจำนวนสามแกน โดยสองแกนมุมเท่ากัน ส่วนแกนที่สามทำมุมต่างออกไป และแกนหลักต้องทำมุมตั้งฉากกับแนวนอน โดยมีรูปแบบอัตราส่วนความกว้าง ความสูง และความลึกของภาพอยู่หลายรูปแบบ ดังแสดงในรูป
เป็นภาพเขียนแบบสามมิติที่มีมุมรอบศูนย์กลางจำนวนสามแกน โดยทั้งสามแกนทำมุมไม่เท่ากัน และแกนหลักต้องทำมุมตั้งฉากกับแนวนอน โดยมีสัดส่วนความกว้าง ความสูง และความลึกของภาพ
แต่ก็มีภาพอีกประเภทคือ Oblique (ออบลิค) เป็นภาพเขียนแบบที่ด้านหน้ามีลักษณะตั้งตรง ส่วนภาพด้านข้างและด้านบน จะเอียงลึกลงไปเพียงด้านเดียว โดยมีขนาดที่ขนานเท่ากันตลอด โดยทั่วไปจะเป็นมุมเอียง 45 องศา ภาพทั้งหมดนี้สามารถวัดระยะได้จากแบบเลย หากวาดออกมาตรงมาตราส่วน ต่างจากภาพทัศนียภาพ (Perspective) ที่ไม่สามารถวัดระยะได้ แต่จะไว้เพื่อแสดงบรรยากาศ วัสดุ แสง สี ได้ดีกว่า Axonometric Drawing WriterEkkarach Laksanasamrithสถาปนิกที่เชื่อว่า "ตัวหนังสือ" มีพลังพอๆกับ "สเปซ" และ "การเขียนหนังสือ" ก็ใช้สกิลไม่ต่างจาก "การเขียนแบบ" ใน AUTO Cad |