เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษตอนที่ 13

สาวคนหนึ่งกำลังอ้าปากให้ศตวรรษส่องคอให้อยู่ ศตวรรษลำบากใจมากเมื่อเธอเบียดหน้าอกเข้าสู้มาทางเขา แถมเพื่อนๆ สาวอีกสองคนก็ยังรอเอามือถือมาถ่ายรูปไปด้วยอีกต่างหาก ศตวรรษใช้ไฟฉายส่องคออย่างไม่วอกแวก ในขณะที่สาวๆ ก็แชะถ่ายรูปเขากันรัวๆ แอเซาะดี๊ด๊าเมื่อเห็นสาวๆ มากันตรึม

ปัง..... มาเรียมถีบประตูเปิดเข้ามา ทุกคนหันไปมองผงะ  เห็นมาเรียมท้องโย้อุ้มน้องสตางค์ ท่าทางประมาณผีเสื้อสมุทร

สาวๆ วี้ดว้าย “ว๊าย....  “

มาเรียมประชด “ตัวอะไรมาเกยตื้นอีกล่ะ”

แอเซาะรีบแก้ตัวทันที “คราวนี้เจ็บมาจริงๆ ก้างปลานกแก้วตำคอ  กำลังเขี่ยออกให้อยู่นี่ไงล่ะ”

“เขี่ยเหรอ?... มานี่...  ช่วยเขี่ยให้” มาเรียมถีบเก้าอี้กระเด็นเพราะตั้งใจขู่ให้สาวๆ เผ่นหนี สาวๆ พากันกระเจิง  ศตวรรษชินแล้วจึงไม่ตกใจเท่าไหร่ “เห็นหมอหล่อล่ะถ่อกันมาดู ไม่รู้เหรอว่าลูกเมียเขาก็มี” มาเรียมตั้งใจแอบอ้างเป็นเมียศตวรรษ  ทำท่าเป็นเจ้าของด้วยการอุ้มลูกไปยืนท้องโย้อยู่ข้างๆ “พี่วรรษจ๋า วันนี้ลูกดิ้นหนักมาก สงสัยจะคิดถึงพ่อนะ นี่นมก็คัดด้วยจ้ะ  พี่ช่วยดูให้ที”  มาเรียมทำท่าแอ่นอกจะควักนมออกมาให้ศตวรรษตรวจ ทำเอาสาวๆ อึ้ง  มาเรียมรีบตวาดไล่ “เอ๊า... จะมายืนขอส่วนบุญอะไรตรงนี้  ให้ลูกเขาได้อยู่กับพ่อมั่งเซ่ ส่วนชะนีกลับเข้าป่าไปนู่น” สาวๆ เผ่นแน่บลงไปข้างล่างทันที  แอเซาะมองตามอย่างเสียดาย มาเรียมหันมาจิกศตวรรษ “เปลืองตัวตลอด  รู้จักเอาตัวรอดบ้างไหมเนี่ย”

ศตวรรษเพลียกับมาเรียมจึงรีบไปอุ้มลูกมาไว้ “นุศล่ะ?”

“โกรธจนงอนหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ บอกให้พี่เอาลูกไปเลี้ยงเนี่ย... “

ศตวรรษได้ยินก็เป็นห่วงอนุศนิยามาก เขารีบโอ๋ลูกทันที “ไปง้อแม่นุศกันนะคะ” ศตวรรษอุ้มลูกลงไปตามอนุศนิยา

พอศตวรรษไปแล้ว  มาเรียมหันไปเอาเรื่องแอเซาะ “มานี่เลยไอ้หัวงู พามาแต่ละคน อยากจะเดี้ยงเองใช่ไหม”

“โอ๊ะๆๆ ... เบาจ้ะ...  เดี๋ยวลูกกำพร้า”

“ทีอย่างนี้มาสำออย เดี๋ยวเถอะ!!” มาเรียมยกมือจะตบ แอเซาะทรุดลงนั่งกลัวหงอ

 

ศตวรรษอุ้มลูกกล่อมจนหลับคาบ่าอยู่ที่กระท่อม แต่รอนานแล้วอนุศนิยาก็ยังไม่กลับมา ศตวรรษร้อนใจมากเพราะรู้ว่าอนุศนิยากำลังงอนอยู่ พอเห็นว่าลูกหลับแล้ว ศตวรรษก็รีบเอาวางในเปลที่ผูกไว้ แล้วเดินไปตามหาอนุศนิยา

 

ศตวรรษตามหาอนุศนิยาจนมาเจออนุศนิยามานั่งอยู่ที่ริมหาดไม่ไกลจากกระท่อมนัก อนุศนิยาหันไปเห็นศตวรรษเดินตามมาง้อก็ทำหน้าบึ้งไม่พอใจ

พียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ เป็นละครโทรทัศน์ไทย แนวโรแมนติกและดราม่า ดัดแปลงจากบทประพันธ์เรื่อง สามีเงินผ่อน ของกรุง ญ. ฉัตร โดยบทประพันธ์นี้ถูกสร้างเป็นละครมาแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2544 ผลิตโดยบริษัท ควิซแอนด์เควส จำกัด บทโทรทัศน์โดย ณัฐนันท์ วรรณพุฒ และ ศรีศิลป์ เปี่ยมทิพย์มนัส กำกับการแสดงโดย อานนท์ สุวรรณเครือ นำแสดงโดย พล ตัณฑเสถียร และ ศิริลักษณ์ ผ่องโชค โดยใช้ชื่อเดิมตามบทประพันธ์ ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2559 ในครั้งนี้ใช้ชื่อว่า เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ ผลิตโดยบริษัท ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล นำแสดงโดย เจมส์ มาร์, คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ, กมลเนตร เรืองศรี, ฐากูร การทิพย์ และ ชีรณัฐ ยูสานนท์

เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ เมื่อพูดถึงหญิงสาวเลอค่าในแวดวงไฮโซเมืองไทย ทุกคนจะต้องนึกถึงสองเซเลบริตี้ที่เฉิดฉายข่มรัศมีกันไม่ลง หนึ่งในนั้นคือ อนุศนิยา วรเลิศลักษณ์ ผู้เป็นทายาทมหาเศรษฐีรายใหญ่ของไทยที่กำลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งว่าที่นักธุรกิจหญิงผู้ทรงอิทธิพลในเจเนอเรชั่นใหม่ ถ้าอนุศนิยาสูงส่งเปรียบได้กับเจ้าหญิงบนหอคอยงาช้าง โสมมิกา พรรณราย ผู้เป็นทายาทพันล้านของผู้มีอิทธิพลชื่อดัง ก็ไม่ยอมน้อยหน้าไปกว่ากัน เธอฉีกตัวเองให้เป็นดาวดังในแวดวงเซเลบในฐานะคาสโนวี่ของเมืองไทย ที่ใคร ๆ ก็พากันตั้งฉายาให้แก่ความเซ็กซี่ ขี้เล่นของเธอว่าเป็นปารีส ฮิลตันของเมืองไทยนั่นเอง ทั้งอนุศนิยาและโสมมิกาต่างเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันตั้งแต่อนุบาลยันมหาวิทยาลัย แม้จะไม่มีอะไรเหมือนกันแต่ทั้งคู่ก็ถูกมองเป็นคู่แข่งกันอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อไม่สามารถเปรียบได้ว่าใครเหนือกว่าใคร คำตอบสุดท้ายก็คงจะต้องตัดเชือกกันที่ผู้ชายที่สองสาวจะเลือกเป็นคู่ครองนั่นเอง ....แม้ว่าใคร ๆ จะมองสองสาวด้วยความอิจฉา แต่ดูเหมือนทั้งสองสาวจะรู้สึกว่าความร่ำรวยของเธอเหมือนจะเป็นคำสาปมากกว่า เพราะเงินและความร่ำรวยทำให้ทั้งคู่ห่างไกลจากคำว่า “รักแท้”