เผยแพร่ 18 เม.ย. 2559 ,11:41น. เหตุครูสาว วีนแตก! จนท.สนามบินเชียงใหม่ พร้อมเหยียดหยามดูถูก เพราะห้ามนำโลชั่นขึ้นเครื่อง จนเป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์ ล่าสุดถูกแจ้งความลงบันทึกประจำวันแล้ว วันนี้ (18 เม.ย. 59) ทีมนิวมีเดีย PPTV ได้ตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าว จากคลิปครูสาววีนเจ้าหน้าที่สนามบินเชียงใหม่ที่แชร์กันในโลกโซเชียล ซึ่งระบุว่าเกิดเหตุในวันที่ 14 เม.ย.59 นั้น พบว่า ในคลิปคุณครูสาวได้โวยวายเจ้าหน้าที่สนามบินเชียงใหม่พร้อมระบุว่า โลชั่นแค่ 200 มิลลิลิตรใช้ไปแล้วครึ่งขวดไม่ให้ไปเป็นเพราะอะไร นี่แค่บินในประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามชี้แจง แต่ผู้โดยสารก็ยังใช้คำหยาบคายด่าทอเจ้าหน้าที่ด้วยคำหยาบคาย จากการสอบถามไปยัง นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่และได้แจ้งความบันทึกประจำวันไว้แล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของกฎหมาย ทั้งนี้ จากข้อมูลมาตรการเรื่องของเหลวและการตรวจค้น ในเว็บไซต์ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ระบุว่า ของเหลว เจล สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่น ๆ กรณีเป็นของส่วนตัว หากต้องการนำติดตัวขึ้นเครื่อบินต้องบรรจุในภาชนะที่จุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร (กรณีภาชนะความจุเกิน 100 มิลลิลิตร ของเหลวที่บรรจุอยู่แม้จะไม่เกิน 100 มิลลิลิตร ก็ไม่อนุญาตให้นำขึ้นไปในห้องโดยสารอากาศยาน) สำหรับการเดินทางโดยสารด้วยเครื่องบิน มีกฎระเบียบในการใช้บริการ ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 1. ห้ามนำของเหลวถือขึ้นเครื่องเกินชิ้นละ 100 มิลลิลิตร หากมีความจำเป็นต้องนำของเหลวติดตัวไปด้วยเช่นพวกแชมพู สบู่เหลว ให้ใช้วิธีแบ่งใส่ขวดเล็กๆ หรือถุงใสที่มีปริมาตรไม่เกิน 100 ml โดยวิธีนี้เราสามารถนำของเหลวติดตัวรวมกันแล้วไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร ขนาดของของเหลวจะยึดจากฉลากบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก เช่น ครีม ที่ฉลากติดไว้ว่า 120มิลลิลิตร ถึงแม้ว่าจะใช้ไปแล้วครึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ แต่ในกรณีของเหลวโหลดเป็นสัมภาระใต้ท้องเครื่องจะไม่จำกัดปริมาณ 2. ห้ามนำของมีคม วัตถุไวไฟ อาวุธ ถือขึ้นเครื่อง เช่นกรรไกร มีด คัทเตอร์ ดอกไม้ไฟ ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจเจอจะต้องถูกทิ้งขยะ 3.นำสัตว์เลี้ยงเดินทางออกนอกประเทศต้องปฎิบัติตามกฎของการท่าอากาศยาน เเละเเจ้งต่อสำนักงานการเดินทาง โดยมีสัตว์เลี้ยง ซึ่งจะเป็นผู้ดูเเลเเนะนำในเรื่องข้อบังคับต่างๆ ขั้นตอนการส่งสัตว์เลี้ยง (สุนัข แมว นก ฯลฯ) ออกนอกประเทศ 4.เด็กที่ไม่มีผู้ปกครองร่วมเดินทางด้วย สามารถเดินทางเข้าประเทศ ออกนอกประเทศ เเละเปลี่ยนเที่ยวบินในประเทศไทย ผู้ปกครองต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเพราะทางสายการบินจำกัดจำนวนเด็กไว้ด้วย คือมีอายุระหว่าง 8-11 ปี และรับเพียง 1 คน เท่านั้น ส่วน 5-7 ได้ไม่เกิน 6 คน ถ้ามี อายุระหว่าง 8-11 ปี สามารถรับได้ไม่เกิน 30 คน ต่อหนึ่งเที่ยวบิน ข้อมูลจาก airportthai.co.th อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป ประกาศเรื่อง “หลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยาน หรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ พ.ศ. 2562” จะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในฐานะผู้ออกกฎดังกล่าว จึงต้องออกมาย้ำชัดๆ อีกครั้งว่า สรุปแล้วของเหลวประเภทไหนพกขึ้นเครื่องได้บ้าง
และต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบไหนจึงถูกต้อง ไม่โดนตีตกลงถังขยะ ก่อนจะได้ออกเดินทาง สำหรับนิยามคำว่าของเหลว เจล สเปรย์ (Liquids,Aerosols ang Gel ; LAGs) ตามประกาศใหม่ของ กพท. ก็คือของเหลวในรูปแบบต่างๆ เช่น น้ำ เครื่องดื่ม หรือ “อาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก” อย่างซุป น้ำเชื่อม แยม น้ำจิ้ม น้ำพริก ตลอดจน “เครื่องสำอาง” ครีม โลชั่น เจลใส่ผม สเปรย์ น้ำหอม รวมถึง “วัตถุหรือสารที่มีส่วนผสมทั้งของแข็งและของเหลว” เช่น มาสค่าร่า ลิปสติก ยาหม่อง ใครจะนำของเหลวขึ้นเครื่องต้องจำ 3 ข้อ!
ทั้งนี้ กพท. แนะนำว่า ผู้โดยสารควรนำบรรจุภัณฑ์ที่มีของเหลวทุกชิ้นใส่ในถุงพลาสติกใส ที่มีปริมาตรความจุของถุงไม่เกิน 1 ลิตร หรือ 1,000 มิลลิลิตร โดยขนาดถุงนั้นต้องไม่เกิน 20 เซนติเมตร × 20 เซนติเมตร และนำไปได้คนละ 1 ถุง ก่อนเข้าจุดตรวจค้นสัมภาระในสนามบิน ผู้โดยสารควรแยกบรรจุภัณฑ์หรือถุงพลาสติกใสที่มีบรรจุของเหลว ออกจากสัมภาระติดตัวอื่น เพื่อแสดงให้พนักงานตรวจค้นได้ง่าย ส่วนบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาตรของเหลวเกินกว่าที่กำหนด บรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีข้อความบอกปริมาตร รวมถึง “อาหารท้องถิ่นหรืออาหารพื้นเมือง” ที่มีของเหลวเป็นส่วนผสมในปริมาณมากกว่า 100 มิลลิลิตร ต้องลงทะเบียน โหลดลงใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีของเหลวบางประเภทที่ได้รับการยกเว้น ไม่ถูกจำกัดปริมาณ ได้แก่ ยา ที่มีใบรับรองแพทย์ ฉลาก หรือเอกสารกำกับยาที่ระบุชื่อผู้โดยสารที่จำเป็นต้องใช้ยานั้น ยกเว้นแต่เป็นยาสามัญประจำบ้าน, อาหารหรือนมสำหรับเด็กทารก และ อาหารที่ต้องพกพาตามข้อกำหนดทางการแพทย์หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางโภชนาการ แต่ทั้งหมดก็ต้องมีปริมาณเหมาะสมกับระยะเวลาการเดินทางในแต่ละเที่ยวบินด้วย ส่วนขาช้อปต้องฟังทางนี้! สำหรับของเหลวที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากร (Duty Free Shop) จะต้องบรรจุไว้ในถุงพลาสติกที่สามารถบ่งชี้ร่องรอยการแกะหรือการเปิดปากถุง (Security Tampered-Evident Bags : STEBs) ซึ่งมีหลักฐานแสดงว่า ผู้โดยสารซื้อในวันที่เดินทาง และไม่มีร่องรอยการแกะหรือเปิดปากถุง ในกรณีที่ผู้โดยสารแวะพักหรือเปลี่ยนเครื่องบิน (Transfer and Transit) ระหว่างการเดินทาง ผู้โดยสารก็ควรตรวจสอบข้อมูลเรื่องหลักเกณฑ์การนำของเหลวขึ้นเครื่องบินจากร้านดิวตี้ฟรีภายในสนามบินที่แวะพักและสนามบินปลายทางทุกครั้ง เพื่อจะได้ช้อปปิ้งและเดินทางได้อย่างสบายใจในทุกๆ ทริป |