ของเหลวขึ้นเครื่องบิน 2565

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ปล่อยคลื่นวิทยุ (รวมถึงโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป และเครื่องเล่นเกมอิเล็กทรอนิกส์) ไม่อนุญาตให้ใช้สำหรับการสื่อสารตั้งแต่เวลาปิดประตูก่อนออกเดินทาง จนถึงเวลาที่เครื่องบินมาถึงประตูปลายทาง

โปรดตั้งค่าอุปกรณ์ของท่านให้อยู่ในโหมดเครื่องบิน (บางครั้งเรียกว่าโหมดสแตนด์อะโลน โหมดออฟไลน์ หรือโหมดเครื่องบิน) ซึ่งจะปิดกั้นการส่งและรับคลื่นวิทยุสำหรับการทำงานที่รวมถึงการโทร อีเมล ข้อความตัวอักษร และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะประกาศให้ผู้โดยสารทราบว่าเมื่อใดสามารถและไม่สามารถใช้สิ่งของเหล่านี้ได้

โทรศัพท์ที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น โทรศัพท์มือถือสำหรับเด็ก

โทรศัพท์บางเครื่องจะเปิดเป็นระยะๆ เพื่อส่งตำแหน่งแม้ว่าจะปิดเครื่องแล้วก็ตาม โปรดปิดเครื่องให้สนิทเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องจะไม่รบกวนการทำงานของเครื่องบิน

ประกาศนี้ให้ยกเลิกประกาศกรมการขนส่งทางอากาศ เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับการนำของเหลว เจล สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่นๆซึ่งมีลักษณะคล้ายดลึงกันขึ้นในห้องโดยสารอากาศยาน  ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

ให้ใช้นิยามใหม่แทน ดังนี้

"ของเหลว เจล สเปรย์" หมายความรวมถึง ของเหลวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น น้ำ เครื่องดื่ม ซุป น้ำเชื่อม แยม สตูว์ ซอส น้ำพริก หรืออาหารอย่างอื่นที่อยู่ในซอส หรือที่มีส่วนประกอบเป็นของเหลวในปริมาณมาก ตลอดจนครีม โลชั่น เครื่องสำอาง น้ำมัน น้ำหอม หรือเจลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ยา ยาสีฟัน อาหาร ยาสระผม เจลอาบน้ำ หรือวัตถุหรือสารที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่มีแรงตันและต้องฉีดพ่นเพื่อนำออกมาใช้ เช่น สเปรย์ โฟม รวมถึงวัตถุหรือสารที่มีส่วนผสมของของแข็งและของเหลว เช่น มาสคารา สิปสติกหรือลิปบาล์ม

ข้อ 5 ให้ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำขึ้นยนห้องโดยสารอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศนี้

ข้อ 6 ของเหลว เจล สเปรย์ที่ผู้โดยสารจะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามนินสาธารณะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ของเหลว เจล สเปรย์ แต่ละชิ้นต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและมีปริมาตรไม่เกิน 100 มิลลิลิตร หรือในหน่วยวัดปริมาตรอย่างอื่นที่เท่ากัน

(2) บรรจุภัณฑ์ที่จะใช้บรรจุของเหลว เจล สเปรย์ ตาม (1) ต้องมีปริมาตรที่รองรับของเหลว เจล สเปรย์ได้ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องมีข้อความระบุปริมาตรของบรรจุภัณฑ์ ไม่ว่าบรรจุภัณฑ์นั้นจะบรรจุของเหลว เจล สเปรย์ไว้เพียงบางส่วนก็ตาม

(3) ผู้โดยสารสามารถนำของเหลว เจล สเปรย์ ตาม (1) ขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะได้มากกว่า 1 ชิ้น แต่ต้องมีปริมาตรรวมกันสูงสุดไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร

ในกรณีตาม (3) ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะอาจกำหนดมาตรการเพิ่มเติม ให้ผู้โดยสารนำของเหลว เจล สเปรย์ใส่รวมในถุงพลาสติกใสที่สามารถปิดผนึกได้ (Transparent Re-Sealable Plastic Bag) หรือในบรรจุภัณฑ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน และต้องปีดผนึกปากถุงให้เรียบร้อย โดยให้สามารถนำไปได้คนละ 1 ถุง โดยไม่นับรวมอยู่ในจำนวนสัมภาระติดตัวที่ผู้ดำเนินการเดินอากาศแต่ละรายอนุญาตให้นำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยานได้

ข้อ 7 ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะต้องกำหนดมาตรการตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะตามข้อ 6 โดยแยกบรรจุภัณฑ์หรือถุงพลาสติกใสออกจากสัมภาระติดตัวอื่น ๆ ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ เพื่อให้พนักงานตรวจค้นทำการตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ ณ บริเวณจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Security Screening Point) เป็นการเฉพาะแยกต่างหากจากสัมภาระติดตัวอย่างอื่น เว้นแต่มีอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจค้น เช่น X-ray Screening หรือวิธีการอื่นใดที่สามารถตรวจพบของเหลว เจล สเปรย์ ได้

ข้อ 8 ความในข้อ 6 ไม่นำมาใช้บังคับในกรณีดังต่อไปนี้

(1) ของเหลว เจล สเปรย์ ประเภทยาให้มีใบรับรองแพทย์ ฉลาก หรือเอกสารกำกับยาที่ระบุชื่อผู้โดยสารซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ยานั้น เว้นแต่เป็นยาสามัญประจำบ้านตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงอาหารหรือนมสำหรับเด็กทารก อาหารที่ต้องพกพาตามข้อกำหนดทางการแพทย์หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางโภชนาการในปริมาณที่เหมาะสมกับระยะเวลาการเดินทางในแต่ละเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารต้องแสดงให้พนักงานตรวจค้น ณ บริเวณจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Security Screening Point) เพื่อทำการตรวจสอบ

(2) ของเหลว เจล สเปรย์ ที่ผู้ประจำหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานบนห้องโดยสารอากาสยานจะนำขึ้นอากาศยาน หรือที่บุคคลนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะนำไปใช้ส่วนตัวในปริมาณเท่าที่จำเป็น ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่และเหมาะสมกับระยะเวลาการปฏิบัติงานจริง (Operating Hours) ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวต้องแสดงให้พนักงานตรวจค้น ณ บริเวณจุดตรวจคันเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Security Screening Point) เพื่อทำการตรวจสอบ

(3) ของเหลว เจล สเปรย์ ที่ผู้ปฏิบัติงานในสนามบิน ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเขตหวงห้ามหรือผู้ปฏิบัติงานในกรณีฉุกเฉินนำเข้าไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวต้องแสดงให้พนักงานตรวจค้น ณ บริเวณจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Security Screening Point) เพื่อทำการตรวจสอบ

(4) ของเหลว เจล สเปรย์ ซึ่งผู้โดยสารซื้อจากร้านค้าปลอดอากร (Duty Free Shop) ภายในสนามบินหรือบนห้องโดยสารอากาศยาน แต่จะต้องบรรจุไว้ในถุงพลาสติกที่สามารถบ่งชี้ร่องรอยการแกะหรือการเปิดปากถุง (Security Tampered-Evident Bags : STEBs) โดยต้องปิดผนึก (Sealed) เรียบร้อยและไม่มีร่องรอยการแกะหรือการเปิดปากถุงหลังจากซื้อ และมีหลักฐานแสดงว่าได้ซื้อในวันที่ผู้โดยสารเดินทาง ทั้งนี้ ผู้โดยสารเปลี่ยนลำ (Transfer Passenger) หรือผู้โดยสารผ่าน (Transit Passenger) ต้องแสดงให้พนักงานตรวจค้น ณ บริเวณจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Security Screening Point เพื่อทำการตรวจสอบ

เพื่อประโยชน์ของผู้โดยสาร ก่อนซื้อสินค้าปลอดอากร ผู้โดยสารต้องตรวจสอบข้อมูลจากร้านค้าปลอดอากรภายในสนามบินหรือบนห้องโดยสารอากาศยานเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การปฏิบัติต่อของเหลว เจล สเปรย์ ณ สนามบินปลายทางของการเดินทางและสนามบินทุกแห่งที่ผู้โดยสารต้องลงจากอากาศยานเพื่อแวะพักหรือเปลี่ยนลำอากาศยาน

ข้อ 9 ของที่มีส่วนประกอบเป็นของเหลว เจล สเปรย์ในปริมาณมากที่ผู้โดยสารนำติดตัวมาเป็นสัมภาระหรือซื้อมาจากร้านค้าภายนอกสนามบินหรือร้านค้าภายในสนามบินก่นเข้าจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Security Screening Point) ผู้โดยสารต้องส่งมอบให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศเพื่อจัดเก็บเป็นสัมภาระลงทะเบียนเท่านั้น

ข้อ 10 ภายใต้การประเมินความเสี่ยงด้านการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนของผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะอาจปรับเพิ่มความเข้มงวดของหลักเกณฑ์และวิธีการตามข้อ 6 ข้อ 7 หรือข้อ 8 ให้สอดคล้องกับระดับภัยคุกคามได้

ข้อ 11 ให้ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะจัดให้มีการประชาสัมพันธ์การนำของเหลว เจล สเปรย์ขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยานหรือเข้าเขตพื้นที่หวงห้ามของสนามบินสาธารณะ ให้กับผู้โดยสาร ผู้ประจำหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานบนห้องโดยสารอากาศยาน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสนามบิน ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเขตพื้นที่หวงห้าม รวมถึงบุคคลใด ๆ ทราบ ณ บริเวณที่เห็นได้ชัดเจนภายในอาคารผู้โดยสาร เช่น จุดแสดงตนเพื่อรับบัตรโดยสาร จุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งช่องทางอื่นใดเพื่อให้ทราบล่วงหน้าก่อนเข้าพื้นที่หวงห้ามของสนามบินสาธารณะ