มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประวัติย่อ

ประวัติของ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง facebook

ประวัติของ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง
facebook


Mark
Zuckerberg มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก(มาร์ก สากกระเบือ) แฮ็กเกอร์หนุ่มจากฮาร์วาร์ด
ผู้ก่อตั้ง Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่สุดของโลก
จนโด่งดังเปรี้ยงปร้างไปทั่ว และได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารไทม์ให้เป็นบุคคลที่
ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ประจำปี 2008 ขณะอายุเพียง 23 ปี
โดยปัจจุบันมีผู้ใช้เฟซบุ๊กมากกว่า 400 ล้านคน นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อ 6
ปีก่อน วันที่ 4 ก.พ. ปี 2004

ย้อนกลับไปในวัยเด็ก
“มาร์ค” มีชีวิตแสนจะธรรมดา เขาเกิดในครอบครัวอเมริกันเชื้อสายยิว เมื่อวันที่ 14
พ.ค. ปี 1984 โตมาในย่าน ดอบส์ เฟอร์รี รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
มีพ่อเป็นหมอฟันและนักจิตวิทยา ชีวิตวัยเด็กของเขาค่อนข้างจะสุขสบาย
ไม่เคยผ่านความลำบากยากจน เขามีพี่น้อง 4 คน ทว่า เป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน
เป็นเด็กเรียนเก่งออกแนวเนิร์ดๆ ชอบขลุกอยู่แต่ในห้อง

ไอเดียสำคัญที่จุดประกายให้นักศึกษาวิชาคอมพิวเตอร์
วัย 20 ปีคนนี้ ลุกขึ้นทำเฟซบุ๊กเกิดจากความหมกมุ่นอยู่กับเรื่องคอม พิวเตอร์
และการเขียนโปรแกรม จนค้นพบปัญหาว่ามหาวิทยาลัยระดับโลกอย่างฮาร์วาร์ดไม
่มีระบบหนังสือรุ่นทางออนไลน์ เขาจึงนำไอเดียไปเสนอเพื่อขอจัดทำ
แต่กลับถูกมหาวิทยาลัยปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่มีนโยบายให้นักศึกษาเข้าถึงข้อมูลดังกล่
าว

กระนั้น
ด้วยความคันไม้คันมือ และอยากเอาชนะ
เขาจึงสวมวิญญาณแฮ็กเกอร์เจาะเข้าไปในระบบทะเบียนประ วัตินักศึกษาของฮาร์วาร์ด
ดึงรูปนักศึกษาและประวัติส่วนตัวจากฐานข้อมูลมหาวิทย าลัยมาใส่ในเว็บไซต์ Facemash
พร้อมกันนี้ยังเชิญชวนเพื่อนๆนักศึกษาเล่นเกม Hot or Not โดยโพสต์รูป
นักศึกษาให้เพื่อนๆเข้ามาช่วยกันโหวตว่าใครฮอต หรือไม่ฮอต ผลตอบรับดีเกินคาด
เพราะภายในเวลาแค่ 4 ชั่วโมง มีนักศึกษาเข้ามาโหวตถึง 450 คน สร้างสถิติคลิกชม
22,000 ครั้ง แต่แทนที่จะได้รับเสียงชมจากอาจารย์
เขากลับถูกมหาวิทยาลัยลงโทษระงับการใช้อินเตอร์เน็ต

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาลุยต่
อเพื่อสร้าง Facebook โดยเขานั่งเขียนโปรแกรมอยู่ในหอพักมหาวิทยาลัย
และได้รับความช่วยเหลือจากรูมเมต “ดัสติน มาสโควิตซ์”
ซึ่งภายหลังได้กลายมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก
และรั้งตำแหน่งวีพีด้านเอนจิเนียริ่ง
แรกเริ่มเขาพยายามเชิญชวนเพื่อนๆนักศึกษาส่งรูปและข้
อมูลส่วนตัวเข้ามาโพสต์บนเว็บไซต์ ซึ่งมีคนส่งรูปเข้ามาถึง 500 รูป
ต่อมาได้พัฒนาโปรแกรมโดยสร้างเว็บเพจให้
เพื่อนร่วมชั้นสามารถส่งอีเมล์เข้ามาช่วยกันเขียนควา มคิดเห็น และเพิ่มเติม
ประวัติได้อย่างไม่จำกัด ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากเว็บไซต์
เพื่อสร้างสัมพันธ์ในหมู่นักศึกษาฮาร์วาร์ด
จึงขยายความฮิตฮอตไปยังมหาวิทยาลัยอื่นๆกว่า 30 สถาบัน

ชีวิตของเขาต้องมาถึงทางแยก
เมื่อเขากับเพื่อนๆชวนกันเดินทางไปดูลาดเลาที่พาโล อัลโต ซึ่งเป็นซิลิคอน วัลเลย์
ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อหาเงินลงทุนก่อตั้งบริษัท และพัฒนาเว็บไซต์ ตอนนั้น
พวกเขายังมีแผนจะกลับมาเรียนต่อในช่วงเปิดเทอม แต่ท้ายสุด
เมื่อได้รับไฟเขียวอนุมัติเงินลงทุนถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภาพของ “บิลล์ เกตส์”
ผู้สร้างตำนานลาออกจากฮาร์วาร์ด เพื่อมาสร้างไมโครซอฟท์ จึงผุดขึ้นตรงหน้า
ทำให้ตัดสินใจทิ้งปริญญา และบอกกับตัวเองว่า
ถ้าไมโครซอฟท์เจ๊งเมื่อไหร่…จะกลับไปเรียนฮาร์วาร์
ดทันที!!

ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thairath.co.th/column/oversea/around/70199

Share this:

  • Twitter
  • Facebook

Like this:

ถูกใจ กำลังโหลด...

 

ในงานสังสรรค์ในช่วงชั้นปีที่ 2 ซัคเคอร์เบิร์กพบกับพริสซิลลา ชาน ที่ต่อมาเป็นเพื่อนหญิงของเขา ในเดือนกันยายน 2010 ชานซึ่งศึกษาแพทย์ ได้ย้ายมาอยู่บ้านเช่าของซัคเคอร์เบิร์กในแพโลอัลโต

ซัคเคอร์เบิร์กสามารถมองเห็นสีฟ้าได้ดีที่สุด เพราะเขาเป็นโรคตาบอดสีซึ่งมองสีแดงและสีเขียวได้ไม่ชัดเจน นอกจากนี้สีฟ้ายังเป็นสีหลักในเว็บไซต์เฟซบุ๊กอีกด้วย

  

ประวัติ Mark Zuckerberg, เกิด 14 พฤษภาคม 1984 ณ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เขาเกิดในครอบครัวชั้นกลางที่ค่อนข้างมั่นคง โดยพ่อของเขาประกอบอาชีพส่วนตัวด้านทันตกรรม และแม่ของเขาประกอบอาชีพจิตแพทย์ ครอบครัวมีพี่น้อง 3 คนโดย Mark Zuckerberg เป็นคนโต

Mark Zuckerberg ฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 12 เขาใช้ ATARI Basic พัฒนาโปรแกรมรับส่งข้อความทางอินเตอร์เน็ตและตั้งชื่อว่า Zucknet และนำไปใช้กับกิจการทันตกรรมของที่บ้าน เพื่อให้ทีมงานภายในบริษัทสามารถสื่อสารผ่านข้อความโดยไม่ต้องคอยตะโกนเรียกกันแบบในอดีต

หลังจากนั้น Mark Zuckerberg ก็พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ออกมามากมายจนกระทั้งปี 2002 ณ มหาวิทยาลัย Havard เขาได้เขียนโปรแกรม CourseMatch เพื่อใช้ในการช่วยเสนอวิชาเรียนที่เหมาะกับนักศึกษาตามเงื่อนไขที่ป้อนลงระบบ ตามมาด้วย FaceMash ที่ดึงเอารูปนักศึกษาในระบบมาแสดงผลและให้เพื่อนสมาชิกทำการโหวตว่าใครมีเสน่ห์ที่สุด แต่โปรแกรมนี้ถูกทางมหาวิทยาลัยสั่งปิดในเวลาต่อมา

Mark Zuckerberg ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขานำประสบการณ์ของ FaceMash ไปพัฒนาต่อเป็น The Facebook และตัดให้เหลือ Facebook ในเวลา โดย Facebook เป็นโปรแกรมที่ให้คนทั่วไปเข้ามาสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวและอัพเดทสถานะต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ

ปี 2004, เขาตัดสินใจเลิกเรียนและออกมาพัฒนา Facebook เต็มเวลาโดยย้ายออกจากหอพักนักศึกษามาก่อตั้งสำนักงานที่ Palo Alto, California — ณ สิ้นปี 2004 Facebook มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านบัญชี ตามมาด้วยเงินทุนก้อนใหญ่จาก Venture capital นาม Accel ลงทุนให้เขาเป็นเงิน 12.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และปลายปี 2005 ผู้ใช้งาน Facebook ทะยานสู่ 5.5 ล้านบัญชี ก่อนที่ Mark Zuckerberg จะถูกเพื่อนเก่าฟ้องเรื่องขโมยไอเดียที่ต่อสู่ยาวนานมาถึงปี 2011

ปี 2012 Facebook เปิด IPO (Initial Public Offering) ในตลาดหุ้น ระดมทุนสูงเป็นประวัติกาลหากนับถึงปี 2012 ที่ 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนจะถูกทำลายสถิติจากการ IPO ของ Alibaba ในปี 2014 

นอกจากนั้น Facebook ยังซื้อกิจการ Instagram ในราคา 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีะเดียวกัน จากนั้นการเติบโตของ Facebook ก็พุ่งอย่างฉุดไม่อยู่

ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โมเดลรายได้ของ Facebook หลัก ๆ มาจากค่าโฆษณา Facebook Advert โดยรายได้รวมของ Facebook ปี 2017 อยู่ที่ประมาณ 40,654 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับปี 2016 ที่ 27,638 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โต 47% และโต 699% เมื่อปี 2017 กับเทียบกับปี 2012 ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ๆ

แม้ Mark Zuckerberg จะไม่ได้กลับไปเรียนต่อ แต่ทาง Havard ก็ได้มอบปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้แก่เขาเนื่องในผลงานที่เขาสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโลกเข้าหากัน ก่อเกิดโอกาส อาทิ โอกาสในการที่คนทั่วโลกร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการส่งข่าวของผู้คนบนโซเชียลเน็ตเวิร์คนี้, รวมไปถึง Mark Zuckerberg เองก็เป็นนักบริจาคช่วยเหลือตัวยง เป็นต้น

Mark Zuckerberg ติดหนึ่งใน 500 Fortune List ในปี 2013 และกลายเป็น CEO ที่อายุน้อยที่สุดในรายชื่อ ณ เวลานั้นที่อายุ 28 ปี ปััจจุบันเขามีสินทรัพย์สุทธิ 72,000 ล้านเหรียญ (ณ กุมภาพันธ์ 2018)