แผนการ สอน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 2

ก่อนอื่นตอนครูประถมจะมาแนะนำแนวทางในการโหลด คู่มือครู ค่ะ โดยครั้งได้นำบทความจากทางเพจ วิทยาศาสตร์ by NTK.

มานำเสนอค่ะ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการโหลดคู่มือครูดังนี้ค่ะ

 

ขั้นตอนในการดาวน์โหลดมีดังนี้ค่ะ

📙 แบ่งปัน ฟรีดาวน์โหลด (เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์)
#ตามคำเรียกร้อง
คู่มือครู รายวิชาพื้นฐาน [สสวท.]
#คณิตศาสตร์
ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
.
สามารถดาวน์โหลด File PDF ตามลิ้งค์
ก่อนดาวน์โหลด ต้องเข้า log in
ใน https://www.scimath.org/ ก่อนนะครับ
1️⃣
ป.1 เล่ม 1
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/download/…/8304/83
ป.1 เล่ม 2
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/download/…/9077/83
2️⃣
ป.2 เล่ม 1
https://www.scimath.org/ebook-mathemati…/download/…/10336/83
ป.2 เล่ม 2
https://www.scimath.org/ebook-mathemati…/download/…/10544/83
3️⃣
ป.3 เล่ม 1 (หลักสูตรใหม่)
—– ยังไม่ออก —–
ป.3 เล่ม 2 (หลักสูตรใหม่)
—– ยังไม่ออก —–
4️⃣
ป.4 เล่ม 1
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/download/…/8305/83
ป.4 เล่ม 2
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/download/…/9078/83
5️⃣
ป.5 เล่ม 1
https://www.scimath.org/ebook-mathemati…/download/…/10335/83
ป.5 เล่ม 2
https://www.scimath.org/ebook-mathemati…/download/…/10543/83
6️⃣
ป.6 เล่ม 1 (หลักสูตรใหม่)
—– ยังไม่ออก —–
ป.6 เล่ม 2 (หลักสูตรใหม่)
—– ยังไม่ออก —–
1️⃣
ม.1 เล่ม 1
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/weblink/79/8302/1
ม.1 เล่ม 2
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/weblink/79/8303/1
2️⃣
ม.2 เล่ม 1
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/weblink/79/10334/1
ม.2 เล่ม 2
https://www.scimath.org/…/fi…/assets/common/downloads/d.pdf…
3️⃣
ม.3 เล่ม 1 (หลักสูตรใหม่)
—– ยังไม่ออก —–
ม.3 เล่ม 2 (หลักสูตรใหม่)
—– ยังไม่ออก —–
4️⃣
ม.4 พื้นฐาน
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/download/…/8299/83
ม.4 เล่ม 1 เพิ่มเติม
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/download/…/8300/83
ม.4 เล่ม 2 เพิ่มเติม
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/download/…/9119/83
5️⃣
ม.5 พื้นฐาน
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/weblink/79/10326/1
ม.5 เล่ม 1 เพิ่มเติม
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/weblink/79/10327/1
ม.5 เล่ม 2 เพิ่มเติม
https://www.scimath.org/ebook-mathematics/weblink/79/10898/1
6️⃣
ม.6 พื้นฐาน (หลักสูตรใหม่)
—– ยังไม่ออก —–
ม.6 เล่ม 1 เพิ่มเติม (หลักสูตรใหม่)
—– ยังไม่ออก —–
ม.6 เล่ม 2 เพิ่มเติม (หลักสูตรใหม่)
—– ยังไม่ออก —–

รออัพเดท ป.3 ป.6 ม.3 ม.6ที่เหลือ เร็วๆนี้นะครับ
🗂

ที่มา ขอบคุณ สสวท และเพจ วิทยาศาสตร์ by NTK.  ที่ได้แนะนำ สามารถความรู้ดี ๆ

ครั้งต่อไป ครูประถม.คอมนะนำสาระความรู้มามอบให้กับ ทางคุณครูและผู้ปกครองอีก อย่างลืมติดตามเพจครูประถม.คอมนะคะ

บรษิ ทั ธารปัญญา จ�ำ กดั

สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564
หา้ มมใิ หน้ �ำ แผนการจดั การเรียนรนู้ ี้
ไปใช้เพอื่ การจำ�หน่ายหรือการค้าใดๆ
ในทกุ รปู แบบ ไม่วา่ จะเป็นหนงั สอื
หรอื ในระบบคอมพิวเตอร์ทกุ ชนิด

เกง่ คแณผนติ กาครจดิ ดั เกลาขรเเรปยี นน็ รู้

ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 2

กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560)

ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551

ค�ำ แนะน�ำ การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรหู้ นงั สอื เรยี นชดุ เกง่ คณติ คดิ เลขเปน็

แผนการจัดการเรียนรู้ เก่งคณิต คิดเลขเป็น ชุดนี้ ออกแบบข้ึนมาเพื่อเป็นแผนการจัดการเรียน
การสอนสําหรับหนงั สือเรียนชุด เก่งคณิต คิดเลขเป็น ระดับช้ันป.1-6 จุดมุ่งหมายของหนังสอื เรยี นชดุ
นี้ คือ ตอ้ งการพฒั นานกั เรยี นใหเ้ กิดความเข้าใจในคอนเซป็ ต์ต่าง ๆ ของคณติ ศาสตร์ คิดค�ำ นวณอยา่ ง
คลอ่ งแคลว่ และมีประสทิ ธิภาพ รู้จกั ใช้ยุทธศาสตรใ์ นการแกป้ ญั หา ใชเ้ หตุผล และมที ัศนคติทด่ี ตี อ่ การ
เรียนรู้คณติ ศาสตร์ การทจ่ี ะสร้างสมรรถนะเหล่าน้ไี ด้ เราระมดั ระวงั ให้นักเรียนเรยี นรอู้ ยา่ งเป็นขัน้ เป็น
ตอน ไม่มีการข้ามข้ันตอน แต่ละเล่มจะก้าวไปทีละข้ัน (step) เราตระหนักดีว่า วิชาคณิตศาสตร์เป็น
เหมือนยาขมส�ำ หรับเดก็ จำ�นวนไม่น้อย ประสบการณท์ เ่ี ปน็ ลบเก่ียวกับวชิ าคณิตศาสตร์ อาจทำ�ให้เดก็
กลายเป็นคน “ไม่ชอบคณติ ศาสตร์ “ หรอื “กลวั คณิตศาสตร์” (math anxiety) และคณุ ครหู ลายทา่ น
ก็ไม่ได้จบตรงกับสายที่ตัวเองจำ�เป็นต้องสอน จึงอาจไม่ทราบว่าจะต้องสอนอย่างไร จึงจะช่วยให้เด็ก
สนุกและเข้าใจไปพร้อมๆ กันได้ แต่เราเชื่อว่า แผนการสอนที่ดีควรช่วยครูให้สามารถจัดการเรียนการ
สอน และท�ำ ให้วิชาคณติ ศาสตรส์ นุก เขา้ ใจงา่ ย ส�ำ หรบั ท้ังเดก็ และคณุ ครู

ดว้ ยเหตนุ ้ี เราจงึ เขยี นแผนการสอนชดุ นข้ี นึ้ เพอื่ ชว่ ยใหค้ ณุ ครสู อนได้ นกั เรยี นเรยี นได้ กระบวนการ
เรียนรู้คณิตศาสตร์เป็นไปได้ และเราพยายามรักษาหลักการว่า การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ควรให้
ความส�ำ คญั กบั การสรา้ งความเขา้ ใจคอนเซป็ ต์ (conceptual understanding) ความคลอ่ งแคลว่ แมน่ ย�ำ
ในการค�ำ นวณ (procedural fluency) การแกป้ ญั หาอยา่ งมยี ทุ ธศาสตร์ (strategic competence) การ
ใชเ้ หตุผลอยา่ งยดื หยนุ่ (adaptive reasoning) และทศั นคติท่ีดีตอ่ คณติ ศาสตร์ (productive belief)
คุณครูทกุ ท่านที่ใช้แผนการจัดการเรียนรู้น้ี โปรดทําความเข้าใจหลักการของแผนการจัดการเรยี นรู้ ชุด
นี้ ดงั นี้

1. กระบวนการสอน 5 ขน้ั แบบ Brain-based Learning (BBL)

กระบวนการสอน เก่งคณิต คดิ เลขเปน็ ในแผนการจดั การเรยี นรนู้ ี้ ยดึ การสอนทแี่ บง่ ออกเปน็
๕ ขน้ั ดงั รายละเอียดข้างล่างนี้ เพ่ือประกันผลสําเรจ็ คือ

1.1 อุ่นเครื่อง (Warm-up)
ก ารอุ่นเคร่อื ง (warm-up) ในขน้ั น้ี บางทีใชค้ ําวา่ ขน้ั นํา เข้าสูบ่ ทเรยี น เปน็ กิจกรรมท่ีทาํ
เพ่ือให้สมองต่ืนตัว มีความสนใจและแรงจูงใจท่ีจะเรียนรู้บทเรียนบทใหม่ หรือระหว่าง
หช่วัรโือมอง่อนถา้ลเ้าน้ือคหวราใทห่จี ้ทะําเรWียนaรrm้นู น้ั -uคp่อนซข้ำ�า้ เงพย่ือากกระคตุณนุ้ คสรมูสอังงเกกตาวรา่ นWกั aเรrmียน-uเรp่มิ หนมนั้ ดทคาํ วไาดมห้ สลนาใยจ
วธิ ี คือ 1) Brain Exercise 2) การเคล่อื นไหวเป็นจงั หวะ (Rhythm) อาจมีเสยี งเพลงและ
คาํ กลอนประกอบ และ 3) ยืดเส้นยืดสาย (Stretching)
ถา้ เป็นไปได้ การอนุ่ เครอื่ ง หรือการนาํ เขา้ ส่บู ทเรียน ควรจะชว่ ยกระตุน้ ใหน้ ักเรยี นอยาก
เรียนรู้ สนใจเน้ือหาท่ีกําลังจะเรียนในบทนี้ ซึ่งเช่ือมโยงมาจากบทท่ีแล้ว ดังน้ัน ในบาง
ช่ัวโมงเราอาจใช้เกมและใบงานคณิตศาสตรต์ า่ งๆ ทบทวนความรเู้ ดมิ ทีเ่ รียนมาแลว้ แต่
ใชก้ ระบวนการท่สี นกุ สนาน ทาํ ให้อยากเรียนตอ่ ไป

บรษิ ัทธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลิขสิทธิ์ © 2564 2

1.2 ขนั้ น�ำ เสนอความรู้ (Presentation) 3
การสอนในขนั้ น้ี จะเปน็ การเปดิ ประเดน็ ค�ำ ถามหรอื ปญั หาจากชวี ติ จรงิ ทจี่ ะตอ้ งแกไ้ ข ซง่ึ ใน
แตล่ ะแผนไดม้ กี ารสรา้ งสถานการณไ์ วใ้ หแ้ ลว้ โดยครจู ะกระตนุ้ ใหเ้ ดก็ แตล่ ะคนใชค้ วามคดิ
ของตัวเอง ใช้ความรูท้ ี่แตล่ ะคนมไี ม่เหมอื นกัน เพอื่ พยายามแก้ปัญหานนั้ ๆ การออกแบบ
การสอนในข้นั น้มี ีความสำ�คญั หลายอยา่ ง สถานการณ์ท่นี ่าสนใจและสมจรงิ จะทำ�ใหก้ าร
เรยี นเรือ่ งนั้น ๆ เกิดความหมาย (meaning) สำ�หรับตวั เดก็ ทำ�ใหเ้ ดก็ รูส้ กึ กระตอื รือร้น
อยากเรียน อยากแก้ปัญหา ประการถัดมา การทค่ี รูเปิดกวา้ งใหเ้ ด็กแต่ละคนแสดงความ
คิดเห็นถงึ วิธีการแก้ปัญหา ทำ�ใหเ้ ดก็ เรยี กใช้ความรทู้ เ่ี คยมมี า (prior knowledge) ท�ำ ให้
ครรู ู้ว่า เด็กรอู้ ะไรอยูแ่ ลว้ บา้ ง และเดก็ ก็จะสามารถเชื่อมสิง่ ทรี่ ู้อย่แู ลว้ เขา้ กับสง่ิ ท่ีกำ�ลังจะ
เรียนได้ เปน็ การตรวจสอบและเปล่ยี นแปลงความเชือ่ เดมิ (preconception) ให้ถูกต้อง
ประเด็นสุดท้าย การที่ครูให้เด็กพูดอธิบายความคิดของตัวเองออกมา ตรวจสอบความ
คดิ ของตัวเองและของเพ่ือน เปน็ กระบวนการทเี่ ราเรียกวา่ math talk ซึ่งมคี วามสำ�คัญ
อยา่ งย่งิ ต่อการเรียนคณติ ศาสตร์ ในท้ายที่สุด การน�ำ เสนอความรนู้ ัน้ จะตอ้ งขมวดปมโดย
ครคู ่อย ๆ ไกด์เด็กไปส่วู ธิ คี ดิ ทม่ี ีประสทิ ธิภาพ และเหมาะสมกบั การแกป้ ัญหานนั้ ๆ ทเ่ี ป็น
เป้าหมายของการเรียนในแผนน้ัน ๆ

1.3 ขัน้ ลงมือเรียนร-ู้ ฝึกท�ำ -ฝกึ ฝน (Learn-Practice)
เ ดก็ สรา้ งความเขา้ ใจ จากการลงมอื ท�ำ และจะจ�ำ ไดแ้ ละท�ำ ไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ จากการฝกึ
อย่างจรงิ จัง ดงั นน้ั จากขั้น present ทเี่ ด็กเริม่ เหน็ ภาพและเขา้ ใจ concept ตา่ ง ๆ แลว้
เดก็ จะตอ้ งไดล้ งมอื ท�ำ ในขนั้ ท่ี 3 ในขนั้ น้ี ลงมอื ใชค้ วามรทู้ เี่ รยี นมาท�ำ กจิ กรรมตา่ งๆ นกั เรยี น
จะฝึกแกป้ ญั หา จดั การกบั ตวั เลข คดิ คำ�นวณ หาค�ำ ตอบ ตรวจสอบคำ�ตอบ อภิปรายกบั
เพ่ือนและคุณครู หาเหตุผลมาสนับสนนุ ความคดิ ของตวั เอง ท�ำ ซำ�้ หลาย ๆ ครั้ง กิจกรรม
เหล่านี้ เน้นการเรียนรู้โดยการฝึกพร้อมกันทั้งช้ันเรียน (Whole class) แบบกลุ่มย่อย
(small group) แบบจบั คู่ (pair) และแบบเดยี่ ว (individual)
ก ิจกรรมขนั้ Learn และ Practice นี้ ทใี่ ชใ้ นแผนการสอนชุดน้ี เช่น การเรียนรจู้ ากสื่อท่ี
จบั ยา้ ยได้ (manipulatives) สือ่ ของจริง การด์ ความรู้ บตั รตัวเลข เกมการศกึ ษา ใบงาน
โดยใหเ้ ด็กเรียนร้จู ากการลงมือท�ำ (learning by doing) และเรยี นรูร้ ่วมกับผอู้ ื่น (collab-
orative learning) คณุ ครสู ามารถดาวนโ์ หลดใบงานส�ำ หรบั กจิ กรรมขนั้ Learn-Practice
ได้จากแผนการสอนนี้ และจาก QR code ในหนงั สอื เรยี นดว้ ย

1.4 ข ั้นสรุปความรู้ (Summary)
แมว้ า่ การเรยี นรจู้ ะดาํ เนนิ มาตงั้ แตข่ น้ั เรมิ่ เรยี นรคู้ วามรใู้ หม่ (presentation) ขน้ั ทนี่ กั เรยี น
ไดท้ ดลองนาํ ความรู้ใหมน่ ั้นมาลงมือปฏิบตั ิ เรียนรู้ ทำ�ความเข้าใจ ตงั้ ค�ำ ถาม คิดทบทวน
และฝกึ ฝนซ้ำ� ๆ (learn-practice) ความรู้ทก่ี ำ�ลังก่อตวั ขึ้นจากกระบวนการเหล่าน้ี อาจ
ใจหะเ้ยหงั น็ ไมถ่ชงึ ปดั รเจะนเดนน็ กั ทคสี่ ร�ำ ูมคบีญั ทจบากาทกทารส่ี เรำ�ยคี นญั ในในชกว่ั โามรงชนว่ น้ัยนๆักแเพรียตนเทเชริ ่ือน์ มทโปี่ ยรงาคกวฏามขน้ึรูเ้มขา้าดเน้วน้ยกย�้ำนั คช�ำ ้ี
ศพั ทท์ ่นี กั เรยี นตอ้ งร้จู กั และเตมิ ชอ่ งวา่ งในจดุ ท่นี ักเรียนอาจจะยังไม่เขา้ ใจ การขมวดปม
ในขนั้ สรปุ คือการทำ�ให้มน่ั ใจวา่ ความเข้าใจคอนเซป็ ต์ (conceptual understanding)

บรษิ ัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564

ได้เกดิ ข้นึ แล้วจรงิ ๆ
ในการสรปุ นี้ ครอู าจจะเปน็ ผดู้ �ำ เนนิ การอภปิ รายสรปุ กบั นกั เรยี นทง้ั หอ้ ง โดยใชก้ ารพดู คยุ
ประกอบกบั ชารต์ หรอื สไลด์ หรอื ครอู าจใชเ้ ครอ่ื งมอื Graphic Organizer ตา่ งๆ (Window
Snake Mindmap, Fan Diagram Table Wheel Flip Foldable etc.) และอนื่ ๆ ตาม
ทแ่ี นะน�ำ ในแผนการสอนนี้ เพือ่ ให้นักเรยี นได้สรุปด้วยตัวเอง ตามไกด์ท่คี รูก�ำ หนดให้
1.5 ประยุกต์ใชค้ วามรู้ (Apply)
ถ ้าเป็นไปได้และมีเวลา กระบวนการเรียนรู้ควรทํา ไปถึงขั้นให้นักเรียนประยุกต์ใช้ความ
รู้ในสถานการณ์ใหม่ ๆ ในข้ันน้ี โดยมากนักเรียนจะเร่ิมนําความรู้ไปสร้าง (make) หรือ
ผลติ (produce) ชน้ิ งานใหม่ ๆ หรือใชแ้ ก้ปญั หาใหมท่ ี่ไม่เคยเจอมากอ่ น ในสถานการณ์
ทแี่ ปลกออกไป (solve) เชน่ ในแผนจะมกี จิ กรรมทใ่ี หเ้ ดก็ ไดส้ รา้ งโจทย์เอง ทำ�หนังสือเล่ม
เล็ก แสดงบทบาทสมมตุ ิ (สรา้ งสถานการณจ์ ำ�ลอง) แก้โจทย์เลขใหม่ ๆ อภปิ รายกับเพอ่ื น
เปรยี บเทียบวิธีคดิ ท�ำ แบบสำ�รวจข้อมูลจากเพ่ือนในหอ้ ง เป็นต้น แต่งานขั้นนี้ เป็นไปได้
ยากท่ีจะทาํ ทุกช่ัวโมง ทกุ เนือ้ หาทเี่ รียนเพราะเวลาเรยี นไมพ่ อ อีกทั้ง เนอื้ หาทเี่ รยี นมมี าก
เกินกวา่ ทจี่ ะเน้นให้นกั เรยี นลงมือทํากิจกรรมต่าง ๆ ได้หมดส้ิน ดว้ ยเหตนุ ้ี ขั้นประยุกต์ใช้
ความรู้ จงึ อาจเลือกทํา เฉพาะหัวข้อทส่ี ําคัญ หรอื หวั ข้อท่ีพอจะนาํ ไปประยุกต์ใช้ไดส้ าํ ห
รับเด็กแต่ละวัย ในหัวข้อง่ายๆ เช่น จำ�นวน 1-20 อาจจะยังไม่มีความจําเป็นที่จะต้อง
ประยุกต์ใช้ความรู้ เป็นต้น แต่ท้ังน้ี ก็ข้ึนอยู่กับความพร้อมของเด็ก ของห้องเรียน และ
ของเวลาเรยี นที่มีอยู่

2. วิธีการปรับแผนการจัดการเรยี นรใู้ นชวั่ โมงการสอนจริง

แมว้ า่ ในแผนการจดั การเรยี นรชู้ ดุ น้ี ในทกุ บทจะเสนอแนะการสอนครบ ทกุ ขนั้ ตอน แตใ่ นชว่ั โมง
การสอนจรงิ คณุ ครอู าจปรบั แผนบางขน้ั การสอนใหก้ ระชบั รวดเรว็ ลดั ขน้ั ตอนไดต้ ามความเหมาะสม ไม่
จํา เปน็ ต้องเดนิ 5 ข้ันอย่างเคร่งครดั โดยตระหนักถึงจดุ มงุ่ หมายท่สี าํ คญั ทส่ี ดุ ของการสอนคณติ ศาสตร์
ก็คือ ต้องให้นักเรียนเกิดความเข้าใจคอนเซ็ปต์ และความแม่นยำ�คล่องแคล่วในการคิดคำ�นวณ ถ้า
กระบวนการสอนเน้นขั้นตอนมากเกนิ ไป แต่กลับลดทอนเวลาทีใ่ ห้เด็กได้พูดคุยกัน ทำ�ความเข้าใจเร่อื ง
นั้นๆ หรือให้พูดคุยกันเป็นปลายเปิดมากเกินไป จนลดทอนเวลาในการฝึกฝน ก็จะทําให้กระบวนการ
เรยี นการสอนน้ัน หรอื แผนการสอนนั้นไมบ่ รรลุเปา้ หมาย ดังนน้ั คณุ ครจู ึงต้องเปน็ ผคู้ ดิ เอง ออกแบบ
เพ่ิมเติม ดัดแปลง เพือ่ ให้นกั เรียนได้พฒั นาสมรรถนะท่สี ำ�คญั ในวชิ าคณติ ศาสตรไ์ ดจ้ รงิ ๆ

แม้ว่ากระบวนการสอนคณติ ศาสตรใ์ นยคุ ใหม่น้ี จะเน้นเรอ่ื งความเข้าใจ คอื ให้นกั เรียนคดิ พลิก
แพลงแกป้ ญั หาไดห้ ลายแบบ แตไ่ มไ่ ดห้ มายความวา่ จะทงิ้ ความถกู ตอ้ งทางการค�ำ นวณไปเลยทเี ดยี ว นนั่
คือ ความแม่นย�ำ ในการรจู้ กั ตัวเลข การใช้สญั ลักษณ์ การหาค�ำ ตอบ การท�ำ ตามวธิ ีการท่ถี ูกตอ้ ง กย็ ังคง
อยู่ แตก่ ระบวนการเรียนการสอนตอ้ งปรบั ปรน ค่อยเปน็ ค่อยไป เพื่อให้นักเรยี นไม่คดิ ว่า คณติ ศาสตร์
เป็นแค่การทอ่ งจำ�โดยไม่ตอ้ งเข้าใจ และมีค�ำ ตอบทถ่ี ูกต้องเพยี งค�ำ ตอบเดียว

บรษิ ทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 4

3. ทา่ นสามารถสรา้ งแผนการจดั การเรียนรทู้ ีด่ ีกวา่

คุณครูทุกคน โรงเรียนทุกโรงเรียนล้วนมีความแตกต่างกัน ไม่มีแผนการจัดการเรียนรู้ใด
ใชไ้ ดก้ บั ทกุ หอ้ งเรยี น 100% คณุ ครทู มี่ คี วามรคู้ วามสามารถ มปี ระสบการณส์ งู เอาใจใสน่ กั เรยี นมาก จะ
ทราบดวี า่ แผนการจดั การเรยี นรแู้ ตล่ ะแผนจะตอ้ งเพมิ่ หรอื ลด แมก้ ระทง่ั ตอ้ งเปลย่ี นกระบวนการใดบา้ ง
เพอื่ ให้เหมาะสมกับนักเรียนในหอ้ งเรียนของตน ดังนัน้ คณุ ครูสามารถนําแผนการจดั การเรียนรชู้ ุดน้ี ไป
พฒั นาตอ่ ยอด สรา้ งเปน็ แผนการจดั การเรยี นรใู้ หมๆ่ เพอื่ ใหเ้ ปน็ ประโยชนส์ งู สดุ ตอ่ การเรยี นรขู้ องนกั เรยี น

4. ในกรณีที่ตอ้ งการปรบั ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้น้กี บั หนงั สอื เรียนชุดอืน่ ๆ ที่ไม่ใช่
หนังสือเรยี นชดุ เก่งคณิต คิดเลขเปน็ ชุดน้ี

ในกรณที คี่ ณุ ครใู ชห้ นงั สอื เรยี นชดุ อนื่ ๆ ทไ่ี มใ่ ชช่ ดุ เกง่ คณติ คดิ เลขเปน็ ของเรา ทา่ นสามารถนาํ
แผนการจดั การเรยี นรชู้ ดุ นไี้ ปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ แมจ้ ะไมค่ รบขน้ั ตอน ทาํ ไมไ่ ดท้ ง้ั หมด และเนอ้ื หาของหนงั สอื

ไม่ตรงกัน คุณครูก็สามารถนํา เอาเทคนิคการสอนในบางขั้นตอน เข้าไปประยุกต์ใช้ในชั่วโมง
การสอนของทา่ น โดยเลือกขัน้ ตอนท่ีจะชว่ ยให้นักเรยี นมคี วามสุขในการเรียนรู้ สนใจการเรียนมากขึ้น
เรียนได้เรว็ ข้นึ มสี อ่ื และใบงานชว่ ยในการสอนตามความเหมาะสม

บรษิ ทั ธารปัญญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 5

แผนการจดั การเรียนรู้
หน่วยการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2

บทที่ ชอื่ หน่วย จำ�นวนชั่วโมง

6 การคณู 15
17
7 การหาร 7
8 แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว 21
60
9 เวลา

รวม

หมายเหตุ
จำ�นวนบทเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ หรือเวลาในการสอน สามารถปรับเปลีย่ นและ

ยดื หยนุ่ ไดต้ ามความเหมาะสม ข้ึนอยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของครูผูส้ อน

บริษัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 6

แผนการจดั การเรียนรู้
หน่วยการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 2

บทที่ 6 การคณู (1) จำ�นวน 3 ช่ัวโมง

มาตรฐานการเรยี นรู้

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวน ระบบจ�ำ นวน การด�ำ เนนิ การของจ�ำ นวน
ผลที่เกดิ ขึน้ จากการด�ำ เนนิ การ สมบัติของการด�ำ เนนิ การ และนำ�ไปใช้

2. ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/6 หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการคูณของจ�ำ นวน 1 หลกั
กบั จ�ำ นวนไม่เกิน 4 หลกั และจำ�นวน 2 หลกั กับจำ�นวน 2 หลัก

สาระสำ�คญั

การคูณจ�ำ นวนหนงึ่ หลักกบั จำ�นวนท่ลี งทา้ ยด้วย 0 และหลกั การหาผลคณู

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. สามารถบอกได้ว่าการคณู คอื อะไร และรคู้ วามหมายของการคณู
2. สามารถหาค�ำ ตอบของจำ�นวนหนึง่ หลักเม่ือคณู กับจ�ำ นวนท่ลี งท้ายด้วย 0 ได้
3. สามารถสรุปวธิ กี ารหาผลคูณได้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

การบวก การลบ การคูณ การหารจ�ำ นวนนับไมเ่ กิน 100,000 และ 0
- การบวกและการลบ
- การคูณ การหารยาวและการหารสน้ั
- การบวก ลบ คูณ หารระคน
- การแกโ้ จทย์ปัญหาและการสร้างโจทยป์ ัญหา พรอ้ มทัง้ หาคำ�ตอบ

กระบวนการจดั การเรยี นรู้

1. ขั้นนำ�เข้าส่บู ทเรียน
1. ใ หน้ ักเรียนจบั คู่ ยนื หันหนา้ เข้าหากนั ทอ่ งสูตรคณู แม่ 5 และ 10 พร้อมกับเคลอ่ื นไหวมอื ประกอบ
จงั หวะ (ประมาณ 3 รอบ หรือตามความเหมาะสม)
- จังหวะท่ี 1 ปรบมอื ตวั เอง
- จังหวะท่ี 2 ยื่นมอื ขวาตบมือเพ่ือน
- จังหวะที่ 3 ตบมือตวั เอง
- จังหวะท่ี 4 ยืน่ มือซ้ายตบมือเพ่ือน
2. คุณครูอาจใหน้ กั เรยี นทอ่ งสูตรคณู แม่อ่นื  ๆ ไดต้ ามความเหมาะสมกับเวลา

บริษัทธารปัญญา จำ�กัด สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 7

2. ขั้นน�ำ เสนอความรู้
1. ค ุณครใู ช้สอ่ื ของจรงิ (ทีน่ ่าสนใจ) มาสอนเรอ่ื งการคูณจำ�นวน
หน่งึ หลกั กับ 100 บนกระดาน เชน่ การนำ�ลูกอมใส่ถงุ ถุงละ
100 เมด็ (ติดจำ�นวน 100 ไว้หนา้ ถงุ ทกุ ถงุ ดงั ภาพ)
2. แ ขวนถุงลูกอมเรียงไว้บนกระดานตามจำ�นวนที่ต้องการสอน
เช่น 3 ถุง 4 ถุง หรือ 5 ถุง ช้ีให้นักเรียนนับจำ�นวนลูกอม
โดยดูจำ�นวนจากหนา้ ถงุ เช่นให้พูดวา่ 100, 200, 300 เรียง
จนครบทกุ ถุง
3. ติดบัตรตัวเลขแสดงการบวกซำ้�จำ�นวนเดิม และผลลัพธ์ที่ได้
จากนั้น ตดิ แถบตัวเลขในรูปการคณู ใหด้ ู (ดังภาพ)
4. อ ธบิ ายให้นักเรียนฟังวา่ การคณู คือการบวกซำ�้ จำ�นวนเดมิ ท่ี
เท่า ๆ กัน จากตัวอย่างบนกระดาน จำ�นวนเดิมท่ีเท่ากันคือ
100 ของลกู อม 3 ถงุ
5. จากน้นั ลองเปลี่ยนโจทย์ในการสอน 4-5 ขอ้ (หรอื ตามความ
เหมาะสม) เพ่ืออธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจยง่ิ ขนึ้
6. การคูณจำ�นวนหนึ่งหลักกับ 1,000 ให้สอนด้วยกระบวนการ
เดียวกัน แต่เปล่ียนจากใช้สื่อของจริงมาเป็นรูปภาพติดไว้บน
กระดาน (ภาพหนุ่ ยนตพ์ รอ้ มกบั ราคา มใี หใ้ นใบงานทา้ ยแผน)
7. ค ณุ ครสู อนหลกั การหาผลคณู ใหด้ บู นกระดาน โดยเขยี นตวั เลข
ทีจ่ ะใชค้ ูณเตรียมไว้ เตมิ 0 ใหน้ ักเรียนดู (ดงั ภาพ)
8. ถามนกั เรยี นวา่ นกั เรยี นสงั เกตเหน็ อะไรจากจ�ำ นวนทคี่ ณู ดว้ ย 10 100 และ 1,000 ทอ่ี ธบิ ายบนกระดาน

3. ข้ันลงมอื เรียนรู้
1. ท �ำ กิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง การฝึกคณู ในหนังสือเรียนเกง่ คณติ คดิ เลข
เปน็ หนา้ 15 พรอ้ มค�ำ อธิบายการท�ำ กจิ กรรม (ดาวนโ์ หลดใบงาน
จาก QR code)
2. นักเรียนทำ�แบบฝึกหัดจากในหนังสือเรียนเก่งคณิต คิดเลขเป็น
หนา้ 10-12

4. ขั้นสรปุ ความรู้
เ แมลอื่ ว้ นคกั เณุ รยีคนรทูสร�ำ แุปบซบ�ำ้ ฝเกึพห่ือดัเปก็นารกคาณูรตจร�ำ วนจวสนอหบนคง่ึ วหาลมกั เกขบั้าใ1จ0ห0รแือลเะพ1ื่อ,000
แกไ้ ขความเขา้ ใจผดิ ของนกั เรยี น ทอ่ี าจพบไดใ้ นการท�ำ แบบฝกึ หดั
โดยใช้ส่ือจากข้ันการนำ�เสนอความรู้มาสรุปบนกระดาน
แสดงเน้ือหาและข้อมูลที่ชัดเจนให้นักเรียนอีกครั้งหนึ่ง
ในขั้นน้ี คุณครูเป็นเพียงผู้ติดภาพสื่อไว้ให้บนกระดานเท่านั้น
ส่วนการติดบัตรตัวเลขให้นกั เรยี นเปน็ ผูต้ ดิ เอง

5. ขัน้ ประยุกต์ใช้ความรู้
1. แ บ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม (แบ่งจำ�นวนสมาชิกในกลุ่มตาม
ความเหมาะสม) แจกใบงาน “ลูกเต๋าฝึกคูณ” (ใบงานท้าย
แผนฯ) ให้กลุ่มละ 2 ใบ ชว่ ยกันประกอบเปน็ ลกู เตา๋ จ�ำ นวน 2 ลูก ลกู หนึง่ แทนตวั เลขหนง่ึ หลัก อกี ลกู
หน่งึ แทนจำ�นวนหลักสิบ หลกั ร้อย และหลกั พัน
2. เส่ียงโยนลกู เตา๋ ทั้งสองลูกว่าไดจ้ ำ�นวนใด เช่น โยนได้ 5 กับ 100 ให้เขียนลงในกระดาษ A3 ดังน้ี

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 8

100 + 100 + 100 + 100 + 100 = 500
5 x 100 = 500

โยนลูกเตา๋ ได้ 4 กบั 1,000 ให้เขียนดงั น้ี
1,000 + 1,000 + 1,000 + 1,000 = 4,000

เปน็ ต้น 4 x 1 ,000 = 4,00 0

3. ส มาชกิ ในกลุ่มผลดั กันโยนลกู เต๋าท้งั หมด 10 ครง้ั แลว้ เขียนตวั เลขการคูณลงในกระดาษ แตล่ ะกลมุ่
น�ำ ผลงานท่ีเสร็จแลว้ ออกไปน�ำ เสนอหน้าหอ้ ง กลมุ่ ละ 2 ข้อ

เครอื่ งมอื - ส่อื การเรียนรู้

1. สอื่ ของจรงิ เช่น ลูกอม 3 ถุง
2. ส่อื สอนการคูณจำ�นวนหนง่ึ หลักกับ 1,000 (ใบงานทา้ ยแผนการจดั การเรียนร้)ู
3. ใบงาน “การฝึกคูณ” (ดาวนโ์ หลดจาก QR code ในหนังสอื เรียน)
4. ใบงาน “ลูกเต๋าฝึกคูณ” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรียนรู้)
5. กระดาษ A3
6. หนงั สอื เรียนชดุ เก่งคณติ คดิ เลขเปน็ ป.3 เลม่ 2

การวัดและประเมินผล

1. สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรขู้ องนักเรียน
2. ประเมินผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝึกหดั /ใบงาน ของนกั เรียน
(การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ ามความเหมาะสม บางชน้ั เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรยี น - หลงั เรียน แบบประเมินการท�ำ กิจกรรมกลมุ่ ฯลฯ)

บริษัทธารปัญญา จำ�กัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2564 9

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 6 (1) ทากาว ทากาว ทากาว ทากาว ทากาว ทากาว
ลกู เตา๋ ฝึกคณู 1

6
459

8
2

บริษัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 10

500ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 6 (1) 2,000 100 4,000 8,000 ทากาว ทากาว ทากาว 300
ลูกเตา๋ ฝกึ คณู 2
ทากาว ทากาว
บรษิ ัทธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 11
ทากาว

แผนการจดั การเรียนรู้
หนว่ ยการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 2

บทท่ี 6 การคูณ (2) จ�ำ นวน 3 ชั่วโมง

มาตรฐานการเรียนรู้

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวน ระบบจ�ำ นวน การด�ำ เนินการของจำ�นวน
ผลที่เกิดข้ึนจากการดำ�เนินการ สมบตั ขิ องการด�ำ เนินการ และนำ�ไปใช้

2. ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/6 ห าค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการคณู ของจ�ำ นวน 1 หลกั
กับจ�ำ นวนไมเ่ กนิ 4 หลกั และจำ�นวน 2 หลกั กบั จำ�นวน 2 หลกั

สาระสำ�คัญ

1. การคูณจำ�นวนหนึง่ หลกั กบั จ�ำ นวนสามหลกั
2. การคณู จ�ำ นวนหนึง่ หลักกับจำ�นวนส่ีหลกั

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. สามารถบอกไดว้ า่ การคณู คอื อะไร และรคู้ วามหมายของการคณู
2. สามารถหาคำ�ตอบของจ�ำ นวนหนึ่งหลกั เม่อื คณู กับจ�ำ นวนทลี่ งทา้ ยดว้ ย 0 ได้
3. สามารถสรุปการหาผลคูณได้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

การบวก การลบ การคณู การหารจ�ำ นวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
- การบวกและการลบ
- การคณู การหารยาวและการหารส้นั
- การบวก ลบ คณู หารระคน
- การแก้โจทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทย์ปญั หา พรอ้ มทั้งหาค�ำ ตอบ

กระบวนการจดั การเรียนรู้ 12

1. ข้ันน�ำ เข้าสู่บทเรยี น
1. คุณครูให้นักเรียนเล่นเกม “จับผิดภาพ” โดยแบ่ง
นกั เรยี นออกเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ 3 คน แจกแผ่นเกม
ให้ทุกกลุ่ม ช่วยกันดูว่า ท้ังสองภาพมีตัวเลขใดที่
ไม่เหมือนกันบ้าง คุณครูให้สัญญาณเพ่ือจับเวลา
(ให้เวลา 2-3 นาที หรือตามความเหมาะสม)
2. ใ ชป้ ากกาเมจกิ วงกลมต�ำ แหนง่ นนั้ ๆ ไว้ เมอ่ื หมดเวลา
ทำ�การเฉลยพร้อมกัน ให้คะแนนจุดละ 5 คะแนน
เมอื่ วงกลมถกู ต�ำ แหนง่ กลมุ่ ไหนไดค้ ะแนนมากทส่ี ดุ
กลมุ่ นน้ั ชนะ
บริษทั ธารปัญญา จำ�กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564

2. ขั้นนำ�เสนอความรู้
1. ค ุณครูสอนเร่ือง “การคูณจำ�นวนหนงึ่ หลกั กบั สามหลกั ” โดยหาภาพคนน่ังกินชาบู หรอื กนิ อาหาร
ทีโ่ ต๊ะ 3-4 คน เปดิ ข้นึ จอให้นักเรียนดู พดู คุยเพ่อื สร้างสถานการณ์ให้นักเรยี นเขา้ ใจว่า เมอ่ื ครอบครวั
หนงึ่ ไปกินชาบู จ่ายเงินคนละ 212 บาท จะต้องจ่ายเงนิ คา่ ชาบูท้ังหมดเท่าไร (หรือ ใหน้ ักเรียนออก
มายืนเรียงกนั หนา้ หอ้ ง ให้บัตรตัวเลข 212 ถือหนา้ ห้อง 4 คน ก็ได้)
2. ส นทนากบั นกั เรยี นวา่ ไปกนิ ชาบู 4 คน จา่ ยเงนิ คา่ ชาบคู นละ 212 บาท รวมตอ้ งจา่ ยเงนิ ทง้ั หมดเทา่ ไร
คณุ ครูอาจถามนกั เรียนวา่ จะหาคำ�ตอบได้ดว้ ยวิธไี หนบา้ ง นักเรยี นอาจจะตอบแตกตา่ งกนั
3. อธบิ ายใหน้ กั เรยี นฟงั วา่ เราสามารถใชว้ ธิ กี ารบวกซ�ำ้ จ�ำ นวนเดมิ กไ็ ด้ แตเ่ มอื่ จ�ำ นวนมากขน้ึ เราไมส่ ามารถ
หาค�ำ ตอบไดอ้ ย่างรวดเรว็ จากการบวกได้ ดงั น้นั เราจึงต้องใชว้ ิธกี ารคณู น่ันก็คอื 4 x 212 =
4. ค ุณครูติดภาพแผ่นจำ�นวนท่ีแสดงจำ�นวน 212
บนกระดาน หรือแสดงบนจอ 4 กลมุ่ พรอ้ มกับ
แสดงวิธีคูณจำ�นวนให้ดูไปทีละหลัก พร้อมกับ
อธิบายว่าเราสามารถใช้การสลับท่ีของการคูณ
กไ็ ด้ คอื 4 x 212 = 212 x 4 (ดังภาพ)
5. จ ากน้ัน ลองเปล่ียนโจทย์อีก 3 ข้อ (หรือตาม
ความเหมาะสม) เพื่ออธิบายให้นักเรียนเข้าใจ
ย่งิ ขึน้
6. ส อนการคูณเรื่อง “จำ�นวนหนึ่งหลักกับจำ�นวนสี่หลัก” ด้วย
กระบวนการเดยี วกันอีก 2 ข้อ โดยใช้โจทยท์ ่มี ีเลข 0 อยู่ในจ�ำ นวนดว้ ย
เช่น 2,304 x 5 = เพือ่ ใชอ้ ธบิ ายการคูณว่า ตวั เลขใดเมือ่ คณู ด้วย 0
แลว้ ผลลพั ธท์ ไี่ ด้คือ 0

3. ขั้นลงมอื เรยี นรู้
1. ทำ�กจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื ง แอปเปลิ การคณู ในหนงั สือเรยี นเก่งคณติ คิด
เลขเป็น หน้า 15 พรอ้ มค�ำ อธิบายการท�ำ กจิ กรรม (ดาวน์โหลดใบงาน
จาก QR code)
2. น ักเรียนทำ�แบบฝึกหัดจากในหนังสือเรียนเก่งคณิต คิดเลขเป็น
หน้า 16-20 และหนา้ 23-27

4. ขั้นสรปุ ความรู้
1. แ จกใบงาน “การคณู จ�ำ นวนหนงึ่ หลกั กบั สามหลกั และสหี่ ลกั ”
นกั เรียนตดั ใบงานตามรอยประเตรยี มไว้ นำ�มาประกอบกัน ตดิ
ลงในสมุดแบบฝกึ หัดของตวั เองในลกั ษณะให้เปดิ ได้ (ดังภาพ)
2. เขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณ ให้ตรงกับภาพท่ีอยู่ในใบงาน
พร้อมกับผลลัพธท์ ไ่ี ด้ (ดังภาพ)

5. ขน้ั ประยุกตใ์ ชค้ วามรู้
1. แ จกกระดาษ A4 ตัดแบ่งครึ่งแนวนอน แจกให้นักเรียนคนละ
2 แผน่

2. แจกใบงาน ถูก และ ผิด พร้อมกับไม้ไอศกรีมขนาดใหญ่ให้
นกั เรยี นคนละ 2 อนั ตดั ตามรอยประแลว้ ตดิ บนไมไ้ อศกรมี
เตรยี มไว้ (ดังภาพ) 8 x 431 = 3,448

3. ใ หน้ กั เรยี นคดิ และเขยี นประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคณู จ�ำ นวน 2 x 2,501 = 5,002
หน่ึงหลักกับสามหลัก และการคูณจำ�นวนหน่ึงหลักกับส่ี
หลกั พรอ้ มเขยี นผลลัพธ์ทไี่ ด้ ลงในกระดาษ 1 ข้อ/1 แผ่น
ใชส้ ีเมจิกเขียนใหม้ ขี นาดใหญ่พอสมควร (ดังภาพ)

บรษิ ทั ธารปัญญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 13

4. นำ�ประโยคสัญลักษณ์ของตัวเองออกไปโชว์พร้อมกับอ่านให้เพื่อนฟัง ช่วยกันพิจารณาว่าคำ�ตอบน้ัน
ถกู หรอื ผิด เมือ่ คำ�ตอบของเพ่อื นถกู ให้ชไู ม้ไอศกรีมที่มีเคร่อื งหมายถกู เม่อื ค�ำ ตอบของเพื่อนผิด ใหช้ ู
ไมไ้ อศกรมี ทม่ี เี ครอ่ื งหมายผดิ ทที่ �ำ เตรยี มไวข้ นึ้ มา คณุ ครคู อยดวู า่ ใครยกแตกตา่ งไปจากเพอ่ื น ใหถ้ าม
เหตุผลและชว่ ยกนั อภิปรายถงึ คำ�ตอบนน้ั

เคร่ืองมอื - สอ่ื การเรียนรู้

1. ใบงานเกม “จบั ผดิ ภาพ”
2. สอ่ื สอนการคูณจ�ำ นวนหนง่ึ หลักกบั สามหลกั และสี่หลัก (ใบงานทา้ ยแผนการจดั การเรียนรู้)
3. ใบงาน “แอปเปิลการคูณ” (ดาวนโ์ หลดจาก QR code ในหนงั สือเรียน)
4. ใบงาน “การคูณจำ�นวนหนึง่ หลักกับสามหลกั และสี่หลัก” (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรียนร)ู้
5. ใบงาน “ไม้ไอศกรมี ถกู ผิด” (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรียนรู้)
6. กระดาษ A4
7. ไม้ไอศกรมี ขนาดใหญ่
8. หนงั สือเรียนชุด เกง่ คณิต คดิ เลขเปน็ ป.3 เลม่ 2

การวัดและประเมินผล

1. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรขู้ องนักเรียน
2. ประเมนิ ผลจากคะแนนการทำ�แบบฝกึ หดั /ใบงาน ของนักเรยี น
( การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม บางชนั้ เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรียน - หลงั เรียน แบบประเมินการทำ�กิจกรรมกลมุ่ ฯลฯ)

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 14

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทท่ี 6 (2)100 200 2
จบั ผดิ ภาพ
56 789
บริษัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 15
19 62 สองภาพน้ีมเี ลขท่ีไม่เหมอื นกัน 5 จุด
64 32
8

4 9

7 32

15

100 191 7

56 789

19 62
81 32
8

0 9

7 32

51

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 6 (2)
Window 3 บาน : การคูณจำ�นวนหนงึ่ หลักกบั จำ�นวนสามหลกั และสหี่ ลัก

ทากาวด้านหลัง

การคูณจ�ำ นวนหน่ึงหลักกบั จำ�นวนสามหลัก

300 300 200 200 100 100
200 100 100

300 300 200 200

100 100

ทากาวด้านหลัง

การคูณจำ�นวนหน่ึงหลักกบั จำ�นวนส่ีหลัก

3,000 3,000 3,000

1,000 1,000 2,000
2,000
2,000 3,000 3,000

1,000

3,000 3,000 3,000

1,000 1,000

บริษัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 16

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ บทที่ 6 (2)
ไมไ้ อศกรีม ถกู ผดิ


ถกู

ผิด
บรษิ ทั ธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 17

แผนการจัดการเรยี นรู้
หน่วยการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 2

บทที่ 6 การคณู (3) จ�ำ นวน 3 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรยี นรู้

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวน ระบบจำ�นวน การดำ�เนินการของจ�ำ นวน
ผลท่เี กดิ ขึน้ จากการด�ำ เนินการ สมบัติของการด�ำ เนนิ การ และน�ำ ไปใช้

2. ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/6 หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจำ�นวน 1 หลกั
กบั จ�ำ นวนไมเ่ กิน 4 หลกั และจำ�นวน 2 หลกั กบั จ�ำ นวน 2 หลัก

สาระสำ�คัญ

1. การคูณจำ�นวนสองหลักกับจำ�นวน 10 20 30 ... 90
2. การคูณจ�ำ นวนสองหลักกบั จ�ำ นวนสองหลัก

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. สามารถบอกว่าการคูณคืออะไร และรคู้ วามหมายของการคูณ
2. สามารถหาคำ�ตอบของจ�ำ นวนหน่ึงหลักเม่ือคณู กบั จำ�นวนทีล่ งท้ายดว้ ย 0 ได้
3. สามารถสรุปวิธีการหาผลคูณได้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

การบวก การลบ การคณู การหารจำ�นวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
- การบวกและการลบ
- การคณู การหารยาวและการหารสน้ั
- การบวก ลบ คณู หารระคน

กระบวนการจดั การเรียนรู้

1. ขนั้ น�ำ เขา้ สู่บทเรียน
1. คณุ ครแู จกใบงาน บอรด์ เกม “สตู รคณู ทายภาพ”
ให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันต่อจิ๊กซอว์ โดยดูประโยค
สัญลักษณ์ท่ีกำ�หนดให้ แล้วนำ�ผลคูณแต่ละแผ่น
ไปวางในชอ่ งแตล่ ะช่องให้ถกู ตอ้ ง
2. คู่ไหนเสร็จก่อนและตอบได้ว่าเป็นภาพอะไร เป็น
ฝา่ ยชนะ

บริษัทธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 18

2. ขั้นนำ�เสนอความรู้
1. ค ณุ ครสู อนเรอ่ื ง การคณู จ�ำ นวนสองหลกั กบั 10 20 30
... 90 โดยใช้ภาพตะกรา้ ใสด่ นิ สอเปดิ ขึน้ จอให้นักเรยี นดู
หรอื ตดิ บนกระดานกไ็ ด้ (ดงั ภาพ) สนทนากบั นกั เรยี นวา่
ถา้ ครจู ะตอ้ งแจกตะกรา้ สใี หน้ กั เรยี น 10 กลมุ่ กลมุ่ ละ 28
แท่ง ครูจะตอ้ งใชส้ ีท้ังหมดก่ีแท่ง
2. อธิบายให้นักเรียนฟังว่า เราสามารถเขียนเป็นประโยค
สญั ลกั ษณ์การคูณได้คือ 10 x 28 = หาคำ�ตอบได้ง่าย ๆ โดยน�ำ 28 x1 ได้ 28 จากน้นั เตมิ 0 ต่อ
ทา้ ยผลคณู 1 ตัว จะไดค้ �ำ ตอบคือ 280
3. จ ากน้ัน อธิบายการคูณจำ�นวนสองหลักกับ 20 30 40 ... 90 ด้วยวิธีเดียวกัน หรือเขียนประโยค
สญั ลกั ษณ์บนกระดาน เช่น 25 x 30 ถามนกั เรยี นวา่ จะมีวิธกี ารหาค�ำ ตอบได้อย่างไร จะน�ำ จ�ำ นวน
ใดมาคูณกันกอ่ น เปน็ ต้น
4. คุณครูสอนเร่ือง การคูณจำ�นวนสองหลักกับสอง
หลัก ยกตัวอย่างประโยคสัญลักษณ์การคูณ เช่น
24 x 12 = สอนตามข้นั ตอน 1-3 ในหนงั สือเรยี น
หนา้ 32 เร่มิ จากคณู ตวั เลขในหลกั หน่วยก่อน แล้วคอ่ ย
คณู ตวั เลขในหลกั สบิ ตามล�ำ ดบั (ดงั ภาพ) เราจะใชค้ วาม
แตกตา่ งของสใี นการคณู เลขแตล่ ะหลกั เพอื่ ความชดั เจน
และเห็นรปู แบบของการคูณ
5. คณุ ครสู ามารถตดิ ภาพ (ใบงานทา้ ยแผนฯ) ประกอบการ
อธบิ ายใหเ้ หมอื นในหนงั สอื เรยี นชดุ เกง่ คณติ คดิ เลขเปน็
หน้า 32 ด้านล่าง เพื่อช่วยให้นักเรียนเห็นภาพการคิด
และเชื่อมโยงเขา้ กับชวี ติ ประจำ�วันได้ (ดังภาพ)
6. อ ธิบายการคณู ด้วยวธิ อี ื่นๆ บนกระดาน ตามตวั อยา่ งท่ี
ให้ในหนังสือเรยี นหนา้ 33-34 จะท�ำ ใหน้ ักเรียนทราบวา่
การคณู จำ�นวนสองหลักกับสองหลักสามารถท�ำ ได้หลายวธิ ี
7. ล องถามนกั เรยี นดวู ่า นกั เรยี นคิดว่าจะเลือกใช้วธิ ีการคณู วธิ ีใด เพราะอะไร และอธิบายใหเ้ พือ่ นฟัง

3. ข้ันลงมอื เรยี นรู้
1. ทำ�กิจกรรมท่ี 1 เรื่อง คูณจำ�นวนสองหลัก ในหนังสือเรียน
เก่งคณิต คิดเลขเป็น หน้า 35 พรอ้ มคำ�อธบิ ายการท�ำ กิจกรรม
(ดาวน์โหลดใบงานจาก QR code)
2. ท �ำ กจิ กรรมที่ 2 เรอื่ ง ใชส้ ชี ว่ ยคณู ในหนงั สอื เรยี นเกง่ คณติ คดิ
เลขเปน็ หนา้ 35 พรอ้ มค�ำ อธบิ ายการท�ำ กจิ กรรม (ดาวนโ์ หลด
ใบงานจาก QR code)
3. นกั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั จากในหนงั สอื เรยี นเกง่ คณติ คดิ เลขเปน็
หน้า 30-31 และหน้า 36-40

4. ขนั้ สรุปความรู้
1. คณุ ครแู จกใบงาน “ฝกึ คดิ คณติ สนกุ ” (ใบงานทา้ ยแผนฯ) ในหนงั สอื
เรียนเกง่ คณติ คดิ เลขเป็น หนา้ 40 ให้นักเรยี นตัดใบงานแล้วติดลงใน
สมดุ ของตัวเอง
2. น กั เรยี นคิดหาค�ำ ตอบลงในช่องวา่ ง (ดังภาพ) เพื่อเปน็ การสรปุ ความ
เข้าใจของตัวเองตามท่ีได้เรยี นมาก่อนหน้าอกี ครัง้ หน่งึ

บริษัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสิทธิ์ © 2564 19

5. ขนั้ ประยุกตใ์ ชค้ วามรู้
1. แ บง่ นักเรยี นออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คน คณุ ครู
แจกการ์ดตัวเลขจำ�นวน 2 หลัก ให้แต่ละกลุ่ม
(ใบงานท้ายแผนฯ)
2. เ ปลี่ยนกันสุ่มหยิบการ์ดตัวเลขคนละ 2 ใบ ให้
เพอ่ื นทีอ่ ย่ใู นกลมุ่
3. เมือ่ ไดก้ าร์ดตวั เลข 2 หลักจากเพือ่ นแล้ว ทากาว
แลว้ ตดิ ลงในสมุดใหห้ ลักตรงกนั เตมิ เครอื่ งหมาย
คูณ (x) จากนั้นเขียนผลลพั ธ์ทไี่ ด้ (ดังภาพ)
4. เปลี่ยนกันสุ่มหยิบการ์ดตัวเลขให้เพ่ือนอีกคนละ
2 คร้ัง แล้วทำ�กิจกรรมในลักษณะเดียวกัน ดังน้ัน
แต่ละคนจะต้องได้ท�ำ กจิ กรรมน้คี นละ 3 ขอ้

เคร่ืองมอื - สื่อการเรยี นรู้
1. ใบงานบอร์ดเกม “สูตรคูณทายภาพ” (ใบงานท้าย
แผนการจดั การเรียนร)ู้
2. สื่อการสอน ตะกร้าใส่สี (ใบงานท้ายแผนการจัดการ
เรยี นร้)ู
3. สื่อการสอนภาพชว่ ยคิด รปู รถบัส (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรยี นรู)้ 41
4. ใบงาน “คูณจำ�นวนสองหลัก” (ดาวนโ์ หลดจาก QR code ในหนงั สือเรียน) 10 55 13
5. ใบงาน “ใช้สชี ว่ ยคณู ” (ดาวนโ์ หลดจาก QR code ในหนังสอื เรียน)
6. ใบงาน “ฝึกคิด คณติ สนุก” (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรียนรู้) 32 2550 90
7. ใบงาน “การด์ ตวั เลขจำ�นวน 2 หลกั ” (ใบงานทา้ ยแผนการจัดการเรยี นร)ู้
8. หนงั สือเรียนชุด เกง่ คณิต คิดเลขเป็น ป.3 เล่ม 2

การวัดและประเมนิ ผล

1. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ของนักเรียน
2. ประเมนิ ผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝกึ หดั /ใบงาน ของนกั เรยี น
(การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ ามความเหมาะสม บางชนั้ เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรยี น - หลังเรยี น แบบประเมนิ การทำ�กิจกรรมกลมุ่ ฯลฯ)

บริษัทธารปัญญา จำ�กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 20

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 6 (3)
ภาพชว่ ยคิด

24 คน 24 คน

24 คน 24 คน

24 คน 24 คน

24 คน 24 คน

บริษัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 21

182ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 6 (3)
2,448บอรด์ เกม สตู รคูณทายภาพ
80
15,000 บรษิ ทั ธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 22

1,048
580

16,000
500

27,000
77

288
455

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 6 (3) 20 × 4 11 × 7 250 × 2
บอรด์ เกม สตู รคูณทายภาพ 5,000 × 3 116 × 5 131 × 8
408 × 6 72 × 4 3,000 × 9
บรษิ ทั ธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 2326 × 7 8,000 × 2 91 × 5

เดอื นพฤษภาคมมี 31 วันใบงานประกอบแผนการ ัจดการเรียน ู้ร บท ่ที 6 (3)ในเดอื นพฤษภาคม กิโลกรัม
ลุงเฉนิ ให้ววั ในฟารม์ึฝก ิคด ค ิณตส ุนก1. วัวกินหญา้ สด กิโลกรัม
กนิ อาหารไปเท่าไหรก่ ันนะ
บ ิรษัทธารปัญญา จำ� ักด สงวน ิลข ิสทธิ์ © 2564 24ประโยคสัญลักษณ์กิโลกรมั

อาหารววั ปริมาณ 2. ววั กินฟางข้าว
หญ้าสด 28 กิโลกรัม/วัน
ประโยคสัญลกั ษณ์
ฟางข้าว 7 กิโลกรัม/วนั

ใบมนั สำ�ปะหลัง 2 กิโลกรัม/วนั
*เป็นตวั เลขสมมติ 3. ววั กินใบมันสำ�ปะหลัง

ประโยคสัญลกั ษณ์

4. ว ัวกินอาหารสามชนิดรวมกนั กิโลกรัม

ประโยคสญั ลกั ษณ์

5. ก ินหญา้ สดมากกว่าหรือน้อยกว่าฟางข้าวเท่าไร

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทที่ 6 (3)
การ์ดตัวเลขจ�ำ นวน 2 หลัก

32 41 55 25 10 13
29 50 62 20 46 11
48 12 27 38 90 24
71 19 33 54 39 83

32 41 55 25 10 13
29 50 62 20 46 11
48 12 27 38 90 24
71 19 33 54 39 83

บริษัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564 25

แผนการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 2

บทท่ี 6 การคณู (4) จ�ำ นวน 2 ชัว่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน ระบบจ�ำ นวน การด�ำ เนนิ การของจ�ำ นวน
ผลท่เี กดิ ขึน้ จากการดำ�เนินการ สมบตั ขิ องการดำ�เนินการ และน�ำ ไปใช้

2. ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/6 หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณของจ�ำ นวน 1 หลัก
กับจำ�นวนไม่เกิน 4 หลกั และจ�ำ นวน 2 หลกั กับจ�ำ นวน 2 หลกั

สาระส�ำ คัญ

การหาตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณก์ ารคูณ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

สามารถหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณก์ ารคณู โดยใชส้ ูตรคณู ได้

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

การบวก การลบ การคณู การหารจ�ำ นวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
- การบวกและการลบ
- การคณู การหารยาวและการหารสั้น
- การบวก ลบ คณู หารระคน
- การแก้โจทย์ปัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ัญหา พรอ้ มท้ังหาค�ำ ตอบ

กระบวนการจดั การเรยี นรู้

1. ขั้นน�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ค ณุ ครใู หน้ ักเรียนทำ�กิจกรรม “เคล่ือนไหวอะไรดี?” เตรยี มการด์
กจิ กรรมทีจ่ ะใหน้ ักเรียนท�ำ ไวป้ ระมาณ 10 กจิ กรรม (ใบงานทา้ ย
แผนฯ)
2. ค ทวำ�่ำก�การา์ดร์ดใหไว้ม้ ีลเักพษื่อณใหะ้นเปัก็นเรกียานร์สดุ่มแขห็งยิบ(อกาาจรใ์ดชข้วึ้นิธีกมาารคเรคั้งลลือะบ)1แใลบ้ว
การ์ดแต่ละใบจะกำ�หนดไว้ว่าให้ทำ�กิจกรรมอะไร (1 การ์ดต่อ
1 กจิ กรรม) เช่น กระโดดตบ 5 ครง้ั ทอ่ งสูตรคณู 1 แม่ จบั คู่
เพอ่ื นแลว้ พดู ภาษาองั กฤษอะไรกไ็ ด้ 1 ค�ำ หรอื 1 ประโยค เปน็ ตน้
3. เ ปล่ียนให้นักเรียนคนอื่นสุ่มหยิบการ์ดครั้งละ 1 ใบ
ไปเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม

บรษิ ทั ธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 26

2. ขั้นนำ�เสนอความรู้
1. ค ุณครูสอนเรื่อง การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค
สัญลักษณ์การคูณ โดยเริ่มจากยกตัวอย่างประโยคสัญลักษณ์
การคูณ และบอกส่วนประกอบของประโยคสัญลักษณ์ก่อนว่า
ประกอบไปด้วย ตัวตัง้ ตัวคณู และผลลัพธ์ (ดงั ภาพ)

2. อธิบายให้นักเรียนฟังว่า หากประโยคสัญลักษณ์การคูณใด
ไม่ได้บอกตัวตั้งหรือตัวคูณตัวใดตัวหน่ึงมาให้ เราก็สามารถ
ทราบค่าของตัวตั้งหรือตัวคูณนั้นได้ ที่สำ�คัญนักเรียนต้อง
ท่องสูตรคณู ให้คลอ่ ง จะช่วยใหน้ กั เรยี นหาค�ำ ตอบไดง้ ่ายขน้ึ

3. ย กตัวอย่างประโยคสัญลักษณ์การคูณที่ต้องการหาตัวไม่
ทราบคา่ ในหนงั สอื เกง่ คณติ คดิ เลขเปน็ หนา้ 41 บนกระดาน
ใหน้ กั เรียนดู เช่น 8 x = 72 (ดังภาพ) เราหาค�ำ ตอบ
ได้โดยคดิ ว่า 8 คูณจำ�นวนใดได้ 72 จากสูตรคูณแม่ 8 ท�ำ ให้
นกั เรยี นทราบวา่ 8 x 9 = 72 (แนะน�ำ ใหค้ ณุ ครใู ชก้ ารด์ ตวั เลข
ตดิ บนกระดาน เพราะสามารถเคล่ือนยา้ ยไปมาได้ และช่วย
กระตุน้ ความสนใจของนักเรยี น)

4. ย กตวั อยา่ งประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณอ่นื  ๆ ในหนงั สือเรียนเกง่ คณติ คดิ เลขเป็น หน้า 41-42 เพมิ่ เตมิ
พร้อมทั้งบอกวิธีการหาตัวไม่ทราบค่าในกรณีที่คำ�ตอบมีค่ามาก ไม่สามารถใช้วิธีการท่องสูตรคูณได้
เชน่ คณู ด้วย 5, 10, 20, 30 จากน้ัน คอ่ ยเพิม่ จ�ำ นวนขึ้นหรอื ลดจำ�นวนลง จนได้ผลคูณทีต่ ้องการ จน
นักเรยี นเขา้ ใจการหาตัวไม่ทราบค่าได้ดี
1
5. ค ณุ ครลู องสมุ่ แจกแถบประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคณู ทต่ี อ้ งการหาตวั = 72
ไมท่ ราบคา่ และตวั เลขทเ่ี ปน็ ค�ำ ตอบ ประมาณ 5 ขอ้ (ใบงานทา้ ย 8×

แผนฯ) ใหน้ ักเรยี นถือไว้ จากนนั้ ให้นกั เรียนจบั คู่ตวั เลขคำ�ตอบ 3 × 18 = 252
และประโยคสัญลักษณ์ที่เข้าคู่กันให้ถูกต้อง เม่ือจับคู่กันแล้ว
ออกไปยืนหน้าห้อง ให้เพ่ือนช่วยกันพิจารณาว่า จับคู่กันได้
ถูกต้องหรอื ไม่

3. ขั้นลงมอื เรียนรู้
1. แ จกใบงาน “จ๊ิกซอวห์ าตัวไมท่ ราบค่า” (ใบงานท้าย
แผนฯ) ให้นักเรียนทุกคนตัดตามรอยประเพ่ือทำ�เป็น
จิ๊กซอว์ทัง้ หมด 10 ขอ้
2. หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ ลว้ จบั คู่
จ๊ิกซอว์ส่วนท่ีเป็นคำ�ตอบให้ถูกต้อง (ดังภาพ) เสร็จ
แล้วร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง และติดจิ๊กซอว์
ลงในสมดุ
3. นักเรียนทำ�แบบฝึกหัดจากในหนังสือเรียนเก่งคณิต
คดิ เลขเปน็ หน้า 43-45

4. ขน้ั สรุปความรู้
ค ณุ ครูสรปุ ร่วมกันกบั นกั เรยี นอกี ครัง้ หนง่ึ ถึงสว่ นตา่ ง ๆ ของประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคูณ ว่าประกอบไป
ด้วย ตวั ตัง้ ตัวคณู และผลลัพธ์ รวมถึงวธิ ีการใช้สตู รคณู หาตัวไมท่ ราบค่า การใชห้ ลกั การคูณแล้วเติม 0
ผหลรือคทูณดทลต่ี ออ้ งงคกูณารดว้เปยจ็น�ำกนาวรนเนท้นลี่ ยงำ้�ทค้าวยาดมว้ รย้ทู 5ีไ่ ด, เ้1ร0ยี ,น1ไ5ป,ให20ค้ ,ง3ท0นแจลาะกชนดั ้ันเจคน่อย ๆ เพ่ิมหรือลดจ�ำ นวนลงจนได้

บรษิ ัทธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 27

5. ขน้ั ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้
1. แบ่งนกั เรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แจกกระดาษ
ขนาด A4 ให้แตล่ ะกลุ่ม กลุ่มละ 10 แผน่ ชว่ ยกันคดิ
ประโยคสัญลักษณ์การคูณท่ีให้หาตัวไม่ทราบค่าใน
ต�ำ แหน่งตวั ตั้ง และตวั คณู มาอย่างละ 5 ขอ้ ตำ�แหนง่
ท่ีให้หาตวั ไมท่ ราบค่าใหว้ าดรูปส่เี หลีย่ มไว้ (ดังภาพ)
2. เขยี นประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคณู ลงในกระดาษ 1 ขอ้ ตอ่
1 แผน่ จนครบ นำ�ไปแลกกบั กลมุ่ อื่น ชว่ ยกนั หาค่าของ
ตวั ไมท่ ราบคา่ โดยเขยี นค�ำ ตอบลงในชอ่ งสเี่ หลย่ี มนน้ั  ๆ
3. เ มอ่ื ท�ำ จนครบทกุ แผน่ แลว้ น�ำ สง่ กลบั คนื ใหก้ ลมุ่ ทเ่ี ราแลกกนั มา แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู
ต้องทีเ่ พอ่ื นกลุ่มอื่นเขียนค�ำ ตอบมาให้

เครื่องมือ - ส่อื การเรยี นรู้

1. ใบงานการทำ�การด์ “เคลอ่ื นไหวอะไรด”ี (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรียนร้)ู
2. แถบประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคูณ และค�ำ ตอบ (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรยี นรู้)
3. ใบงาน “การ์ดหาตวั ไมท่ ราบค่า” (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรียนร)ู้
4. กระดาษ A4
5. หนงั สือเรียนชุด เก่งคณิต คดิ เลขเป็น ป.3 เล่ม 2

การวดั และประเมนิ ผล

1. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น
2. ประเมนิ ผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝกึ หดั /ใบงาน ของนกั เรยี น
( การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม บางชน้ั เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรยี น - หลงั เรียน แบบประเมนิ การทำ�กิจกรรมกลุ่ม ฯลฯ)

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 28

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 6 (4)
เคล่อื นไหวอะไรดี

กระโดดตบ จับค่กู ับเพือ่ น
5 คร้งั ตบมอื กัน 10 ครง้ั

ลุก-น่ัง บอกจำ�นวนสองจำ�นวน
10 คร้ัง ทคี่ ูณกนั แลว้ เท่ากับ 10

ท่องสตู รคูณ หมนุ รอบตัวเอง
แม่ 6 2 รอบ

เลือกท�ำ ท่าเดิน กระทืบเท้า
ของสตั ว์ 1 ชนิด 5 คร้งั
สะบดั มือ 15 ครัง้
จบั ค่กู ับเพือ่ น
พูดค�ำ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ บอกช่ือผลไม้
มา 3 ชนดิ
1 ค�ำ
บรษิ ัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 29
หมนุ เขา่ 10 ครัง้

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทท่ี 6 (4)
แถบประโยคสญั ลักษณ์การคณู และคำ�ตอบ

1

8 × = 72

2

15 × = 30

3

× 18 = 252

4

× 31 = 620

5

22 × = 286

บรษิ ัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564 30

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทท่ี 6 (4)
แถบประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ และค�ำ ตอบ

9
19
14
20
13

บรษิ ทั ธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 31

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 6 (4)
การด์ หาตัวไม่ทราบค่า

1 ทากาว

5 × = 40______________

2 ทากาว

16 × = 160______________

3 ทากาว

12 × = 132______________

4 ทากาว

38 × = 532______________

5 ทากาว

22 × = 418______________

11 14 8 10 19

บรษิ ัทธารปัญญา จำ�กัด สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 32

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ บทท่ี 6 (4)
การด์ หาตัวไม่ทราบคา่

6 ทากาว

× 3 = 27______________

7 ทากาว

× 15 = 60______________

8 ทากาว

× 21 = 672______________

9 ทากาว

× 43 = 516______________

10 ทากาว

× 51 = 1,020______________

12 9 20 32 4

บรษิ ัทธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564 33

แผนการจัดการเรียนรู้
หน่วยการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2

บทที่ 6 การคูณ (5) จำ�นวน 2 ชั่วโมง

มาตรฐานการเรียนรู้

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวน ระบบจ�ำ นวน การด�ำ เนนิ การของจ�ำ นวน
ผลท่เี กิดข้ึนจากการด�ำ เนินการ สมบตั ิของการด�ำ เนินการ และน�ำ ไปใช้

2. ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ ีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้นั ตอน ของจำ�นวนนบั ไมเ่ กิน 100,000
และ 0

สาระส�ำ คญั

การแก้โจทย์ปัญหาทำ�ได้โดยการอ่าน ทำ�ความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำ�ตอบ และตรวจสอบ
ความสมเหตุสมผลของคำ�ตอบ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. สามารถบอกส่วนตา่ งๆ ของโจทย์ปัญหาการคูณได้
2. สามารถหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหาการคูณได้
3. สามารถบอกขนั้ ตอนการแก้โจทย์ปญั หาการคณู ได้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

การแกโ้ จทย์ปญั หาและการสร้างโจทยป์ ัญหา พรอ้ มทง้ั หาคำ�ตอบ

กระบวนการจดั การเรียนรู้

1. ขั้นนำ�เข้าสูบ่ ทเรยี น
1. คณุ ครูใหน้ ักเรยี นทำ�กจิ กรรม “ตบมอื +1 และตบมือ -1” เพอ่ื เคลือ่ นไหวรา่ งกายก่อนเข้าบทเรยี น
2. มีวธิ กี ารทำ�กิจกรรมดังน้ี
ข้ันแรก ตบมอื ตามจำ�นวนครงั้ ทค่ี ุณครบู อก 1 ครงั้ 2 ครั้ง 3 คร้งั 4 คร้ัง 5 ครงั้ ... ตามสมควร
ขนั้ สอง ตบมอื เพมิ่ จากที่คุณครูบอก เชน่ บอกตบมอื 2 คร้ัง ตอ้ งตบมือ 3 ครัง้ บอกตบมอื 4 ครงั้
ต้องตบมอื 5 ครงั้ เป็นตน้ (เพอ่ื ความสนกุ ควรเร่งจังหวะการบอกให้เรว็ ข้นึ เป็น step)
ขัน้ สาม ตบมอื ลดจากทค่ี ณุ ครบู อก เชน่ บอกตบมือ 5 ครงั้ ต้องตบมอื 4 ครั้ง บอกตบมอื 6 ครงั้
ตอ้ งตบมอื 5 คร้งั เป็นต้น (เพอื่ ความสนกุ ควรเรง่ จังหวะการบอกใหเ้ รว็ ขน้ึ เปน็ step)

2. ขั้นน�ำ เสนอความรู้
1. คณุ ครูสอนเร่ือง โจทยป์ ญั หาการคณู และแสดงวธิ ที �ำ โดยใชว้ ิธกี ารสมมติสถานการณ์ในการสนทนา
กับนักเรียน เช่น ช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้มีลูกค้าจำ�นวนมากท่ีจะซ้ือส้ม แม่ค้าจึงต้องการที่จะจัดส้มใส่
ถาดเตรียมไวข้ าย 19 ถาด ถาดละ 20 ลกู แมค่ า้ จะตอ้ งใชส้ ้มทงั้ หมดกลี่ ูก

บรษิ ัทธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564 34

2. คณุ ครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาการคูณแบบแยกส่วนได้ ไวบ้ น
กระดาน (ดังภาพ) ใช้โจทย์ปญั หาตัวอย่างจากในหนงั สือ
เก่งคณิต คิดเลขเป็น หน้า 46 นักเรียนอ่านโจทย์ปัญหา
ทงั้ หมดพรอ้ มกนั ถามนกั เรยี นวา่ โจทยน์ บ้ี อกอะไรนกั เรยี น
บา้ ง (สง่ิ ทโี่ จทยบ์ อก) โจทยถ์ ามอะไร (สงิ่ ทโ่ี จทยถ์ าม) แลว้
เราจะเขยี นประโยคสญั ลักษณไ์ ดอ้ ยา่ งไร

3. เมอ่ื นกั เรยี นบอกไดว้ า่ สงิ่ ทโี่ จทยบ์ อกคอื อะไรบา้ ง และสว่ น
ที่โจทย์ถามคือตรงไหน คุณครูหยิบแถบประโยคน้ันแยก
ออกมาตดิ ไวบ้ นกระดาน แลว้ เขยี นก�ำ กบั ไวว้ า่ สว่ นไหนคอื
สิ่งที่โจทย์บอก ส่ิงที่โจทย์ถาม และประโยคสัญลักษณ์
(ดงั ภาพ)

4. เขียนประโยคสัญลักษณ์ที่ไดค้ อื 19 x 20 = อธิบายให้นักเรียนฟงั ว่า 19 คอื จำ�นวนกล่มุ ส่วน
20 คอื จ�ำ นวนของสง่ิ ของ แสดงวธิ ที �ำ ใหน้ กั เรยี นดตู ามคำ�อธิบายในหนงั สือเรยี นหน้า 46 ให้นกั เรียน
เขา้ ใจรว่ มกัน

5. อ ธบิ ายโจทยป์ ญั หาการคณู อน่ื  ๆ บนกระดาน ตามตวั อยา่ งทใี่ หใ้ นหนงั สอื เรยี นหนา้ 47-48 ใหน้ กั เรยี น
ดตู ามความเหมาะสม

6. ทบทวนใหน้ กั เรยี นฟงั วา่ โจทยป์ ญั หามี 2 ส่วน คอื ส่วนทโ่ี จทย์บอก และสว่ นทโี่ จทย์ถาม
3. ขน้ั ลงมือเรยี นรู้

1. ท ำ�กจิ กรรม บา้ นโจทยป์ ญั หา ในหนงั สอื เรียนเกง่ คณิต
คิดเลขเป็น หน้า 49 พร้อมคำ�อธิบายการทำ�กิจกรรม
(ดาวน์โหลดใบงานจาก QR code)

2. น กั เรียนท�ำ แบบฝึกหัดจากในหนังสอื เรยี นเก่งคณิต คิด
เลขเปน็ หนา้ 50-54

4. ขั้นสรุปความรู้
1. คุณครูแจกใบงาน “3D-GO แยกส่วนโจทย์ปัญหา”
(ใบงานทา้ ยแผนฯ) ให้นักเรียนทุกคน
2. นักเรียนตัดออกเป็นส่วน ๆ จะได้ สิ่งที่โจทย์บอก
สิ่งทโี่ จทยถ์ าม ประโยคสญั ลักษณ์ และวธิ ีทำ� น�ำ ไป
ตดิ ลงในสมุดให้มลี กั ษณะเป็น 3D-GO window เขียน
เติมคำ�ตอบและแสดงวิธที �ำ (ดงั ภาพ)

5. ข้นั ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
1. แ บง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แจกใบงาน
“ฝกึ คดิ คณิตสนกุ ” ให้แตล่ ะกลมุ่ (ใบงานท้ายแผนฯ)
2. ช่วยกันเขียนแสดงวิธีทำ�และหาคำ�ตอบจากข้อมูลท่ีให้
ทั้งของลุงและของปา้ ลงในใบงาน (ดงั ภาพ)
3. เ สรจ็ แลว้ ทกุ กลมุ่ บอกค�ำ ตอบทห่ี าได้ แลว้ น�ำ มาอภปิ ราย
ร่วมกันอีกครั้งหนึ่งถึงความถูกต้อง หรือแตกต่างกัน
อยา่ งไร

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 35

เครื่องมือ - สอ่ื การเรียนรู้

1. แถบโจทยป์ ญั หาการคณู
2. ใบงาน “บา้ นโจทย์ปญั หา” (ดาวนโ์ หลดจาก QR code ในหนังสือเรยี น)
3. ใบงาน “3D-GO แยกสว่ นโจทย์ปญั หา” (ใบงานทา้ ยแผนการจดั การเรียนรู)้
4. ใบงาน “ฝกึ คดิ คณติ สนกุ ” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรียนร)ู้
5. หนงั สือเรยี นชุด เกง่ คณิต คดิ เลขเป็น ป.3 เลม่ 2

การวัดและประเมินผล

1. สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ของนกั เรยี น
2. ประเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝึกหดั /ใบงาน ของนักเรียน
( การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ ามความเหมาะสม บางชน้ั เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
ก่อนเรยี น - หลงั เรียน แบบประเมินการทำ�กจิ กรรมกลุม่ ฯลฯ)

บริษทั ธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 36

ทากาวด้านหลัง บ ิร ัษทธาร ัปญญา ำจ� ักด สงวน ิลขสิท ์ธิ © 2564 37

ใบงานประกอบแผนการจัดการเ ีรยน ู้ร บทที่ 6 (5) ส่ วนประกอบ
3D-GO แยก ่สวนโจท ์ยปัญหา ของโจทย์ปั ญหาการคูณ

ถาดขนมวนุ้ หนง่ึ ถาดตดั จะได้ขนมวุ้นไว้ขาย 15 x 28 =  ถ้าท�ำ ขนมวุ้นไวข้ าย 1258 xถชานิ้ ด
ได้ 28 ชนิ้ ถา้ ท�ำ ขนมวนุ้ ท้ังหมดกี่ชิน้ ขนมวุ้นหนง่ึ ถาดตดั ได ้
ไว้ขาย 15 ถาด +

ไดข้ นมวนุ้ ไว้ขายท้งั หมด ชนิ้

ตอบ จะไดข้ นมวนุ้ ไว้ขายท้งั หมด ชิ้น

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 6 (5)
ฝึกคิด คณติ สนุก

12

✪ ลงุ ย่างปลาหมกึ 66 ไม้ ราคาไมล้ ะ 55 ✪ ป ้ายา่ งปลาหมกึ 75 ไม้ ราคาไม้ละ 25
บาท บาท

✪ ถา้ ขายได้ 47 ไม้ จะได้เงิน บาท ✪ ถ า้ ขายได้ 50 ไม้ จะได้เงนิ บาท
✪ ถ้าขายหมด 66 ไม้ จะไดเ้ งิน บาท ✪ ถ า้ ขายหมด 75 ไม้ จะไดเ้ งนิ บาท

ประโยคสัญลักษณ์ ประโยคสัญลกั ษณ์
แสดงวิธีทำ� แสดงวธิ ีทำ�

ประโยคสญั ลกั ษณ์ ประโยคสญั ลักษณ์
แสดงวิธที ำ� แสดงวิธที ำ�

✪ ถ ้าทัง้ สองคนขายหมด ลงุ จะได้เงนิ มากกวา่ หรือนอ้ ยกว่าปา้ กี่บาท 38

บรษิ ัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2564

แผนการจดั การเรยี นรู้
หน่วยการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 2

บทที่ 6 การคณู (6) จ�ำ นวน 2 ชัว่ โมง

มาตรฐานการเรยี นรู้

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวน ระบบจ�ำ นวน การด�ำ เนนิ การของจำ�นวน
ผลที่เกดิ ขึ้นจากการดำ�เนินการ สมบัติของการด�ำ เนินการ และนำ�ไปใช้

2. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/9 แ สดงวิธีหาค�ำ ตอบของโจทย์ปญั หา 2 ข้นั ตอน ของจำ�นวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000
และ 0

สาระส�ำ คัญ

การสร้างโจทย์ปัญหาต้องมีทั้งส่วนท่ีโจทย์บอก และส่วนท่ีโจทย์ถาม นอกจากน้ี โจทย์ปัญหาที่สร้างต้องมี
ความเปน็ ไปได้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. สามารถบอกสว่ นตา่ งๆ ของโจทยป์ ัญหาการคณู ได้
2. สามารถหาคำ�ตอบของโจทย์ปญั หาการคณู ได้
3. สามารถบอกข้นั ตอนการแก้โจทย์ปญั หาการคณู ได้
4. สามารถสรา้ งโจทยป์ ัญหาการคูณได้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง

การแกโ้ จทยป์ ญั หาและการสร้างโจทยป์ ัญหา พรอ้ มทง้ั หาค�ำ ตอบ

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1. ขั้นน�ำ เขา้ สู่บทเรียน
1. แบง่ นกั เรยี นออกเป็น 2 กลุ่ม เพอื่ เล่นเกม “ปิงปองเกบ็
แต้ม” โดยคณุ ครูหนีบการ์ดตัวเลขเข้ากบั แกว้ กระดาษท่ี
มขี นาดใหญพ่ อทล่ี กู ปงิ ปองจะลงไปได้ จากนน้ั ตดิ แกว้ ไว้
บนกระดานเคลอ่ื นทเ่ี ตรยี มไว้ (ดังภาพ) พรอ้ มกบั เตรียม
ลูกปงิ ปองใสต่ ะกรา้ ไว้ดว้ ย
2. ค ุณครูจับเวลาในการโยน เช่น 1-2 นาที จากนั้น ให้
สัญญาณเพื่อให้นักเรียนเร่ิมโยนลูกปิงปองได้ นักเรียน
แต่ละกลุ่มผลัดกันโยนลูกปิงปองให้ลงในแก้วกระดาษ
หากโยนลงแล้วใหด้ วู ่าได้กแ่ี ตม้ แตล่ ะกลมุ่ จดแต้มสะสมไว้
3. เมื่อหมดเวลา ให้แต่ละกล่มุ นับแตม้ ทไ่ี ด้ กลมุ่ ใดได้แต้มมากกว่า กลมุ่ นน้ั เป็นฝา่ ยชนะ

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 39

2. ขั้นนำ�เสนอความรู้
1. ค ุณครูทบทวนเร่ืองส่วนประกอบของโจทย์ปัญหาการคูณบนกระดานร่วมกันกับนักเรียนอีกคร้ังหนึ่ง
โดยการนำ�แถบประโยคโจทย์ปัญหาการคณู ของชว่ั โมงกอ่ นมาติดบนกระดาน
2. ค ณุ ครสู มุ่ แจกการด์ โจทยป์ ญั หาการคณู และประโยคสญั ลกั ษณใ์ หน้ กั เรยี นบางคนในหอ้ ง (ใบงานทา้ ย
แผนฯ) ประมาณ 3 คน ให้นกั เรียนท่ีไดโ้ จทย์ปัญหาอา่ นทีละคน คนทมี่ ีการ์ดประโยคสัญลกั ษณอ์ ย่ใู น
มือ พจิ ารณาดวู ่า เปน็ ประโยคสัญลักษณท์ ่ีตรงกับโจทยป์ ญั หานนั้ หรือไม่ ถา้ ของใครตรงใหช้ กู าร์ดขึ้น
แลว้ อา่ นประโยคสญั ลักษณน์ ้ันให้เพือ่ นฟงั ดัง ๆ
3. เ มื่อพิจารณาและอภิปรายโจทย์ปัญหาครบทง้ั 3 ข้อแล้ว ใหน้ กั เรียนคนอ่ืน ๆ ในหอ้ งลองชว่ ยกันคดิ
แตง่ โจทยป์ ญั หาใหม่จากประโยคสญั ลักษณเ์ ดมิ พิจารณารว่ มกันว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ หากใครคิด
ออกแลว้ ให้ยกมอื ขน้ึ พดู โจทย์ปัญหาทคี่ ิดไดใ้ ห้เพอ่ื นฟงั ประมาณ 5 คน หรือตามความเหมาะสม

3. ขนั้ ลงมอื เรยี นรู้
1. ท ำ�กิจกรรม โจทย์การคูณหลายแบบ ในหนังสือเรียน
เกง่ คณิต คิดเลขเปน็ หนา้ 57 พรอ้ มคำ�อธิบายการทำ�
กิจกรรม (ดาวนโ์ หลดใบงานจาก QR code)
2. นักเรียนทำ�แบบฝึกหัดจากในหนังสือเรียนเก่งคณิต คิด
เลขเป็น หน้า 58-60

4. ขั้นสรุปความรู้
ท ำ�ใบงาน Math Review ในหนงั สือเรยี นเกง่ คณติ คิดเลข
เปน็ หนา้ 61 เพ่อื ทบทวนและสรุปความเข้าใจเรื่องการคูณ

5. ขนั้ ประยุกต์ใช้ความรู้
1. ท �ำ กิจกรรม หลายคน หลายความคดิ ในหนังสอื เรียนเกง่
คณติ คดิ เลขเป็น หนา้ 57 พรอ้ มคำ�อธบิ ายการทำ�กิจกรรม
(ดาวน์โหลดใบงานจาก QR code)
2. แต่ละกลุ่มเลือกโจทย์ปัญหาท่ีคิดแต่งข้ึนมา 1 โจทย์แล้ว
ออกไปอ่านให้เพ่อื นฟงั หนา้ ห้อง ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็
วา่ โจทย์ปญั หาน้ันสมเหตสุ มผลหรอื ไม่

เคร่อื งมอื - สอ่ื การเรียนรู้

1. แกว้ กระดาษ บัตรตวั เลข ตวั หนีบ ลกู ปิงปอง กระดานเคลื่อนที่
2. แถบโจทยป์ ญั หาการคูณจากชัว่ โมงก่อนหน้า
3. ใบงาน “การ์ดโจทย์ปญั หาและประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ” (ใบงานทา้ ยแผนการจัดการเรียนร)ู้
4. ใบงาน “โจทย์การคณู หลายแบบ” (ดาวน์โหลดจาก QR code ในหนงั สือเรยี น)
5. ใบงาน “หลายคน หลายความคิด” (ดาวนโ์ หลดจาก QR code ในหนงั สอื เรียน)
6. กระดาษโพสต์อทิ
7. หนงั สอื เรยี นชุด เก่งคณิต คิดเลขเป็น ป.3 เล่ม 2

การวดั และประเมนิ ผล

1. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรูข้ องนักเรียน
2. ประเมินผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝกึ หดั /ใบงาน ของนกั เรียน
( การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม บางชนั้ เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรยี น - หลังเรียน แบบประเมนิ การทำ�กิจกรรมกลมุ่ ฯลฯ)

บรษิ ัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสิทธิ์ © 2564 40

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ บทที่ 6 (6)
การด์ โจทยป์ ัญหาและประโยคสัญลักษณ์การคูณ

ประโยคสัญลักษณ์ 14 x 28 = 

บริษัทเดินรถแห่งหนึ่งมีรถมินิบัส
ทั้งหมด 14 คัน แต่ละคันมี 28 ที่
นง่ั ถา้ แตล่ ะคนั มผี โู้ ดยสารขน้ึ เตม็

ทุกคัน จะบรรทุกผู้โดยสารได้
ทง้ั หมดก่ีคน

ประโยคสัญลกั ษณ์ 30 x 25 = 

รา้ นค้าซอ้ื ลูกอมรสบ๊วยมาขาย 30 ถุง
แตล่ ะถุงบรรจุ 25 เม็ด ร้านคา้ จะมี
ลกู อมรสบ๊วยไว้ขายกี่เม็ด

ประโยคสัญลักษณ์ 22 x 35 = 

ปี ใ ห ม่ นี้ ซู ซ า น คิ ด ว่ า จ ะ ทำ � คุ ก ก้ี ใ ส่
ขวดโหลแจกเพ่ือเป็นของขวัญ
ทั้งหมด 22 ขวด แต่ละขวดใส่

คุกก้ี 35 ชิ้น ซูซานจะต้องทำ�
คุกกีท้ ้งั หมดก่ีชนิ้

บริษัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 41

แผนการจัดการเรยี นรู้
หนว่ ยการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์
กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 2

บทท่ี 7 การหาร (1) จำ�นวน 4 ช่ัวโมง

มาตรฐานการเรียนรู้

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน ระบบจำ�นวน การด�ำ เนนิ การของจำ�นวน
ผลที่เกดิ ข้ึนจากการดำ�เนินการ สมบตั ขิ องการดำ�เนนิ การ และน�ำ ไปใช้

2. ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/7 ห าค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหาร ท่ีตัวต้ังไม่เกิน 4
หลกั ตวั หาร 1 หลัก

สาระส�ำ คัญ

1. การคูณและการหารมคี วามสมั พันธ์กนั
2. การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์การหาร

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. สามารถบอกตวั เลขการคณู และการหารที่มคี วามสัมพนั ธ์กันได้
2. สามารถหาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์การหารได้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

การบวก การลบ การคูณ การหารจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ 0
- การบวกและการลบ
- การคณู การหารยาวและการหารส้ัน
- การบวก ลบ คูณ หารระคน
- การแกโ้ จทย์ปัญหาและการสร้างโจทยป์ ัญหา พร้อมทง้ั หาค�ำ ตอบ

กระบวนการจดั การเรียนรู้

1. ข้ันน�ำ เขา้ สบู่ ทเรียน
1. นักเรียนจับคู่กัน แจกใบงาน “รวมกันได้ 10” ให้คู่ละ 1 ใบ
เตรยี มสเี มจิกคนละสี เน้นใชส้ เี ข้ม ทเี่ หน็ ความแตกตา่ งชดั เจน
2. ใ หน้ กั เรยี นแขง่ กนั วงตวั เลขเฉพาะทบี่ วกกนั แลว้ ได้ 10 ใหไ้ ดม้ าก
ทสี่ ุด คุณครใู ห้สญั ญาณเรม่ิ ต้นและหมดเวลา
3. นับวงกลมสีของใครได้มากที่สุด จะเป็นผู้ชนะ (เกมนี้มีจุด
ประสงคใ์ หน้ กั เรียนฝึกคิดเลขฐาน 10 ได้อย่างคลอ่ งแคล่วและ
แมน่ ยำ�)

บรษิ ัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2564 42

2. ขนั้ นำ�เสนอความรู้
1. คณุ ครสู อนเรอ่ื ง “ความสมั พนั ธ์ของการคณู และการหาร” ในหนงั สอื เรียนชดุ เกง่ คณิต คดิ เลขเปน็
หน้า 62 โดยใชส้ อื่ ของจริงท่ีมีขนาดพอประมาณ เช่น ลำ�ไย ลองกอง หรอื ลูกช้ินทอด เป็นต้น เตรยี ม
ไว้จ�ำ นวน 120 ลกู เพื่อทบทวนนกั เรียนเร่อื งการคูณและการหารไปดว้ ย
2. ใช้ตัวแทนนักเรียนออกมาหนา้ ชนั้ 4 คน นำ�สอื่ ของจรงิ ที่นำ�มาวางไวก้ ลางโต๊ะ (ยกตัวอย่างโดยใชล้ ูก
ชิ้นทอด) พรอ้ มกบั แจกจานกระดาษ และไม้จ้มิ ฟันใหน้ ักเรยี นคนละ 1 ชุด ให้นกั เรียนท้งั 4 คน ลอง
แบ่งลูกชิ้นให้ได้คนละเท่า ๆ กัน เม่ือแบ่งลูกชิ้นเสร็จแล้ว นักเรียนก็จะทราบว่า แต่ละคนได้ลูกช้ิน
คนละ 30 ลูก
3. ใหน้ ักเรยี นถอื จานลูกชิ้นของตวั เองขึน้ มา คณุ ครูบอก
กับนักเรยี นวา่ การแบง่ ลูกช้นิ ให้ 4 คน ได้คนละเทา่
ๆ กันคอื 30 ลูก แบบนี้เรียกว่า "การหาร" เขียนเป็น
ประโยคสัญลักษณ์การหารได้ดังน้ี 120 ÷ 4 = 30
พร้อมกับติดแถบประโยคสัญลักษณ์ไว้บนกระดาน
(หรอื จะใชก้ ารเขยี นก็ได้ ดงั ภาพ)
4. จากน้นั คุณครูถามนักเรียนว่า ถ้าครูอยากทราบว่าลกู
ชิ้นของทั้ง 4 คนรวมกันจะมีทั้งหมดก่ีลูก เราจะต้อง
ท�ำ อยา่ งไร นักเรียนอาจจะบอกวา่ ใหน้ ำ� 30 มาบวก
กนั 4 คร้ัง หรือน�ำ 30 x 4 = 120 ในกรณีนี้ คุณครู
บอกกับนักเรียนว่า ชั่วโมงน้ีเรากำ�ลังเรียนเร่ืองความ
สมั พนั ธข์ องการคณู และการหาร ดงั นน้ั เราจะใช้การ
คูณเพราะหาคำ�ตอบได้เรว็ ดว้ ย น่ันคอื 30 x 4 = 120
ติดแถบประโยคสัญลักษณ์ไว้บนกระดาน (หรือจะใช้
การเขียนก็ได้ ดังภาพ)
5. ค ุณครูแสดงตัวเลขความสัมพันธ์ของการคูณและการ
หารไว้บนกระดาน (ดังภาพ) บอกนักเรียนว่า ความ
สัมพนั ธ์น้ีใชต้ วั เลขเพียง 3 จ�ำ นวนเทา่ น้นั คอื 4 30
และ 120 จากนั้น ยกตัวอย่างอื่นในหนงั สือเรยี นหนา้
63 ใหน้ กั เรยี นเข้าใจชัดเจนยงิ่ ขึ้น
6. คุณครูสอนเร่ือง “การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน
ประโยคสัญลักษณ์การหาร” ในหนังสือเรียนหน้า
112 โดยใช้ชุดตวั เลขเดมิ คอื 4 30 และ 120 ให้
นักเรียนดู โดยติดภาพความสัมพันธ์ของตัวเลขไว้
บนกระดาน ยกตัวอย่างการหาค่าของตัวไม่ทราบ
ค่าในประโยคสัญลักษณ์การหาร (กรณีตัวไม่ทราบ
ค่าในประโยคสัญลักษณ์การหารให้หาตัวหาร) เช่น
120 ÷ = 30 พร้อมกับแสดงวิธหี าตัวไม่ทราบคา่
ให้ดู (ดังภาพ) บอกนักเรียนว่า เราสามารถหาตัวไม่
ทราบค่าไดโ้ ดยการใช้สตู รคณู
7. ย กตวั อยา่ ง การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหาร (กรณตี วั ไมท่ ราบคา่ ในประโยค
สัญลกั ษณก์ ารหารให้หาตัวต้งั ) เชน่ ÷ 30 = 4 อธบิ ายให้นักเรียนวา่ เราจะหาตัวไม่ทราบคา่ ของ
ตวั ตงั้ ได้ โดยการเอาตัวหาร x ผลลัพธ์ คอื 30 x 4 = 120 ดงั นนั้ ตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์
นี้ก็คอื 120 นน่ั เอง
8. ยกตัวอย่างและอธิบายการหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์การหารอ่ืน ๆ ในหนังสือเรียนหน้า
112-113 เพม่ิ เตมิ เพอ่ื ให้นกั เรียนเขา้ ใจมากยงิ่ ข้ึน

บริษัทธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 43

3. ข้ันลงมือเรียนรู้
1. แบง่ กลมุ่ นกั เรยี นท�ำ กจิ กรรม “ความสมั พนั ธข์ องการ
คูณและการหาร” โดยคุณครแู จกใบงานชุดตวั เลขให้
แตล่ ะกลมุ่ (ใบงานทา้ ยแผนฯ) ชว่ ยกนั ตดั ตามรอยประ
เพอื่ ท�ำ เป็นการด์ ชุดตัวเลข
2. ด ชู ดุ ตวั เลขทไ่ี ดท้ ลี ะชดุ ชว่ ยกนั พจิ ารณาดวู า่ ชดุ ตวั เลข
ที่ได้แต่ละชุดมีความสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง ให้เขียน
ความสัมพันธ์ของการคูณและการหารลงในสมุดของ
ตัวเอง (ดงั ภาพ)
3. น กั เรยี นทำ�แบบฝกึ หัดจากในหนังสอื เรียนเกง่ คณติ คิดเลขเปน็ หนา้ 64 และหนา้ 114-117

4. ขัน้ สรปุ ความรู้
1. ค ุณครูเขียนหรือติดการ์ดชุดตัวเลขไว้บนกระดาน
จากขั้นนำ�เสนอความรู้ ให้นักเรียนช่วยกันสรุปความ
สัมพันธ์ของการคูณและการหารของตัวเลข แล้วให้
ตวั แทนออกมาเขียนไว้บนกระดาน (ดังภาพ)
2. จากนั้น คุณครูเขียนประโยคสัญลักษณ์การหารของ
ตัวเลขชุดน้ีข้ึนมา โดยให้หาค่าของตัวหารหรือตัวตั้ง
นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบวา่ ตวั ไมท่ ราบคา่ ทคี่ ณุ ครใู หห้ านน้ั
มคี า่ เท่ากบั เทา่ ไร และมวี ิธกี ารหาอย่างไร เพื่อเปน็ การสรปุ วิธีหาตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์
การหารร่วมกันอีกครง้ั

5. ขนั้ ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้
1. คณุ ครแู จกใบงาน “ปรศิ นาตวั ไมท่ ราบคา่ ” (ใบงานทา้ ย
แผนฯ) ให้นักเรียนหาตัวไม่ทราบค่าท่ีอยู่ในการ์ดแต่ละ
ใบจนหมด แลว้ ระบายสตี ามท่กี �ำ หนดให้
2. เม่ือหาตัวไม่ทราบค่าจนครบแล้ว จะทราบว่าภาพที่ได้
คือภาพอะไร

เคร่ืองมอื - สอื่ การเรียนรู้

1. ใบงาน “รวมกันได้ 10” (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรยี นรู้)
2. ส่ือของจรงิ (เช่น ล้นิ จ่ี ลำ�ไย สตรอว์เบอรี มะนาว ลกู ช้ินทอด เป็นต้น)
3. จานกระดาษ ไม้จ้ิมฟนั (ใช้รว่ มกับส่อื ของจริง)
4. แถบประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหาร แถบประโยคสัญลกั ษณก์ ารคณู
5. ตวั เลขแสดงความสัมพนั ธ์ของการคณู และการหาร
6. ใบงาน “ความสมั พนั ธข์ องการคูณและการหาร” (ใบงานทา้ ยแผนการจัดการเรียนรู้)
7. ใบงาน “ปริศนาตัวไมท่ ราบคา่ ” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรยี นรู้)
8. หนงั สือเรียนชดุ เก่งคณติ คดิ เลขเปน็ ป.3 เล่ม 2

การวัดและประเมนิ ผล

1. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรขู้ องนกั เรยี น
2. ประเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝกึ หดั /ใบงาน ของนักเรยี น
( การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ ามความเหมาะสม บางชนั้ เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
ก่อนเรยี น - หลังเรียน แบบประเมินการท�ำ กิจกรรมกลุ่ม ฯลฯ)

บรษิ ัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 44

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ บทท่ี 7 (1)
รวมกนั ได้ 10

หา 10!

วงกลมผลรวมท่ีได้ 10

5+376+1+074 +40+26+29+851++4529++42
6+4 0+10
3+8 9+1 4+5 1+7
7+3
7+1 8+2 6+7 6+5

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 45

322 568ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทท่ี 7 (1)
ความสมั พนั ธ์ของการคณู และการหาร
46 7 71 8
250 252
180
5 50 63 4
9 20
132

6 22

บริษทั ธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2564 46

ใบงานประกอบแผนการ ัจดการเ ีรยนรู้ บท ่ที 7 (1)
ป ิรศนา ัตวไ ่มทราบ ่คา

บ ิรษัทธารปัญญา จำ� ักด สงวน ิลข ิสทธิ์ © 2564 47
10 100 23 47 420 345 150 590 500 233

462 120 23 311 55 8 9 703

89 108 294 2 4 90 384 624

259 88 6 256 78 280 105 217

205 255 170 3 477 7 65 511 458 20

117 5 290 426 59 144 319 93 71 831

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 7 (1)
ปริศนาตวั ไมท่ ราบค่า

_______ ÷ 5 = 24 ÷สีนำ้_�_ต__า_ล__ออ่ น 3 = 30

สนี ำ้ �ตาลเขม้ _______ ÷ 4 = 64

_______ ÷ 4 = 22 สดี ำ�

สนี ำ้ �ตาลเข้ม ÷สีนำ้_�_ต__า_ล__เข้ม 6 = 18

_______ ÷ 6 = 13 ÷สนี ้ำ_�_ต__า_ล__ออ่ น 8 = 48

สีนำ้ �ตาลเขม้ ÷_______ 9 = 53

_______ ÷ 8 = 35 สีน้ำ�ตาลเขม้

สีน้ำ�ตาลเข้ม _______ ÷ 5 = 34

_______ ÷ 5 = 51 สดี ำ�

สีนำ้ �ตาลเขม้

_______ ÷ 7 = 42

สดี ำ�

_______ ÷ 9 = 16

สนี ำ้ �ตาลเขม้

บรษิ ัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 48

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทที่ 7 (1)
ปรศิ นาตัวไม่ทราบค่า

45 ÷ _______ = 9 440 ÷ _______ = 55

สนี ำ้ �ตาลเข้ม สีนำ้ �ตาลอ่อน

84 ÷ _______ = 42 294 ÷ _______ = 42

สีดำ� สีน้ำ�ตาลเข้ม

120 ÷ _______ = 20 279 ÷ _______ = 31

สดี ำ� สีนำ้ �ตาลอ่อน

192 ÷ _______ = 64 332 ÷ _______ = 83

สดี ำ� สดี ำ�

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 49

แผนการจัดการเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2

บทที่ 7 การหาร (2) จ�ำ นวน 4 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวน ระบบจ�ำ นวน การดำ�เนนิ การของจ�ำ นวน
ผลทเี่ กดิ ข้นึ จากการด�ำ เนนิ การ สมบัตขิ องการด�ำ เนนิ การ และนำ�ไปใช้

2. ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/7 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหาร ที่ตัวต้ังไม่เกิน 4
หลกั ตวั หาร 1 หลกั

สาระสำ�คญั

1. การหารทม่ี ตี ัวตงั้ สองหลักและตวั หารหนึ่งหลกั (การหารลงตัว)
2. การหารทีม่ ตี ัวตัง้ สามหลักและตวั หารหน่ึงหลกั (การหารลงตัว)
3. การหารท่มี ตี ัวตัง้ สี่หลักและตัวหารหนึง่ หลกั (การหารลงตัว)

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. สามารถอธิบายขั้นตอนวธิ ีหาผลหารโดยใชว้ ิธกี ารหารยาวได้
2. สามารถเขยี นแสดงวธิ ีหาผลหารโดยใช้วธิ กี ารหารยาวได้
3. สามารถน�ำ ความรูเ้ กีย่ วกับการหารลงตวั ไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

การบวก การลบ การคณู การหารจำ�นวนนับไมเ่ กิน 100,000 และ 0
- การคูณ การหารยาวและการหารสน้ั

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1. ข้ันน�ำ เข้าสูบ่ ทเรยี น
1. คณุ ครใู หน้ กั เรยี นเลน่ เกม “ปาเลขไดแ้ ตม้ ” โดยตดิ แผน่ ตวั เลข
คละจำ�นวน (ดังภาพ) ไว้บนกระดาน หรือจะใช้วิธีการเขียน
ตวั เลขไวใ้ นตารางบนกระดานกไ็ ด้ แนะนำ�วา่ ไมค่ วรใชต้ าราง
ตัวเลขทม่ี ีขนาดใหญแ่ ละเล็กจนเกนิ ไป
2. แ บ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ยืนต่อแถวกัน แต่ละทีมผลัด
กันปาลูกบอลใหโ้ ดนชอ่ งตัวเลข ปาโดนชอ่ งใดใหเ้ ขียนตัวเลข
ของแต่ละทมี ไว้
3. เ มื่อหมดเวลาให้รวมคะแนน ทีมไหนได้คะแนนมากทีมน้ัน
เป็นฝ่ายชนะ

บรษิ ทั ธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 50