ศธ. ยกเลิกระเบียบทรงผมนักเรียน สามารถไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ แต่ห้ามย้อมสีผมและไว้หนวดหรือเครา จริงหรือ? Show 26 มกราคม 2023 | 16:00 Share LINE ตามที่มีการแชร์ข่าวสารในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องศธ. ยกเลิกระเบียบทรงผมนักเรียน สามารถไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ แต่ห้ามย้อมสีผมและไว้หนวดหรือเครา ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกลุ่มสารนิเทศ สำนักอำนวยการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามในระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2566 ประกาศ ณ วันที่ 16 มกราคม 2566 โดยให้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนหรือนักศึกษาไว้อย่างกว้าง ๆ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดที่เป็นผู้กำกับดูแลสถานศึกษา กำหนดให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวไปกำหนดเป็นระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษาแต่ละแห่งเอง เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ สามารถติดตามได้ที่ http://www.ops.moe.go.th/ หรือโทร. 02-628-6346 หน่วยงานที่ตรวจสอบ กลุ่มสารนิเทศ สำนักอำนวยการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องข่าวปลอม อย่าแชร์! รับสมัครคู่สามีภรรยาทำงานฟาร์มประเทศโปรตุเกสถูกกฎหมาย ข่าวปลอม นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร 12 กุมภาพันธ์ 2566 | 13:30 น. ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมขนส่งเปิดอบรมใบขับขี่ออนไลน์ที่บ้าน ข่าวปลอม นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร 11 กุมภาพันธ์ 2566 | 16:30 น. ข่าวล่าสุดข่าวปลอม อย่าแชร์! ผลิตภัณฑ์ P57 Hoodia ลดน้ำหนักได้สูงสุดถึง 10 กก. ต่อเดือน และช่วยลดการดูดซึมไขมัน เร่งการเผาผลาญ ยับยั้งความอยากอาหาร “ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ” ตอบชัด ยก "ระเบียบทรงผมนักเรียน" ยัน ไม่มีกฎให้อำนาจครูลงโทษด้วยการตัดผม พบเห็นแจ้งได้ที่ MOE Safety Centerนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 65 ถึงการลงโทษโดยตัดผมนักเรียน ว่า ไม่มีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ฉบับใดที่ให้อำนาจครูลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม
ซึ่ง ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ในข้อ 7 ก็กำหนดให้สถานศึกษาโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา หรือ คณะกรรมการบริหารโรงเรียน วางระเบียบเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนที่มีความเฉพาะเจาะจงได้
เช่น โรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับนาฏศิลป์ ซึ่งมีการจัดการเรียนการสอนที่ต้องการไว้ทรงผมนักเรียนในรูปแบบเฉพาะ เป็นต้น ทั้งนี้ หลักการที่ต้องยึดถือในการวางระเบียบ คือ ความเหมาะสมในการพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีของนักเรียน และการมีส่วนร่วมของนักเรียน สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น
ดังนั้น ตราบใดที่การไว้ทรงผมของนักเรียนไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามระเบียบของสถานศึกษา หรือ ของกระทรวงฯ แล้วการลงโทษนักเรียนย่อมไม่สามารถทำได้
ซึ่งตามข้อ 5 ของระเบียบฯ มีโทษเพียง 4 สถานเท่านั้น คือ
อีกทั้งการลงโทษตามระเบียบฯดังกล่าวก็มีเจตนาเพียงเพื่อให้ครูใช้แก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียน หรือ นักศึกษา ให้รู้สำนึกในความผิด และกลับมาประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป ไม่ใช่การลงโทษด้วยวิธีรุนแรง หรือ แบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท
ตามที่ข้อ 6 ของระเบียบฯ นี้ ได้บัญญัติห้ามไว้อยู่ ดังนั้นขอให้ทุกท่านเข้าใจตรงกันว่า การลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม รวมถึงการใช้ความรุนแรงอื่น เช่น การใช้ไม้เรียว การหยิก ตบ ตีร่างกาย หรือ การประจานให้อับอาย ฯลฯ
นอกจากจะเป็นการละเมิดสิทธิทั้งทางร่างกายและจิตใจของนักเรียนแล้ว การลงโทษด้วยวิธีการเหล่านั้นไม่สามารถทำได้ เพราะขัดต่อระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการและผิดกฎหมายด้วย “ รมว.ศธ.กล่าว
นางสาวตรีนุช กล่าวอีกว่า แม้การสร้างระเบียบวินัยจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเรียน และเป็นหน้าที่ที่ครูจะต้องทำให้เกิดขึ้น แต่ดิฉันไม่คิดว่าการลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม หรือ การใช้ความรุนแรงอื่นที่กระทำต่อเนื้อตัวร่างกาย หรือ จิตใจของนักเรียน จะช่วยให้เด็กๆเกิดความตระหนักรู้ในบทบาทและหน้าที่ที่ตัวเอง ยิ่งถ้าเราเข้าใจว่า‘ระเบียบวินัย’ นั้น ไม่ได้หมายถึง การทำให้ทุกคนมีลักษณะเหมือนกัน แต่หมายถึง การทำให้ ‘แต่ละคน’ รู้จักวางตัว และเลือกใช้พฤติกรรมที่เหมาะสมกับบุคคลอื่นในสังคม การลงโทษนักเรียนด้วยความรุนแรงยิ่งไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการสร้างระเบียบวินัย
"ทั้งนี้ หากพ่อ แม่ ผู้ปกครอง หรือนักเรียน พบเห็นการลงโทษนักเรียนที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งมาที่ระบบ MOE Safety Center ผ่าน 4 ช่องทาง ดังนี้ Application MOE Safety Center , www.MOESafetyCenter.com , LINE @MOESafetyCenter หรือที่ call center โทร. 0-2126-6565” นางสาวตรีนุช กล่าว. |