บทท่ี 3 การดารงชวี ติ ของพชื การดารงชวี ิตของพชื 01 สารอนิ ทรยี ใ์ นพชื 02 ปัจจัยบางประการทมี่ ีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื โดยตรง 03 การตอบสนองของพืชตอ่ สง่ิ เรา พืชต องการสารอาหารและพลังงานเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตอื่ น การสังเคราะหด์ วยแสง การเปลี่ยนรูปพลังงานและการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ที่เกิดจาก 1. พลังงานแสงจะเปล่ยี นรูปเปน็ พลงั งานเคมีสะสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ 2. น้าตาลกลูโคสจะถูกเปลี่ยนไปเป็นแป้งทันที และสะสมไวใน 3.
พืชคายน้าและแก๊สออกซิเจนจะถูกพืชคายออกมาทางปากใบ 3.1 สารอนิ ทรยี ์ในพชื สารอินทรีย์ในพืช พืชลาเลยี งน้าตาลและสารที่สรางขึ้น การด ารงชีวิตของพืชจ าเป็นต องอาศัยการท างาน โครงสรางหลักของพืชดอกประกอบดวยราก การแบง่ เซลล์ 3.1.1 สารอนิ ทรียท์ จี่ าเปน็ ต่อ การขยายขนาดของเซลล์ การตอบสนองตอ่ สงิ่ เรา พบทุกชนิด และเป็นสารที่จาเป็นต่อ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดใ์ นอากาศ พืชใชแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ใน การหายใจระดับเซลล์ น้ายางพาราจาก ดอกไมบางชนิดมสี หี รือกลิ่น
สารคาเฟอีนในกาแฟยบั ย้งั ชว่ ยปดิ แผลของ บาดแผล 3.1.2 สารอนิ ทรียท์ ไ่ี ม่จาเป็นตอ่ สารอินทรีย์บางชนิดไม่ไดเกี่ยวของกับการเจริญเติบโตของ การใชประโยชน์จากสารอนิ ทรยี ์ กระชายขาว ฟา้ ทะลายโจร ดานเภสัชกรรม ดานอตุ สาหกรรม - นา้ ยางพาราท่ี ถงุ มอื ยาง หนงั ยาง ดานเกษตรกรรม - สมุนไพรควบคมุ Name Here สะเดาอินเดีย ตะไครหอม บทท่ี 3
การดารงชวี ติ ของพชื 3.2 ของพชื ปจั จยั บางประการท่มี ีผลตอ่ การเจริญเตบิ โตของพชื พืชแต่ละชนิดเจริญเติบโตได ดีในสภาพแวดล อมท่ี – ปัจจยั ภายนอก ปจั จยั ภายนอก แสง เปน็ ปจั จยั สาคัญต่อการสังเคราะห์ดวยแสง ซ่งึ เป็นกระบวนการ ศัตรูพืช เปน็ ปจั จยั ภายนอกท่ีมกั กอ่ ความเสียหายต่อการเจริญเติบโตของพชื อัตราการสังเคราะห์ดวยแสงจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดหนึ่งเท่านั้น และจะ อุณหภูมิ
พืชแต่ละชนิดมีช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต เมลด็ พืชบางชนดิ การชักนาใหเกิดการออกดอกของพืชบางชนดิ ปจั จัยภายนอกเหลา่ น้ี แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นแหล่งใหธาตุคาร์บอนแก่พืชเพื่อ ธาตุอาหาร ที่จาเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชมีหลายชนิด แบ่งตามปริมาณความตองการของพชื ไดเป็น 2 กลมุ่ คอื แกส๊ ออกซิเจน เป็นแก๊สที่พืชใชในกระบวนการหายใจ ก. ขาดธาตไุ นโตรเจน ใบมสี เี หลอื งทงั้ ใบทุกใบ ข. ขาดธาตุฟอสฟอรัส ใบเหลืองโดยแสดงอาการท่ี ค. ขาดธาตุโพแทสเซยี ม ขอบใบและปลายใบไหม NP K Fe Complete ง. ขาดธาตุเหลก็ ใบออ่ นทเ่ี กิดใหม่สีเหลอื งซีด ก ขค จ. ตนแตงกวาท่ีไดรับธาตอุ าหารครบ งจ อาการของตนแตงกวาท่ีขาดธาตอุ าหารต่าง ๆ เมือ่ เทยี บกบั ตนทีไ่ ดรับธาตอุ าหารครบ บทท่ี 3 การดารงชวี ติ ของพชื 3.2 ของพชื ปัจจัยภายใน โดยพืชจะสรางฮอร์โมนเหล่านี้ ปัจจุบันมนุษย์สังเคราะห์สารหลายชนิด ซึ่งมีผล นอกจากสิ่งแวดลอมภายนอกมีผลต่อ ฮอรโ์ มนพชื มี 5 กลุ่มหลัก คือ (plant hormone) ออกซินเป็นฮอร์โมนพืชชนิดแรกที่มี ออกซนิ กบั การโคงเขาหาแสง ออกซนิ การทป่ี ลายยอดพืชโคงเขาหาแสงซึ่งเป็นปัจจัย แสงนอย แสงมาก ออกซินทสี่ รางขึน้ ภายในพชื เปน็ ปัจจัยภายใน เพราะพชื สรางข้ึนเองเพื่อใช ไมใ่ ชสาร ใชสาร สาร 2,4-D (2,4-Dichlorophenoxyacetic acid) บทท่ี 3 การดารงชวี ติ ของพชื ไซโทไคนิน (cytokinin) กอ่ นตดั ปลายยอด หลังตัดปลายยอด ไซโทไคนิน เป็นฮอร์โมนพืช ไซโทไคนินกบั การเจรญิ การตดั ยอดกะเพราเพื่อใหแตกกง่ิ มากขึน้ การเด็ดยอดพืช เช่น กะเพรา เนื้อเยอื่ เจรญิ ส่วนปลายยอด การเจริญของตาเปน็ ผลมาจากการทางานร่วมกันของ การใชไซโทไคนินในการ ไซโทไคนินกบั การนาไปใช 1.5 cm กข 1.5 cm เป็นฮอร์โมนพืชอีกกลุ่มหนึ่งท่ี จิบเบอเรลลนิ เป็นฮอร์โมนพืชที่มีสถานะเป็นแก๊ส มีบทบาท เอทลิ ีน เอทลิ ีน (Ethylene) หากตองการเร่งใหกลวยสุกเร็วขึ้นและพรอมกัน สามารถบ่มกลวยโดยนากลวยที่ยังดิ บใส่ใน กลวยที่ไมม่ กี ารบม่ กลวยทมี่ ีการบ่ม จากสมบัติของเอทิลีนที่มีผลต่อการสุกของผลไม จึงมีการใช มะม่วงทไ่ี มม่ ีการบม่ มะมว่ งทม่ี กี ารบม่ บทท่ี 3
การดารงชวี ติ ของพชื กรดแอบไซซกิ (Abscisic acid ; ABA) เมล็ดที่แชน่ า้ 1 คนื เป็นฮอร์โมนพืชที่มีบทบาทในการยับยั้งการงอกของเมล็ด ทาใหเมล็ด กรดแอบไซซกิ กบั การพกั ตวั ของเมล็ด หากจะเพาะเมล็ดถั่วต่าง ๆ ตองนาเมล็ด กรดแอบไซซิก (Abscisic acid ; ABA) ถาสังเกตเมล็ดถั่วต่าง ๆ จะเห็นว่ามีเปลือกเมล็ดที่แข็ง อีกทั้งยังมีสารที่ เคลือบอยู่ รทู ่ีน้าเขา ในสภาวะดังกล่าว พบว่าภายในเมล็ดมีปริมาณกรดแอบไซซิกเพิ่มสูงขึ้น เมลด็ ถวั่ แดงหลวง กรดแอบไซซกิ รดนา้ ไมไ่ ดรดน้า ไม่ไดรดนา้ + ใชสาร ABA กรดแอบไซซิกกับการนาไปใช สาหรับสารสังเคราะหท์ มี่ ีสมบัตคิ
ลายกรดแอบไซซิกนน้ั บทท่ี 3 การดารงชวี ติ ของพชื 3.3 การตอบสนองของพชื ตอ่ ส่งิ เรา การตอบสนองของพชื ตอ่ สิ่งเรา การตอบสนองของพืชเมื่อไดรับสิ่งเรานั้นอาจมีไดหลายรูปแบบ 1. การตอบสนองที่มีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเรา 3.3.1 ปลายรากพืชเจริญในทศิ ทาง การตอบสนองที่มี ปลายยอดพชื เจริญ การตอบสนองที่มีทิศทางสัมพันธ์กับ การตอบสนองที่มที ิศทางสมั พันธ์กบั ทศิ ทางของสิ่งเรา การตอบสนองทมี่ ที ิศทางสัมพันธก์ บั ทศิ ทางของส่งิ เรา การเคล่อื นไหวท่มี ที ิศทางสัมพันธก์ ับทิศทางของสิง่ เรา การเคลื่อนไหวโดยมแี รงโนมถว่ งของโลกเปน็ สิ่งเรา (gravitropism - positive gravitropism เช่น รากพืชจะเจริญเขาหาแรงโนมถว่ งของโลก - negative gravitropism เชน่ ยอดพชื จะเจริญในทิศทางตรงกันขาม 01 กบั แรงโนมถ่วงของโลก การเคลอ่ื นไหวโดยมนี ้าเปน็ ส่ิงเรา การเคลื่อนไหวโดยมีแสงเป็นส่งิ เรา (hydrotropism) 05 02 (phototropism) เช่น รากพืชเจริญหนแี สงสว่าง การเคลอื่ นไหวโดยตอบสนองต่อ 04 03 การสมั ผสั
(thigmotropism) การเคลื่อนไหวโดยมสี ารเคมเี ปน็ ส่ิงเรา หรอื หลัก เพ่ือเป็นการพยงุ ลาตน เช่น ตาลงึ กระทกรก องุน่ พืชตระกลู แตง 3.3.2 การตอบสนองที่มีทิศทางไม่สัมพันธ์ ลักษณะใบของตนจามจุรใี นแต่ละชว่ งเวลา จบบทที่ 3 แลว อย่าลมื กลบั ไปทบทวนเนอื้ หาดวยน๊า สวสั ดคี ่าาา |