ราคาผ่าตัดต้อเนื้อ วัดไร่ขิง

สวัสดีค่ะ ดิฉันอายุ 29 ปี ตาขวาเป็นต้อเนื้อ ซึ่งตอนนี้ได้ทำการผ่าตัดลอกต้อเนื้อเรียบร้อยแล้วที่ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) สาขาสุขุมวิท อยากมาแชร์ประสบการณ์ เพราะตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นก็หารีวิวเยอะมาก แต่ไม่ค่อยมีภาพมารีวิว เลยตั้งใจว่าตาดีขึ้นแล้วจะมารีวิวให้ดูค่ะ

คือการที่แผ่นเนื้อรูปสามเหลี่ยม งอกจากตาขาวลามเข้าไปในตาดำ ต้อเนื้อจะค่อยๆโต ถ้าเป็นมากจะลามเข้าไปจนถึงกลางตาดำ ปิดบังการมองเห็น และทำให้ตาแดงง่ายด้วยค่ะ แต่ไม่ได้เป็นโรคที่อันตรายนะคะ

ที่นี้อาการเริ่มต้นของดิฉันคือ มีช่วงนึงที่ทำงานดึกทุกวัน ใช้สายตาหนักมาก พอตาแดงก็ไม่สนใจ หลังๆเริ่มสังเกตว่าทำไมมีเนื้อยื่นเข้าไปในตาดำ ก็เลยตัดสินใจไปปรีกษาหมอ ปรากฎว่าเป็นต้อเนื้อ หมอบอกว่ายังลอกไม่ได้เพราะมันเป็นนิดเดียว ให้ใช้ยาหยอดตาลดอักเสบสำหรับตาข้างที่เป็น รวมทั้งหยอดน้ำตาเทียมไว้ไม่ให้ตาแห้ง ไปข้างนอกให้ใส่แว่นกันแดด ส่วนการลอกนั้นต้องรอให้เนื้อยื่นเข้าไปเยอะกว่านี้ก่อน

ผ่านไป 1 ปี เนื้อมันลามเข้าไปเยอะมากขึ้น และด้วยอาชีพของเราต้องเจอลูกค้าตลอด ทำให้เสียความมั่นใจไม่กล้าสบตาลูกค้า ก็เลยไปปรึกษาหมอขอลอกต้อเนื้อเลย หมอบอกว่าลอกได้ แต่มีสิทธิ์กลับมาเป็นอีกนะ เพราะเราอายุยังน้อย

มีภาพ Before ให้ดูค่ะ ขอบตาดำหายไป และเวลาที่เรานอนดึก ใช้สายตามากๆ ตาก็จะแดงง่ายค่ะ

จากที่ศึกษามามีหลายสาเหตุเลยค่ะ ทั้งแสงแดด ลม (เพราะต้อเนื้อเกิดจากการเป็นต้อลมมาก่อน) พันธุกรรม ใช้สายตามากเกินไป แต่ส่วนใหญ่คนที่เป็นคือผู้สูงอายุนะคะ ของเรานี่ถือว่าเป็นตอนอายุยังน้อย > <

ก่อนเข้าผ่าตัดห้ามใช้เครื่องสำอางที่หน้า สระผมมาให้เรียบร้อย เปลี่ยนชุดของโรงพยาบาล และถอดเครื่องประดับทุกอย่างออก เนื่องจากจะมีผลต่อเครื่องมือแพทย์ได้ค่ะ

พอเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว พยาบาลจะให้เรากินยาแก้ปวด นั่งเก้าอี้ที่ปรับนอนได้ เอาแอลกอฮอล์เช็ดหน้าเรา จากนั้นหยอดยาชาที่ตา และเอาเมจิกเขียนที่เปลือกตาข้างที่ต้องผ่าตัดลอกต้อเนื้อค่ะ

ซักพักก็เข้าห้องผ่าตัด คุณหมอที่ทำการลอกต้อเนื้อให้คือ พญ.กุลวรรณ โรจนเนืองนิตย์ คุณหมอน่ารักมาก ชวนคุยตลกๆ ไม่ให้เราตื่นเต้น แต่ใจเราคือ ตึกๆๆๆ ตื่นเต้นมากกก พอขึ้นเตียงผ่าตัด พยาบาลจะใส่ตัววัดชีพจรที่นิ้วชี้ และให้ลูกบอล 2 ลูกเล็กๆไว้ให้เราจับตอนทำการลอกต้อเนื้อค่ะ เพราะแขนเราต้องแนบลำตัวและนิ่งๆ

คุณหมอเริ่มเอาผ้ามาคลุมที่หน้า เว้นช่องตรงตาที่ทำการลอกต้อเนื้อ เราจะรู้สึกว่าตาถูกดึงให้ตึง เพื่อไม่ให้เรากระพริบตาได้ แล้วหมอก็ฉีดยาชาลงไปที่ตาเรา หมอบอกเจ็บนิดนึงนะคะ (ก่อนหน้านี้มีการหยอดยาชาไปแล้ว) รู้สึกเจ็บหน่อยค่ะแต่ต้องอดทน น้ำตาไหลพรากๆ มือสองข้างกำลูกบอลแน่นเลย 555

พยาบาลบอกคุณหมอว่า หัวใจเราเต้นแรงมาก คุณหมอก็พยายามบอกว่าแปปเดียวนะคะ แล้วคุณหมอก็เริ่มเลย ตาเราจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่มันรู้สึกถึงแรงกดอะไรบางอย่าง ปวดนิดๆ ยิ่งมองเห็นเครื่องมือแพทย์ทุกอย่าง ใจก็ยิ่งเต้นแรงไปใหญ่ ตึกๆๆๆ เลยค่ะ

วิธีลอกต้อเนื้อของเราคือตัดเนื้อส่วนที่ยื่นเข้าไปในตาดำออกไป จากนั้นแปะด้วยเนื้อเยื่อรก เพื่อป้องการการเกิดซ้ำ จึงมีการใช้ไหมเย็บแผ่นเนื้อเยื่อรกนั้นติดกับที่ตาด้วย ตอนหมอบอกว่าเสร็จแล้วนะคะ เย็บแผลให้สวยงามแปปนึง โล่งเลยค่ะ เวลาที่รอคอย สรุปเวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนผ่าตัดเสร็จประมาณ 1 ชม. ค่ะ

ผ่าตัดเสร็จ คุณหมอจะให้ปิดตา 1 วัน (24 ชม.) เราจะเริ่มปวดตาเพราะยาชาหมดฤทธิ์ ให้กินยาแก้ปวดทุกๆ 4-6 ชม. ค่ะ จะเปิดตาได้ในวันถัดไป และนี่ก็เป็นภาพหลังลอกต้อเนื้อไป 1 วันนะคะ

หลังลอกต้อเนื้อห้ามล้างหน้านะคะ ให้ใช้น้ำเกลือเช็คทำความสะอาดแทน งดใช้สายตาหนัก และถ้าต้องออกจากบ้านให้ใส่แว่นกันแดดทุกครั้งค่ะ

พอครบกำหนด 7 วัน ก็ตัดไหมค่ะ โดยจะมีการหยอดยาชาที่ตา คุณหมอจะใช้เครื่องมือดึงตาเราให้เปิด และทำการตัดไหม แปปเดียวค่ะ ไม่ถึง 5 นาที หลังตัดไหมก็ยังไม่ให้ล้างหน้านะคะ รออีก 7 วันค่ะ

ตอนนี้ครบ 14 วันแล้ว ล้างหน้าได้ ตาหายแดง และดีขึ้นมากเลยค่ะ ต้องขอบพระคุณคุณหมอและพยาบาลของโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) สาขาสุขุมวิท ที่ทำให้ความมั่นใจของเรากลับมา อัพเดตภาพตามนี้ค่ะ

ว่าดวงตาเรามีความสำคัญมาก ทุกวันนี้ใช้สายตากันเยอะ อย่าลืมดูแล พักสายตาบ้าง ใส่แว่นกันแดดทุกครั้ง และถ้าตาแห้ง ตาแดง ก็รีบไปปรึกษาหมอนะคะ เพราะการผ่าตัดลอกต้อเนื้อถึงจะดูไม่ยุ่งยาก แต่ก็ตื่นเต้นหนักมากค่ะ 555 ขอบคุณทุกคนที่สนใจและอ่านจนจบด้วยนะคะ

ชื่อสินค้า:   รพ เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) สาขาสุขุมวิท

คะแนน:     

เมื่อดวงตาคู่สวยที่สร้างเสน่ห์ให้ใบหน้า มี ต้อเนื้อ (Pterygium) มาบดบังไว้ ย่อมทำให้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตรู้สึกหมดความมั่นใจได้ บางคนจากเดิมที่เคยกล้าสบตาใครตรงๆ ก็อาจจะเริ่มมีหลบตาเพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าอาย หรือเกรงว่าจะถูกทักให้กระอักกระอ่วนใจ ซึ่งจริงๆ แล้วต้อเนื้อไม่ได้ส่งผลแค่ในแง่ความสวยความงาม ถึงแม้ในบรรดาโรคต้อที่เกิดกับดวงตาที่คนมักจะเป็นกังวลกันจะเป็น ต้อกระจก และ ต้อหิน เสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสองโรคนี้หากปล่อยทิ้งไว้ถึงกับตาบอดถาวรได้เลย แต่ต้อเนื้อก็ไม่ใช่โรคที่จะนิ่งนอนใจได้ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะบดบังจนมองไม่เห็นได้เช่นกัน และการปล่อยไว้เนิ่นนานเกิน การที่จะ ผ่าตัดลอกต้อ ภายหลังจะค่อนข้างทำได้ยากและอาจทำให้เกิดแผลเป็นที่กระจกตาจนการมองเห็นไม่ชัดเจนเหมือนเดิมได้

รู้จักต้อเนื้อ

ต้อเนื้อ สมัยก่อนชาวบ้านทั่วไปจะเรียกว่า “ต้อลิ้นหมา” ถ้าใครเคยได้ยินชื่อนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจ มันคือโรคเดียวกัน โรคต้อเนื้อเกิดจากการที่เยื่อบุตาขาวส่วนที่อยู่ด้านข้างของตาดำมีการเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดเป็นตุ่มนูนๆ หรือเนื้อเยื่อรูปสามเหลี่ยมสีครีม โดยจะมีฐานที่เยื่อบุตาขาว ส่วนปลายจะงอกเข้าสู่ใจกลางตาดำ มักเกิดขึ้นที่หัวตามากกว่าหางตา

แม้ว่า ต้อเนื้อ จะเกิดจากการเสื่อมสภาพของเยื่อบุตา แต่ไม่ได้หมายความว่าโรคนี้จะเกิดเฉพาะในคนที่อายุมากที่อะไรต่อมิอะไรในร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ คือไม่ต้องแก่ตัวแล้วถึงจะเป็น ในคนวัยหนุ่มสาวก็สามารถเป็นได้ถ้ามีปัจจัยเอื้อ โดยปัจจัยที่ทำให้เยื่อบุตาเสื่อมเกิดจากการถูกลมหรือแสงแดดบ่อยๆ หรือแม้แต่ฝุ่นละออง ทำให้ ตาแห้ง จนเกิดการเสื่อมสภาพตามมา ปกติแล้วดวงตาของคนเราจะมีน้ำตามาหล่อลื่นตลอดเวลา ถึงจะโดนแดดโดนลมบ้างก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ในบางคนอาจจะด้วยอาชีพที่ต้องทำงานกลางแจ้งต้องโกรกแดดโกรกลม เจอฝุ่นละอองอยู่บ่อย ๆ เช่น ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน คนงานก่อสร้าง เป็นต้น ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นต้อเนื้อได้ง่าย ถึงได้บอกว่าอายุน้อยก็เป็นได้ถ้าวิถีชีวิตวนเวียนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ว่ามา

คนที่เป็น ต้อเนื้อ บางคนอาจไม่มีอาการอะไรเลย แต่บางคนอาจมีอาการ เคืองตา ตาแดง เป็น ๆ หาย ๆ หรือบางครั้งหลังจากถูกลมหรือแสงแดดมาก ๆ หรือนอนดึกอาจเห็นเส้นเลือดขยายและตุ่มนูนมากขึ้นได้ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา ต้อเนื้อก็จะค่อยๆ ขยายขนาดและลุกลามเข้าไปในใจกลางตาดำจนไปปิดรูม่านตาทำให้บดบังการมองเห็นได้

การรักษาต้อเนื้อ

ดังนั้น ใครที่เป็นต้อเนื้อควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อทำการรักษา อย่าปล่อยจนเป็นเยอะ อันนี้ไม่ได้แค่ในแง่ของความสวยงามหรือแก้ไขปมด้อยในคนอายุน้อยๆ ที่เป็นโรคนี้ แต่สำคัญในแง่การมองเห็นด้วย ต้อเนื้อทิ้งไว้ก็หายไม่ได้เองนะคะ ยาหยอดตาที่ช่วยให้ต้อเนื้อหายไปก็เป็นแค่โฆษณาหลอกๆ ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด ปัจจุบันยังไม่มียาตัวใดที่จะช่วยกัดต้อเนื้อให้หลุดออกไปได้ การใช้ยาหยอดตาแค่ใช้ควบคุมการอักเสบของต้อเนื้อเท่านั้น

ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องน่ากลัวที่ต้องลงเอยด้วยการผ่าตัด แต่อันที่จริงแล้วการ ลอกต้อ เป็นการผ่าตัดที่ง่าย ใช้เพียงยาชาเฉพาะที่บริเวณดวงตา ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ ½ -1 ชั่วโมง เมื่อเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย โดยไม่ต้องนอนพักค้างคืนที่โรงพยาบาล จากนั้นแพทย์จะนัดมาเพื่อติดตามอาการ

การรักษาต้อเนื้อ จะต้องถึงขั้นผ่าตัด ลอกต้อ หรือไม่ แพทย์จะดูจากอาการว่าเป็นมากน้อยเพียงใด ถ้าเป็นน้อยๆ หรือเพิ่งเป็นในระยะแรก ต้อเนื้อยังงอกเข้าไปในตาดำไม่ถึง 1 ใน 3 ของความกว้างของตาดำ ยังไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แค่ป้องกันไม่ให้ต้อเนื้อมีการอักเสบบ่อยๆ จะได้ไม่โตเร็วขึ้น โดยการให้คนไข้สวมแว่นที่มีเลนส์ป้องกันรังสียูวี ซึ่งจะช่วยป้องกันลมไปในตัว และใช้ยาหยอดตาควบคุมการอักเสบของต้อเนื้อ ก็จะช่วยประวิงเวลาในการขยายขนาดของต้อเนื้อได้

แต่ถ้าเป็นมากคือต้อเนื้องอกลุกลามเข้าไปในตาดำเกิน 1 ใน 3 ของความกว้างของตาดำ ต้อง ผ่าตัดลอกต้อ ออกเท่านั้น แพทย์จะแนะนำให้ทำผ่าตัดเพราะถ้าทิ้งไว้จะทำให้ต้อเนื้อลามไปถึงใจกลางตาดำได้ ซึ่งไม่เป็นผลดี เพราะจะผ่าตัดได้ค่อนข้างยาก หลังผ่าตัดอาจมองเห็นไม่ชัดเจนเหมือนเดิม เพราะมักเกิดแผลเป็นจากการลอกต้อที่ทำให้กระจกตาขุ่นมัว

ผ่าตัดลอกต้อเนื้อ

สามารถทำได้โดยการลอกต้อเนื้อออกพร้อมกับปลูกเนื้อเยื่อบริเวณที่ลอก เป็นวิธีที่ดีมากในการป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของต้อเนื้อ ในปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบคือ

• การปลูกเนื้อเยื่อด้วยวิธีการเย็บ โดยใช้เยื่อบุตาขาวของคนไข้เอง หรือใช้เยื่อหุ้มรกก็ได้
• ลอกต้อเนื้อโดยใช้กาวผสานเนื้อเยื่อ (Fibrin Glue) เป็นการปลูกเนื้อเยื่อด้วยวิธีการติดกาวผสานเยื่อบุตาขาวของคนไข้เอง

ซึ่งการปลูกเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าว ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

วิธีปฏิบัติหลังผ่าตัดลอกต้อ

หลังผ่าตัด ลอกต้อ แพทย์จะให้ปิดตาแน่นประมาณ 1 – 2 วัน เพื่อให้แผลที่กระจกตาสมานดี ถ้ามีอาการปวดตามากให้รับประทานยาแก้ปวดที่แพทย์จัดให้ไป ควรหยอดตาตามแพทย์สั่ง และในกรณีที่ลอกต้อแบบปลูกเยื่อบุตาขาวหรือเยื่อหุ้มรกจะมีการเย็บแผล ก็จะต้องมาตัดไหมหลังผ่าตัดประมาณ 7 -10 วัน

สำหรับโอกาสกลับเป็นซ้ำหลังลอกต้อออกไปแล้วก็ยังมีอยู่ แพทย์จะให้ยาหยอดตาเพื่อป้องกันการเป็นซ้ำ ส่วนใครที่ยังต้องวนๆ เวียนๆ อยู่กับปัจจัยที่เอื้อให้เกิด ก็ควรหาวิธีป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงจากปัจจัยเหล่านั้น ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้สวมแว่นตาป้องกัน ก็จะกันได้ทั้งลม แสงแดด และฝุ่นละออง ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแว่นตาที่มีเลนส์ป้องกันรังสี UV จะดีที่สุด นอกจากนั้นแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอสูง

เช่น น้ำมันตับปลา, นมและผลิตภัณฑ์นม, ไข่แดง, ตับหมู, ตับวัว, ผักใบเขียว และผลไม้ที่มีเนื้อสีเหลืองและสีส้มซึ่งจะมีสารเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายนำไปสังเคราะห์เป็นวิตามินเอได้ เช่น มะม่วงสุก, มะละกอสุก, ส้มเขียวหวาน, แครอท, ฟักทอง เป็นต้น ซึ่งวิตามินเอจะช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมที่สร้างสารเมือกและไขมันมาเคลือบผิวกระจกตาและเยื่อบุตาขาว ช่วยเป็นเกราะป้องกันให้ดวงตาสามารถทนแดดทนลมได้ดีขึ้น

อ่านถึงตรงนี้ก็ลองส่องกระจกสำรวจดวงตากันบ้างนะคะ ถ้าเห็นมีลักษณะคล้าย ต้อเนื้อ ที่บริเวณหัวตา ไม่ต้องวินิจฉัยเองเพราะบางทีอาจเป็นแค่ต้อลม ถ้าไม่แน่ใจ ควรปรึกษาจักษุแพทย์ให้ช่วยฟันธงดีที่สุดค่ะ

ค่ารักษาต้อเนื้อ

ลอกต้อเนื้อร่วมกับการปลูกเนื้อเยื่อด้วยวิธีการเย็บ

ลอกต้อเนื้อ 1 หัว + ปลูกเนื้อเยื่อด้วยเยื่อบุตาขาว

17,500 บาท

ลอกต้อเนื้อ 1 หัว + ปลูกเนื้อเยื่อด้วยเยื่อหุ้มรก

18,500 บาท

ลอกต้อเนื้อ 2 หัว + ปลูกเนื้อเยื่อด้วยเยื่อบุตาขาวร่วมกับเยื่อหุ้มรก

22,500 บาท

ลอกต้อเนื้อร่วมกับการปลูกเนื้อเยื่อด้วยการติดกาวผสานเนื้อเยื่อ

ลอกต้อเนื้อ 1 หัว ใช้กาวผสานเนื้อเยื่อ ( Fibrin Glue)

29,000 บาท

ลอกต้อเนื้อ 2 หัว ใช้กาวผสานเนื้อเยื่อ ( Fibrin Glue)

34,000 บาท