หนังสือ ภาษาไทย ม.1 เล่ม 1

ก คำนำ ด้วยพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงมุ่งหมายให้การศึกษาบ่มเพาะ สมรรถนะให้แก่ผู้เรียน เพื่อสร้างคุณลักษณะสำคัญ ๔ ประการให้กับคนไทย อันได้แก่ ๑) มีทัศนคติที่ดีและถูกต้อง ๒) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง ๓) มีอาชีพ มีงานทำ ๔) เป็นพลเมืองดี มีระเบียบวินัย และพระราชปณิธาน ใน การสบื สาน รกั ษา พฒั นาต่อยอด โครงการในพระราชดำริของพระราชบดิ า จึงทรงพฒั นาการศึกษาทางไกลผ่าน ดาวเทียม หรือ NEW DLTV ในทุกด้านอาทิ ระบบออกอากาศ อุปกรณ์เทคโนโลยี บุคลากรและกระบวนการจัด การศึกษา เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในโรงเรียนขนาดเล็ก สร้างโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตของ ประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย ผ่านการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมจำนวน ๑๕ ช่องสัญญาณ ไปยังโรงเรียนต่าง ๆ และ ผสู้ นใจทวั่ ประเทศ เพือ่ ให้ประเทศไทยเปน็ สังคมแหง่ ปญั ญามีจิตอาสาในการสรรค์สร้างและพัฒนาประเทศใหม้ น่ั คง การสอนออกอากาศทางไกลผา่ นดาวเทียม ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ในภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ นี้ เป็นการสอนออกอากาศในแนวใหม่ บันทึกเทปการสอนจากห้องเรียนต้นทางของโรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครูปลายทางสามารถดูเทปการสอนผ่านทางเว็ปไซต์ www.dltv.ac.th และ Application on mobile DLTVของมูลนธิ ิ และมีคมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้รายชวั่ โมงครบทง้ั ๘ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ซึ่ง ครูปลายทางสามารถปรับกิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้เหมาะสมกับชมุ ชน ทอ้ งถ่ิน วฒั นธรรมและบริบทของแต่ละโรงเรยี น การจัดทำคู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ได้รับความร่วมมือจากคณะทำงาน ประกอบด้วย สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ คณาจารย์จากมหาวิทยาลัย ศึกษานิเทศก์ และครูผู้เชี่ยวชาญ ทั้ง ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งครูปลายทางใช้ในการเตรียมการสอนล่วงหน้า รวมทั้งจัดเตรียมเอกสารเพื่อส่งเสริมการเรียน ได้แก่ ใบงาน ใบความรู้ แบบฝึกหัด ให้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เกิด ประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในห้องเรียน เพื่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสและ โรงเรียนมธั ยมศึกษาขนาดเล็กตอ่ ไป นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมุ่งมั่นพัฒนายกระดับ คุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อพัฒนาสังคมไทยและยกระดับคุณภาพของคนไทยให้เข้มแข็ง สมดัง พระราชปณธิ าน “...การศึกษาคอื ความมน่ั คงของประเทศ...” ขอพระองคท์ รงพระเจรญิ มูลนธิ ิการศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์

ข บทนำ การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เป็นการจัดการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก ครูสอนไม่ครบชั้น โดยจัดการเรียนการสอนของครูห้องเรียนต้นทางจากโรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปยังห้องเรียนปลายทางในโรงเรียนพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ พื้นที่สูง ชายแดน เกาะแก่งและเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปน็ การลดความเหลือ่ มลำ้ ในการจัดการศกึ ษาให้ทัว่ ถึง เทา่ เทียมและมคี ุณภาพ คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๑ – ๓) ประจำภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ประกอบด้วยเอกสาร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คือ ๑) ภาษาไทย ๒) คณิตศาสตร์ ๓) วิทยาศาสตร์ ๔) สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๕) สุขศึกษาและพลศึกษา ๖) ศิลปะ ๗) การงานอาชีพ ๘) ภาษาต่างประเทศ แต่ละระดับชั้นมีเอกสารรวม ๘ เล่ม แต่ละเล่มมีรายละเอียด คำชี้แจงการจัดกระบวน การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ สื่อ/ใบงาน/แบบฝึก แบบประเมิน ที่ตรงกับมาตรฐาน ตัวชี้วัด และสาระการเรียนร้แู กนกลาง (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ของแตล่ ะสาระการเรียนรู้ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา ข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ การจัดทำคู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๑ – ๓) เป็นการทำงาน ร่วมกันของหลายหน่วยงาน มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาวิชา คณาจารย์ จากมหาวิทยาลัย คณะศึกษานิเทศก์ คณะครูผู้สอนในสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และโรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้มีส่วนร่วมจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยให้คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีความสมบูรณ์และ เหมาะสมต่อการจัดการเรยี นการสอนเพอ่ื เยาวชนไทยทงั้ ประเทศ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หวังว่าคู่มือครูและแผนการจัด การเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ คณะครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ในการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม ในโรงเรียนขนาดเล็กและขยายโอกาสในระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น เพือ่ ประสิทธิภาพการจดั การเรยี นการสอนให้สงู ข้นึ ตอ่ ไป

สารบญั ฃ โคคคคมคคคสคบคมคโคคาำำำ����ำำณณำณำาำทรรรชอนชอนชตตนะะะงงบ้แแ้ีีธ้ีแธรรำ�ำสส�ำบปทฐิบ ิบจจญัฐจ รรรรำาำงงงาำา้ ้ำรับงนรกนยยงงำณาาปกกรรรรนยราาาำำำรำวรยยรยยรงุธบัิชเวแวเวิกวรราชิชิชผิชชิำียียภมาารนำำนนาภภรกรษราาาู้ำู้แยาษษ/รลไกาาเตทระาไไวัยททียรตชสนยยวั รว้ี อชรหดัรรนู้้วี สัห หัดอสัสั ทอก๒ททอ๒๑๒า๑๑๑ก๑๐๑าศ๐๑๐๑๑ ชัน้ชชมั้น้ันัธมมยัธัธมยยศมมึกศศษึกกึ าษษปาาีทปปี่ีทที ๑ี่่ี ๑๑ภาภภคาาเคครเเยี รรนยียี ทนน่ีทท๑ี่ี่ ๑ ๑ หหนหน้าน้า้า หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื ง พ้นื ฐานอา่ นเขียน ก - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง กำรอำ่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว ข - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง บทอำขยำน ฃ-ฅ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๓ เร่อื ง กำรคัดลำยมือ ฆ-ง - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๔ เรื่อง กำรคัดลำยมือ จ-ฉ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่อื ง กำรอำ่ นจบั ใจควำมสำคัญ ช - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๖ เรื่อง ระบุข้อสังเกตงำนเขียนประเภทโนม้ นำ้ วใจ ซ-ฌ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๗ เรอื่ ง เสียงในภำษำไทย (เสียงสระ) ญ-ฎ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๘ เรอื่ ง เสยี งในภำษำไทย (เสยี งสระ) ๑ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๙ เรอื่ ง เสยี งในภำษำไทย (เสยี งพยัญชนะ) ๘ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๑๐ เรอ่ื ง เสยี งในภำษำไทย (เสียงวรรณยุกต)์ ๑๑๖๖ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๑๑ เรอ่ื ง ไตรยำงศ์ ๒๒๕๖ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๑๒ เรอ่ื ง กำรผนั วรรณยุกต์ ๓๓๓๔ ๔๔๐๑ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรื่อง เรยี นรู้สุภาษิต ๔๔๔๕ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๑ เร่ือง กำรตีควำมคำยำก ๔๕๙๑ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง กำรตีควำมคำยำก ๕๕๖๘ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๓ เร่ือง สำนวน สภุ ำษิต คำพังเพย ๖๖๒๔ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๔ เรอ่ื ง สำนวน สุภำษติ คำพงั เพย ๖๗๙๑ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง วจิ ักษ์วรรณคดี ๗๗๖๘ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๖ เรือ่ ง วจิ กั ษ์วรรณคดี ๘๘๐๒ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๗ เรอ่ื ง วจิ ักษว์ รรณคดี ๘๘๗๙ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๘ เรือ่ ง วจิ กั ษว์ รรณคดี ๑๑๐๐๗๙ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๙ เรื่อง กำรเขียนเรียงควำม ๑๑๑๔๖ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๐ เรอื่ ง กำรเขียนเรยี งควำม ๑๑๒๘๐ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๑ เร่ือง กำรพูดรำยงำน ๑๑๒๒๔๖ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๑2 เรื่อง กำรพดู รำยงำน ๑๑๓๓๕ ๑๑๓๔๘๐ ๑๑๔๔๓๕ ๑๑๔๕๙๑ ๑๑๕๖๘๐ ๑๑๖๖๔๖ ๑๑๗๗๑๓ ๑๑๘๘๐๒

สารบัญ(ต่อ) ค หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรือ่ ง พนิ ิจพจิ ารณ์ หหนน้า้า ๑๑๘๘๕๗ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง กำรอ่ำนออกเสยี งบทร้อยกรองประเภท กลอนสภุ ำพ ๑๒๙๐๙๑ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง นริ ำศภเู ขำทอง ๒๒๐๑๘๐ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๓ เรอื่ ง นริ ำศภเู ขำทอง ๒๒๑๑๕๗ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง หลกั กำรเขียนแสดงควำมคิดเหน็ ๒๒๒๒๗๙ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๕ เรอื่ ง กำรเขียนแสดงควำมคดิ เห็น ๒๒๓๓๒๔ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๖ เรอ่ื ง กำรพดู แสดงควำมคดิ เห็น ๒๒๓๓๗๙ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๗ เรอื่ ง คำนำม ๒๒๔๔๗๙ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๘ เรือ่ ง คำนำม ๒๒๕๕๒๔ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๙ เรอื่ ง คำสรรพนำม ๒๒๖๖๑๓ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๐ เรอ่ื ง หนำ้ ที่ของคำสรรพนำม ๒๒๖๖๗๙ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๑๑ เรื่อง คำกรยิ ำ ๒๒๗๗๕๗ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑๒ เร่อื ง หนำ้ ท่ีของคำกรยิ ำ ๒๒๘๘๐๒ ๒๒๘๘๕๗ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๔ เร่ือง นิทานสารพนั ๒๓๙๐๘๐ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๑ เรื่อง คำวเิ ศษณค์ วรศึกษำ ๓๓๐๐๗๙ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง คำวเิ ศษณค์ วรศึกษำ ๓๓๑๑๗๙ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง สำรพันบุพบท ๓๓๒๒๖๘ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๔ เรอื่ ง สันธำนเร่งจดจำ ๓๓๓๓๓๕ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๕ เรื่อง สนั ธำนเร่งจดจำ ๓๓๔๔๐๒ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๖ เรอ่ื ง อุทำนควรทรำบ ๓๓๕๕๐๒ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๗ เรอ่ื ง คติอดุ มนิทำนไทย ๓๓๕๕๔๖ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๘ เร่อื ง นิทำนพืน้ บำ้ น ๓๓๕๖๘๐ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๙ เรอื่ ง คุณค่ำทวีสรรคร์ กั ษไ์ ทย ๓๓๖๖๓๖ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๑๐ เรอ่ื ง อำ่ น สรุป คดิ วเิ ครำะห์ ๓๓๖๖๖๙ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๑๑ เรอ่ื ง สบื เสำะรหู้ ลักกำร ๓๓๗๗๖๙ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๒ เรอื่ ง ช่วยชำญเขียนยอ่ ควำม ๓๓๘๘๒๕ ๔๔๐๑๘๔ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรือ่ ง สร้างสรรค์บทกวี ๔๔๑๒๗๓ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง กำรอำ่ นออกเสยี งร้อยแก้ว ๔๔๒๓๖๒ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง กำรอ่ำนออกเสียงรอ้ ยกรอง ๔๔๓๓๒๘ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๓ เรอ่ื ง กำรสรปุ เน้ือหำวรรณคดีเรอ่ื ง กำพยพ์ ระไชยสรุ ิยำ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๔ เร่อื ง ฉนั ทลักษณ์กำพยย์ ำนี ๑๑

ฅ สารบัญ(ต่อ) หนห้านา้ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๕ เร่ือง กำรแต่งคำประพันธป์ ระเภทกำพย์ยำนี ๑๑ ๔๓๔๘๔ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๖ เรอ่ื ง กำรเขยี นจดหมำยกจิ ธุระ ๔๔๕๖๒ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๗ เรือ่ ง กำรเขยี นแนะนำสถำนท่ีสำคัญ ๔๕๖๔๐ - แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๘ เรื่อง กำรเขียนแสดงควำมคดิ เห็นจำกสอ่ื ในชีวติ ประจำวัน ๔๖๒๘ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๙ เร่ือง กำรเขยี นแสดงควำมคิดเหน็ จำกหนงั สือนอกเวลำ ๔๗๐๖ - แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑๐ เรอื่ ง กำรพดู แสดงควำมคิดเห็น ๔๗๘๕๑ - แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๑๑ เร่อื ง กำรเขยี นเคำ้ โครงโครงงำน ๔๘๒๘ - แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๑๒ เร่อื ง กำรเขยี นรำยงำนโครงงำน ๔๘๙๘๔ บรรณานกุ รม ๔๕๙๐๔๐ ๔๙๖ คณะจัดทำ�คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรูร้ ะดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น เพอ่ื การเรียนการสอนทางไกลผา่ นดาวเทยี ม (DLTV) ๔๙๖ มลู นิธกิ ารศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม ในพระบรมราชปู ถัมภ ์ ๔๙๗ คณะจัดคมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ภาคเรยี นท่ี ๑ ๔๙๘ คณะปรบั ปรงุ คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ภาคเรียนท่ี ๑ คณะตรวจปรู๊ฟและจัดท�ำ รปู เล่มค่มู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกหลังด้านใน

ฆ การรับชมรายการ การเรยี นการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม มลู นิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้บริการการจดั การเรยี นการสอน จากสถานวี ิทยโุ ทรทัศน์การศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทียม จำนวน ๑๕ ชอ่ งรายการ ทั้งรายการสด (Live) และรายการยอ้ นหลัง (On demand) สามารถรับชมผ่าน www.dltv.ac.th Application on mobile DLTV - Android เขา้ ที่ Play Store/Google Play พมิ พ์คำวา่ DLTV - iOS เขา้ ที่ App Store พิมพ์คำว่า DLTV การเรยี กหมายเลขช่องออกอากาศสถานีวิทยโุ ทรทัศน์การศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม ๑๕ ช่องรายการ เวลาเรียน / นอกเวลาเรยี น DLTV ๑ (ช่อง ๑๘๖) รายการสอนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ / สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ DLTV ๒ (ช่อง ๑๘๗) รายการสอนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ / ความรรู้ อบตวั DLTV ๓ (ชอ่ ง ๑๘๘) รายการสอนชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ / วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี DLTV ๔ (ชอ่ ง ๑๘๙) รายการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ / ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม DLTV ๕ (ชอ่ ง ๑๙๐) รายการสอนชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ / ศลิ ปวฒั นธรรมไทย DLTV ๖ (ช่อง ๑๙๑) รายการสอนชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ / หนา้ ทพี่ ลเมอื ง DLTV ๗ (ชอ่ ง ๑๙๒) รายการสอนชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ / ภาษาอังกฤษเพือ่ การส่ือสาร DLTV ๘ (ชอ่ ง ๑๙๓) รายการสอนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ / ภาษาตา่ งประเทศ DLTV ๙ (ช่อง ๑๙๔) รายการสอนช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ / การเกษตร DLTV ๑๐ (ชอ่ ง ๑๙๕) รายการสอนชั้นอนุบาลปที ่ี ๑ / รายการสาํ หรบั เด็ก-การเล้ยี งดูลูก DLTV ๑๑ (ชอ่ ง ๑๙๖) รายการสอนชัน้ อนบุ าลปีท่ี ๒ / สุขภาพ การแพทย์ DLTV ๑๒ (ชอ่ ง ๑๙๗) รายการสอนช้ันอนุบาลปที ่ี ๓ / รายการสำหรับผ้สู งู วยั DLTV ๑๓ (ช่อง ๑๙๘) รายการของการอาชพี วงั ไกลกังวล และมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล DLTV ๑๔ (ชอ่ ง ๑๙๙) รายการของมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช DLTV ๑๕ (ช่อง ๒๐๐) รายการพฒั นาวิชาชพี ครู

ง การตดิ ตอ่ รบั ข้อมูลขา่ วสาร ๑1. มลู นธิ กิ ารศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทียม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ เลขที่ ๒๑๔ ถนนนครสวรรค์ แขวงวัดโสมนสั เขตปอ้ มปราบศัตรูพา่ ย กรงุ เทพมหานคร โทร ๐ ๒๒๘๒ ๖๗๓๔ โทรสาร ๐ ๒๒๘๒ ๖๗๓๕ ๒2. สถานีวิทยโุ ทรทศั นก์ ารศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม ซอยหัวหิน ๓๕ ถนนเพชรเกษม ตำบลหวั หิน อำเภอหัวหนิ จังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์ ๗๗๑๑๐ โทร. ๐๓๒ ๕๑๕๔๕๗ - ๘ โทรสาร ๐๓๒ ๕๑๕๙๕๑ [email protected] (ติดตอ่ เรอื่ งเวบ็ ไซต์) [email protected],ac.th (ตดิ ต่อเรอื่ งท่วั ไป) 3๓.. โรงเรยี นวังไกลกังวล ในพระบรมราชปู ถัมภ์ อำเภอหัวหิน จังหวดั ประจวบครี ีขันธ์ ๗๗๑๑๐ โทร ๐๓๒ ๕๒๒ ๓๔๗ , ๐๓๒ ๕๒๐ ๔๗๘ โทรสาร ๐๓๒ ๕๒๐ ๔๗๘ Facebook : โรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถมั ภ์ Website : http://www.kkws.ac.th ๔4. ช่องทางการติดตามขา่ วสาร Facebook : ครูตู้ DLTV Website : http://www.dltv.ac.th

1111 จ 1 กกลกกกลุ่มลลลุม่สมุุ่ม่มุ่ คสาสสสครำาคาคาคาะชรำรำรำรำกะชี้แะชะชะชกา้ีแกจกี้แก้แีีแ้ราจางาจาจเรจรงรงรเงงเยีเรเรรรียนียียียนรนนนู้รรรรู้ ููู้้้ ประกอบปกปรปปปาะรรรรกะะใะะกอชกกกอบ้แอออบกผบบบกานกกกราากาาใรรารรชใใรใใช้แชชจชแ้ผ้แ้แัด้แผนผผกผนกนนานการกกกราเาาราจรรรยีรจดัจจจนัดกัดัดดัรกากกกู้ ราาาลาเรรรรุ่มเเเียรเรรสรียนยียีาียนรนนรน้ภูระรรรูภ้าูภ้กู้ภู้ภษาาาาษรษาษษเไาาราทาไไยีไทไยททนทยยยรย้ภู าษาไทย ทใขเกหเเวกคลขแปบนนัสทใขกหเเเวกคลขแอบว่าาวอ้อ2ทใขเกหวเเกคลขแปบนนเกวหใทขทใขหกเเวเเเกกคคลขลขแแมร ็นรืกปบ้นอัสนรรงอาบ่วาาดวอง้อ23ัสปปบบงงนนอบว่าานนวอ้อ2ััะนสสน็รออบบ่วว่าาาาืววกหอ้ขีอสสอ้้ออ22มาธรรโงากหด็นรืงเกุ้อแอ3บรร1งงงาดงฝน็็นรรืื3กบก้้งงออรนรรรรดงงราาดดหรงงยสส้อรมาธ33อโนบบงงงงกหนสเหสุสแอมาธ๑1โาา0กหปตนนเ๒ฝุแอหหึกง1สสสสรมมีาายธธโโรหกกหจัฝบรรยเเ๓๔๕ุุอแแอิมอชอร11รนนนสระยฝฝรใ้า๑ออาา0ุ1ปตรรนรสเรร๒.่รึกรง๑ยยกาารร0ลุีปหยตออออมน.จนน๒สสัดกกึ๓๔๕งมิหีย๑๑ราแี้าาาช00ุุนนปปจตตเ๖รกะด๒๒.๓๔๕..ใมิา้ใกึึกงง1รีนีนยยเนะจจรรใ.่้าก๕๔๓๓๔๕ลคมิมิค1หรรเมน.นนนนะัดเ.่ะะมัดชยีกากใใลสหา้้าหรจรม11นั้.รรเนเเ๖ัดกด...มอ่ใ.่.่แหกวรกกกลลหหเ.ต๖นมมนน..กด..ัดดั.ใคณคหหรรรนรลรเเะำเ๖๖กกมดัชดดแ..ยี..ก..ะคนส๕๕๕ใใาคนรงขีาระะเนนแมัดชมียกก่อนแสกมวกรคคนคคห่.ตารรากะะรมเเอ่แมมชกัดชัดียวยีกใกกณนนสสนูผรร.ตรลำใแอ่ืตแมมระ่อ๕๕่อ๕าณแนแกดกววกกขีาผะรอเล้อ..ตตำแแ์ผ..กะ๕๕๕าน.บีขารณใณนะหั่ารธียารรแกลลนำำรกาแแใละะ๕๕๕๕๕า๕านนนูหผช๒๓่ขีขีาาาะะ๑า้มกส�ำรเแแแอ่ืตแรใกกนดินูผผหนนหหอเ่่้อาผาับาากกแื่อตาชนรร์ผร..ด.จบใในรใผููยผผอดเรอ้ียรมก์ผ.น.แแ่อือ่ืตตา.ลบรรกรใดดช๒๓รผผ่ยีำ๑งออเเู้มสอ้อ้่เนนแอา์์ผผุล....นลิน..บบช๒๓รรหใใ๑ู้มดผรรสับยีียเไา่าแชนนน้กาาน้แีจนิลลนียหนชัดชช๒๒๓๓วดผรับม๑๑ููม้้มรสสามกชนกเเขำแแขจนิจเนนไ๕๕๕ินินดาขหห่รผำงผัรับบ่มกนหาาอชชนนุมลจจนนน่ำศดดงะอดรร่ไรรนา่โมมอกกรุมก้ส๕๕้ีแลยีนปัดับจชัวดดน่่ำำงงัไ่า้ก่่นเขนนำสออก้รศขแ้ีุมุมาิจเนั้ยีลไ๕๕๕ลนก้นัชัขวกดทดดกมไไัหข่า่าำ้ขจิ้ก..ก้เดนแ้ีแ้ีไ๕๕๕น.ยีียขนนชชััศะอวววดดงนหีโยกกกึคยขขรำำส๕๕ขขิจนจิเเไไ๕๕๕๕๕๕ปัดับจ่ือศะขขอ๒๒นงน๒ัแ้โนรเหหร..สใผส๕๕ากนั้ปึดักนนับจนั้ภกกนมศศทะะออรั้นสเมัโโสส้รรา..ด้ันสส๕๕๕๕นา่ก้ันีา.ค๒๒บกปปัดัดบัับจจรทวนนงยัันมั้้ียึกนนเเคย้สสใ..ดู่ชนาาษ้นัั้นน.วกกั้นน้ัอ่ืกกว๒๒งิททงจ๒นแียกึรคมมััยล..ใผ้้ก....ดดำ�นนู้เอ่ื..ภรา๒๒งมวว๒แงงษสรนนีียยกึึกคค..รสยยใผัธรยกาน่าอา่ีาภค๒๒บอ่ืรอื่รม๒๒๒๒งงรวย๒ว๒สแแ๑รรสน....ใใใรผผู่ชกกเทรษา่นีาคว๒๒บ๓ร้ภภมมิจรรยนำัดสสแนราลสสใู่ชษมรนะว่าา่าีีาูเ้คค..บ๒๒บ๒๒รราิกจ๕๔นมยย.ุปงลพรนนรยัธรใใยูู่่าชชนต่าษษอนนู้เวว..รตาาสันิิวจจาจ.นวนก๑๒ียรศัลลธรยารน่าอเทร..เู้เู้๓..้..รรราาวคว๑๒ำัด..ู้สรรรผาวััรธธรรยยาาเทกรนนมร..า่่าออะ๓ป้กรรกวว๔๕จำ่มดัวว๒๑๑๒ปุรางพายรรมรรตเเททระรป....ม๓๓ต้้มกใศสัน๔๕า่มเจรำดกำัดัดุป่ยีองแพเศรราายนาตรรมมะะตึกััสสใกนกา๕๔๔๕จคม่ก่มียูุปุปดศ้งงพพสนวยยน้นกตตเอปใใตตกาสัสันนชปคาาจจัดกกูตาียีย้รสศศ่ืนวราเกรปมมกศใคคเีหรีดููรศ่เอทึก้้แสสเาปววยนารกกุอวกมปปึมกักกหชศใสใเษรด่รปอแดเาานนาน้รรรเอมมึกัใใมมสใาศใใศยนชปกปเเคกรครดด่ะตา่ดออจ้กแแรเเนื่นรน้เนนาาเอรึใใึกกััาสใ็สใชปนนตาีหรศดดรเึก่ืนรปนนเยน้้นุอเเอษอดึวกกใใใใาาหช่ีมป้าชชปป้าน็ษ้สีหตตาารศรปเึกผรรนื่่นืปยเรรเเุอ้นรวกหชน็ายนปษครปกีีหหปครศรศะเเกึึกาเ้กจปปยยวีอุอุรยรัววกการว็ดนชหชหย็นนปนคษษกครระปปจ้กรรรำษดงึก๑็ขรยยมุปนนน้านปปมคค้า็นกกคษคล้สะะจจ้กก้ผเา่อื้นไกษรรดึแกขู็็มุปน็รา้า้นนนนาน็ส้เปกัผรเเะ้าว้นขีษษดยรดัึึาวกก็ดนมมุปรปุ็นายีา้า้มาา้า้็น็น้สส้ปรรผผผเกเเแรวีน้น้ยรัวำนง็ดน็น็นขราาวามรปรปจษลเเัาวื่อวี้ีนิ้ยยรัรัไำกจววอนงแขด็็ดนนูวขราารล้าั้นเมรรษลใเักาะอ่ืา้บเมขไกำำะงแงขาูนั้ขรขรร้ยีมมมษษลลเักนรผะกาะาา้แอื่อ่ืเแรขไไลกกแแผขขาููนราีย้้มว้ีเเกัรกัจรผนรกยกาัะะ้าา้แำรขข-้นิ้าานอนัสดัณปรรวยีียมมวรลาั้นรมจรผรใผผะักกแแรร้ทินบ้เมตอนนนะกว้ันววรลา้นัรรจจใรยีวนััะเ้้ทนินิบ้้เเแมลนออนะผววร้นัรงหรราลลาาน้ัน้ันกใใยี้ีนมนะรกยาบบำเเเแมมละะผสััน้ัน้นณปา่หกด้ีนอนมผบนะะรกยะาทำเเแแลลลทีผผทตัสณรกปาา้้ีอีีูอมนผนนร้รวรกก๓ยยะาาเำนำีา์เททยู่้ตัสสัณณปเปรกเรรงหนมมผผกียรใี่วะะมนททเทตตกลรรโกการนรงห่หนดกรียรววอดมาบเเทททุอทลซอ้ีศตทรรนรรนหหงงนน่หียดกกยีียีอูออมมนำนบ้หใเทนีาลบ์่ยี่ทู้นนกเเ่ห่หดรดดีอออูอนบบ้ใี่นเททีนลลา์ีีย่ททใู้กมลโเเารีีอาอููไออนน่้้ง่ใีเดเีีาาน์์บทุอยย่่1ซูู้้กอ้เเลศเีเโติรานปึงย่มคงียี่ใีใ่่จีำนดึรนนบหใทุอกนีซบกก่ลลโู้โอ้ลศาตารนชกชดกียผ้ดดาดำนเหททใุออุนยนซซีบ่้ออ้ศศตตรใเรนนมรกเดีียยารไำำนน่ีกงหหใในนนีีบบ่่ปบเ1ใมกกีดดิทปุ่ึงยมาสคไง่รงคี่จนนีึนรบะวยบทใใก1กมมรลีิชปุย่งึมชาารไไค่่งษงง้ผ้ิ้นจ่ี่าดเึรบรลบบูเย11วกจล้ีีลิิ-ปุุปจาชง่ึยึง่ยมมรชคคเงง้ผี่จจี่าดึึรรบบีกเกกยปราลลเชชชชรูเทยีผ้้ผตสาดาดเเรมรกีค้ยยีียานะวปยรใทใ่ีเีกวรรยเเกรทมรรสีกกีษยีร้คนิ้่ีปนปีรรระวเู้ยยเเ่วทกุ่งเจ้ลมรทท-ัดจงสงสรษาัคคีี้นิ้ดนน่ะะววรยยรทเู้ทกกวจร3ร้ลาชห-จรรูษษยีะต้น้้นิน้ิ่่มรรมรรรู้เู้เวว้ยีากจจล้้ลคาใา--งใี่ีจจวียณปกูมรตนลูรมรียร้้ียาาหีานามใ่คีใ่ีววงเูยกดัตงมรงรครมรวาัส้ียกรียยีาดูรใีต่ใีีว่ยกมงเ3รชบห้มดัรางงป้ใีย่ใียีีะรวาักยเมรกดนีมรม่ร้นากงเครค3าียรชดัเงหงีงณแีป่าัียะดยงเนมรลนรูัดงงุ้่มิชก3าหนชคมาัหา้คงดาีณกรรปยีะพือรม3ดันชคลหววูกก้คนายีาหขนะางป์มาคมรีณปวบกนคลป้าูคงวกีณ้กเปาหนน้ไูมมคน้อานรลูครเยบ้ราหแนคไม้ปวหคกักยกตเรนนมน้าเยุม่คบวค้กเูา้ป้กหแรทกพอืเยนดัมบนลวรน้าารปปป้นคุ่มแขเ์ปก้าเาแนว้มกาารลน้ายพือนดคัดเวรมุ่แ้รน้ขระาป์ยาอากู้นรวรยพือรรบดัุม่ไวห้ากัูตกนรรขป์ภผาพือเวัดอวเยร่งวรยอู้นร้นหขทไป์หาะกัวเตมรลาอรรปเยหรแยใรุร่มูีไลม้่้หาาหทจลักอตใรระฏดรยงลรรรเาียร้ไปยรยหเ้แอูะกัาตก้ะรหู้ท้าารลเบยลดารูปหรู้แห้ทรผระเวา้าดาู้่ลงลจาอ้รชปรนดบิาแร้ง้รเกู้สารามระลาผือชู้เวดิหเใ่รุงรร่บอ้้มีลมรน่พรจะาูยีู้ะะฏเกผะมนงสเรรวบี่งยรย้เห้อใอรุนู่กะมยีีดาลมบินผ่จเวเรอม่ะงฏยอ้งรหนีหใรุยยท่เ้มีอลมษเ่กแะดมคจจะกฏูริห้้งอใรวุ้รยี้่ีงมียลมยห่้เสรอจกอืะชะฏาิดงเรจรอีโยยูเ้ิพอห้กะียงะกปาสะรนสนรใอืดชูจรอิเกาูห้ิยีดเา้บินดพงงัรนสรอียดะจกมือยชะนสูิิบเรท้ตังม่พสรแคียดาบินคียือชะากลกยะิอ้นสอเว้ียอย่รอศารนพงทยียีพดะาิบหนกะแคนสออโกรย้อ้วียียดทาปบิานนนแอใครภสูอยกกา้อ้อโว้ยีทบด้รงัไรนแาอคมปากนใบ้อ้วูอยีโอัตกมารส้ว่งคดงัาไิรปลาเยนนใเอใอมโาูระ่ออศนบกา้งมัตมดนหป่าังรในนใคาูมลยอรกาอด้บ่อศอื่ตันดนะงัม้่รงนนรภสคหมาลยะรอืบแอบศ่ร้ตัอศทไมน่ขคงาอนคนาหลยู้ไรภส้อกม่านอศรสวนยงบหง้รมไินเหงาอใรภสาระด้มบรสนร้วนไใู้เาองรภสิพเรใดา้ะรบะ้รรสวไ้ีมก้สนายอใปงีนยิเใะรือใเแ้าระรสศรสดลวขคเมันงกะนินั้้เในใไู้ในงยากระวมรานะรอืแดยแมษหศามะนขค้ในนขตดรอูไ้ะรือดแ้หมกมาน้ศคะนอยู้เขค้หนรนมพงูไ้ะรือแกนดมานศยกขคส้หปนียมนงู้เนริวเไู้านพำสกดมานลาเยันใหกมนะ้ันู้เงก้สใปนียพรวเรดเแษสนาลผเก้อืเู้สัปขตกียพนั้ใอนเ้งมสวอ้ียนคนลงอเแนษัก้สรากปียนั้ิน้เใราวนขตเงวยชตสอล้แเษรมุปั้าแรนคกเนอนั้รวิใรนขาตนนำงวอา้แมใษ้าคหนนะอนจใรขตนจรเรรวิอกานำ้มน้คาผนทอือ้ใรนนะนรติวหานำำรอเียรงานหนในนะนนิผาอ้ืงาวริวานำรยเชตไรียเารุปอ้เยีนหใผแรเงผรนะน้อืนผนิู้รเราวภอเยอยีชตนหงนนจผรปุือ้ใแรัดเนิจาวนยชตัิดอยีำทง้รนดุปอแรเหนินจนตนเใหาวอำจยชตอผมนรปุนทกห2แรเนจทาใางนจนเสัไตีหีเยำ้เหผรทหนนจนใผลนตจาหงอขนำพเไ้ีนยเภทน้เหผัดรานงาเตหผไกำีัปำเยอี้ยดเ้เหผอนปรรแาเผงอัดงกไอีอเยเผใมนทัก้เปห2ผำงร้รดาอดัรผาูเรเ้ีออวสัเเาำน็้อดนผมอรนทลกป2ดั๒เายอขกนพเ้นัอ้ันำีผมภไษ้นทดกป2อรานเกเลเอหกว่า่อืปีีปิขนอพยผม้จินนเทกปแน2ภนลารหงเกเ็นขนพรีใ์้กนรปภีงรยนาู้ลาูแิชเร้ซสขกนพงปเาก็นด้ีนยนใภแงรยเรกาูงคกรก้นั้ปใสีไายเาน็งรแเอกคาูรหว่าส้ง่ือกยัสิปกาเาใน็าภจิเน้นัใไกงนระีรหมาูยยรน็กกจร้์สหว่าน้ัื่อรเาน็ไปิรราูิจ้เลตกนาปซยหรวห่กาอ่ืดิป็นรน้ัน์จิไเัรนีก้รยาูหรกเ้รคน็หว่าอือ่ซ์หปิารดวิจเเนอูา้นครรไหสซัยน็ราคดภ์อนนรใรกาโีาูาม้ย เอรรจรคคซดัาูส้เขดั่าภนรารนภลนเอใตกคีปร่งมสยัคาร้นจรภนาัใหกจีกรีรทเ้อยม็นเลยครตจรสอยปันหถทาาภรวรรจนผใลกัีรตโรมีกปย้ยยเ้จเรรรเยอูอู่หรัรรีกาควลน้ยตยเรรปัดอาูห้เข่ยเภนรวอัก้รีกรายา่งเรยรน้อาหอกัดาูดรห้เขจ่วภนาัด็นพมรรมนัดถยาู่งา้เชข่ภน้นจอผยตรราัดีโหารจลย๒ง่็นัรเ้ใน้เยมดัาูู่้เูขน่ถภนาหจคสจนผน็ยใโร่งนถนาเ้นเ้อจเยผไูกหู่จ้โารรน็คษนา้เยเายนถูก่าูดเรจผคนัดดิยพมกโมยร้หาเ้กเยีเยมคนูา่ีูตรกกาัด้ีรดคานลยยัดขหั้นใพมมกงามืกเปนด่สดักตก้พมรอาม๑ัดาีใลยนัใาอกมไตดรารัดวีลดัยษสพมัามใอยมในสอตรดิาไัดียใหลายันษกใปายีมอมคไีมนาไาสษดิขหา้น้ดิ์สใเุกยงหื้ันนปนกยีอ่าไมคิดีมกอยหษ้ากาขหีย้นเมมคกศรงีืมเรวปน่๑ดิขห้นยอกยหอกิงืกปนปยี่มคกอใีมไเกชอรวาขห้นนรปกอยงืนปานราว่ิดก้ออยรเุมรปา้ันูงรรปารตวนาราา้สิดปลอาย้เมูเุศมรนาาัน้ทเ้หาิด้ึเุีมิากน้ั้คปาาเกมอใศไนเาราช๐เเ้ิดห้ืานรเมเใุยีมศริัน้เสราาะกอใเไเ้ตูชวิรรป้รารเนมรกเอตศใรไเชเตรรสนรลิ่าูร็รรปรท้รรหก่อนชใไเนชึตรรีกรปรรนครสลยูษตรร้ท้เหสหวคลืรู้ึยีปรีกอทร้รหนคุดา๑ะโบเตึรต้ี้ตูวกอเสคหลืเู่าต้ียอท้เหยีหงาะืุปึเ้รียาี่กู้ตวาอ็รคา่ะนเตเน้ตู้วียเใหรืเ้ียตรยี่ยอายษ็ร้รเกาะ่นวคเรานทตู้่วา็รรน่นเตนายำโบษต้้รอตงรวครร่ยาา่ษ็ร่ง้รอยน่นียนวคงนมุปโบนาต้กอรนไยโบา่ษต้้ีรอยียวคงนปุา่าียยทนยีนเกงๆชมปุโบาาต้ีอยๆคา่าแียาำยียยีเู้แเกงงปุปารยีาทอ่ยด่ง2เกอยาทาอมำียนกกงไรยีากำย่งกมเรกองยราทนมนร่งกอยไนๆชามมำนรกนงไ๒ๆรครานกแ่งพอยเนแู้ๆ้ชนมมนนนปลกดไน2ผๆชๆคมา1แงัอกเใแู้ๆคานดแปูด้ดากมเู้แน2ใรๆชามปียอดรร2กๆคาใูแ้อรกกมเู้แนรเรปกดรกมพร2า์ส้ชอนนรน๒ลรกนะรน1ก้เูงัรพกมนรรครใระ้กดนนนพรรล้ดูรา้ใน1นตังลีังรยนะรใร1นกดังใู้รพู้ดาใใ้ดนนีเูด้ลยราใร1าส์ีใูยงั้ชเนรูงใ้ใดู้ะเนู้ดทา้้รใ0้ีครออาเส์๑ะีจพชยนนนรหรนวาส์ใชูะ้นตังน1รแคะียระชนะเนบ1นรรรคระาส์ชสตนรงันนจระะตนนงั1เะรครูงนะ้ในรทร้้0ี้ออต1ังพรัเนะดหูงน้่ีไวนงา้มใเทงู๐้้ี้้0้ีแใออ้ชอนทัพตบนำร้ฒ้หีน่ร0้ีนออวพยนสเหนนงูจวแอ้สชใัวดทบุดร้แ้0้ีชออกบดพสนรหนจนวสส1นจเสแช้ี่ไงามบรกี้ส1้อันจกตำฒี่นส้่ไี1งงามย๑่ล้ีไ่้ีงามอ้มพัอวดันตำ้ีฒนุดีน่เ้อก1ัยบตำทดฒต่นี้่ีไาอยงาร้นมัวดเดุเอ้ีัวดก้อดัุดตำกฒีน่กดยเาเชกอังวดเ่ลดุ่กอะดมพนปกนเงกบเ่ลทตรคะงรา่กลร้นม่อพลนนเรเมพนบทนตกเกงัาแร2างบทร้นตา่ลเาชเ้รนมพเน่กนนเ่อบะกทเตแชปาเ้รนนชจีเยร่คะบรอะก่อ่ลก็รนปอะนวผเงาปกชเรคะารร2ลกรอ่ลาคะร่กรอ่อะล่ปรนา2าาแร2คะราผกอ่นล่จนียรัดบ่นนยแ็า2กนแรวผนางาจาทุไกียู้เีนรบจีย่าน็ะผบรนหวผ็งราแก1นผวรงานกี2จยีรยก2บผร็รนวนวผัดงานกยรกกผาข2รมาทไุผูเ้ัาดรนยาัดผนกำยหราทกไุ1ูู้เรผาทไุ้้เูาอผ้กั0อียนดาหนผยรมท1ใิ้หกนจวร1าทไุกูเ้กกไากขรามผนวรารหเาัรนว้1ในพกำาขมกกาขนูามรร้าอนวร้0อำีย1วนมำำ้ใิูงกจาขู้มีกทอ้บ้๒กา0อียรอไ้0อมรีย้ิใเจำรามเิ้ใัจ้ใูกนพ้ไกอ้ไ0อียรานเัมรา้ต้ิใใเัจนพ้ใสรแ้1กนพวนีนกรยำรนงไนีกทาบเัศ1เ้ใวรนรานำ1พรงเวน่งเำรง๓ีกทนบีกทบแราเร1าวเนดตำรงส้รแ้ีกกทบอีีอนผรกยมย่อราตนเตสรแ้ศาเกวรีสนรแร้ยกีนใีร่งยเศเตแรศเ๑รสรแี้่กงเีนรีี่ดยงเยลรแ้ังอีแอผกมยศสเ่อรนหด็นบนนนนรมีด่งุเม้ดราวยอี้อผกมยร่อีออแผกใมย่นอนาวรดารวร้ในอีอผใกีมยยล่อนนัง๐าวรนะหี็บอยนลนนนมีใุยมลดังยงัู้้รนห็บนนนนนมห็บุนมนดนนมุียมยดลยรังรนนห็นบนนนนม้ีุมดยนะนร๑นนู้้ะะนูู้้น้้ะีู้้้ี้้ี ้ี

๒ ฉ 6.1 ทาการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ บันทึกผลการ2 เรียนรู้แล้วเท๖ยี .๑บกทบั ำเกณารฑท์กดาสรปอบระกเ่มอินผเรลียนและหลังเรียนในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ บันทึกผล การเรยี นรูแ้ 6ล.ว้ 2เทตียรบวกจับปเรกะณเมฑินก์ ผาลรปงารนะเม(ใินบผงลาน แบบฝึกหัด ใบกิจกรรม สร้างผลงานช้ินงานหรือ โครงงาน) เท๖ยี .บ๒กตบัรวเกจณปฑระท์ เก่ีมาินหผนลดงาแนล้ว(ใวบเิ คงราานะหแบ์วา่บคฝวึกรหส่งัดเสใรบิมกหิจรกอื รอรธมิบาสยรเ้าพง่มิผเลตงมิ าอนยช่าิ้นงไงรานหรือ โครงงาน) เท6ีย.3บกสบั งเกณตพฑฤท์ ตีก่ ิกำหรรนมดขแอลงว้ผวู้เิเรคียรนาะจหาว์ ก่ากคาวรจสัด่งเกสารรมิ เหรรียือนอรธู้ ิบาันยทเพึก่ิมผเลตเิมทอียยบ่ากงับไรเกณฑ์ ทก่ี าหนด ๖.๓ สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน จากการจัดการเรียนรู้ บันทึกผลเทียบกับเกณฑ์ ทก่ี ำหนด

๓ 3ช คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ วิชา ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต ............................................................. ศึกษาหลักการอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอา่ นจับใจความสาคญั ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน การอ่านตีความ ศึกษาข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงาน เขียนประเภทชักจูงใจโน้มน้าวใจ เขา้ ใจลักษณะของเสียงในภาษาไทย ชนิดของคาในภาษาไทย จาแนกและใช้ สานวนท่ีเป็นคาพังเพยและสุภาษิต อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน รวมท้ังสรุปความรู้และ ข้อคิดจากการอา่ นเพื่อประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนเรียงความ เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน เขียนแสดงความ คิดเห็นเก่ียวกับสาระจากสื่อท่ีได้รับ เล่าเร่ืองย่อจากเร่ืองที่ฟังและดู พูดแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ เกี่ยวกับเรื่องที่ฟงั และดู พูดรายงานเร่อื งหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นควา้ จากการฟัง การดแู ละการสนทนา แต่งบท ร้อยกรอง สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองท่ีมี คุณคา่ ตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการส่ือสารภาษาไทยท่หี ลากหลายและเหมาะสม มมี ารยาทในการอ่าน มีมารยาทในการเขียน มีมารยาทในการฟัง การดู การพูด รวมทั้งมีคุณลักษณะ อันพงึ ประสงค์ รหัสตวั ชี้วัด ท๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๙ ท๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๙ ท๓.๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ท๔.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๓ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ท๕.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ รวมท้ังสิ้น ๒๓ ตัวชว้ี ดั

๔ 4ซ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั รหสั วิชา ภาษาไทย รายวิชา ท ๒๑๑๐๑ ชั้น มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ รวมเวลา ๖๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐานการเรียนรู้ ท๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพ่อื นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอา่ น ตวั ช้วี ดั ท๑.๑ ม.๑/๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถกู ต้องเหมาะสมกบั เร่ืองที่อ่าน ท๑.๑ ม.๑/๒ จบั ใจความสาคญั จากเรือ่ งที่อ่าน ท๑.๑ ม.๑/๓ ระบุเหตแุ ละผลและข้อเท็จจรงิ กับข้อคิดเหน็ จากเร่ืองทอ่ี า่ น ท๑.๑ ม.๑/๕ ตีความคายากในเอกสารวชิ าการโดยพจิ ารณาจากบรบิ ท ท๑.๑ ม.๑/๖ ระบขุ อ้ สังเกตและความสมเหตสุ มผลของงานเขยี นประเภทชักจูงใจโน้มน้าวใจ ท๑.๑ ม.๑/๙ มมี ารยาทในการอา่ น สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐานการเรยี นรู้ ท๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และ เขียนเรอื่ งราวในรปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตัวชว้ี ัด ท๒.๑ ม.๑/๑ คดั ลายมือตัวบรรจงครง่ึ บรรทัด ท๒.๑ ม.๑/๔ เขยี นเรียงความ ท๒.๑ ม.๑/๕ เขียนย่อความจากเร่ืองท่ีอ่าน ท๒.๑ ม.๑/๖ เขียนแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั สาระจากสื่อท่ีได้รบั ท๒.๑ ม.๑/๙ มีมารยาทในการเขียน สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพดู มาตรฐานการเรียนรู้ ท๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความร้สู กึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี ิจารณญาณ และสรา้ งสรรค์ ตวั ชีว้ ดั ท๓.๑ ม.๑/๒ เลา่ เรอ่ื งยอ่ จากเรอ่ื งทฟี่ ังและดู ท๓.๑ ม.๑/๓ พดู แสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เก่ยี วกับเรอื่ งท่ีฟงั และดู ท๓.๑ ม.๑/๕ พดู รายงานเรื่องหรอื ประเดน็ ท่ีศกึ ษาค้นคว้าจากการฟัง การดแู ละการสนทนา ท๓.๑ ม.๑/๖ มมี ารยาทในการฟงั การดู การพูด สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐานการเรยี นรู้ ท๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของ ภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้ เปน็ สมบัตขิ องชาติ ตวั ชว้ี ดั ท๔.๑ ม.๑/๑ อธบิ ายลักษณะของเสียงในภาษาไทย ท๔.๑ ม.๑/๓ ชนดิ และหนา้ ทขี่ องคา ท๔.๑ ม.๑/๕ แต่งบทร้อยกรอง

๕ ฌ5 ท๔.๑ ม.๑/๖ จาแนกและใชส้ านวนท่ีเปน็ คาพังเพยและสุภาษิต สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐานการเรียนรู้ ท๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่า และนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ ตวั ช้วี ัด ท๕.๑ ม.๑/๑ สรปุ เนือ้ หาวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี า่ น ท๕.๑ ม.๑/๓ อธบิ ายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น ท๕.๑ ม.๑/๔ สรุปความรแู้ ละข้อคิดจากการอา่ นเพอื่ ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ ท๕.๑ ม.๑/๕ ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองทีม่ ีคุณค่าตามความสนใจ

ħ ญ6 โครงสรางรายวิชา รหัสวชิ า ท๒๑๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปท ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปการศึกษา ๒๕๖๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จาํ นวน ๑.๕ หนวยกิต หนวย ชอื่ หนวย มาตรฐาน สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ําหนัก ที่ การเรยี นรู การเรยี นรู/ ตวั ช้วี ดั และสาระการเรยี นรูแกนกลาง (ชวั่ โมง) คะแนน ๑. พ้ืนฐา นอา น ท๑.๑ ม.๑/๑ อานออกเสียงบทรอยแกวและบท ๑๒๐ ๑๐ เขียน ม.๑/๒ รอยกรองไดถูกตองเหมาะสมกับเร่ืองที่ ม.๑/๓ อาน จับใจความสําคัญจากเรื่องท่ีอาน ม.๑/๙ ร ะ บุ เ ห ตุ แ ล ะ ผ ล แ ล ะ ข อ เ ท็ จ จ ริ ง กั บ ท๒.๑ ม.๑/๑ ขอคิดเห็นจากเร่ืองที่อาน มีมารยาทใน ท๓.๑ ม.๑/๒ การอาน คัดลายมือตวั บรรจงคร่งึ บรรทัด ท๔.๑ ม.๑/๑ เลาเร่ืองยอจากเร่ืองท่ีฟงและดู อธิบาย ท๕.๑ ม.๑/๕ ลักษณะของเสียงในภาษาไทย ทองจํา บทอาขยานตามที่กําหนดและบทรอย กรองทม่ี คี ณุ คาตามความสนใจ ๒. เรยี นรูส ภุ าษติ ท๑.๑ ม.๑/๕ ตีความคํายากในเอกสารวิชาการ ๑๘๒ ๑๐ ท๒.๑ ม.๑/๔ โดยพิจารณาจากบริบท เขียนเรียงความ ม.๑/๙ มีมารยาทในการเขียน พูดรายงานเร่ือง ท๓.๑ ม.๑/๕ หรือประเด็นที่ศึกษาคนควาจากการฟง ม.๑/๖ การดูและการสนทนา มีมารยาทในการ ท๔.๑ ม.๑/๖ ฟง การดู การพูด จําแนกและใชสํานวน ท๕.๑ ม.๑/๔ ท่ีเปนคําพังเพยและสุภาษิต สรุปความรู และขอคิดจากการอานเพื่อประยุกตใช ในชวี ิตจริง ๓. พินิจพิจารณ ท๑.๑ ม๑/๑ อานออกเสียงบทรอยแกวและบท ๑๒ ๑๐ ท๒.๑ ม๑/๖ ม๑/๙ รอยกรองไดถูกตองเหมาะสมกับเร่ืองที่ ท๓.๑ ม๑/๓ ม๑/๖ อา น เขยี น ท๔.๑ ม๑/๓ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากส่ือ ท๕.๑ ม ๑/๑ ที่ไดรับ มีมารยาทในการเขียน พูดแสดง

7 7 7ฎ Ĩ Ĩ หนวย ชอ่ื หนวย มาตรฐาน สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา Ĩ นํ้าหนกั หนทวี่ ย กชาือ่ รหเรนียวนยรู การเมรยีาตนรฐู/ ตานวั ชว้ี ดั สแาลระะสสาาํ รคะญักา/รคเวราียมนครดิูแรกวนบกยลอาดง (ชเวั่ โลมาง) นคะา้ํ แหนนกั หนทว่ี ย กชาือ่ รหเรนยี วนยรู กกาารรเเมมมรรยียีา๑๑1ตนน//ร๓๓5รฐู//ู ตตานัวัวชชี้้ววี ดัดั คคเรววื่อาางมมสแแทาคคลลี่ฟริิดดะะะสสงเเสหหแาาํา็็รรนนลคะะออะัญกกยยดาา/ูาารรคมงงเเวรรสสีมายีียรรามนนาารครรงงยิดแููแสสารกกรรทวนนรรบใคคกกนยเเลลกกอาา่ีี่ยยดางงววรกกฟัับบง (ชเ่ัวโลมาง) นคะ้าํ แหนนกั ที่ การเรยี นรู (ชว่ั โมง) คะแนน ม๑1/๓5 เกคราว่ือรางดมทูคี่ฟิดกงเาหแร็นพลูอะดยดชูานมงสิีดมรแาาลรงยะสหารทนรใาคนทเกี่ขี่ยาอวรงกฟคับําง ม1/5 เกอราธ่ือริ บงดทูา่ีฟยกงาคแรุ ณพลูะดคด าชู ขนมอิีดมแงาลวรยะรหารทนณใานคทกี่ขดาอี แรงลฟคําะง วอกราธรริ บณดูากรยกราคมรุ ทณพ่ีอูดคา นาชขนอิดแง ลวะรหรนณาคท่ีขดอี แงลคําะ สอบกลางภาควอรธริ บณากรยรคมุ ทณี่อคา นา ข อ ง ว ร ร ณ ค ดี แ ล ะ ๑ ๒๐ ๔. นิทานสารพนั ท๑.๑ ม๑/๑สอบม๑กล/๒างภาควอรารนณอกอรกรมเสทียอ่ี งาบนทรอยแกวและบทรอย ๑๑๒ ๒๑๐ ๔. นทิ านสารพัน ท๑๒.๑ ม๑/๑๕สอบม๑กล/๒๙างภาคกอราอนงอไดอถกูกเสตียองบเหทมราอะยสแมกกวับแเลระื่อบงที่อรอานย ๑๑๒ ๒๑๐ ๔. นทิ านสารพนั ทท๑๒๓..๑๑ มม๑๑//๑๕ มม๑๑//๒๙๖ จกอับราอในจงอไคดอวถกาูกมเสตสียอํางคบเัญหทจมราอกะยเสแรมื่อกกงวับทแเี่อลราะื่อนบงทเขี่อรียอานย ๑๒ ๑๐ ทท๒๓๔..๑๑ มม๑๑//๕๓ ม๑/๙๖ ยกจับรออคใจงวไคาดวมถาจูกมาตสกอําเงครเัื่ญอหงจมทาี่อกะเาสรนม่ือกงมับทีมเ่ีอราา่ือรนยงทาเข่ีทอียาในน ทท๓๔๕..๑๑ มม๑๑//๕๓๑ ม๑/๖ กจยับาอรคใเจขวคียาวนมาจมพาสดู กํารเคารยัญื่องงจาทานี่อกเรเารอ่ื นื่องหงมทรีมอื่ีอาปารนรยะาเเดขที็นยในที่ ๑๐ ท๔๕.๑ ม๑/๓๑ ศยกาึอกรษคเขาวคียามนจคพาวูดการจเาราย่ือกงงกาทานร่ีอเฟราื่องนงกหมารีมรือาดปรูแรยละาะเดทก็นใานทรี่ ๑๐ ท๕.๑ ม๑/๑ สกศนาึกรษทเขนาคียานมคีมพวาดู ารรจยาาายกทงกาใานนรกเฟราื่องรงฟกหงารรอื กดปาูแรรละดเะูดก็นาทรี่ ๑๐ พศสนึกูดษทชนานคาิดนมแคีมลวาะารหจยานากาทกทใาน่ีขรกอฟางงรคฟํากงาสรกดราุปูแรลเดนะู ื้อกหารา วสพรนูดรทณชนนคาิดมีแีมลาะรวหยรนาราทณทใกนี่ขรกอรางมรคทฟํา่ีองา สนกราุปรเดนู ้ือกหารา ๓๐ ๕. สรางสรรคบท ท๑.๑ ม๑/๕ ม๑/๖ วพรตูดรีคณชวนคาิดมีแคลําะยวหารกนรใาณนทกเ่ีขอรอกรงมสคทาําร่ีอวาสินชราุปกเานร้ือโดหยา ๑๒ ๑๓๐๐๐ ๕. สกวรีางสรรคบท ท๑๒.๑ ม๑/๕๖ ม๑/๖๙ วพรติจรีคาณรวคณาดมาีแคจลําะยกวาบรกรใิบณนทกเอรรกระมสบทาุขร่ีออวาิสนชังาเกกาตรแโดลยะ ๑๒ ๑๓๐๐๐ ๕. กสวรีางสรรคบท ทท๑๒๓..๑๑ มม๑๑//๓๕๖ มม๑๑//๖๖๙ พคติจวีคารวมณาสมามคจําเหยกาบตกรุสใิบนมทเผอรลกะสขบาอุขรงอวงิสชาังาเนกกาเตรขแโียดลนยะ ๑๒ ๑๐๐ กวี ทท๒๓๔..๑๑ มมม๑๑๑///๓๖๕ มม๑๑//๖๙ คพปริจวะาเรมภณทสาชมจักเาจหกูงบตใจรุสิบโมนทมผนรละาขบวอใุขจงองเสขาังียเนกนเตแขแสียลดนะง ทท๓๔๕..๑๑ มม๑๑//๓๕๑ ม๑/๖ ปคครววะาาเมมภคทสิดชมเักเหจห็นูงตใเจุกสโ่ียมนวมผกนลับาขวสอใาจงรงะเขาจียนานกเแขสสีื่ยอดทนง่ี ท๔๕.๑ ม๑/๕๑ คไปดรวระาับเมภคมทิดีมชเาักหรจ็ยนูงาใเจทกโ่ีใยนนวมกกนาับารวสเขใาจียรนะเขจพียาูดนกแแสสสื่อดดทงง่ี ท๕.๑ ม๑/๑ ไคคดววราาับมมคคมิดิดีมเเาหหร็น็ยนอาเทยกา่ีใยนงวสกกราับารงสเขสาียรรนระคจพเากูดกี่ยแสวส่ือกดับทง่ี คไเรดว่ือราับงมทคมี่ฟิดีมงเาหแร็นลยอะายทดูาในมงสีกมราาารรงเยขสาียรทนรใคนพเกูดี่ยาแวรสกฟดับงง กเคราว่ื อรางดมทู คี่ ฟิกด งาเหแร็พนลูดอะยดแูาตมงงสี มบราทารงรยสอารยทรกใครนเอกงี่ยาวสรกฟรุัปบ ง เกเนรา่ือื้อรหงดทาู วี่ฟกรงราณแรพลคูดะดแี แูลตมะงีวมบรารทรณรยอกายรทรกใมรนทอกีอ่งาาสรนฟรุปง สอบปลายภาคเกนาอ้ื รหดาู วกรราณรพคูดแี แลตะงวบรรทณรอกยรรกมรทออ่ีงาสนรุป ๑ รวสมอตบลปอลดาภยาภคาเรคเยีนนื้อหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อา น ๖๑๐ รวสมอตบลปอลดาภยาภคาเรคียน ๖๑๐ รวมตลอดภาคเรยี น ๖๐

๘ 81 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ พนื้ ฐานอา่ นเขยี น รหัสวชิ า ท๒๑๑๐๑ รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ เวลา ๑๒ ช่ัวโมง ………………………………………………………………………………………….........................................……………………… ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ัยรักการอ่าน ตวั ชีว้ ดั ม.๑/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อา่ น ม.๑/๒ จบั ใจความสาคญั จากเร่ืองท่ีอา่ น ม.๑/๓ ระบขุ ้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขยี นประเภทชักจูงโนม้ น้าวใจ ม.๑/๙ มมี ารยาทในการอา่ น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความและเขียน เรื่องราวในรปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวัด ม.๑/๑ คดั ลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทัด ม.๑/๙ มีมารยาทในการเขียน มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ ตวั ช้ีวดั ม.๑/๑ อธิบายลกั ษณะของเสยี งในภาษาไทย มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่าง เหน็ คุณค่าและนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจริง ตัวชว้ี ัด ม.๑/๕ ทอ่ งจาและบอกคณุ ค่าบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองทม่ี ีคณุ ค่า ตามความสนใจและนาไปใช้อ้างอิง

๙ 29 ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การอ่านออกเสียง เป็นการอ่านท่ีต้องเปล่งเสียงออกมาให้ผู้อ่ืนได้ยิน จาแนกเป็นการอ่านออกเสียง ร้อยแก้วและร้อยกรอง ซ่ึงจะต้องคานึงถึงหลักเกณฑ์ในการอ่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม จับใจความสาคัญ และระบุข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียนประเภทชักจูงโน้มน้าวใจ คัดลายมือตัวบรรจง คร่ึงบรรทัดตามรูปแบบการเขียนอักษรไทย อธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทยและท่องจาบทอาขยาน ตามทก่ี าหนดและบทรอ้ ยกรองท่มี ีคุณคา่ ตามความสนใจ มีมารยาทในการอา่ นและการเขยี น ๓. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ ๑. หลกั การอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว ๒. หลักการอ่านจบั ใจความสาคัญ ๓. ความหมายและข้อสงั เกตของงานเขียนประเภทโนม้ น้าวใจ ๔. มารยาทในการอ่าน ๕. การคดั ลายมอื ตัวบรรจงคร่ึงบรรทดั ตามรูปแบบการเขยี นตัวอักษรไทย - ๖. มารยาทในการเขียน ๗. เสียงในภาษาไทย ๘. การท่องจาบทอาขยาน ทักษะ/กระบวนการ ๑. ทักษะการคิด ๒. ทักษะการอา่ น ๓. ทกั ษะการสื่อสาร ๔. ทักษะกระบวนการกลุ่ม ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

๑๐ 130 ๕. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริ ย์ ๒. ซอ่ื สัตย์ สุจริต ๓. มีวนิ ัย ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง ๖. มุ่งมน่ั ในการเรียนรู้ ๗. รกั ความเป็นไทย ๘. จิตสาธารณะ ๖. การประเมินผลรวบยอด ชน้ื งานหรอื ภาระงาน ชนิ้ งานหรอื ภาระงานและเกณฑ์การประเมินแบบ Rubrics

๑๑ 141 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนของนกั เรียนรายบคุ คล พฤติกรรม / ระดับคะแนน ความ การมีส่วน การตอบ การ ทางาน ลาดับ ช่อื – สกุล สนใจใน รว่ มใน คาถาม ยอมรับฟัง ตามท่ี รวม ที่ การทา การแสดง ความ ได้รบั กจิ กรรม ความ คดิ เห็น มอบหมาย คิดเห็น ผอู้ ืน่ ๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๒ คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ปฏิบตั ิไดด้ ี ๑ คะแนน ช่วงคะแนน ปรับปรุง ๐ คะแนน พอใช้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ๐–๙ ดี ปฏบิ ตั ไิ มไ่ ด้ ๑๐ – ๑๕ ๑๖ – ๒๐

๑๒ 125 แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่มของนกั เรยี น การวางแผนทางาน การจัดลาดับ ้ัขนตอน การทางานตาม ั้ขนตอน ปรึกษาและให้ความ ่ชวยเห ืลอ ทางานไ ้ดคล่องแค ่ลว ความ ั้ตงใจทางาน ความ ิคดส ้รางสรร ์ค ความเ ็ปนระเ ีบยบ การให้ความร่วม ืมอ ทางานเสร็จ ัทนเวลา คะแนนรวม ีด พอใ ้ช ปรับปรุง รหัส ชอ่ื – สกลุ ผล ประจาตัว การประเมิน ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒๐ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๒ คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ปฏิบัตไิ ดด้ ี ๑ คะแนน ช่วงคะแนน ปรับปรงุ ปฏิบตั ไิ ด้ ๐ คะแนน ๐–๙ พอใช้ ดี ปฏบิ ตั ไิ มไ่ ด้ ๑๐ – ๑๕ ๑๖ – ๒๐

๑๓ 136 แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาช้ีแจง : ให้ ผ้สู อน ประเมินการนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขีด ✓ ลงในช่อง ทีต่ รงกับระดับคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ลาดับท่ี รายการประเมนิ ๔๓๒ ๑ (ดีมาก) (ดี) (พอใช)้ (ปรบั ปรุง) ๑ เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน ๒ ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา ๓ ภาษาทใี่ ช้เข้าใจงา่ ย ๔ ประโยชน์ท่ีได้จากการนาเสนอ ๕ วิธกี ารนาเสนอผลงาน รวม เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ชว่ งคะแนน ............../.................../................ ๑๘ – ๒๐ ระดบั คณุ ภาพ ๑๔ – ๑๗ ดีมาก ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ปรับปรงุ ตา่ กวา่ ๑๐

๑๔ 174 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ พ้ืนฐานอ่านเขียน รหสั วิชา ท๒๑๑๐๑ รายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เวลา ๑๒ ชวั่ โมง ชอื่ ...............................................นามสกลุ .......................................ชน้ั ................................เลขที่.................. ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ๑. ความรู้ทนี่ กั เรียนได้รับ ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ๒. เรอื่ งท่ีนักเรียนชอบและมีความเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ๓. เรือ่ งทน่ี ักเรยี นไม่ชอบหรือไม่เข้าใจ.................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ๔. เรอ่ื งทน่ี กั เรยี นสามารนาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้.............................................................................. ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................……………………….....

15 ๘ กหลน่มุ่วหกสยลนาก่มุร่วาะสรยกเากราราียระรนเกเรรรายี ทู้ียรนน่ีเรร๑รวู้ยี ทู้ เิชนรี่ าร๑ื่อภภู้วงาเิชารพษษาอ่ื ้ืนภาางไฐไาททพษายยนื้นาอไฐทา่านยนเอข่าียนนเขียน เรอ่ื รงายกเแรวาผื่อิชรนงาอรแกา่ากพผานยาน้ืนรวอรจฐกอชิอดัาาาากนกรนพเจพสาภอนื้ รัดยีาื้นอฐเกงษรฐการายีาาเน้อรสไนนภยทเยีรรภแายงยทู้ี าษกบนี่ษ้ว๑าทราไทูรไทอท่ี ย๑ยยแกว ชเน้ัวมลาัธยชมเ๑้ันวศมลชกึ าธั ั่วษยโามม๑ปงศีทชกึ ่ี่วัษโ๑ามปงีที่ ๑ ขอบขเขอตบเเนข้ือตหเนา้ือหา กจิ กรรกมจิ กการรเรมียกนารู้เรียนรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ ความคหวามมายหขมอางยกขาอรงอกา่ านรออ่ากนเอสอยี กงเสียง ขน้ั นำข้ันนา ๑. หนงั สือเรียนนภภาาษษาาไไททยยชชั้นั้นมมัธธั ยยมมศศึกึกษษาาปปีทีที่ ๑ี่ ๑ จดุดา้๑ห๒นปล..จดครกัออดุา้ห๑ะวเธธกนสปาบิบิล.ณมคงรกัอาาคะรวยยฑเธก์กู้สาคหบิ์กณามงวลาารคารยักฑรเมก์ู้อครก์กหายี่าวาารนมรนารเอมอาอรรยา่หอู้ยี่านขนกมนออเอารสงอยอู้ ียกกขกงาเอเรสรสง้ออยี ียกย่างงานรแรรอ้กออ้อยว้อยา่ แกนแกเกอส้ว้วอยีไดกง้ไเสดยี้ งได้ ๑. คหยหกราลคตา้า้ ูในมมด่อล๑หด้ีผผาไ.น้ปงี/ู้หู้หคคกกักแนญญรรลเนิคีู้รูใิงงิดลแหยีกใใลงสสน้นร้วคก่ก่บัอกั แราาอเขูงงรกคเเ็งียกกกเรแนสรงงั้งรยีับอใ/คงนใงอร/นค/ไากคเเมำวววเรอส่มลลง้ั า่ยีโีขาาครนงททลรคคแาำำาภลาวงงดยัอาาะเเขนน่าปขบนลรลยี าแะาดลโดเยคะบเคขลปียตลารน่องาะแไโปคยนคลี้ง รแ้อก๓๔๒๕๒๓๔ย้ว.......แบใคใบคใกบบบำทาท้วคงอคอออาว่าว่า่านา่านานนนมมแแเจจรรรลลำู้าือู่้ะเนะเนงรปรปว่ือวอื่กรนรนงงะาะหหโ๖รโ๖ลยอลยกัคบา่คกับกนทกทาอารอรออก่า่าเนสนอียอองอรกกอ้ เเสยสยีแียงกงบ้วบททร้อย ดา้ นท๒ักษ. อะธกบิระาบยหวนลักการารอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแก้วได้ ยานีด้ ี/หก้านิ มแผลู้หวแญขิงง็ใ/สแก่ รางงไเมกม่ งี/โใรนคเวภลัยาเบทียางดาเนบียน ภา๕ร.ะใงบางนา/นช้นิเรงือ่ างนการอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแก้ว นักดเร้าียนนทสักาษมะากรถระอบ่านวรนอ้ กยาแรกว้ ได้ถูกต้องและ ๒. นกั เรยี นหแา้ สมดผงหู้ คญวงิาใมสค่กิดาเงหเก็นงจใานก/กเวาลรอาทอกางเสานยี งคำ ภคาระูมงอาบนห/มชา้นิ ยงใาหน้นกั เรียนฝกึ อา่ นออกเสยี งบท เดหา้๒๓๑มน...าเดคใรมหะฝา้๑นณุักวีสมน่เคินกั.รมลาควเมยียัะกักราุณนีวสับียษมินรมเลนณเรู้ยัปกกัสื่อะบั็นษางมเไอณรทา่าือ่ ยะรนงถออ่าา่ นนร้อยแก้วได้ถกู ต้องและ ขอวา่อ้นั๑๒ถกส..กู เอนนสตนกักัวียอ้ า่เเง๒งรรถบห.ียยี กู ทรนนนยยตอืรแศาากั ้อ้อไนนบึกเมงยร้ีดี้ดษ่งหแ่ียแกี/ี/ารลนกกกลใือะว้แบินนิุ่มไปสคมแแอรดวลล่แอะงาว้้วลกโคมยแแะเวปรคขขปาู้เ็นสง็็งรรม/แือ่ือ่ะค๖แรคงโิดรงยวกหง/เคาหไไลลสมมมน็ุ่มกั ื่อไม่่มแจดกคี/ีโลาอ้ารโวกรว้รคยาคอใกา่ภมห่าภางไัยแ้นไรดัยเรตอบอ้เบล่อยียะยีกด่าดเงเสบไเบยีรียงยี นคนา รอ้ คยรแูมกอว้ บนหอมกาเวยลใหาเน้ รกัยี เนรยี นฝึกอา่ นออกเสยี งบทร้อย กลุ่มส่งขต้ันวั สแทอนมาจับสลาก เพอื่ เลอื กบทอ่าน แก้วนอกเวลาเรยี น ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. รกั ความเปน็ ไทย ๑. นกั เรยี นศกึ ษาใบความรเู้ รอื่ ง หลักการอา่ น ออกเสยี งบทร้อยแก้ว ๒. นักเรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็น ๖ กลุ่มแลว้ ใหแ้ ต่ละ กลุ่มส่งตวั แทนมาจบั สลาก เพ่ือเลอื กบทอ่าน 185

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรือ่ ง พน้ื ฐานอา่ นเขียน แผนการจดั การเรียนรูที่ ๑ 16 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภูวิชาษาภาไาทษยาไทย เรื่อง การอานออกเสยี งบทรอ ยแกว เวลา ๑ ช่ัวโมง รายวิชาพพ้นื ื้นฐฐาานนภภาาษษาาไไททยย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ๓. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ฝึกซ้อมอา่ นบทร้อยแก้วโดย มีครูคอยแนะนา ๔. ครูใหน้ กั เรยี นส่งตวั แทนของแต่ละกลุ่มออกมา อ่านหน้าชนั้ เรยี นโดยเพ่ือน ๆ ช่วยกันประเมนิ การอ่าน แล้วใหน้ ักเรยี นปรับปรงุ แกไ้ ขการอ่าน ๕. นกั เรียนช่วยกันประเมินการอา่ น แล้วนา ข้อเสนอแนะมาปรับปรงุ การอ่าน โดยครูชว่ ย เสนอแนะแก้ไขเพมิ่ เติม ๖. นกั เรยี นทาใบงาน เรื่อง การอ่านออกเสียง รอ้ ยแกว้ ขนั้ สรุป นกั เรยี นสรปุ หลักการอ่านและวธิ ีการอา่ น บทร้อยแก้ว การเตรยี มตวั ก่อนการอา่ นออกเสยี ง และมารยาทในการอ่าน ครูอธิบายเสริมและนกั เรียน ฝึกฝนเพ่ิมเติม 196

17 1170 การวดั และประเมนิ ผล ส่ิงท่ีต้องการวัด/ประเมนิ วิธีการ เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน อธิบายหลักการอ่าน ตรวจใบงาน เร่อื ง ใบงาน เรือ่ ง การอ่าน รอ้ ยละ ๘๐ ข้นึ ไป ออกเสียงร้อยแก้วได้ถูกต้อง การอา่ นออกเสยี ง ออกเสยี งรอ้ ยแก้ว ร้อยแกว้ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ แบบประเมินจาก รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป อา่ นร้อยแกว้ ได้ถูกต้องและ ประเมนิ จากการอา่ น การอา่ นออกเสยี ง เหมาะสมกับเรื่องอา่ น ออกเสยี งบทร้อยแกว้ บทร้อยแก้ว ผา่ นเกณฑ์คุณภาพ ระดบั ๒ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ประเมนิ คุณลกั ษณะ แบบประเมนิ ๑. มีวนิ ัย คุณลักษณะ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. รักความเปน็ ไทย ๘. บันทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................ .............................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ......................................ผ้สู อน (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..................................พ.ศ…...…. ๙. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ ......................................ผตู้ รวจ (.........................................................) วันท่ี..........เดือน..................................พ.ศ…...….

11 11 ใบความรู้ เรือ่ ง การอา่ นออกเสียงร้อยแก้ว . หนว่ ยที่ ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ การอา่ นออกเสยี ง ๑. ความหมายของการอา่ นออกเสยี ง การอา่ นออกเสยี ง คอื การเปลง่ เสียงตามตัวอกั ษร ถ้อยคำ และเครือ่ งหมายต่าง ๆ ทีก่ ำหนดไว้ให้ ถกู ต้อง ชัดเจน แกผ่ ู้ฟงั การอา่ นออกเสยี งถอื เป็นการส่ือความหมายทีก่ อ่ ใหเ้ กดิ “ทักษะ” (วาสนา บุญสม, ๒๕๔๑ : ๒๒) ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑.๑ เกดิ ทักษะการเปลง่ เสยี งให้ชดั เจน ๑.๒ เกิดทักษะการใช้อวัยวะทอ่ี อกเสยี งไดถ้ กู ตอ้ ง ๑.๓ เกดิ ทกั ษะการออกเสยี งควบกลำ้ ไดถ้ ูกตอ้ ง ชัดเจนยิ่งขนึ้ ๑.๔ เกดิ ทักษะการวิเคราะหค์ ำท่ีอา่ นมากขึน้ ๑.๕ เกดิ ทกั ษะการเปลง่ เสียงตามรูปตัวอักษรควบกล้ำไดค้ ล่องแคลว่ ๒. หลักเกณฑใ์ นการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว หลกั เกณฑ์ทว่ั ไปในการอา่ นออกเสียงรอ้ ยแกว้ (ฟองจันทร์ สขุ ย่ิง และคณะ, ๒๕๕๔ : ๓ – ๔) มดี งั นี้ ๒.๑ ก่อนอา่ นควรศึกษาเรื่องทอ่ี ่านให้เข้าใจโดยศกึ ษาสาระสำคัญของเรื่องและขอ้ ความ ทกุ ขอ้ ความเพื่อจะแบ่งวรรคตอนในการอ่านได้อยา่ งเหมาะสม ๒.๒ อ่านออกเสียงดงั พอเหมาะกบั สถานที่และจำนวนผู้ฟงั ให้ผู้ฟังไดย้ นิ ทั่วถงึ กนั ไมด่ ังหรอื ค่อยจนเกินไป ๒.๓ อา่ นให้คลอ่ ง ฟังรื่นหแู ละออกเสียงให้ถูกตอ้ งตามอักขรวิธี ชัดถอ้ ยชัดคำ โดยเฉพาะตัว ร ล หรอื คำควบกล้ำ ตอ้ งออกเสยี งให้ชัดเจน ๒.๔ อ่านออกเสียงใหเ้ ปน็ เสียงพดู อยา่ งธรรมชาติท่สี ดุ การเตรียมตวั กอ่ นการอา่ นออกเสยี ง การเตรยี มตัวก่อนการอ่านออกเสยี ง (จุไรรตั น์ ลักษณะศริ แิ ละบาหยัน อิ่มสำราญ, ๒๕๔๗ : ๒๖) มีดงั น้ี ๑. อ่านบทให้เขา้ ใจ การอ่านใหผ้ ู้อ่ืนฟัง มีวตั ถุประสงค์สำคัญเพอื่ ให้ผู้ฟังรับรแู้ ละเข้าใจตรงตาม เน้ือหาสาระที่อา่ น ฉะนนั้ ผ้อู ่านจงึ ต้องเข้าใจข้อความน้นั เสียกอ่ นเพ่อื ความมัน่ ใจ และเพือ่ ความเขา้ ใจที่ตรงกนั ระหวา่ งผู้สง่ สารและผูร้ บั สาร ขอ้ ความใดทอี่ า่ นไมเ่ ข้าใจหรือสงสยั ว่าจะผิดพลาด ตอ้ งตรวจสอบเสยี กอ่ น ๒. ทำเครื่องหมายแสดงจังหวะการอ่าน ในการอ่านเราควรทำเครื่องหมายลงในบทว่าตอนใด ควรหยุด คำใดควรเน้น และคำใดควรทอดจงั หวะ การทำเครอื่ งหมายในบทมกี ฎเกณฑ์ตายตัว แต่โดยทางท่ี นยิ มปฏบิ ตั ิกัน มกั ทำเครือ่ งหมายง่าย ๆ ดังน้ี

19 1129 ก. เคร่ืองหมายขีดเฉียงขดี เดียว (/) ขีดระหว่างคา แสดงการหยุดเว้นนิดหน่ึงเพราะมีคาหรือ ข้อความอน่ื ต่อไปอีก การอา่ นตรงคาทม่ี เี ครื่องหมายนจี้ ึงไมค่ วรลงเสยี งหนกั เพราะยังไมจ่ บประโยค ข. เครื่องหมายขีดเฉียงสองขีด (//) ขีดหลังประโยคหรือระหว่างคาเพื่อแสดงให้รู้ว่าให้หยุด เวน้ นานหนอ่ ย ค. เครอ่ื งหมายวงกลมล้อมคา เพือ่ บอกวา่ เปน็ คาทีส่ งสยั หรอื ไมแ่ นใ่ จว่าอา่ นอย่างไร ง. คาทตี่ ้องการเน้นให้ขีดเสน้ ใต้ที่คาน้นั จ. คาใดท่ีทอดจงั หวะ ใหท้ าเสน้ โคง้ ทส่ี ว่ นบนของคาน้ัน ( ⌒ ) ฉ. เครื่องหมายมุมคว่าหรือหมวกเจ๊กคว่า ( ^ ) แสดงว่าข้อความนั้นจะเน้นเสียงข้ึนสูง และ มุมหงายหรือหมวกเจ๊กหงาย ( v ) แสดงการเน้นเสียงลงตา่ ๓. ซ้อมอ่านให้คล่อง หลังอ่านบทจนเข้าใจและทาเครื่องหมายแสดงจังหวะการอ่านแล้ว ควรซ้อม อ่านให้คล่องโดยใช้ไมโครโฟนเพื่อใหผ้ ู้อ่ืนช่วยสังเกต หรือบันทึกเสียงไวเ้ พ่ือฟงั และแก้ไขข้อบกพรอ่ งของตวั เอง อาจต้องซอ้ มหลายคร้งั จนกว่าจะแกไ้ ขไดเ้ ป็นทน่ี า่ พอใจ การปรับปรงุ ตนเองเก่ียวกบั การอ่าน ๑. อ่านหนังสอื ทุกวัน ๒. การอา่ นเป็นส่งิ จาเปน็ แม้จะมกี จิ กรรมยงุ่ ยากเพยี งใด ตอ้ งหาเวลาอา่ นหนังสือใหไ้ ด้ ๓. จดบันทกึ วา่ กอ่ นจะปฏบิ ัติ การอา่ นเปน็ อย่างไรเมือ่ ดาเนินการไปแลว้ มีอะไรเปลยี่ นแปลงอย่างไร ๔. ต้องหาทางฝกึ อ่านมาก ๆ จงจาไว้วา่ ยิ่งได้ฝกึ มากเทา่ ใดก็ส่งผลมากขน้ึ เท่านั้น ๕. พยายามอ่านด้วยความตั้งใจและตั้งใจอา่ นใหด้ ีขึน้ กวา่ เดิมทุกวนั

20 1230 ใบงาน เร่ือง การอ่านออกเสียงร้อยแกว้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑ เร่อื ง การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ คาชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถูกต้อง ๑. ความหมายของการอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้ว ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๒. หลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ ..................................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... .................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................... ................................... ................................................................................................ .............................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................ ..............................................

21 2141 เกณฑก์ ารประเมินการอา่ นออกเสียง ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ การประเมิน อักขรวธิ ี ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรบั ปรุง) น้าเสียงอารมณ์ ออกเสียงอักขรวิธี ออกเสยี งอักขรวธิ ี ออกเสยี งอักขรวิธี ออกเสียงอักขรวิธี ความถูกต้องใน ตัวสะกด ตัวสะกด ตวั สะกด ตัวสะกด การอ่าน บุคลกิ ท่าทาง ควบกลา้ ถูกต้อง ควบกล้า มีจดุ ควบกลา้ มจี ุด ควบกล้า มจี ุด ทุกแห่ง ผดิ พลาด ๑ – ๒ ผดิ พลาด ๓ – ๔ ผดิ พลาด ๕ จดุ จดุ จดุ ขน้ึ ไป เสยี งดังชดั เจน เสียงดังพอสมควร เสยี งเบาขาด เสยี งเบาขาด มีความไพเราะกบั มีความไพเราะ ความไพเราะ ความไพเราะเพยี ง เนอื้ เร่อื งทีอ่ ่าน เหมาะสมกับ เหมาะสมกับ เล็กน้อย แต่ไม่ ลกั ษณะ ลักษณะ ค่อยเหมาะสมกับ คาประพันธเ์ ป็น คาประพนั ธเ์ ปน็ ลักษณะ ส่วนใหญ่ บางสว่ น คาประพันธ์ การเว้นวรรคตอน การเวน้ วรรคตอน การเวน้ วรรคตอน การเวน้ วรรคตอน จังหวะลลี า ผดิ ๑ จดุ ผิด ๒ จดุ จงั หวะ ผดิ มากกวา่ ๓ จุด ถูกต้องสมบูรณ์ จงั หวะถกู ต้อง ถกู ต้องแต่ขาด ขน้ึ ไป ขาดทง้ั แตข่ าดลลี า ลีลา จังหวะและลลี า มีความเชื่อม่ัน มีความเชอื่ มัน่ มคี วามเชื่อมน่ั ขาดความเชื่อมนั่ ทา่ ทางสัมพันธ์ ทา่ ทางไมส่ ัมพันธ์ ลลี า ทา่ ทาง กบั เนือ้ เร่ือง กบั เนอื้ เรื่อง แต่งกาย เหมาะสม แตง่ กายเรียบร้อย ไมเ่ หมาะสม แต่งกายเรียบร้อย เกณฑก์ ารตดั สนิ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๑๓ – ๑๖ หมายถึง ดี คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถงึ พอใช้ หมายถึง ปรบั ปรุง คะแนน ๕ – ๘ คะแนน ๐ – ๔

22 2125 แบบประเมนิ เรอื่ ง การอา่ นออกเสียง เพ่ือให้นักเรียนสามารถอา่ นออกเสียงร้อยแกว้ ไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว ชอื่ – สกลุ ัอกขรวิ ีธ รวม สรุปผล น้าเ ีสยง การประเมิน ความถูกต้อง ในการ ่อาน บุค ิลกภาพ ๔ ๔ ๔ ๔ ๑๖ ผ่าน ไม่ผา่ น เกณฑ์การตัดสนิ รอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป (๑๓ คะแนนขึ้นไป) คะแนน ๑๓ – ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถงึ ดี คะแนน ๕ – ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ – ๔ หมายถึง ปรบั ปรงุ ลงชอ่ื .............................................ผู้ประเมิน (....................................................................) หมายเหตุ การพจิ ารณาตดั สินอักขรวธิ ี ให้ตัดคะแนนคร้งั ละ ๑ คะแนน วรรคตอน ตวั สะกด อา่ นผดิ อ่านตก อา่ นเติม อา่ นตู่ตัว ฯลฯ

23 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง พน้ื ฐานอ่านเขียน เร่อื ง บทอาขยาน เวลา ๑ ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรภู้วิชาษาภาไาทษยาไทย ขอบเขตเนอื้ หา รายวชิ าพพ้ืนื้นฐฐาานนภภาาษษาาไไททยย ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ความหมายและประเภทของบทอาขยาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหล่งเรียนรู้ หลกั การท่องบทอาขยาน ขนั้ นา ๑. บทท่องอาขยาน นริ าศภูเขาทอง และโคลงโลกนิติ จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ ๑. ครยู กตวั อย่างบทอาขยานบทหลกั และบทรองหรือ ๒. หนังสอื เรยี นวรรณคดีวจิ ักษ์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ๑. อธบิ ายความหมายและประเภทของบทอาขยาน บทเลอื กในระดบั ชนั้ ประถมศึกษา บทหลกั แมวเหมยี ว ๓. ใบความรู้ เรอ่ื ง บทอาขยาน ได้ กาดา สยามานสุ ติ โคลงโลกนติ ิ บทรองและบทเลอื ก ภาระงาน/ชนิ้ งาน ๒. อธบิ ายหลกั การทอ่ งบทอาขยานได้ รกั เมืองไทย ตง้ั ไขล่ ้มต้มไขก่ ิน ตนเป็นท่พี ่ึงแห่งตน นักเรียนฝกึ ทอ่ งบทอาขยานบทหลักจากหนังสืออ่าน ด้านทักษะกระบวนการ ทอ่ งจาบทอาขยานได้ ดวงตะวนั เพิ่มเติม บทอาขยานภาษาไทย ด้านคณุ ลกั ษณะ ๒. ครูซกั ถามนกั เรยี นว่าใครเคยทอ่ งบทอาขยานตาม ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ตวั อย่างเรื่องใดบา้ งและท่องอย่างไร ๒. มีวินัย ข้นั สอน ๓. ใฝเ่ รียนรู้ ๑. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้และอภปิ รายร่วมกนั ๔. รักความเปน็ ไทย ๕. มนี สิ ัยรักการอ่าน เกี่ยวกบั การอา่ นบทร้อยกรอง เรอื่ งบทอาขยานวา่ ต้อง คานึงถงึ หลักอยา่ งไรบ้าง เช่น นา้ เสียงชดั เจน ถูกตอ้ ง และเปน็ ไปตามภาษามาตรฐาน การออกเสยี ง พยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ คาควบกล้าถกู ต้องตามหลกั ภาษาไทย การรู้จกั เวน้ วรรคตอน เน้นและทอดเสียงให้ สอดคลอ้ งกับเน้ือเร่ือง เปน็ ต้น 1623

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรื่อง พ้นื ฐานอา่ นเขยี น แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ 24 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้วิชาษาภาไาทษยาไทย เรือ่ ง บทอาขยาน เวลา ๑ ชวั่ โมง รายวิชาพพ้ืน้ืนฐฐาานนภภาาษษาาไไททยย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ๒. ครูนาบทร้อยกรองจากบทอาขยานบทหลัก ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ เร่อื งนิราศภเู ขาทองและ โคลงโลกนิติ มาอ่านให้นักเรียนฟงั แลว้ ให้นกั เรยี น ฝกึ อา่ นเปน็ ทานองธรรมดาจากนั้นฝกึ อา่ นเป็นทานอง เสนาะ ๓. สังเกตการอ่านบทร้อยกรองของนักเรียนต้องเวน้ วรรคตอนให้ถูกต้อง รวมทง้ั อ่านใหถ้ ูกฉนั ทลักษณข์ อง บทประพนั ธ์ ๔. ครูใหน้ ักเรียนฝึกอ่านบทร้อยกรองพร้อมกนั เป็น กลมุ่ ฝกึ อ่านจบั คู่ ฝึกอ่านเป็นรายบคุ คล ขั้นสรุป ๑. ครูและนกั เรยี นสรุปหลักการอา่ นบทรอ้ ยกรอง และบทอาขยาน แล้วบนั ทึกลงสมดุ ๒. นักเรียนบอกประโยชนข์ องการท่องบทอาขยาน ครูสรุปเพ่มิ เติม 17 24

18 18 การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ สง่ิ ทต่ี ้องการวดั /ประเมิน สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ดา้ นความรู้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๑. ความหมายและ ประเภทของบทอาขยาน ประเมินการอ่าน แบบประเมิน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ๒. หลกั การทอ่ งบทอาขยาน ออกเสียงบทอาขยาน ความสามารถใน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ด้านทักษะ/กระบวนการ เปน็ ทำนองเสนาะ การอา่ นบทอาขยาน ท่องจำบทอาขยานได้ ดา้ นคุณลักษณะ แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์คุณภาพ รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ประเมนิ คณุ ลกั ษณะ คุณลักษณะ ระดบั ๒ ๑. มวี นิ ยั ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. รักความเปน็ ไทย ๔. มีมารยาทในการอ่าน ๘. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดอื น..................................พ.ศ…...…. ๙. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ......................................ผตู้ รวจ (.........................................................) วนั ท่.ี .........เดอื น..................................พ.ศ…...….

26 2196 ใบความรเู้ รือ่ ง บทอาขยาน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรื่องบทอาขยาน รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ๑. บทอาขยาน ๑.๑ ความหมายและประเภทของบทอาขยาน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พุทธศักราช ๒๕๔๒ ให้นิยามคา “อาขยาน” ไว้ว่า บทท่องจา การบอกเล่า การบอกการสวด เร่ือง นิทาน “อาขยาน” อ่านออกเสียงได้ ๒ อย่าง คือ อา – ขะ – หยาน หรือ อา – ขะ – ยาน บทอาขยานที่ให้นักเรียนท่องจานั้น แบ่งออกเป็น ๓ ประเภท คือ บทอาขยานท่ีเป็นบทหลัก บทรอง และบทเลือกอิสระ บทหลัก หมายถึง บทอาขยานท่ีกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้กาหนดให้นักเรียนนาไปท่องจา เพอ่ื ความเป็นอนั หนึง่ อันเดียวกนั ท่ัวประเทศ บทรอง หมายถึง บทอาขยานท่ีครูผู้สอนหรือสถานศึกษาเป็นผู้ท่ีกาหนดให้นักเรียนท่องจา เสริมจากบทอาขยานที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนด (บทหลัก) เป็นบทร้อยกรองที่มีลักษณะตรงตาม หลักเกณฑ์ การคัดเลือกบทอาขยาน อาจเป็นบทร้อยกรองที่แสดงภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น เพลงพื้นบ้าน เพลงกลอ่ มเด็ก ค่าวซอพญา เพลงชานอ้ ง เพลงเรอื บทกวีรว่ มสมัยทมี่ คี ณุ ค่า บทเลือกอิสระ หมายถึง บทอาขยานที่นักเรียนแต่ละคนเลือกสรรมาท่องจาเองด้วย ความสมัครใจ หรือด้วยความช่ืนชอบ อาจเป็นบทร้อยกรองท่ีมีผู้แต่งไว้ หรือเป็นบทร้อยกรองที่นักเรียนแต่ง ขึ้นเอง หรือผู้ปกครองเป็นผู้แต่งข้ึนก็ได้ แต่ต้องบอกได้ว่ามีเหตุผลอย่างไรจึงเลือกบทร้อยกรองน้ัน ๆ มา ท่องจาเปน็ บทอาขยานของตนเอง โดยความเห็นชอบของครูผูส้ อนหรือสถานศึกษา บทรอ้ ยกรองทีจ่ ะคดั เลือกให้เปน็ บทรองและบทเลือกอสิ ระ ควรมลี ักษณะดงั นี้ ๑. มีเนือ้ หา ความยากงา่ ยเหมาะสมกับวยั ๒. มีความยาวพอเหมาะ พอควร ๓. มีคุณธรรม คติธรรม ใหแ้ นวทางการดาเนนิ ชีวติ ท่ีดงี าม ๔. มสี นุ ทรยี ภาพทางภาษา ๕. มีความถูกต้องตามฉันทลกั ษณ์ ๖. มีรปู แบบท่หี ลากหลาย ๑.๒ หลักการท่องบทอาขยาน การท่องอาขยานทาได้ ๒ แบบ คือ การอ่านบทอาขยานตามหลักท่ัวไป หรือออกเสียงแบบ รอ้ ยแก้ว และการอา่ นแบบทานองเสนาะ ดังน้ี

27 2270 ๑.๒.๑ การทอ่ งบทอาขยานตามหลกั การทวั่ ไป การท่องบทอาขยานส่วนใหญ่เป็นการท่องออกเสียง คือ ผู้ท่องเปล่งเสียงออกมา ดัง ๆ ในขณะท่ีใช้สายตากวาดไปตามตัวอักษร ยึดหลักการออกเสียงเหมือนหลักการอ่านท่ัวไป เพ่ือให้ การออกเสียงมปี ระสทิ ธภิ าพ ควรฝกึ ฝนดงั น้ี ๑) ฝึกเปล่งเสียงให้ดังพอประมาณ ไม่ตะโกน ควรบังคับเสียง เน้นเสียง ปรับระดับ เสียงสูง – ตา่ ให้สอดคล้องกับจงั หวะลลี า ท่วงทานอง และความหมายของเนอ้ื หาทีอ่ า่ น ๒) ท่องด้วยเสียงท่ีชัดเจน แจ่มใส ไพเราะ มีกระแสเสียงเดียว ไม่แตกพร่า เปลง่ เสยี งออกจากลาคอโดยตรงด้วยความมัน่ ใจ ๓) ท่อง ออกเสยี งใหถ้ กู อกั ขรวิธี และต้องเขา้ ใจเนอื้ หาของบทอาขยานนีก้ ่อน ๔) ออกเสียง ร ล คาควบกล้าใหถ้ กู ตอ้ งชดั เจน ๕) ท่องให้ถูกจังหวะ และวรรคตอน ๖) ท่องใหไ้ ด้อารมณ์และความร้สู กึ ตามเน้ือหา

28 2281 บทอาขยาน หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ เรื่องบทอาขยาน รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ นริ าศภูเขาทอง มาถึงบางธรณีทวีโศก ยามวิโยคยากใจใหส้ ะอ้นื โอ้สธุ าหนาแนน่ เปน็ แผ่นพื้น ถงึ ส่ีหม่นื สองแสนทัง้ แดนไตร เมอ่ื เคราะห์ร้ายกายเราก็เท่านี้ ไมม่ ีท่ีพสธุ าจะอาศัย ล้วนหนามเหนบ็ เจ็บแสบคบั แคบใจ เหมือนนกไรร้ ังเร่อยเู่ อกา ถงึ เกร็ดยา่ นบ้านมอญแต่กอ่ นเก่า ผ้หู ญิงเกล้ามวยงามตามภาษา เดยี๋ วนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ทัง้ ผดั หน้าจับเขมา่ เหมือนชาวไทย โอ้สามญั ผนั แปรไมแ่ ท้เท่ยี ง เหมือนอยา่ งเยี่ยงชายหญงิ ทิง้ วิสยั นี่หรือจติ คิดหมายมีหลายใจ ทีจ่ ิตใครจะเปน็ หน่งึ อย่าพงึ คิด ถงึ บางพดู พูดดีเปน็ ศรีศักดิ์ มคี นรกั รสถ้อยอร่อยจิต แม้นพดู ช่วั ตวั ตายทาลายมติ ร จะชอบผดิ ในมนุษย์เพราะพดู จา พระสนุ ทรโวหาร (ภ่)ู

22 โคลงโลกนิติ คณนา พระสมุทรสุดลึกล้น หย่ังได้ สายด่ิงท้ิงทอดมา กำหนด เขาสูงอาจวัดวา ยากแทห้ ยั่งถงึ จิตมนุษย์นี้ไซร้ ชลธาร ก้านบัวบอกลึกต้ืน ชาติเชื้อ มารยาทส่อสันดาน ควรทราบ โฉดฉลาดเพราะคำขาน บอกร้ายแสลงดิน หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรอ้ื เขาหนัง โคควายวายชีพได้ อยไู่ ซร้ เป็นส่ิงเป็นอันยัง ขารร่าง คนเด็ดดับสูญสงั - แต่ร้ายกับดี เป็นชื่อเป็นเสียงได้ แหนงหนี เพ่ือนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว มากได้ หาง่าย หลายหม่ืนมี วาอาตม์ เพ่ือนตาย ถ่ายแทนชี- ยากแทจ้ ักหา หายาก ฝากผีไข้ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร)

30 2330 เกณฑก์ ารประเมินการอา่ นออกเสียง ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ การประเมิน อักขรวธิ ี ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรบั ปรุง) น้าเสียงอารมณ์ ออกเสียงอักขรวิธี ออกเสยี งอักขรวธิ ี ออกเสยี งอักขรวิธี ออกเสียงอักขรวิธี ความถูกต้องใน ตัวสะกด ตัวสะกด ตวั สะกด ตัวสะกด การอ่าน บุคลกิ ท่าทาง ควบกลา้ ถูกต้อง ควบกล้า มีจดุ ควบกลา้ มจี ุด ควบกล้า มจี ุด ทุกแห่ง ผดิ พลาด ๑ – ๒ ผดิ พลาด ๓ – ๔ ผดิ พลาด ๕ จดุ จดุ จดุ ขน้ึ ไป เสยี งดังชดั เจน เสียงดังพอสมควร เสยี งเบาขาด เสยี งเบาขาด มีความไพเราะกบั มีความไพเราะ ความไพเราะ ความไพเราะเพยี ง เนอื้ เร่อื งทีอ่ ่าน เหมาะสมกับ เหมาะสมกับ เล็กน้อย แต่ไม่ ลกั ษณะ ลักษณะ ค่อยเหมาะสมกับ คาประพันธเ์ ป็น คาประพนั ธเ์ ปน็ ลักษณะ ส่วนใหญ่ บางสว่ น คาประพันธ์ การเว้นวรรคตอน การเวน้ วรรคตอน การเวน้ วรรคตอน การเวน้ วรรคตอน จังหวะลลี า ผดิ ๑ จดุ ผิด ๒ จดุ จงั หวะ ผดิ มากกวา่ ๓ จุด ถูกต้องสมบูรณ์ จงั หวะถกู ต้อง ถกู ต้องแต่ขาด ขน้ึ ไป ขาดทง้ั แตข่ าดลลี า ลีลา จังหวะและลลี า มีความเชื่อม่ัน มีความเชอื่ มัน่ มคี วามเชื่อมน่ั ขาดความเชื่อมนั่ ทา่ ทางสัมพันธ์ ทา่ ทางไมส่ ัมพันธ์ ลลี า ทา่ ทาง กบั เนือ้ เร่ือง กบั เนอื้ เรื่อง แต่งกาย เหมาะสม แตง่ กายเรียบร้อย ไมเ่ หมาะสม แต่งกายเรียบร้อย เกณฑก์ ารตดั สนิ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๑๓ – ๑๖ หมายถึง ดี คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถงึ พอใช้ หมายถึง ปรบั ปรุง คะแนน ๕ – ๘ คะแนน ๐ – ๔

31 2341 แบบประเมนิ เรือ่ ง การอ่านออกเสียง เพ่อื ใหน้ กั เรียนสามารถอา่ นออกเสยี งร้อยแกว้ ได้อย่างคล่องแคล่ว ช่อื – สกลุ ัอกขรวิ ีธ รวม สรุปผล น้าเ ีสยง การประเมิน ความถูกต้อง ในการ ่อาน บุค ิลกภาพ ๔ ๔ ๔ ๔ ๑๖ ผ่าน ไมผ่ า่ น เกณฑ์การตดั สนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป (๑๓ คะแนนขึน้ ไป) คะแนน ๑๓ – ๑๖ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ – ๘ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๐ – ๔ หมายถงึ ปรับปรงุ ลงช่อื .............................................ผปู้ ระเมนิ (....................................................................)

32 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เร่อื ง พนื้ ฐานอ่านเขยี น แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ เวลา ๑ ชวั่ โมง กล่มุ สาระการเรียนรภู้วิชาษาภาไาทษยาไทย เร่อื ง การคดั ลายมือ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ขอบเขตเนื้อหา สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ ลกั ษณะของการคัดลายมอื รายวชิ าพพ้ืนน้ื ฐฐาานนภภาาษษาาไไททยย ๑. ใบความรู้ เร่อื ง การคดั ลายมือ กจิ กรรมการเรยี นรู้ หลักการคัดลายมือ ขั้นนา ๒. ใบงาน เรอ่ื ง การคดั ลายมอื จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. ครูใหน้ กั เรยี นคดั เลือกนักเรยี นทีม่ ีลายมือสวย ๓ ดา้ นความรู้ คน เขยี นชื่อตนเองบนกระดานหน้าชั้นเรียนด้วย ภาระงาน/ชนิ้ งาน ฝกึ คดั ลายมือ ๑. อธิบายลักษณะของการคัดลายมือ ลายมือตวั บรรจงครงึ่ บรรทดั ๒. อธิบายหลักการคดั ลายมือ ๒. ครใู หเ้ พอ่ื นนักเรียนในช้ันเรียนให้คะแนนวา่ ใคร เขียนสวยทส่ี ุด พรอ้ มทั้งใหเ้ หตุผลประกอบ ด้านทักษะกระบวนการ ขนั้ สอน สามารถคัดลายมือตวั บรรจงครง่ึ บรรทัดตามแบบที่ ๑. แบ่งกลุม่ นกั เรียน กลุม่ ละ ๕ คน นักเรียนแตล่ ะ กลุม่ ร่วมกันศึกษาใบความรู้ เร่อื ง การคัดลายมือ กาหนดให้ได้ ๒. ครใู หน้ กั เรยี นฝึกคัดลายมือตามรปู แบบ ดา้ นคุณลักษณะ ๑. มวี ินยั ตัวอกั ษรไทย ตามแบบกระทรวงศึกษาธิการลงใน ใบงาน เรอื่ ง คัดลายมือ ตามเวลาท่ีกาหนด ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั แลกเปล่ยี นแสดง ๓. มงุ่ ม่ันในการทางาน ความคดิ เห็นผลงานของกลมุ่ ๔. รักความเปน็ ไทย 25 32

๔. รักความเป็นไทย ความคดิ เหน็ ผลงานของกลมุ่ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอื่ ง พ้ืนฐานอา่ นเขียน แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ 33 กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้วิชาษาภาไาทษยาไทย เรอื่ ง การคดั ลายมือ เวลา ๑ ช่ัวโมง รายวิชาพพืน้ ้นื ฐฐาานนภภาาษษาาไไททยย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ข้ันสรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ วิธีการคัดลายมอื เพอ่ื ทา ความเขา้ ใจเก่ียวกบั วิธีการคัดลายมอื ที่ถกู ต้อง 26

34 2374 การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ส่ิงทตี่ ้องการวดั /ประเมิน ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ดา้ นความรู้ ประเมนิ การคดั ลายมือ แบบประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ๑. ลักษณะของ การคดั ลายมือ การคดั ลายมือ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ๒. หลักการคัดลายมือ ประเมินคุณลักษณะ แบบประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไป ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะ คดั ลายมอื ตัวบรรจง ผา่ นเกณฑ์คณุ ภาพ ครึ่งบรรทดั ได้ ระดับ ๒ ด้านคุณลกั ษณะ ๑. มวี นิ ัย ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มงุ่ มัน่ ในการทางาน ๔. รกั ความเป็นไทย ๘. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดอื น..................................พ.ศ…...…. ๙. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................ผตู้ รวจ (.........................................................) วนั ที่..........เดือน..................................พ.ศ…...….

35 2385 ใบความรู้ เรอื่ ง การคดั ลายมือ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ เรือ่ ง การคดั ลายมอื รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ การคัดลายมือ การคัดลายมือ เป็นการฝึกเขียนตัวอักษรไทยให้ถูกต้องตามหลักการเขียนคาไทย ซึ่งต้องคานึงถึง ความถูกต้องของอักษรไทย เขียนให้อ่านง่าย มีช่องไฟ มีวรรคตอน ตัวอักษรเสมอกัน วางพยัญชนะ สระ และ วรรณยุกต์ให้ถูกท่ี ตัวสะกด การันต์ถูกต้อง และลายมือสวยงาม การคัดลายมือมีแบบการคัดหลายแบบ ซ่ึงแบ่งได้ ๒ ประเภท คือ ตัวเหลีย่ ม และตัวกลมหรอื หัวมน ลักษณะของการคดั ลายมอื การคดั ลายมอื มี ๓ ลกั ษณะ คือ ๑. การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เหมาะสาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๒ เนอื่ งจากเป็นชว่ งท่กี ลา้ มเน้ือและการประสานระหวา่ งตากบั มือยงั พัฒนาไมเ่ ตม็ ที่ ๒. การคัดลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด เหมาะสาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และ ๔ เน่อื งจากจะมกี ารประสานระหว่างกล้ามเนือ้ และตาเพ่ิมมากขน้ึ ๓. การคัดลายมือหวัดแกมบรรจง เป็นการคัดลายมือหวัดแต่ให้อ่านออก การเขียนลายมือหวัด แกมบรรจงเป็นการเขียนท่ีใช้ในชีวิตประจาวัน ซึ่งผู้เขียนจะต้องเขียนให้อ่านง่าย มีช่องไฟ เว้นวรรคตอน ถกู ตอ้ ง และเขียนด้วยลายมือท่สี วยงาม โดยคดั ให้รวดเรว็ สวยงาม ถูกตอ้ ง และน่าอ่าน หลักการคดั ลายมอื ๑. นั่งตัวตรง เขียนด้วยมือขวา ส่วนมือซ้ายวางบนกระดาษที่จะเขียนเพ่ือมิให้กระดาษเล่ือนไปมา ขอ้ ศอกขวาวางบนโต๊ะขณะเขยี น สายตาหา่ งจากกระดาษทเ่ี ขียนประมาณ ๑ ฟุต ๒. จับดินสอหรือปากกาให้ถูก โดยดินสอหรือปากกาจะอยู่ท่ีหัวแม่มือกับนิ้วชี้ และน้ิวกลาง ส่วน น้วิ นางกบั น้ิวก้อยงอไว้ในฝ่ามือ ๓. เขียนตัวอักษรให้ถูกส่วน ตัวอักษรต้ังตรง การเขียนพยัญชนะไทยทุกตัวต้องเร่ิมเขียนหัวก่อน ยกเว้นตัว ก และ ธ ซึ่งไม่มีหัว เว้นช่องไฟและวรรคตอนให้พองาม วางเคร่ืองหมายต่าง ๆ ให้ถูกต้องตาม ตาแหน่ง ๔. วางพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ให้ถูกต้องตามตาแหน่ง ซึ่งสระทุกตัวมีตาแหน่งที่สัมพันธ์กับ พยัญชนะ เชน่ ๔.๑ สระทอี่ ยูห่ น้าพยญั ชนะ ได้แก่ เ- แ- โ- ใ- ไ- ๔.๒ สระทีอ่ ย่หู ลงั พยัญชนะ ไดแ้ ก่ -ะ -า ๔.๓ สระท่ีอยเู่ หนอื พยัญชนะ ไดแ้ ก่ -ิ -ี -ึ -ื ๔.๔ ไม้หนั อากาศ ( -ั ) ไม้ไตค่ ู้ ( - ็ ) นิคหิต ( - ) จะวางเหนอื พยญั ชนะตรงกลาง

3629 36 ๔.๕ สระทอี่ ยใู่ ต้พยัญชนะ ไดแ้ ก่ -ุ -ู ตัวอกั ษรแบบกระทรวงศึกษาธกิ าร สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร. ภาษาไทย สาระที่ควรรู้ คู่มือการเรยี นการสอนภาษาไทย ระดบั ประถมศึกษา. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั , ๒๕๕๓.

37 3370 ใบงาน เรือ่ ง การคัดลายมือ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เร่ือง การคดั ลายมือ รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนคัดลายมอื ตวั บรรจงคร่งึ บรรทัดตามรูปแบบตวั อกั ษรไทยแบบกระทรวงศึกษาธกิ าร ...................................................................................................... ........................................................................ ...................................................................................................... ........................................................................ .............................................................................................................................................................................. ...................................................................................................... ........................................................................ ...................................................................................................... ........................................................................ .............................................................................................................................................................................. ...................................................................................................... ........................................................................ ...................................................................................................... ........................................................................ ...................................................................................................... ........................................................................ ................................................................................. ............................................................................................. ...................................................................................................... ........................................................................ ...................................................................................................... ........................................................................ ...................................................................................................... ........................................................................ ................................................................................. ............................................................................................. ...................................................................................................... ........................................................................ ...................................................................................................... ........................................................................ .............................................................................................................................................................................. ...................................................................................................... ........................................................................ ...................................................................................................... ........................................................................ .............................................................................................................................................................................. ...................................................................................................... ........................................................................ ...................................................................................................... ........................................................................

38 3381 เกณฑก์ ารประเมินช้ินงานการคดั ลายมอื ตัวบรรจงครงึ่ บรรทดั ประเด็น ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมนิ ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) คัดตามแบบ คดั ลายมือตาม คัดลายมือตาม คัดลายมือตาม คดั ลายมอื ไม่ ตวั อกั ษรถูกต้อง แบบตัวอักษรได้ แบบตัวอักษรส่วน แบบตัวอักษรไม่ ถกู ต้องเป็นส่วน ตามทก่ี าหนด (เน้อื หา) ถกู ต้องครบถว้ น ใหญ่ถูกต้อง ถูกต้องบางสว่ น ใหญ่ ความเป็นระเบยี บ ชอ่ งไฟถูกต้อง มีความเป็น มคี วามเป็น ขาดความเปน็ ขาดความเป็น สม่าเสมอ ระเบยี บ มีการเวน้ ระเบยี บ ระเบียบแตม่ ี ช่องไฟอยา่ ง มีการเวน้ ช่องไฟไม่ การเว้นช่องไฟบา้ ง ระเบียบและ สม่าเสมอ สม่าเสมอ การเว้นช่องไฟไม่ ไสมมส่ า่ มเส�่ำ เมสอมอ การเขียนสะกดคา การเขียนสะกดคา การเขยี นสะกดคา การเขียนสะกดคา การเขียนสะกดคา ถูกต้องตามอกั ขรวธิ ี ถูกต้องตรงตาม สว่ นใหญถ่ ูกต้อง ถกู ต้องบางสว่ น สว่ นใหญไ่ มถ่ ูกต้อง อกั ขรวิธีคาควบ เปน็ ส่วนใหญ่ กลา้ ตวั ร ล ตวั สะกด การนั ต์ ถูกต้องครบถ้วน อ่านง่าย สะอาดและ อ่านงา่ ย สะอาด อ่านง่าย สะอาดแต่ มรี อยลบ ขดี ฆ่า อ่านยาก มีรอยลบ ขดี ฆ่า ขาด เปน็ ระเบยี บ มีความเปน็ ขาดความเป็น ขาดความเปน็ ความเป็นระเบยี บ ระเบียบ ระเบยี บ ระเบียบเปน็ ส่วน ใหญ่ เกณฑ์การตดั สิน หมายถงึ ดีมาก คะแนน ๑๓ – ๑๖ หมายถงึ ดี คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถึง พอใช้ หมายถึง ปรบั ปรุง คะแนน ๕ – ๘ คะแนน ๐ – ๔

39 3329 แบบประเมิน เร่อื ง การคัดลายมอื ชอ่ื – สกลุ คัดตามแบบ รวม สรุปผล ตัวอักษร ูถกต้อง การประเมนิ ความเ ็ปน ระเ ีบยบ การเ ีขยนสะกด คา ูถกต้อง อ่าน ่งาย สะอาด ๔ ๔ ๔ ๔ ๑๖ ผา่ น ไม่ผา่ น เกณฑก์ ารตดั สนิ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป (๑๓ คะแนนข้นึ ไป) คะแนน ๑๓ – ๑๖ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถงึ ดี คะแนน ๕ – ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ – ๔ หมายถึง ปรับปรุง ลงช่ือ .............................................ผปู้ ระเมิน (....................................................................)

40 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๔ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง พน้ื ฐานอ่านเขียน เร่อื ง การคดั ลายมือ เวลา ๑ ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรียนรภู้วิชาษาภาไาทษยาไทย ขอบเขตเน้ือหา รายวิชาพพื้นน้ื ฐฐาานนภภาาษษาาไไททยย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ลกั ษณะของการคัดลายมือ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ หลกั การคัดลายมือ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้นั นา ๑. บทอาขยาน เร่อื ง นิราศภูเขาทอง ด้านความรู้ ๑. ครูนาผลงานนักเรียนทีเ่ ขียนดว้ ยลายมอื เป็น ๒. ใบงาน เร่อื ง การคัดลายมอื ๑. อธบิ ายลักษณะของการคัดลายมือ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยสวยงามมาใหน้ กั เรียนดู ภาระงาน/ชิ้นงาน ๒. อธิบายหลกั การคัดลายมือ ๒. นกั เรียนตอบคาถามวา่ ลายมือมีความสาคัญตอ่ การคัดลายมือตัวบรรจงครง่ึ บรรทดั ด้านทกั ษะกระบวนการ คัดลายมือตัวบรรจงครง่ึ บรรทัดตามแบบท่ีกาหนด การเขยี นตอบหรือจดบนั ทึกหรอื ไม่อยา่ งไร ใหไ้ ด้ ข้นั สอน ดา้ นคณุ ลักษณะ ๑. ครูนาบทอาขยาน เรือ่ งนิราศภูเขาทอง มาให้ ๑. มีวินยั นักเรียนคดั ลายมือตวั บรรจงครงึ่ บรรทดั ตามแบบที่ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ กาหนดให้ ลงในใบงานเรอื่ ง การคัดลายมอื ๓. ม่งุ ม่นั ในการทางาน ๒. ครแู ละนักเรยี น ร่วมกนั ประเมินผลงานของ ๔. รักความเปน็ ไทย นกั เรียนตามแบบประเมินการคัดลายมือ ๓. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันคัดเลอื กผลงานท่ีดเี ด่นจัด ป้ายนเิ ทศ 33 40

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ เรอื่ ง พ้ืนฐานอา่ นเขยี น แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๔ 41 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้วิชาษาภาไาทษยาไทย เรือ่ ง การคดั ลายมือ เวลา ๑ ชั่วโมง รายวิชาพพ้นื ้นื ฐฐาานนภภาาษษาาไไททยย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ หลกั การคดั ลายมือและ สรา้ งความตระหนักใหน้ ักเรียนเห็นความสาคัญของ ลายมอื เพื่อนาไปใชใ้ นการเขียนสอ่ื สารใน ชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 34