อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ, อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ หมายถึง, อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ คือ, อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ ความหมาย, อาเซียน ASEAN ประวัติอาเซียน 10 ประเทศ คืออะไร Show
หลายคนอาจจะยังมีข้อกังขาเกี่ยวคำเรียกที่ว่า "ASEAN" หรือในภาษาไทยอ่านว่า "อาเซียน" จริงๆ แล้วคำนี้มันมีความหมายว่าอะไร และมีความสำคัญอย่างไร เหตุใดเราถึงควรรู้จักกับเจ้าคำนี้เอาไว้ วันนี้ เราจะมาคลายข้อสงสัยเพื่อทำให้ผู้อ่านได้รู้จักกับ "อาเซียน" มากขึ้น อาเซียน เกิดจากการรวมตัวกันของ 10 ประเทศ อันได้แก่ มาเลเซีย, พม่า, กัมพูชา, ลาว, ไทย, สิงคโปร์, เวียดนาม, บรูไนดารุส-ซาลาม, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งรายนามประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งสิ้น โดยอาเซียน มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า "Association of Southeast Asian Nations" หรือ "สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือกำเนิดขึ้นโดย "ปฏิญญากรุงเทพ" (Bangkok Declaration) หรือ "ปฏิญญาอาเซียน" (ASEAN Declaration) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510 โดยมีสมาชิกเริ่มแรกเพียง 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และไทย มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกันเอง ภายหลังจึงได้มีอีก 5 ประเทศสมาชิกเข้าร่วมเพิ่มเติม จึงทำให้ "อาเซียน" มีสมาชิกเป็น 10 ประเทศดังเช่นในปัจจุบัน ในการจัดตั้งอาเซียน ภายในปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) ได้ระบุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งเอาไว้ถึง 7 ข้อ อันได้แก่ ..
ข้อมูล ASEAN ที่ควรรู้นอกจากอาเซียนนั้นจะมีความน่าสนใจในแง่ของความร่วมมือกันด้านต่างๆ ของทั้ง 10 ประเทศแล้ว อาเซียน ยังมีข้อมูลอีกบางประการที่เราควรจะต้องรู้เอาไว้ เผื่อว่าคุยกับใครๆ จะได้รู้เรื่อง !
ตราสัญลักษณ์อาเซียน"สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" หรือ "อาเซียน" ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปมัดรวงข้าวสีเหลืองบนพื้นวงกลมสีแดง ล้อมรอบด้วยวงกลมสีขาวและสีน้ำเงิน
สีที่ใช้ในตราสัญลักษณ์อาเซียนซึ่งนอกจากตราสัญลักษณ์ที่จะช่วยสร้างความเข้าใจในความเป็นอาเซียนแล้ว สีที่ใช้ก็ยังมีส่วนที่ช่วยเสริมให้อาเซียนมีพลัง สามารถดำเนินไปได้ด้วยความอดทน และมีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ธงประจำแต่ละประเทศสมาชิกในส่วนของ "ธงอาเซียน" ใช้พื้นธงเป็นสีน้ำเงิน มีตราสัญลักษณ์อาเซียนอยู่ตรงกลาง แสดงถึงความมีเสถียรภาพ สันติภาพ ความสามัคคี และพลวัตของอาเซียน ซึ่งสีที่ใช้อันประกอบไปด้วย สีน้ำเงิน สีแดง สีขาว และสีเหลือง ล้วนแต่เป็นสีหลักในธงชาติของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งสิ้น นอกจากนั้น "สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ยังได้กำหนดให้ทุกๆ วันที่ 8 สิงหาคมของทุกปีเป็น "วันอาเซียน" อีกทั้งยังมีเพลงประจำอาเซียนที่ชื่อว่า "ASEAN Way" สำหรับขับร้องในวันที่ 8 อีกด้วย แน่นอนว่าการอยู่รวมกันเป็นหมู่มากอาจทำให้เกิดปัญหาที่ยากต่อการควบคุม เช่นเดียวกันกับการที่แต่ละประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตัดสินใจเข้ามาอยู่รวมกันเพื่อจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน แต่ก็ยังมีความต่างทั้งในด้านของพื้นที่ เชื้อชาติ ประชากร และการดำรงชีวิต ที่จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนให้ดำเนินไปในแนวทางเดียวกันได้ "สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" จึงได้ร่างเป็น "กฎบัตรอาเซียน" ที่เปรียบเสมือนกับรัฐธรรมนูญของอาเซียน โดยภายในได้รวบรวมเอาค่านิยม หลักการ การทำงานของอาเซียนซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่สำคัญอย่างเป็นทางการบันทึกไว้ ตลอดจนขอบเขตและหน้าที่ความรับผิดชอบขององค์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนการทำงาน ความสัมพันธ์ อีกทั้งภารกิจที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของอาเซียนให้สามารถดำเนินการจนบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายไปได้ด้วยดี "กฎบัตรอาเซียน" ได้มีการลงนามรับรองจากผู้นำอาเซียนในแต่ละประเทศไปเมื่อครั้งที่มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2550 ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่ได้เปลี่ยนแปลงให้ "อาเซียน" กลายเป็นองค์กรที่มีสถานะเป็นนิติบุคคลในฐานะที่เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาล อีกทั้งยังได้มีการให้สัตยาบันกฎบัตรอาเซียนครบทั้ง 10 ประเทศ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 เป็นผลให้ "กฎบัตรอาเซียน" มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป สาระสำคัญของกฎบัตรอาเซียนมีด้วยกัน 13 หมวด
อาเซียนส่งผลอย่างไรต่อประเทศไทย ?เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าช่วงหลังของปี 2558 ได้มีการเปิดประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คือ เพื่อนบ้านของเราจะเดินทางเข้าออกประเทศไทย เพื่อเข้ามาท่องเที่ยว หรือแม้แต่เข้ามาประกอบอาชีพต่างๆ กันได้อย่างอิสระมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถเดินทางเข้าออกไปในอีก 9 ประเทศสมาชิกก็ได้เช่นเดียวกัน ในส่วนของการประกอบอาชีพ คนไทยเองต้องหันกลับมามองที่ตัวเอง ว่าเรามีความสามารถพอที่จะพัฒนาความสามารถให้ทัดเทียมกับเพื่อนบ้านเราได้หรือไม่ ยิ่งในปัจจุบันนี้งานเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ความสามารถด้านภาษาที่ 2 คือ ภาษาอังกฤษ เราก็ยังไม่แข็งแรง แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะมีแต่ข้อเสีย ในด้านเศรษฐกิจเราก็ยังมีความได้เปรียบต่อเพื่อนบ้านของเรามาก มาดูกันดีกว่าว่าอาเซียนมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจอย่างไรต่อประเทศไทยของเราบ้าง
รู้จักสมาชิกอาเซียนดีพอรึยัง ?เพื่อให้พวกเราได้รู้จักกับประเทศสมาชิกอีก 9 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยในด้านต่างๆ ในอาเซียน ให้มากขึ้น คราวนี้ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ถามอะไรก็ตอบได้ ให้สมกับเป็นประชาคมเดียวกัน มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ถ้าพร้อมแล้ว .. มาเริ่มกันเลยดีกว่า .. 1. ประเทศไทย (Thailand) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
2. ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม (Brunei Darussalam) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
3. ประเทศกัมพูชา (Cambodia) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
4. ประเทศอินโดนีเซีย (Indonesia) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
5. ประเทศลาว (Laos) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
6. ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
7. ประเทศเมียนมาร์ หรือพม่า (Myanmar) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
8. ประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
9. ประเทศสิงคโปร์ (Singapore) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
10. ประเทศเวียดนาม (Vietnam) จุดแข็ง
ข้อควรรู้
หวังหว่าเรื่องราวเกี่ยวกับอาเซียน ในด้านต่างๆ ที่เล่ามา น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ที่ได้อ่าน การเปิดประชาคมอาเซียนยังเป็นแค่เพียงช่วงเวลาเริ่มต้น สิ่งเหล่านี้ไม่อยากให้คนไทยแค่เพียงจำได้ แต่อยากให้เข้าใจในเหตุผลหลายๆ อย่าง ว่าทำไมประเทศไทยถึงควรเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในประชาคมอาเซียน อย่างที่กล่าวข้างต้น ถึงแม้ว่าจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป แต่เชื่อว่าคนไทยก็ยังมีศักยภาพที่จะช่วยผลักดันความสามารถของประเทศเรา ทั้งเรื่องของสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมให้ขับเคลื่อนไปทัดเทียมกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ได้อย่างไม่ต้องอายเลย ถึงอย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่มีความหมาย หากเราอยากปราศจากการเตรียมตัวที่ดี ให้ระลึกไว้เสมอว่าตอนนี้ความมีอิสระอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่เคย ผู้คนในอาเซียนสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างเสรี งานดีๆ ก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากเราไร้ซึ่งความสามารถ ระวังนะ ! จะถูกแย่งชิงไปเสียก่อน หน่วยการปกครองใดเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาค *การบริหารราชการส่วนภูมิภาคประกอบด้วย จังหวัดและอาเภอ จังหวัด จังหวัดเกิดจากการรวมท้องที่หลาย ๆ อ าเภอตั้งขึ้นเป็นจังหวัดมีฐานะเป็นนิติบุคคลโดยการตั้ง ยุบ และ เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด ให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ(มาตรา 52) ในปัจจุบันมีจังหวัดทั้งสิ้น 77 จังหวัด ไม่รวม กรุงเทพมหานครที่มีฐานะเป็นการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
ข้อใดคือการปกครองในส่วนภูมิภาคการปกครองส่วนภูมิภาคหรือการบริหารราชการส่วนภูมิภาค เป็นการจัดการ ปกครองหรือจัดระเบียบบริหารราชการที่ใช้หลักการแบ่งอำนาจปกครอง โดยราชการบริหาร ส่วนกลางได้แบ่งอำนาจหรือมอบอำนาจวินิจฉัยสั่งการบางประการหรือบางขั้นตอนให้ตัวแทน ไปดำเนินการในส่วนภูมิภาค
หัวหน้าส่วนราชการส่วนภูมิภาค คือใครส่วนภูมิภาคแบ่งเป็นจังหวัดและอำเภอ จังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น หัวหน้าบังคับบัญชาข้าราชการของจังหวัด ส่วนนายอำาเภอเป็นหัวหน้าบังคับบัญชาข้าราชการ ลูกจ้างของอ้าเภอ อาศัยการแบ่งอ้านาจจากส่วนกลางลงมาส่วนภูมิภาค อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ก็คือ
การบริหารราชการเเผ่นดินอยู่ภายใต้การปกครองของใครสำหรับประเทศไทย พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 บัญญัติให้การบริหารราชการแผ่นดินแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ บริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น โดยทั้ง 3 ส่วนนี้ ล้วนอยู่ในการควบคุมดูแลของคณะรัฐมนตรี ซึ่งหน้าที่รับผิดชอบบริหารราชการแผ่นดิน อันครอบคลุมไปถึงการกำหนดนโยบายเพื่อให้ข้าราชการนำไป ...
|