หน้านี้พิมพ์ขึ้นเมื่อ Nov 30, 2022 หากต้องการเวอร์ชันปัจจุบัน โปรดไปที่ https://help.shopify.com/th/manual/shopify-admin/productivity-tools/rich-text-editor Show
คุณสามารถใช้เครื่องมือแก้ไข Rich Text ของ Shopify เพื่อจัดรูปแบบและกำหนดสไตล์เนื้อหาที่ปรากฏในร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ เคล็ดลับเมื่อใช้งานในเครื่องมือแก้ไข Rich Text ให้กด ใช้เครื่องมือแก้ไข Rich Text ได้ที่ใดบ้างคุณสามารถใช้เครื่องมือแก้ไข Rich Text เพื่อเพิ่มหรือแก้ไขข้อความได้ในหลากหลายพื้นที่ในร้านคาของคุณ ดังนี้:
หากคุณใช้งานธีม Online Store 2.0 คุณสามารถเพิ่มส่วน Rich Text ไปยังหน้าหรือเทมเพลตของคุณด้วยตัวแก้ไขธีมได้ เพิ่มเนื้อหา HTML ด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textคุณสามารถใส่เนื้อหา HTML ในโพสต์บล็อก เพจ คำอธิบายสินค้า และคำอธิบายคอลเลกชันได้ด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Text คลิกปุ่มแสดง HTML เพื่อดูโค้ด HTML สำหรับเนื้อหาภายในเครื่องมือแก้ไข Rich Text ในมุมมอง HTML คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาต่างๆ ได้ในเครื่องมือแก้ไข Rich Text โดยคุณสามารถเพิ่มรูปภาพ วิดีโอ หรือตารางด้วยการใช้ HTML นอกจากนี้ยังสามารถแก้ไขจุดบกพร่องหรือปรับเลย์เอาท์และสไตล์เนื้อหาได้อีกด้วย ฝังวิดเจ็ตสื่อหากต้องการฝังวิดเจ็ตวิดีโอหรือเพลง อย่างแรก คุณต้องโฮสต์วิดเจ็ตบนบริการอย่าง Youtube Vimeo หรือ SoundCloud ก่อน บริการเหล่านี้จะสร้างโค้ดฝังตัวที่คุณสามารถคัดลอกและวางไปยังเครื่องมือแก้ไข Rich Text ใน Shopify admin ของคุณได้ ขั้นตอน:
จัดรูปแบบข้อความด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textด้วยปุ่มการจัดรูปแบบ ให้คุณสามารถสร้างย่อหน้า หัวเรื่อง หรือบล็อกข้อความได้ การใช้การจัดรูปแบบและระดับของหัวเรื่องที่เหมาะสมช่วยให้ผู้คนและเครื่องมือค้นหาสามารถอ่านเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณได้ หากต้องการเลือกรูปแบบข้อความ ให้ไฮไลท์ข้อความแล้วคลิกปุ่มการจัดรูปแบบ ตัวเลือกการจัดรูปแบบ
ข้อความตัวหนาหากต้องการทำข้อความให้เป็นตัวหนา ให้ไฮไลท์ข้อความ จากนั้นคลิกที่ปุ่มตัวหนา ข้อความตัวเอียงหากต้องการทำข้อความให้เป็นตัวเอียง ให้ไฮไลท์ข้อความ จากนั้นคลิกที่ปุ่มตัวเอียง ขีดเส้นใต้ข้อความหากต้องการขีดเส้นใต้ข้อความให้ไฮไลต์ข้อความแล้วคลิกปุ่มขีดเส้นใต้ สร้างรายการแบบหัวข้อหากต้องการสร้างรายการแบบหัวข้อ ให้คลิกปุ่มรายการแบบหัวข้อ คุณสามารถพิมพ์เพื่อสร้างรายการสินค้าเป็นหัวข้อรายการแรก หากต้องการสร้างสินค้ารายการใหม่ ให้กดปุ่ม สร้างรายการแบบระบุเลขลำดับหากต้องการสร้างรายการแบบตัวเลข ให้คลิกปุ่มรายการแบบระบุเลขลำดับ คุณสามารถพิมพ์เพื่อสร้างรายการสินค้าแบบระบุเลขลำดับรายการแรก หากต้องการสร้างสินค้ารายการใหม่ ให้กดปุ่ม ข้อความที่ย่อหน้าการย่อหน้าจะเว้นพื้นที่ว่างทางด้านซ้าย หากต้องการย่อหน้า ให้คลิกปุ่มย่อหน้า คืนค่าการย่อหน้าข้อความการยกเลิกย่อหน้าเดิมจะคืนค่าพื้นที่ว่างที่มี หากต้องการคืนค่าการย่อหน้าหรือ “ลบย่อหน้า” ให้คลิกที่ปุ่มลบย่อหน้า จัดแนวข้อความหากต้องการจัดแนวข้อความ ให้เลือกข้อความ คลิกที่ปุ่มการจัดวาง จากนั้นเลือกจัดวางด้านซ้าย จัดวางตรงกลาง หรือจัดวางด้านขวา เปลี่ยนสีข้อความด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textขั้นตอน:
เปลี่ยนสีพื้นหลังข้อความขั้นตอน:
ล้างการจัดรูปแบบในเครื่องมือแก้ไข Rich Textหากต้องการลบการจัดรูปแบบของข้อความหรือรูปภาพ ให้ไฮไลต์เนื้อหา แล้วคลิกปุ่มล้างการจัดรูปแบบ แทรกตารางด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textคุณสามารถแทรกตารางในโพสต์บล็อก เพจ คำอธิบายสินค้า และคำอธิบายคอลเล็กชันได้ด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Text อีกทั้งยังสามารถวางข้อความ รูปภาพ หรือแม้กระทั่งวิดีโอในตารางหลังจากสร้างแล้วได้ ขั้นตอน:
หลังจากสร้างตารางแล้ว คลิกปุ่มแทรกตารางอีกครั้ง เพื่อปรับแต่งแถวและคอลัมน์ของตาราง:
ใส่ลิงก์ด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textคุณสามารถแทรกลิงก์ (ไฮเปอร์ลิงก์) ในโพสต์บล็อก เพจ คำอธิบายสินค้า และคำอธิบายคอลเล็กชันได้ด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Text ทั้งยังสามารถเพิ่มลิงก์ที่นำลูกค้าไปยังเพจภายในร้านค้าออนไลน์ Shopify ของคุณ รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ นอกจากนี้ คุณสามารถเพิ่มลิงก์ที่เปิดข้อความอีเมลหรือโทรติดต่อ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถติดต่อคุณได้ ขั้นตอน:
เพิ่มลิงก์ภายในและภายนอกด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textลิงก์ที่ไปยังเพจภายในร้านค้า Shopify ของคุณเรียกว่าลิงก์ภายใน คุณสามารถใช้ URL อย่างสั้นเพื่อสร้างลิงก์ภายในได้ เช่น URL หากต้องการเชื่อมต่อไปยังเพจใดเพจหนึ่งของร้านค้าออนไลน์ อย่างหน้าคอลเล็กชัน หรือหน้าสินค้า ให้ใช้รูปแบบ URL หมายเหตุคุณสามารถตรวจสอบแฮนเดิลของสินค้า คอลเลกชัน หน้า หรือบล็อกโดยการไปที่หน้าหลักใน Shopify admin ของคุณ หาส่วนตัวอย่างรายการเครื่องมือค้นหา และคลิกแก้ไข SEO เว็บไซต์ ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่อยู่นอกร้านค้า Shopify ของคุณเรียกว่าลิงก์ภายนอก โดยต้องใส่ลิงก์ภายนอกแบบสมบูรณ์และต้องเริ่มต้นด้วย ลิงก์ไปยังไฟล์ในเนื้อหาเพจหลังจากอัปโหลดไฟล์ คุณสามารถเชื่อมไฟล์ดังกล่าวไปยังเนื้อหาในเครื่องมือแก้ไข Rich Text เพื่อเปิดใช้งานไฟล์สำหรับการดาวน์โหลดจากคำอธิบายสินค้าหรือคอลเลกชัน เว็บเพจ หรือโพสต์บล็อกได้ ขั้นตอน:
แทรกรูปภาพด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textวิธีแทรกรูปภาพโดยใช้เครื่องมือแก้ไข Rich Text มี 3 วิธี โดยคุณสามารถ:
หมายเหตุแม้ว่าคุณจะสามารถเพิ่มรูปภาพสินค้าทุกรายการได้เพียง 250 รูป (รวมถึงตัวเลือกสินค้าทั้งหมด) แต่คุณสามารถเพิ่มจำนวนรูปภาพที่คุณใช้สำหรับส่วนอื่นๆ ของร้านค้าได้อย่างไม่จำกัด อัปโหลดรูปภาพขั้นตอน:
เลือกจากรูปภาพสินค้าขั้นตอน:
ใช้ URL รูปภาพวิธีแทรกรูปภาพโดยใช้ URL สาธารณะ:
ย้ายหรือปรับขนาดรูปภาพด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textหลังจากที่คุณเพิ่มรูปภาพไปยังคำอธิบายสินค้าหรือคอลเลกชัน เว็บเพจ หรือบล็อก คุณสามารถย้ายไปที่ทำแหน่งที่ตั้งอื่นในเนื้อหาได้ ขั้นตอน:
แก้ไขรูปภาพด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textคุณสามารถเปลี่ยนการกำหนดขนาด การตัดข้อความ และการจัดแนวรูปภาพได้ในเครื่องมือแก้ไข Rich Text นอกจากนี้ ยังสามารถแก้ไข URL รูปภาพ เพิ่มหรือแก้ไขข้อความกำกับภาพได้ ขั้นตอน:
ใส่วิดีโอด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textคุณสามารถใส่หรือฝังวิดีโอในโพสต์ของบล็อก เพจ คำอธิบายสินค้า และคำอธิบายคอลเล็กชันได้โดยใช้เครื่องมือแก้ไข Rich Text หากต้องการฝังวิดีโอที่คุณสร้าง อันดับแรก คุณต้องอัปโหลดวิดีโอดังกล่าวไปยังเว็บไซต์วิดีโอสตรีมมิ่งอย่าง YouTube หรือ Vimeo ก่อน YouTube ไม่อนุญาตให้คุณปิดใช้งานวิดีโอที่เกี่ยวข้อง แต่คุณสามารถระบุได้ว่าวิดีโอที่เกี่ยวข้องควรมาจากช่องทางเดียวกับวิดีโอที่เพิ่งเล่น ขั้นตอน:
เคล็ดลับคุณสามารถสร้างโค้ดฝังตัวได้โดยตรงจาก Youtube แต่วิดีโอแบบฝังตัวจะไม่เปลี่ยนรูปแบบตามการแสดงผลกับขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน ใส่ไฟล์เสียงด้วยเครื่องมือแก้ไข Rich Textคุณสามารถใช้เครื่องมือแก้ไข Rich Text เพื่อใส่หรือฝังไฟล์เสียงในโพสต์ของบล็อก เพจ คำอธิบายสินค้า และคำอธิบายคอลเลกชันได้ ขั้นตอน:
เคล็ดลับคุณสามารถฝังโค้ดสำหรับไฟล์เสียงได้โดยตรงจาก Soundcloud แต่เครื่องเล่นเสียงของ Soundcloud อาจทำงานอย่างไม่ถูกต้องบนอุปกรณ์ทั้งหมด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ไปที่ศูนย์ความช่วยเหลือของ Soundcloud เพิ่มหรือย้ายความคิดเห็นภายในในเครื่องมือแก้ไข Rich Textคุณสามารถใช้แท็กความคิดเห็น ขั้นตอน:
แท็ก HTML ที่แนบไว้ในแท็กความคิดเห็นจะถูกบันทึกเป็นข้อความภายใน หากต้องการให้แท็ก HTML ทำงานเป็นปกติ คุณต้องย้ายแท็กความคิดเห็นออก |