ทำไม BTS ไม่ได้ไป Coachella



กลายเป็นที่พูดถึงไม่น้อยทีเดียวสำหรับการเป็นเกิร์ลกรุ๊ปจากเค-ป็อปวงที่ 3 ที่ได้ขึ้นโชว์ในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด Coachella สำหรับวง “Aespa” จากค่าย SM Entertainment ที่ล่าสุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นหลังการแสดงของวงนี้ กลับถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับถูกนำไปเปรียบเทียบกับวง BlackPink และ 2NE1 ที่ถือว่ายังห่างชั้นกันมาก

สื่อเกาหลีได้พร้อมใจกันรายงานข่าวที่ Aespa เกิร์ลกรุ๊ปมาแรงจากค่าย SM Entertainment ที่เดบิวต์มาได้ยังไม่ถึง 2 ปี ก็ได้รับเชิญให้แสดงบนเวที Coachella โดยมีการโฆษณาว่า ถือเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปวงแรกอย่างแท้จริงที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีหลักของ Coachella ซึ่งต่างจากอีก 2 วงอย่าง BlackPink และ 2NE1 ที่ไม่ได้ขึ้นโชว์บนเวทีหลักแต่อย่างใด

และเมื่อเป็นที่จับตามอง วันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา Aespa ก็ได้ขึ้นโชว์บนเวทีใหญ่ จึงดึงดูดให้แฟนๆตั้งตารอชมกันเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากที่ Aespa แสดงจบ ชาวเน็ตเกาหลีต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักโดยระบุว่า Aespa ยังขาดความมีชีวิตชีวา การเต้นยังไม่แข็งแรงพอ เมื่อเทียบกับวงอื่นอย่าง BlackPink และ 2NE1 ที่การแสดงของทั้งสองวงกลายเป็นที่พูดถึงและยังประทับใจสาวกเค-ป็อปอยู่

อย่างไรก็ตามแม้จะมีกระแสด้านลบถึงเรื่องการเต้นที่ไม่ทรงพลังพอที่จะเอาคนดูในเวทีใหญ่ให้อยู่หมัด รวมถึงการแสดงออกทางสีหน้าของไอดอลสาวก็ชัดเจนว่าค่อนข้างกังวลจึงมีผลต่อการเต้นที่ดูปวกเปียกกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าการร้องสดของ Aespa ค่อนข้างมีพลังและเสียงคงที่ รวมถึงเสน่ห์บนเวทีก็ยังดูดีอยู่

โดยชาวเน็ตต่างพากันวิจารณ์ว่า

“คนที่ทำผมหางม้าเต้นดี แต่คนอื่นไม่แน่ใจ ส่วนการร้องก็น่าจะดีกว่าไอดอลหญิงคนอื่นๆ แต่พวกเธอก็ยังไม่เหมาะที่จะยืนจุดนั้นอยู่ดี”, “เพลงของ Aespa ยังไม่มีพลังพอสำหรับการปาร์ตี้ เสน่ห์ของพวกเธอก็ยังไม่มากพอเมื่อเทียบกับ BlackPink แต่ถึงยังไงพวกเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดที่พวกแอนตี้พูดถึงหรอกนะ”, “เสียงร้องสดโอเคอยู่นะ แต่ยังขาดประสบการณ์บนเวที เอาจริงๆก็ไม่ได้แย่”, “Aespa ดูเหมือนจะตื่นเต้นแล้วก็กดดันพอสมควร บางทีอาจจะเร็วไปสำหรับพวกเธอที่ได้มาแสดงบนเวที Coachella", "บอกตามตรงนะ พวกเธอไม่ได้แย่เลย แต่การที่เร่งรีบผลักพวกเธอให้ได้ขึ้นแสดงเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาดของค่ายมากกว่า”

งานนี้หลายเสียงต่างพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า Aespa ดูเหมือนจะโฟกัสไปที่การร้องมากกว่า จึงไม่ได้เตรียมตัวมากในส่วนอื่น และเมื่อเปรียบเทียบกับเวทีเกาหลีที่จะมีการถ่ายทำหลายครั้งเพื่อหามุมและการแสดงที่ดีที่สุดมาประกอบกัน แต่สำหรับ Coachella ที่เป็นการแสดงสดนับว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเวทีการแสดงของเกาหลี ศิลปินต้องร้องสด, เต้นสดๆ และแสดงออกทางสีหน้าท่าทางอย่างเต็มที่ที่สุดในครั้งเดียว จึงเหมือนกับว่าทางค่ายอาจเร่งรัดไอดอลน้องใหม่จนเกินไป จึงทำให้ไอดอลแสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้การแสดงไม่ทรงพลังเท่าที่ควรจะเป็น

ขณะเดียวกัน Aespa ยังได้เปิดตัวเพลงใหม่ Life's Too Short บนเวที Coachella ด้วย









ทำไม BTS ไม่ได้ไป Coachella



  • Aespa
  • Coachella

ของ BLACKPINK วงเกิร์ลกรุ๊ปเบอร์หนึ่งของค่ายเพลง YG Entertainment ที่ต้องยอมรับว่าพอฟังครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ผมนึกในใจว่า ‘ช่างกล้า’ เพราะการที่จะมาใช้คำว่า ‘Revolution’ หรือแปลว่า ‘ปฏิวัติ’ เป็นคำที่ยิ่งใหญ่มาก และหากทำไม่ได้ตามที่ร้อง วงก็อาจดูเป็นตัวตลกของอุตสาหกรรมดนตรีที่แข่งขันอย่างดุเดือดนาทีต่อนาที

 

แต่เกือบ 6 เดือนต่อมา เมื่องานเทศกาลดนตรี Coachella ประกาศรายชื่อศิลปินที่จะขึ้นแสดงในงานช่วงเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ และชื่อ BLACKPINK ขึ้นบรรทัดสองของวันแรก เทียบเท่า DJ Snake, Diplo, The 1975 ผมกลับมานั่งคิดว่า 4 สาว จีซู, เจนนี่, โรเซ่ และ ลิซ่า กำลังจะทำให้ประโยค ‘BLACKPINK is the Revolution’ กลายเป็นจริง เพราะการจะขึ้นแสดงที่เทศกาลระดับโลกขนาดนี้ และเป็นศิลปินหญิงกลุ่มแรกของประเทศเกาหลีด้วยแค่ 9 เพลงที่ปล่อยออกมา ไม่ใช่เรื่องธรรมดา และหากใครตั้งคำถามว่า ‘YG จ่ายเงินไปเท่าไร’ ก็ต้องบอกว่าคนจัด Coachella นั่นแหละที่ต้องจ่ายค่าตัวศิลปินทุกคน แม้ราคาจะแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ความนิยม ซึ่งเคยมีการคาดการณ์ว่าศิลปินเบอร์ใหญ่สุดของงานอย่าง Beyoncé ปีที่แล้ว และปีนี้เป็น Childish Gambino, Ariana Grande และ Tame Impala จะได้ค่าตัวหลักล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนศิลปินชื่อแถวสองในโปสเตอร์เหมือน BLACKPINK ก็น่าจะได้ประมาณหลักแสนหรือหลักหมื่นเหรียญปลายๆ เพราะ Cardi B ที่ชื่ออยู่ตำแหน่งเดียวกันในปีที่แล้วเคยบอกว่าได้ค่าตัวไป 70,000 เหรียญสหรัฐ โดยล่าสุดมีการรายงานออกมาว่า ผู้ก่อตั้งเทศกาลดนตรี Coachella อย่าง Paul Tollett ได้บินไปเกาหลีใต้ด้วยตัวเองช่วงปลายปีที่แล้วเพื่อไปดูวง BLACKPINK และได้เชิญพวกเธอให้มาแสดง

 

ทำไม BTS ไม่ได้ไป Coachella

ทำไม BTS ไม่ได้ไป Coachella

Line-Up รายชื่อศิลปิน Coachella ปี 2019

 

แต่ทำไมผู้จัดตัดสินใจเลือก BLACKPINK ให้มาแสดง? สำหรับผมแล้วมองได้หลายประเด็น โดยอย่างแรกคือ ต้องเข้าใจกันก่อนว่าเทศกาลดนตรี Coachella ที่ครบรอบ 20 ปีในปีนี้ ได้วิวัฒนาการตัวเองให้กลายเป็นเทศกาลดนตรีรูปแบบเชิงพาณิชย์อย่างเต็มตัว มีการมาร์เก็ตติ้งแบบ 360 องศา พร้อมสร้างเม็ดเงินมหาศาล โดยผสมผสานทุกแนวเพลงแบบไม่ใช่ ‘For Hipsters Only’ ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2017 ก็ทำกำไรไป 114 ล้านเหรียญ หรือราว 3.6 พันล้านบาท และตลอดสองสัปดาห์ของงาน มีแบรนด์ลงทุนเปิดบูธ จัดปาร์ตี้ เชิญดารามามากมาย อาทิ American Express, Absolut, Adidas, Google, Sephora และ H&M ซึ่งการสร้างกระแส สร้างตัวเลข ก็ถือว่าสำคัญมากๆ

 

ซึ่งแน่นอนว่าในปีนี้ BLACKPINK ก็จะเป็นตัวช่วยได้มหาศาล เห็นได้จากยอดทวิตเตอร์ที่เว็บไซต์ Hollywood Life บอกว่ายอดพุ่งเกิน 440,000 ครั้งภายในชั่วโมงแรก ส่วนในงานเทศกาลก็จะมีการ Livestream ผ่าน YouTube แบบฟรีๆ ในสัปดาห์แรก (หากเป็นไปตามสูตรของปีก่อน) ซึ่งเชื่อได้ว่าด้วยพลังแฟนคลับ BLINK ก็จะช่วยให้ยอดวิวสร้างสถิติใหม่ได้ โดยตัวเลขพวกนี้ก็สำคัญทั้งหมดในเชิงธุรกิจสำหรับผู้จัดงาน Coachella ทั้งในการพีอาร์ตัวเอง และในอนาคตอาจมีการขายลิขสิทธิ์งานเหมือนเทศกาลคู่แข่งสำคัญอย่าง Lollapalooza ที่ในปีนี้สร้างมิติใหม่จัดงานใน 7 ประเทศ แทนที่จะแค่ในเมืองชิคาโกอย่างเดียว

 

ทำไม BTS ไม่ได้ไป Coachella

 

ประเด็นที่สองคือ หากทางผู้จัด Coachella รู้ว่าการได้ศิลปินเกาหลีมาเล่นจะช่วยสร้างกระแสได้ BLACKPINK ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ลงตัวสุด เพราะถ้าดูในเชิงยอดฟัง Spotify แบบรวมทั่วโลก ทางวงก็มีฐานผู้ฟังอยู่ที่ราว 13.5 ล้าน ซึ่งถือว่าสูงมาก ส่วนด้านแบรนดิ้งภาพลักษณ์ BLACKPINK ก็สร้างมาได้ดีในระดับนานาชาติ ทั้งการร่วมงานกับ Dua Lipa ศิลปินสาวคนสำคัญแห่งยุคในเพลง Kiss and Make Up, เจนนี่เป็น Friend of the House ของแบรนด์ Chanel และสมาชิกคนอื่นก็ได้รับเชิญไปงานแฟชั่นสำคัญทั่วโลก แถมด้านผลงานเพลง มิวสิกวิดีโอ ท่าเต้น การแสดงสดที่ปล่อยมาทุกครั้ง ก็ถือว่าทุ่มทุนสร้างและอยู่ในระดับสากล นักวิจารณ์ของฝั่งตะวันตกก็ชื่นชมเสมอ ซึ่งก็น่าจะการันตีว่าพอมาโชว์ที่ Coachella ก็น่าจะตระการตาไม่มากก็น้อย

 

ส่วนประเด็นที่สามคือ ทางวง BLACKPINK ก็เพิ่งเซ็นสัญญากับค่าย Interscope Records และ Universal Music สำหรับตลาดต่างประเทศในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพื่อขยายฐานชื่อเสียง ซึ่งการได้ค่ายอย่าง Interscope Records ก็สำคัญมากเพราะด้านคอนเน็กชันที่มี เห็นได้จากศิลปินในสังกัด เช่น Kendrick Lamar, Eminem และ Lady Gaga ที่ทั้งสามเคยเป็นศิลปินเบอร์หนึ่งของเทศกาล Coachella มาแล้วทั้งนั้น

 

ทำไม BTS ไม่ได้ไป Coachella

สองสาว เจนนี่และลิซ่า กับ Dua Lipa

 

ทำไม BTS ไม่ได้ไป Coachella

ศิลปินร่วมค่าย Interscope Records ที่อเมริกา

 

แต่สำหรับผมแล้ว ด่านต่อไปที่ BLACKPINK จะต้องทำ เพื่อทำให้ประโยค ‘BLACKPINK is the Revolution’ สมบูรณ์แบบจริงๆ คือการแสดงที่ Coachella ในอีก 4 เดือนข้างหน้า ซึ่งเชื่อได้ว่าคนนับร้อยๆ ล้านทั่วโลกจะรอติดตามชม โดย YG และทีมงานต้องวางเกมให้ฉลาด และอย่าได้มองข้ามความสำคัญของเวทีนี้ที่จะช่วยให้ 4 สาวก้าวสู่ภูมิทัศน์ใหม่ ทั้งยังช่วยยกระดับวงการเพลงเกาหลีและเอเชียไปอีกขั้น

 

YG เตรียมพร้อมกับการแสดง Coachella อย่างไรบ้าง คงยังไม่มีใครรู้ แต่ผมอยากแนะนำว่า

 

1. ไม่ต้องสนใจเรื่องความคุ้มค่าของค่าตัว แต่สนใจลงทุนโปรดักชันให้เต็มที่กับฉาก พร็อพ เครื่องเสียง วิดีโอประกอบ และเสื้อผ้า

2. ห้ามลิปซิงก์ เพราะถ้าพลาดขึ้นมาจะเป็นปัญหาอันใหญ่หลวง โดยเฉพาะในอเมริกา

3. เวทีเทศกาลดนตรีกับคอนเสิร์ตในฮอลล์ หรือการแสดงรายการทีวี ต่างกันอย่างมาก ซึ่งทั้ง 4 สาวต้องมีการเล่นกับคนดู สร้างเสน่ห์ และพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ห้ามดูแข็งและพูดตามสคริปต์

4. การสร้างเซอร์ไพรส์บนเวทีที่จะกลายเป็น ‘โมเมนต์’ ทันทีบนโลกโซเชียล อย่างเช่น เชิญศิลปิน Dua Lipa ที่มีเพลงด้วยกัน หรือถ้าสาวรุ่นพี่ CL มาร้องฟีเจอริงสักเพลง (ถ้ายังไม่ได้ออกจากค่าย YG ตามกระแส) ก็จะเป็นที่พูดถึงแน่นอน

5. มีการคัฟเวอร์เพลงภาษาอังกฤษที่คนรู้จัก แต่ทำในเวอร์ชันของ BLACKPINK เพื่อโชว์สไตล์ของตัวเอง (ถ้า BLACKPINK คัฟเวอร์เพลงเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นพี่อย่าง Spice Girls หรือ Destiny’s Childs ก็จะเป็นพลังหญิงที่เท่สุดๆ)

6. ใช้เป็นโอกาสเปิดตัวเพลง/อีพีใหม่แบบเซอร์ไพรส์ และปล่อยให้ดาวน์โหลดทันทีหลังแสดงจบ ซึ่งเชื่อได้ว่ายอดต้องถล่มทลาย

7. ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตในอเมริกาทันที หากทาง YG และ Interscope Records ต้องการบุกตลาดเพลงที่ใหญ่สุดของโลก

8. YG และ Interscope Records ไม่ควรเก็บตัวศิลปินในสองอาทิตย์ของ Coachella และให้สาวๆ ไปออกรายการอย่าง Ellen DeGeneres และ Jimmy Kimmel Live ที่ถ่ายทำในลอสแอนเจลิส เพราะกระแสจะยิ่งทวีคูณ

 

อะไรจะเกิดขึ้น เราคงต้องรอดูอีกประมาณ 105 วัน

 

ทำไม BTS ไม่ได้ไป Coachella

BLACKPINK กับ Paul Tollett ผู้ก่อตั้งเทศกาลดนตรี Coachella

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • www.teenvogue.com/story/blackpink-first-female-k-pop-group-to-play-coachella-2019
  • www.businessinsider.com/how-much-beyonce-is-paid-for-coachella-2018-4

FYI

  • นอกจาก BLACKPINK แล้ว ในปีนี้วงอินดี้ Hyukoh ที่อยู่ระหว่างเวิลด์ทัวร์ และ Jambinai วงดนตรีร็อกที่เลือกใช้เครื่องดนตรีท้องถิ่นผสมผสาน ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินจากเกาหลีที่จะขึ้นแสดงในเทศกาล Coachella
  • ในปี 2016 วง Epik High อัลเทอร์เนทีฟฮิปฮอปชื่อดัง เป็นศิลปินวงแรกจากเกาหลีที่ได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรี Coachella

    ทำไม Blackpink ไม่ได้ ไป Coachella

    สาวๆ BLACKPINK เคยไปเยือนเวที Coachella ครั้งแรกเมื่อปี 2019 แต่ตอนนั้นไม่ได้ไปในฐานะเฮดไลเนอร์ ปี 2020-21. ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เทศกาลดนตรี Coachella ได้รับผลกระทบ และกลับมาจัดอีกครั้งหลังจากที่ถูกยกเลิกไป 2 ปี (2020 และ 2021) ปี 2022.

    ทำไม Milli ได้ไป Coachella

    12) ดังนั้นกับคำถามว่า ทำไมมิลลิ ได้โอกาสขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตที่โคเชลล่าได้ คำตอบคือ ด้วยผลงานที่ทำอย่างสม่ำเสมอตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งงานของตัวเองในประเทศ และโปรเจ็กต์นานาชาติที่จับมือกับ 88Rising ทำให้พอมีโอกาสเข้ามา ทางค่ายก็เลือกให้เธอเป็น 1 ใน 8 ของศิลปินที่จะขึ้นเวทีครั้งนี้

    Coachella 2023 จัดที่ไหน

    สำหรับเทศกาลดนตรี COACHELLA 2023 จะจัดขึ้นในวันที่ 15 เมษายน และ 22 เมษายน 2023 ณ Empire Polo Club, Indio California.

    Coachella คือเวทีอะไร

    ช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี หากประเทศไทยมีสงกรานต์ รัฐแคลิฟอร์เนียก็มี Coachella เป็นดั่งเทศกาลที่ทุกคนเฝ้ารอ คอนเสิร์ตขนาดใหญ่นี้ ถูกจัดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลาย 90's ท่ามกลางทิวน์ทัศน์ที่มีต้นปาล์มรายล้อม ท้องฟ้าสดใส และอากาศฤดูร้อน ในเมืองอินดิโอ ในชื่อเต็มๆ ว่า 'The Coachella Valley Music and Arts Festival'