กระเป า abs ก นน ำ ม ล อลาก ทรสระฟพ

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

113

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 แผนบรหิ ารการสอนประจ�ำ บทที่ 5 บรรจุภณั ฑ์พลาสตกิ

หัวข้อเนือ้ หา องคป์ ระกอบของพลาสติก โครงสร้างของพลาสติก ประเภทของพลาสติก ประเภทของบรรจุภัณฑพ์ ลาสติก

วตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เมือ่ ศกึ ษาบทเรียนจบแล้ว นักศกึ ษาสามารถ 1. อธิบายองคป์ ระกอบของพลาสติกได้ 2. อธิบายโครงสร้างของพลาสตกิ ได้ 3. แบ่งประเภทพลาสติกได้ 4. อธิบายชนดิ ของพลาสตกิ แต่ละประเภทได้ 5. ยกตัวอย่างบรรจุภัณฑพ์ ลาสตกิ ในแตล่ ะประเภทได้

วิธีสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอน 1. วธิ สี อน 1.1 วิธีสอนแบบบรรยาย 1.2 วิธีสอนแบบอภปิ ราย 1.3 วิธีสอนแบบเนน้ การเรยี นรดู้ ้วยตนเองผา่ นเวบ็ ไซต์

114

2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 2.1 นำ�บรรจภุ ัณฑ์พลาสติกในลักษณะตา่ ง ๆ มาใหผ้ ้เู รียนสังเกต แลว้ ตัง้ คำ�ถาม เพอ่ื บรรยายเขา้ สู่เนือ้ หาทต่ี ้องการ 2.2 บรรยายเนื้อหา อธิบายเน้ือหาของพลาสตกิ องคป์ ระกอบของพลาสตกิ โครงสร้างของ พลาสติกประเภทของพลาสตกิ ประเภทของบรรจุภณั ฑพ์ ลาสติก ให้ผู้เรยี นอธิบาย 2.3 ใหผ้ เู้ รยี นอภปิ รายและยกตวั อยา่ งบรรรจุภณั ฑ์พลาสติกแต่ละประเภท 2.4 ฝกึ ปฏบิ ตั นิ ำ�พลาสตกิ มาท�ำ เปน็ บรรจภุ ณั ฑพ์ ลาสตกิ 2.5 ตอบคำ�ถามทบทวนทา้ ยบทท่ี 5

สื่อการเรยี นการสอน 1. พลาสตกิ ชนดิ ต่าง ๆ 2. บรรจุภณั ฑพ์ ลาสตกิ ต่าง ๆ 3. ส่อื น�ำ เสนอประกอบการสอนผ่านเว็บไซต์ผสู้ อน 4. หนังสืออ่านประกอบที่เกีย่ วข้อง 5. การสืบคน้ ข้อมลู ผา่ นระบบเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต

การวัดผลและการประเมินผล 1. สงั เกตจากการตอบค�ำ ถามของผเู้ รียน 2. สงั เกตจากการอภิปรายและซกั ถามของผู้เรียน 3. ตรวจสอบการตอบค�ำ ถามทบทวนทา้ ยบท Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

115

บทท่ี 5 บรรจุภัณฑ์พลาสติก

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 บรรจุภัณฑพ์ ลาสตกิ (Plastic Packaging) เป็นวัสดุรองรบั การพมิ พ์ที่มีความส�ำ คัญ ประเภทหน่งึ ในอุตสาหกรรมการพมิ พ์บรรจุภณั ฑ์ท่ใี ชต้ ้ังแต่การห่อหรอื ใสผ่ ลติ ภัณฑ์ เชน่ แผน่ ฟิล์ม ซอง ถุง จนถึงการนำ�ไปแปรรูปเปน็ บรรจุภณั ฑ์ส�ำ หรบั บรรจผุ ลิตภัณฑ์ตา่ ง ๆ เชน่ กลอ่ ง ถ้วย ถาด ขวด ถัง ลงั พลาสติกมคี ุณสมบตั เิ บา ราคาถูก ขึน้ รูปได้งา่ ย มคี วามใส เป็นฉนวนไฟฟา้ เก็บกลิ่นได้ดี ป้องกัน การซึมผา่ นของกา๊ ซและไอน้าํ ไดด้ ี สามารถท�ำ ให้บางได้เหมือนแผน่ กระดาษหรือจะทำ�ใหห้ นาเหมือน แผน่ ไม้ก็ได้ นำ�ไปประกบติดกบั วสั ดปุ ระเภทอนื่ ไดง้ ่าย ท�ำ เปน็ แผน่ หรอื มว้ นก็ได้ พลาสตกิ ยงั ถกู น�ำ มา ใช้ในการห่อบรรจอุ าหารหรือในการเก็บถนอมรกั ษาอาหาร โดยเฉพาะอย่างยง่ิ การบรรจอุ าหารทเี่ สอื่ ม คณุ ภาพงา่ ยเม่อื สมั ผสั กับอากาศนาน ๆ เช่น กลอ่ งบรรจุอาหาร ถงุ ใสน่ ม ซองหอ่ บะหมกี่ ึง่ สำ�เรจ็ รูป ห่อลูกอม ซองบรรจขุ นมขบเคีย้ ว นอกจากนยี้ งั ใชพ้ ลาสติกในการพมิ พบ์ ตั รพลาสตกิ ตา่ ง ๆ เชน่ บตั ร ประชาชน บตั รเครดิต บตั รกดเงินสด พลาสตกิ มคี วามแขง็ แรงกวา่ กระดาษจงึ ถกู นำ�มาใชใ้ นบรรจุ ผลิตภัณฑ์ทดแทนบรรจภุ ัณฑก์ ระดาษในผลิตภัณฑ์บางประเภท พลาสตกิ คงรูปมีความแข็งแรง ทนทาน ต่อการกระแทกและรองรบั นา้ํ หนกั ได้ดกี ว่ากระดาษลูกฟูก นำ�กลับมาใชไ้ ด้หลายครั้ง แต่ก็มตี ้นทนุ สูง กวา่ กระดาษลูกฟูกหลายเท่า ดงั นั้นจงึ ต้องค�ำ นงึ ถึงต้นทนุ การผลิตและความคุม้ คา่ ต่อการใช้งานด้วย พลาสติกจงึ ถกู นำ�มาเป็นบรรจภุ ัณฑเ์ พ่ือการขนสง่ ด้วย เช่น ลังใสข่ วดนา้ํ อดั ลม ลงั ใส่ขวดน้ําด่มื ถงั ใหญ่ ลังใส่ผลไม้ เปน็ ตน้

องค์ประกอบของพลาสตกิ พลาสติก (Plastic) เป็นสารสังเคราะห์จากมอนอเมอร์ (Monomer) ท่ีรวมตัวกนั เป็น โครงสร้างโมเลกลุ ทใ่ี หญ่ขึ้น โดยมมี ีองคป์ ระกอบสำ�คญั 2 สว่ นในการผลติ พลาสติกเพ่ือใชท้ ำ�ผลติ ภัณฑ์ พลาสตกิ ประเภทต่าง ๆ คอื พอลิเมอร์และสารเติมแต่ง ซงึ่ สามารถอธบิ ายรายละเอียดไดด้ งั น้ี 1. พอลเิ มอร์ (Polymer) เป็นสารสงั เคราะห์ทีเ่ กิดจากการรวมสารอินทรยี ห์ นว่ ยเล็ก ๆ ท่เี รยี กว่า มอนอเมอร์ เขา้ ดว้ ยกนั โดยเชอ่ื มต่อกนั เปน็ โซ่ยาวจนไดส้ ารทม่ี ีโมเลกุลใหญ่ ซึ่งประกอบ

116 Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

ดว้ ยคารบ์ อนและไฮโดรเจน ในกระบวนการผลิตพอลเิ มอรจ์ ะเริม่ จากการนำ�นํ้ามันปโิ ตรเลียมมา ผ่านกระบวนการกล่ันท่ีมีความดันบรรยากาศจะได้สารประกอบท่ีเป็นส่วนผสมของไฮโดรคาร์บอน เรียกวา่ แนฟกา ((Naphtha) ไปผ่านการแยกสลายด้วยความร้อนจะได้มอนอเมอร์ ซึง่ เป็นสารตัง้ ต้นใน กระบวนการสังเคราะห์พอลเิ มอร์ 2. สารเตมิ แต่ง (Additive) เปน็ สารทีเ่ ตมิ ลงไปในกระบวนการผลิตพลาสตกิ เพอ่ื ชว่ ยให้ มีคณุ สมบตั ิตามทต่ี อ้ งการ โดยสารบางตวั ก็เหมาะกบั พลาสติกบางประเภท ได้แก่ 2.1 สารป้องกนั ไฟฟา้ สถิต (Antistatic Agents) สารป้องกันไฟฟา้ สถติ จะถกู เพิม่ ลง ในพลาสตกิ เพือ่ ป้องกนั ผวิ พลาสตกิ ไมใ่ ห้เกิดการดดู ติดกัน ปอ้ งกนั การสะสมของประจไุ ฟฟา้ สถิตบน ผิวพลาสตกิ การสะสมประจไุ ฟฟ้าดงั กลา่ วทำ�ใหพ้ ลาสตกิ ดงึ ดดู อนภุ าคของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก ไว้ สารนจ้ี ะชว่ ยดดู ซบั ความชื้นท�ำ ใหเ้ กดิ ช้นั เหน่ยี วนำ�ประจุ ทำ�ให้การสะสมของประจไุ ฟฟา้ สถิตบนผวิ พลาสตกิ ลดลงได้ 2.2 สารหนว่ งไฟ (Flame Retardants) การเพมิ่ สารหน่วงไฟช่วยปรับการเผาไหม้ ของพลาสติก ทำ�ใหส้ ามารถจำ�กดั การติดไฟและความสามารถในการติดไฟไดง้ า่ ย ไมเ่ พียงเท่าน้นั แตย่ ัง รวมถงึ กระบวนการเผาไหมด้ ้วย 2.3 สารตา้ นออกซแิ ดนท์ (Antioxidant) เปน็ สารยบั ยง้ั การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ ากบั ออกซเิ จน ในอากาศของพลาสตกิ ทีเ่ รียกวา่ ออกซิเดชัน (Oxidation) โดยเมือ่ พลาสตกิ ได้รบั อณุ หภูมสิ งู ขึ้น ออกซเิ จนจะเขา้ ไปท�ำ ปฏกิ ิริยากับไฮโดรคาร์บอนในพลาสติก ท�ำ ให้สายโซ่พอลเิ มอรซ์ ่ึงเป็นโครงสรา้ ง ของพลาสตกิ แตกออก ทำ�ใหพ้ ลาสติกเสือ่ มสลายไดง้ า่ ยในอณุ หภูมสิ ูง 2.4 สารใหค้ วามคงตวั (Stabilizers) หรือ สารต้านการเส่ือมสภาพ (Anti-aging additive) เป็นสารทใี่ ส่เพอื่ิ ปกปอ้ งพลาสติกจากการสลายตัวกอ่ นเวลาหรอื การเส่อื มคณุ สมบัติ สารน้ี จะช่วยปกปอ้ งพลาสติกจากผลกระทบของแสง รงั สยี ูวี อณุ หภมู ิ ความรอ้ น และเป็นตัวปรับเสถยี รภาพ ของพลาสตกิ 2.5 สารเสรมิ สภาพพลาสตกิ (Plasticizers) เปน็ สารท่ใี ส่เพือ่ เพม่ิ คุณสมบัตขิ อง พลาสตกิ ในด้านความนมุ่ และใหเ้ กดิ ความยดื หยนุ่ เหมาะส�ำ หรับพลาสตกิ ทมี่ คี วามแข็งหรือเปราะ 2.6 สารหล่อลน่ื (Lubricants) วัตถุประสงค์ของสารหล่อลื่นคือเพ่ือไม่ให้พลาสติก เกาะติดกบั แบบทใี่ ชข้ นึ้ รูป เชน่ การเพม่ิ การล่ืนผิวระหว่างการอดั ขน้ึ รปู

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 117

2.7 สารทำ�ฟอง (Foaming Agent) เป็นสารทท่ี ำ�ใหเ้ กิดฟองอากาศขนึ้ หรอื เกิดเป็น โพรงข้ึนในวสั ดุ โดยใชก้ ระบวนการการท�ำ ให้เกิดก๊าซในเน้อื พลาสตกิ แล้วไลก่ ารด์ ออกดว้ ยการทำ�ให้ ระเหยหรือระเหดิ 2.8 สารให้สี (Colorants) เปน็ สีท่ีไมล่ ะลายนํา้ เป็นไดส้ ารอนินทรียห์ รอื สารอินทรยี ์ เปน็ การทำ�ใหพ้ ลาสติกมีสีเกดิ ขน้ึ แต่อาจจะส่งผลต่อคุณสมบัติของพลาสตกิ ดว้ ย เช่น ความแขง็ แรง ของพลาสติก พลาสติกสว่ นใหญ่สงั เคราะหม์ าจากน้ํามันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ มจี ุดหลอมเหลว ตงั้ แต่ 80-350 องศาเซลเซยี ล ข้ึนอย่กู บั ชนิดของพลาสตกิ พลาสตกิ มสี มบตั เิ ปน็ ฉนวนไฟฟา้ สามารถ หลอมละลายเป็นรปู รา่ งได้งา่ ย มรี าคาถกู นํ้าหนักเบา ทนความชื้นได้ดี ทนแรงกระแทก มคี วามเหนียว ไม่เปน็ สนิม ทนต่อกรดและด่าง สามารถท�ำ ใหโ้ ปรง่ ใสหรอื มีสไี ด้ทง้ั สีใสและสีทบึ อยา่ งไรกด็ พี ลาสติก ก็ยงั มขี ้อเสียในดา้ นไมท่ นความร้อน เพราะมจี ุดหลอมเหลวตาํ่ ความแข็งแรงมีนอ้ ย เพราะทนตอ่ แรงดึง แรงบดิ และแรงเฉือนไดต้ ่ํา ตดิ ไฟได้งา่ ย พลาสติกไดถ้ กู น�ำ มาใช้แทนวสั ดุธรรมชาตหิ ลายชนดิ ไม่ วา่ จะเปน็ โลหะ ไม้ หนัง โลหะ แก้ว จึงท�ำ ให้พลาสติกเป็นวสั ดสุ �ำ คญั ในอตุ สาหกรรมการผลติ เกอื บทกุ อุตสาหกรรม

โครงสรา้ งของพลาสติก พลาสติกเปน็ สารสังเคราะหท์ ่ีมีโครงสรา้ งของพลาสติกแตกต่างกัน พลาสติกแตล่ ะแบบก็ มคี ุณสมบัติท่แี ตกต่างกัน การน�ำ ไปใช้งานกแ็ ตกตา่ งกนั ตามรปู แบบของโครงสร้างพลาสตกิ ซ่ึงมีด้วยกัน 3 รปู แบบ ไดแ้ ก่ 1. โครงสรา้ งแบบโซ่ตรง (Linear Chain Structure) หรอื แบบเชิงเสน้ เปน็ พลาสตกิ ชนดิ ที่มีการจัดเรียงโมเลกุลที่มีโซ่หลกั เป็นเส้นตรงหรอื เรียกว่าโซ่ตรง ดังแสดงในภาพท่ี 5.1 ภาพซา้ ยมือ มีความเปน็ ระเบยี บของโมเลกลุ สงู ท�ำ ให้มีความเปน็ ผลึกสงู โครงสรา้ งแบบน้ที �ำ ใหพ้ ลาสตกิ จะมี ลักษณะแข็ง เพราะมีความหนาแน่นและจดุ หลอมเหลวสูง โครงสรา้ งแบบนม้ี กั จะแตกด้วยความร้อน ชว่ ยให้โซส่ ามารถไหลผา่ นกันและกนั ท�ำ ใหส้ ายโซส่ ามารถน�ำ ไปต่อใหม่ได้ เม่อื เยน็ จะถูกจดั เรยี งเปน็ โซต่ รงเช่นเดมิ จึงเป็นโครงสร้างพลาสตกิ ทีส่ ามารถน�ำ กลับมาหลอมเหลวใชใ้ หม่ได้ จะเป็นพลาสติก ประเภทเทอรโ์ มพลาสตกิ

118 Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

2. โครงสรา้ งแบบโซก่ ง่ิ (Branched Chain Structure) เปน็ พลาสติกชนดิ ท่ีมกี ารจดั เรยี ง โมเลกุลคลา้ ย ๆ แบบเส้นตรงคอื จะทมี่ โี ซ่หลกั เป็นเส้นตรงและมโี ซห่ ลักส้ัน ๆ มาต่อท�ำ ใหเ้ ปน็ โซก่ ่ิง หรอื อาจจะเรียกวา่ โซ่สน้ั ดังแสดงในภาพท่ี 5.1 ภาพกลาง โมเลกุลมคี วามเปน็ ระเบียบน้อยทำ�ให้มีความเป็น ผลกึ ตํ่า ความหนาแนน่ และจุดหลอมเหลวจึงตา่ํ ลงด้วย สามารถเปล่ียนรูปได้ง่าย โครงสร้างแบบนม้ี กั จะ อ่อนตัวเมือ่ ไดร้ ับความร้อนลักษณะคล้าย ๆ กับแบบเสน้ ตรง ความร้อนจะทำ�ลายพันธะระหวา่ งสายโซ่ ชว่ ยใหโ้ ซส่ ามารถไหลผา่ นกันและกัน ทำ�ใหโ้ ซส่ ามารถน�ำ ไปตอ่ ใหม่ได้ เม่อื เยน็ จะถูกจัดเรียงเป็นโซก่ ่ิง เช่นเดิม จงึ เปน็ โครงสรา้ งพลาสติกที่สามารถน�ำ กลบั มาหลอมเหลวใชใ้ หม่ได้ จะเปน็ พลาสติกประเภท เทอร์โมพลาสติก 3. โครงสร้างแบบเชื่อมโยง (Crosslinked Structure) เปน็ พลาสตกิ ชนิดทีม่ กี ารจดั เรยี ง โมเลกุลแบบเชือ่ มโยงหรอื แบบร่างแห (Network) ทปี่ ระกอบดว้ ยสายโซต่ ัง้ แต่ 2 สายโซข่ ึ้นไป ท�ำ ใหเ้ กิด เป็นลักษณะการเชอื่ มขวางระหว่างสายโซ่ ดังแสดงในภาพที่ 5.1 ภาพขวามือ พลาสติกแบบน้ีจะมคี วาม แขง็ ทนไฟ และทนทานตอ่ สารเคมมี ากกว่าแบบเสน้ ตรงและแบบโซ่กิง่ แต่มีความเปราะ โครงสรา้ ง แบบนจี้ ะออ่ นตวั เมอ่ื ได้รบั ความรอ้ นท�ำ ให้สามารถขนึ้ รปู ได้ แต่เม่อื ไดร้ ับความร้อนอีกคร้ังพันธะระหวา่ ง สายโซ่จะถกู ทำ�ลาย ทำ�ให้โซไ่ ม่สามารถนำ�ไปต่อใหมไ่ ด้ เมอื่ โดนความร้อนสงู ขนึ้ จะถกู เผาไหม้ จะเป็น พลาสติกประเภทเทอรโ์ มเซต

แบบโซ่ตรง แบบโซก่ ิ่ง แบบเชอื่ มโยง

ภาพที่ 5.1 โครงสร้างของพลาสติกแตล่ ะแบบ

ประเภทของพลาสตกิ พลาสตกิ ท่ใี ชจ้ ะแบ่งออกไดเ้ ปน็ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คอื พลาสตกิ แบบเทอร์โมพลาสตกิ และพลาสตกิ แบบเทอรโ์ มเซต ซ่งึ สามารถอธิบายประเภทของพลาสตกิ ได้ ดังนี้

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 119

1. เทอร์โมพลาสตกิ (Themo Plastic) เป็นพอลเิ มอรท์ ม่ี ีโครงสร้างโมเลกลุ ทัง้ แบบ โซ่ตรงและแบบโซ่ก่งิ ซ่ึงเปน็ โครงสรา้ งท่ีมกี ารเชือ่ มตอ่ ระหว่างโซน่ อ้ ย จึงสามารถหลอมเหลวเม่ือไดร้ ับ ความร้อนจนถึงจดุ หลอมเหลว และจะกลับมาแขง็ ตัวเม่อื อุณหภมู ิลดลง เทอร์โมพลาสติกเป็นพลาสตกิ ท่ีสามารถน�ำ กลบั มาใชใ้ หมไ่ ด้ที่เรียกวา่ รีไซเคลิ (Recycle) โดยการนำ�พลาสตกิ ท่ใี ช้แลว้ ไปผา่ นความ รอ้ นให้หลอมเหลวแลว้ นำ�ไปใช้เป็นพลาสตกิ ใหม่ สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกแหง่ สหรฐั อเมรกิ า หรือ The Society of the Plastics Industry (EMR Labs, LLC., 2008) ไดก้ �ำ หนดสญั ลักษณม์ าตรฐาน ของพลาสตกิ ทใี่ ชใ้ นชีวิตประจ�ำ วันเพื่อนำ�มารีไซเคลิ เรยี กว่า รหัสสญั ลกั ษณ์ SPI (Society of the Plastics Industry) ซึ่งมีการน�ำ มาใช้ท่ัวโลกอย่างแพร่หลาย ดงั น้ันสญั ลกั ษณ์ลกู ศร 3 ตัว ท่หี มนุ ตาม เข็มนาฬิกาเพื่อสร้างรูปสามเหลี่ยมโค้งมนและล้อมรอบตัวเลขโดยส่วนใหญ่จะเป็นตัวย่อแทนพลาสติก ทอ่ี ยู่ใต้รูปสามเหลย่ี ม ส่วนหมายเลขก�ำ กับตรงกลางรูปสามเหลยี่ ม คอื การจดั ชนิดพลาสติกท่ีจะนำ�มา รีไซเคลิ ไดแ้ ก่ 1.1 พอลเิ อทิลีนเทเรฟทาเลต (Polyethylene Terephthalate) หรือเพ็ท (PET) หรือพีอีทีอี (PETE) ใช้รหัสสัญลกั ษณ์ SPI หมายเลข 1 และตัวอักษร PET หรือ PETE ใต้สัญลักษณ ์ ลกู ศร 3 ตัว ดงั แสดงในภาพที่ 5.2 ภาพซ้ายมอื เป็นพลาสติกทมี่ คี วามโปรง่ ใส มคี วามเหนยี วสงู มีความแขง็ แรง ดูดซมึ นํา้ ไดต้ า่ํ สามารถกนั การซึมผ่านของก๊าซและไขมันได้ดี มจี ุดหลอมเหลวประมาณ 250 องศาเซลเซียล พลาสตกิ ชนิดนใ้ี ช้ผลิตบรรจุภณั ฑ์ตา่ ง ๆ ท่ตี ้องการความใส เชน่ ขวดนํ้ามันพชื ขวดน้าํ ด่มื ขวดนํา้ ปลา นอกจากน้ียงั ใช้ผลติ แผน่ ฟิล์มบรรจอุ าหารและยา เป็นต้น ดงั แสดงในภาพที่ 5.2 ภาพขวามอื

รหสั สัญลักษณ์ SPI หมายเลข 1

ภาพที่ 5.2 พลาสตกิ ชนดิ พอลเิ อทิลีนเทเรฟทาเลตหรือเพ็ท

120 Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

1.2 พอลเิ อทิลนี ทีม่ ีความหนาแนน่ สงู (High Density Polyethylene) หรอื เอชดีพีอี (HDPE) ใช้รหัสสัญลักษณ์ SPI หมายเลข 2 และตวั อักษร HDPE ใต้สญั ลักษณล์ ูกศร 3 ตวั ดงั แสดงใน ภาพท่ี 5.3 ภาพซ้ายมอื เปน็ พลาสตกิ ทีม่ คี วามหนาแน่นสูง มคี วามโปร่งแสงถึงขาวขุ่น มคี วามทบึ แสง มีความเหนียว ไมแ่ ตกง่าย ทนต่อสารเคมี ไอนาํ้ ซึมผ่านได้น้อย มจี ุดหลอมเหลวประมาณ 130 องศา เซลเซียล ส�ำ หรบั การนำ�ไปพมิ พจ์ ะตอ้ งปรบั สภาพผวิ หนา้ ใหพ้ รอ้ มรบั หมึกพิมพไ์ ดด้ ี โดยใชก้ ารผา่ น ความรอ้ นหรือปลอ่ ยประจุไฟฟา้ (Corona Discharge) ไปบนผวิ พลาสตกิ กอ่ น พลาสติกชนดิ นี้ใชผ้ ลติ บรรจภุ ณั ฑป์ ระเภทขวดแชมพู ขวดน้ําแบบขาวขนุ่ ขวดนม ขวดเครื่องสำ�อาง บรรจุภณั ฑส์ ำ�หรับนาํ้ ยา ทำ�ความสะอาด ถุงรอ้ นชนดิ ขนุ่ ขวดน้ํามันเครือ่ ง สายยาง ลงั พลาสตกิ และไมเ้ ทียม เปน็ ต้น ดงั แสดง ในภาพท่ี 5.3 ภาพขวามือ

รหสั สญั ลักษณ์ SPI หมายเลข 2

ภาพที่ 5.3 พลาสตกิ ชนิดพอลิเอทิลีนที่มีความหนาแนน่ สงู หรอื เอชดีพีอี

1.3 พอลไิ วนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride) หรอื พีวซี ี (PVC) ใชร้ หัสสัญลกั ษณ์ SPI หมายเลข 3 และตวั อกั ษร PVC หรอื V ใต้สญั ลักษณ์ลูกศร 3 ตวั ดังแสดงในภาพท่ี 5.4 ภาพซ้ายมอื เป็นพลาสติกทม่ี ีความโปรง่ ใส มคี วามเหนยี ว ทนทานตอ่ สารเคมี ปอ้ งกนั การซมึ ผ่านของไอนาํ้ ได้ค่อน ขา้ งตํา่ ปอ้ งกันการซมึ ผ่านของกา๊ ซได้ปานกลาง ป้องกนั ไขมนั นา้ํ มนั แอลกอฮอลแ์ ละตัวทำ�ละลาย ประเภทปโิ ตรเลียมได้ดี มจี ดุ หลอมเหลวประมาณ 90 องศาเซลเซยี ล เปน็ พลาสตกิ ทีม่ ีการใชม้ าก ทสี่ ุด มที ง้ั ชนิดออ่ นตัวและชนิดแขง็ พลาสติกชนดิ นใ้ี ช้ผลติ ถุงบรรจุอาหารตา่ ง ๆ ฟลิ ์มยืด ฟลิ ์มรัด

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 121

บัตรพลาสติก แผ่นพลาสติกใส ทอ่ นา้ํ ประปา สายยางใส ฉนวนหุ้มสายไฟ สายเคเบ้ลิ ขวดบรรจุ ผลิตภัณฑป์ ระเภทน้าํ ผลไม้ นมเปร้ยี ว น้าํ มันพชื ไวน์ เบยี ร์ ถาดใส่อาหาร กลอ่ งบรรจุอาหาร เป็นต้น นอกจากนยี้ ังใชท้ �ำ แผ่นพลาสติกสำ�หรับท�ำ ประตู หนา้ ต่าง กรวยจราจร มา้ นง่ั พลาสตกิ ตลับเทป และ หนังเทียม เป็นตน้ ดงั แสดงในภาพที่ 5.4 ภาพขวามอื

รหสั สญั ลักษณ์ SPI หมายเลข 3

ภาพที่ 5.4 พลาสติกชนดิ พอลิไวนิลคลอไรด์หรอื พวี ีซี

1.4 พอลเิ อทลิ นี ทม่ี คี วามหนาแนน่ ตา่ํ (Low Density Polyethylene) หรอื แอลดพี อี ี (LDPE) ใช้รหัสสัญลักษณ์ SPI หมายเลข 4 และตัวอักษร LDPE ใต้สญั ลักษณล์ ูกศร 3 ตวั ดังแสดง ในภาพท่ี 5.5 ภาพซา้ ยมอื เปน็ พลาสตกิ ที่มีความหนาแนน่ ตาํ่ มคี วามโปร่งใส มีความเหนยี วสูง มี ความแข็งแรงตอ่ แรงดึง แรงดนั ทะลุ ทนต่อการฉกี ขาด แตน่ มิ่ กว่าชนดิ เอชดพี อี ี ทนตอ่ กรดและด่าง ทนตอ่ ตัวทำ�ละลายได้ดใี นอุณหภมู ิปกติ ปอ้ งกันการซมึ ผ่านของไอนา้ํ และนาํ้ ไดด้ ี ทนตอ่ ความชนื้ และ เคมีภณั ฑต์ า่ ง ๆ ได้ดี ไมส่ ามารถปอ้ งกนั การซึมผา่ นของกา๊ ซได้ ไมท่ นทานต่อนา้ํ มนั และไขมัน มคี วาม คงรูปตาํ่ ทนความร้อนไดไ้ ม่สูงมากนัก มีจดุ หลอมเหลวประมาณ 110 องศาเซลเซยี ล พลาสติกชนดิ น้ี ใชใ้ นการบรรจุอาหารในรูปของแผน่ ฟลิ ์มและขวด ใช้ท�ำ ถุงพลาสติกบรรจุอาหารแห้ง ถุงเย็น ถงุ บรรจุ อาหารแช่แข็ง ถุงหหู ว้ิ ถงุ ดำ�ส�ำ หรับใสข่ ยะ ฟลิ ์มหด ฟลิ ์มห่ออาหาร แผงบรรจยุ า ฉนวนหุม้ สายไฟ ทอ่ พลาสตกิ หลอดกาแฟ ขวดบรรจนุ มพาสเจอร์ไรซ์ ลังบรรจขุ วดนํ้าอดั ลม เป็นตน้ ดังแสดงในภาพ ที่ 5.5 ภาพขวามือ

122 Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

รหสั สัญลกั ษณ์ SPI หมายเลข 4

ภาพที่ 5.5 พลาสตกิ ชนิดพอลเิ อทลิ นี ทม่ี คี วามหนาแนน่ ตา่ํ หรอื แอลดพี อี ี 1.5 พอลิโพรพลี นี (Polypropylene) หรอื พีพี (PP) ใชร้ หสั สัญลกั ษณ์ SPI หมายเลข 5 และตัวอักษร PP ใตส้ ัญลักษณ์ลกู ศร 3 ตัว ดงั แสดงในภาพที่ 5.6 ภาพซา้ ยมือ เปน็ พลาสติกทมี่ ี ความหนาแน่นคอ่ นขา้ งตํา่ มคี วามโปร่งใสเปน็ มนั เงา มีความแข็งและเหนยี ว คงรปู ได้ด ี ทนความร้อน ไดด้ ี ทนต่อสารเคมี ทนต่อการขูดขีดไดด้ ี ปอ้ งกันการซึมผา่ นของนํา้ และน้ํามนั ก๊าซซึมผา่ นเขา้ ออกได้ นอ้ ย ชว่ ยใหอ้ าหารทบ่ี รรจใุ นถุงเกบ็ ไวไ้ ด้นาน มจี ุดหลอมเหลวประมาณ 170 องศาเซลเซยี ล พลาสตกิ ชนดิ นส้ี ว่ นใหญน่ ยิ มนำ�มาใชใ้ นรปู ของฟลิ ์ม เหมาะกบั งานประเภทถุงร้อนชนิดใส ถุงบรรจอุ าหารร้อน ถาดพลาสติกท่ีใชก้ ับเครอ่ื งไมโครเวฟ พลาสติกหุม้ ซองบหุ ร่ี ถังนาํ้ มัน อปุ กรณไ์ ฟฟ้า ภาชนะบรรจุ อาหาร ถงั ตะกร้า กระบอกน้ํา ขวดบรรจยุ า ถุงบ๊ิกแบค็ สามารถน�ำ มารไี ซเคิลเปน็ กลอ่ งแบตเตอร ่ี ชิน้ ส่วนในรถยนต์ และไมก้ วาดพลาสติก เป็นต้น ดังแสดงในภาพท่ี 5.6 ภาพขวามอื

รหัสสัญลักษณ์ SPI หมายเลข 5

ภาพที่ 5.6 พลาสตกิ ชนิดพอลโิ พรพลี นี หรือพพี ี

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 123

1.6 พอลิสไตรีน (Polystyrene) หรอื พเี อส (PS) ใชร้ หัสสัญลกั ษณ์ SPI หมายเลข 6 และตัวอักษร PS ใตส้ ญั ลกั ษณล์ กู ศร 3 ตัว ดงั แสดงในภาพท่ี 5.7 ภาพซา้ ยมอื เป็นพลาสติกที่มี ความโปร่งแสง มีความแขง็ แต่เปราะ ทนต่อแรงกระแทกและแรงฉีกขาดตํา่ ทนตอ่ แรงดงึ สูง ทนทาน ตอ่ ไขมนั และนํ้ามนั ไดน้ ้อย ทนตอ่ สารเคมที ้งั กรดและด่าง ไอน้ําและอากาศซึมผา่ นไดง้ า่ ย ดดู ซึมน้าํ ได้ น้อย มคี วามออ่ นตัว สามารถทำ�เปน็ โฟมได้ ทนความร้อนไดไ้ มม่ ากนักไม่ควรเกนิ 80 องศาเซลเซียล มีจุดหลอมเหลวประมาณ 115 องศาเซลเซยี ล ทนความเย็นไดไ้ ม่เกนิ -40 องศาเซลเซยี ล สามารถผลิต ทง้ั ชนิดเปน็ มว้ นและเปน็ แผ่น พลาสติกชนิดน้ใี ช้ทำ�ผลติ ภัณฑ์ประเภทถว้ ยบรรจุโยเกริ ต์ ถว้ ยบรรจุ ไอศครีม ถว้ ยกาแฟแบบใชแ้ ล้วท้ิง กล่องโฟม ถาดบรรจอุ าหาร ภาชนะบรรจุผัก ผลไม้ อาหารแหง้ ถาดโฟม โฟมกันกระแทก ช้นิ สว่ นอปุ กรณ์ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เป็นต้น ถ้านำ�มารไี ซเคลิ จะท�ำ เป็น ไม้แขวนเส้อื ไม้บรรทดั ฉนวนกันความร้อน ถาดใสไ่ ข่ รวมถึงเคร่อื งมือเครอ่ื งใช้ตา่ ง ๆ ดงั แสดงในภาพ ท่ี 5.7 ภาพขวามือ

รหัสสัญลักษณ์ SPI หมายเลข 6

ภาพที่ 5.7 พลาสติกชนิดพอลสิ ไตรนี หรือพเี อส

1.7 พลาสตกิ ชนดิ อ่นื ๆ นอกเหนอื จากพลาสตกิ ทง้ั 6 ชนิด ทไ่ี ม่มีการระบุชือ่ จำ�เพาะ ไมใ่ ชพ่ ลาสติกชนดิ ใดท่จี ดั อยใู่ น 6 ชนิดขา้ งต้นแต่สามารถน�ำ มาหลอมใหม่ได้ ใชร้ หสั สัญลกั ษณ์ SPI หมายเลข 7 และตวั อกั ษร Other หรือ O ใตส้ ัญลกั ษณ์ลกู ศร 3 ตวั ดงั แสดงในภาพที่ 5.8 ซ่ึงสามารถน�ำ มาใชง้ านตามคณุ สมบตั ขิ องพลาสตกิ แต่ละชนดิ ไดแ้ ก่

124 Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

ภาพท่ี 5.8 รหสั สัญลกั ษณ์ SPI หมายเลข 7 1.7.1 พอลิคาร์บอเนต (Polycarbonate) หรอื พซี ี (PC) เปน็ พลาสติกทม่ี ี ลกั ษณะโปร่งใส ทนต่อแรงยึดและแรงกระแทก ทนความร้อน ทนตอ่ กรดอ่อน แต่ไมท่ นด่าง มีความ เหนียวและความคงตัวสงู จดุ หลอมเหลวประมาณ 135 องศาเซลเซยี ล พลาสติกชนดิ น้ีใช้ท�ำ ผลิตภัณฑ์ ประเภทขวดนมเดก็ ถว้ ย จาน ชาม ของเล่นเด็ก แผน่ เลเซอรด์ สิ ก์ พวงกุญแจ ไฟหนา้ รถ ขวดใสขนาด ใหญ่ แกว้ เบยี ร์ แว่นกันแดด หนา้ กากหมวกกันนอ๊ ค หนา้ ปัดนาฬิกาข้อมอื โถเครอ่ื งปั่นนนํ้าผลไม้ ถาด บรรจอุ าหารแช่แขง็ ภาชนะท่ใี ชก้ ับเคร่ืองไมโครเวฟ เปน็ ตน้ ดังแสดงในภาพที่ 5.9

ภาพท่ี 5.9 พลาสติกชนิดพอลคิ ารบ์ อเนตหรอื พีซี

1.7.2 พอลเิ อไมด์ (Polyamide) หรือพีเอ (PA) เปน็ พลาสติกที่มกี ารใชม้ านาน ในชอ่ื ทางการค้าวา่ ไนลอน (Nylon) พลาสตกิ มีความขาวขุ่นและโปรง่ แสง มีผวิ ลื่น มีความเหนยี ว สูง ต้านทานแรงทิ่มทะลไุ ดส้ งู ทนต่ออณุ หภมู ิทเ่ี พิม่ ขึน้ ทนต่อการเสยี ดสี ปอ้ งกันการซมึ ผ่านของ

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 125 ไอน้าํ ได้ตา่ํ แตป่ อ้ งกนั การซมึ ผา่ นของก๊าซได้ดี ทนต่อสารเคมีจ�ำ พวกกรดและตวั ทำ�ละลายอินทรยี ์ได้ดี พลาสติกชนิดนใ้ี ชท้ �ำ ผลติ ภัณฑป์ ระเภทถงุ พลาสตกิ บรรจอุ าหารแบบสูญญากาศ ถุงอาหารทีต่ ้องฆ่าเชอ้ื ด้วยความร้อน ถุงใส่ของเหลวแบบตั้งได้ (ถงุ Pouch) ฟิล์มห่อเนย เส้นใยเสือ้ ผ้า ถุงน่อง เชือกไนลอน เป็นตน้ ดงั แสดงในภาพท่ี 5.10

ภาพที่ 5.10 พลาสตกิ ชนิดพอลิคาร์บอเนตหรือพีซี

1.7.3 พอลิไวนีลลดิ นี คลอไรด์ (Polyvinylidene Chloride) หรือพวี ีดีซี (PVDC) เปน็ พลาสตกิ ท่ีมีชอ่ื ทางการค้าว่า ซาราน (Saran) พลาสตกิ มคี วามโปรง่ ใส มีความมันวาวสงู หดตัว เมอ่ื ถูกความรอ้ น มคี วามเหนยี วสงู ทนตอ่ สารเคมี แตไ่ มท่ นต่อด่างแก่ มีความทนแรงดึงสูง ดูดซมึ น้าํ ได้ตํา่ ไอน้ําและก๊าซซึมผ่านไดย้ าก ป้องกนั การซมึ ผ่านของไขมนั และน้าํ มันไดด้ ี ทนความร้อนได้สูง จุดหลอมเหลวประมาณ 135 องศาเซลเซียล พลาสตกิ ชนดิ นใ้ี ชท้ ำ�ผลิตภณั ฑใ์ นรูปของฟลิ ม์ ม้วนในการ บรรจุและหอ่ อาหาร บรรจุยา หรอื อาจเคลอื บฟลิ ม์ พีวดี ซี ีไวบ้ นฟอยล์ เหมาะกับการท�ำ ถุงบรรจุอาหารที่ ต้องการอายกุ ารเกบ็ นาน ทำ�ถงุ บรรจุนํ้ามนั บรรจุเคร่ืองสำ�อาง เปน็ ต้น ดังแสดงในภาพท่ี 5.11

ภาพที่ 5.11 พลาสตกิ ชนดิ พอลไิ วนลี ลดิ นี คลอไรด์หรอื พีวีดซี ี

126 Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

1.7.4 อะคริโลไนไตรลบ์ ิวทะไดอนี สไตรีน (Acrylonitrile Butadiene Styrene) หรือเอบีเอส (ABS) ใชร้ หสั สญั ลักษณแ์ บบ SPI ใช้ตวั อกั ษร ABS อยกู่ ลางสัญลกั ษณล์ กู ศร 3 ตัว ดงั แสดงในภาพที่ 5.12 ภาพซา้ ยมอื เปน็ พลาสติกทป่ี ระกอบมอโนเมอร์ 3 ชนิด คอื อะครโิ ลไนไตรล์ บิวทะไดอีน และสไตรนี เป็นพลาสตกิ ทมี่ คี วามแขง็ แตเ่ ปราะ หรือหากมสี มบัติแข็งเหนียวกจ็ ะมีลักษณะ อ่อนนม่ิ ร่วมดว้ ย ทนทาน ขนึ้ รูปไดง้ ่าย มคี วามใส พลาสตกิ แบบเอบีเอสแตกต่างจากพลาสติกท่ัวไป เพราะเปน็ พลาสตกิ ที่มคี วามสมดลุ ทัง้ ในเร่อื งความแขง็ และความเหนยี ว ทำ�ให้พลาสตกิ มคี ณุ สมบัตทิ น แรงกระแทกดี นอกจากน้ีเอบีเอสยังมีสมบตั เิ ด่นอกี หลายเรือ่ ง เช่น ทนตอ่ แรงเสยี ดสี คงสภาพรปู ร่างไดด้ ี ทนความร้อน ทนสารเคมี และสามารถข้นึ รปู เป็นผลติ ภณั ฑ์ไดห้ ลายวิธี พลาสตกิ ชนดิ น้ีใช้ท�ำ ผลติ ภณั ฑ์ ถว้ ยหรือภาชนะ ช้นิ ส่วนภายในรถยนต์ ของเล่นเด็ก กระเป๋าเดนิ ทาง เคร่ีองใช้อปุ กรณ์สำ�นักงาน หมวก กันนอ๊ ค ช้นิ สว่ นต้เู ยน็ นอกจากนย้ี งั ใช้เป็นพลาสติกฉีดส�ำ หรบั เคร่อื งพิมพ์ 3 มิติด้วย เปน็ ตน้ ดงั แสดงใน ภาพท่ี 5.12 ภาพขวามอื

รหสั สัญลักษณ์ ABS

ภาพที่ 5.12 พลาสติกชนิดอะคริโลไนไตรลบ์ วิ ทะไดอนี สไตรนี หรือเอบเี อส

1.7.4 พอลอิ อกซเี มทลิ ีน (Polyoxymethylene) หรือพโี อเอม็ (POM) หรอื อะซิตอล (Acetal) เปน็ พลาสติกที่มคี วามแข็งแรงสงู แรงเสียดทานตํา่ มีเสถยี รภาพมติ ิดีมาก ทนสาร เคมี การดดู ซมึ น้าํ ต่ํามาก ทนตอ่ แรงกระแทกตํา่ ทนต่อการยอ่ ยสลาย มีความต้านทานต่อตัวท�ำ ละลาย สงู มีความแขง็ แรงทางกลสงู พลาสตกิ ช นิดนี้ใช้ท�ำ ผลิตภัณฑ์ของเลน่ เดก็ หวี ด้ามปากกา ชนิ้ สว่ น ในรถยนต์ เชน่ คารบ์ เู รเตอร์ เฟืองทด วาล์ว ใบพัดเคร่อื งยนต์ และชน้ิ สว่ นอิเลก็ ทรอนิกส์ เชน่ สวิตซ์ เปน็ ตน้ นอกจากน้ียงั ใชท้ �ำ โครงหลงั คา ช้ินสว่ นผนงั บาง ดังแสดงในภาพท่ี 5.13

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 127

ภาพท่ี 5.13 พลาสตกิ ชนิดพอลอิ อกซเี มทิลีนหรือพีโอเอม็

2. เทอรโ์ มเซต (Thermoset) หรอื เทอร์โมเซตต้งิ (Thermosetting) เป็นพอลิเมอร์ ท่ีมโี ครงสร้างโมเลกลุ แบบเชือ่ มโยง การเกดิ ปฏิริยาระหว่างโมเลกลุ จะใช้ความร้อนหรือตัวเรง่ ปฏกิ ิรยิ า หรอื อาจใชร้ ่วมกันท้ังสองแบบ เทอร์โมเซตเปน็ พลาสติกท่ที นต่อการเปลยี่ นแปลงของอุณหภมู ิ เกิด คราบและรอยเปอื้ นได้ยาก จะออ่ นตัวเม่อื ไดร้ บั ความร้อนและจะแข็งตัวเมื่อความร้อนลดลง แตจ่ ะ หลอมตวั ไดเ้ พยี งครง้ั เดียว เพราะความร้อนไปท�ำ ให้โมเลกุลเกดิ การจบั ตัวกนั แน่นเป็นแบบเชอื่ มโยงหรือ แบบร่างแห แรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งโมเลกลุ มมี าก รปู แบบทพ่ี ลาสติกเปล่ียนสภาพไปแล้วจะมีลกั ษณะ ถาวร คือหลงั จากพลาสตกิ แขง็ ตัวแล้วจะไม่สามารถท�ำ ใหอ้ อ่ นตวั หรอื หลอมซา้ํ ไดอ้ ีก หากใชค้ วามรอ้ น ในการหลอมอกี จะท�ำ ให้แตกไหมแ้ ละสลายเปน็ เถา้ การข้นึ รปู ท�ำ ไดย้ ากและอาจตอ้ งใชแ้ รงอัดในการ ท�ำ ใหเ้ ปน็ รปู ทรงได้ พลาสตกิ ประเภทน้ี ไดแ้ ก่ 2.1 อพี อกซี (Epoxy) หรือ โพลอี ีพอกไซด์ (Polyepoxide) มีลักษณะโครงสร้าง เปน็ แบบเช่ือมโยงท่ีใชด้ า่ งในการเรง่ ปฏิกิริยาของโมเลกลุ เปน็ เรซนิ ท่ใี ชก้ นั มที ้ังในรูปสารยึดติดและวสั ดุ เคลอื บผวิ มีความแขง็ แตย่ ืดหยนุ่ ทนทานต่อแรงกระแทกได้ปานกลาง รับแรงอดั และทนแรงดีงได้ดี ทน ความรอ้ นได้สูงถงึ 200 - 300 องศาเซลเซียส เป็นฉนวนไฟฟ้า ตดิ ไฟได้ เมอื่ ไหมไ้ ฟจะไหมอ้ ยา่ งชา้ ๆ ทนทานตอ่ สารเคมี กรดและด่าง ทนทานตัวตัวท�ำ ละลาย ใช้สำ�หรบั ผลติ เปน็ อปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์ท่ี ต้องทนความร้อนได้สงู ผลิตแผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภณั ฑไ์ ฟเบอร์กลาส เช่น เรือ รถยนต์ ช้ินส่วนเครอ่ื งบนิ กาวอพี อกซี ใชเ้ คลอื บพืน้ เปน็ ตน้ อีพอกซไี มน่ ยิ มน�ำ มาท�ำ เปน็ บรรจุภัณฑ์ แต่ใช้เป็นสารยดึ ติดและวัสดุ เคลือบผิวในงานหลังพมิ พไ์ ด้

128 Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

2.2 ฟีนอลกิ (Phenolic) หรือเบกเกลไลท์ (Bacelite) เปน็ พลาสติกทท่ี �ำ ปฏิกริ ิยา ระหว่างฟีนอล (Phenol) กบั ฟอรม์ าลดไี ฮด์ (Formaldehyde) มโี ครงสร้างแบบเช่อื มโยง มคี วามแข็ง ทนต่อความรอ้ นสงู ถงึ 150 องศาเซลเซยี ส รับแรงอัดไดด้ ี น�ำ ความร้อนตํ่า ทนตอ่ ตัวท�ำ ละลาย ใชส้ ำ�หรบั ผลติ ภณั ฑท์ ท่ี นต่อความร้อนสูง ฟนี อลพบในผลติ ภัณฑอ์ ตุ สาหกรรมจำ�นวนมาก เช่น ลามิเนตฟนี อลกิ บนวัสดุรองรับการพิมพอ์ าจเปน็ กระดาษ อยา่ งกระดาษไฟเบอรก์ ลาส ด้ามกระทะ หูหม้อ หโู ทรศพั ท์ ล้อต้โู ชว์ ลกู บิลเลยี ด อุปกรณ์ไฟฟ้าตา่ ง ๆ ตลอดจนสายเคเบิ้ลทีวี เป็นต้น 2.3 อะมโิ นพลาสติก (Amino Plastic) มลี กั ษณะโครงสร้างเปน็ แบบเชือ่ มโยง มคี วาม แข็ง เปน็ ฉนวนไฟฟา้ ใสไม่มสี ี ทนความชนื้ ทนต่อนา้ํ มันและตวั ท�ำ ละลาย ทนต่อแรงดนั แรงอัดและแรง กระแทกได้ดี ทนต่อแรงดงึ ได้ดปี านกลาง ไม่มกี ลน่ิ ติดไฟได้ เมอ่ื ติดไฟแลว้ จะดบั ได้เอง ทนต่อความรอ้ น ไดส้ ูงถึง 140 องศาเซลเซยี ล เป็นฉนวนไฟฟา้ และฉนวนความร้อนไดด้ มี าก ทนทานตอ่ รอยขดี ขว่ น ไม่ ทนทานต่อกรดแก่และดา่ งแก่ มีอยู่ 2 ชนดิ คอื ยูเรยี ฟอรม์ าลดไี ฮด์ (Urea Formaldehyde) ใช้ผลิต อุปกรณ์ไฟฟา้ กระดมุ ดา้ มจับเครอื่ งมือต่าง ๆ ภาชนะบรรจุเคร่อื งสำ�อาง และเมลามีนฟอรม์ าลดไี ฮด์ (Melamine Formaldehyde) ใชผ้ ลติ งานท่มี กี ารใชอ้ ณุ หภูมสิ ูง มกั จะนำ�ใช้ผลติ แผ่นโฟไมกา้ ถว้ ย ชาม จาน ท่เี รียกกันวา่ ภาชนะเมลามีน (Melamine) เปน็ ต้น ดังแสดงในภาพที่ 5.14

ภาพท่ี 5.14 ภาชนะเมลามีน

2.4 พอลยิ ูรีเทน (Polyurethane) มีโครงสรา้ งแบบเป็นแบบเช่ือมโยง พลาสติกชนดิ นไี้ ม่ละลายในตวั ทำ�ละลายใด ๆ มคี วามคงทนต่อความรอ้ นได้ดี มคี วามแข็งและเหนยี ว ทนการสกึ กร่อน ได้ดี เปน็ ฉนวนไฟฟา้ และฉนวนความรอ้ นที่ดี ใชผ้ ลิตสว่ นประกอบรถยนต์ ลูกโบวล์ ่งิ หยกเทียม นาํ้ ยา เคลือบไมป้ าเก้ แผน่ โฟมรองพน้ื ฉนวนกนั เสียง ฉนวนความเย็น เปน็ ต้น

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 129

ประเภทของบรรจภุ ณั ฑ์พลาสติก บรรจุภัณฑ์พลาสติกเป็นบรรจุภัณฑ์ท่ีได้รับความนิยมใช้กันเป็นจำ�นวนมากในปัจจุบัน ซึง่ สามารถนำ�มาใชบ้ รรจผุ ลิตภณั ฑ์ต้งั แต่เครอื่ งอปุ โภคบรโิ ภคต่าง ๆ พลาสติกมใี หเ้ ลอื กใชห้ ลากหลาย ชนิด ดังนน้ั จึงต้องมีความเข้าใจในการเลอื กใช้ชนดิ ของพลาสตกิ แต่ละประเภทให้เหมาะสม ในการท่ี จะปกปอ้ งคุม้ ครองและรักษาผลิตภณั ฑ์ภายในให้อยู่ในสภาพที่สมบรู ณ์ อีกท้งั ยงั สามารถพิมพ์ลวดลาย ข้อความตา่ ง ๆ บนผวิ พลาสตกิ ได้ ซ่ึงกข็ ้นึ อยู่กบั ความสามารถของระบบการพมิ พน์ น้ั ๆ รวมถึงตน้ ทุนใน การพมิ พแ์ ตล่ ะระบบที่มคี วามแตกตา่ งกัน ประเภทของบรรจภุ ณั ฑพ์ ลาสติกที่ใช้กนั ในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ 1. บรรจภุ ัณฑพ์ ลาสติกประเภทรปู ทรงยดื หยุ่น (Flexible Forms) หรอื บรรจภุ ัณฑ์ พลาสติกออ่ นตวั ไดแ้ ก่ บรรจภุ ัณฑท์ ่ที �ำ จากพลาสติกอ่อนตัว มลี ักษณะเป็นแผ่นบางท่เี รยี กว่า ฟิลม์ (Film) หรอื ฟิลม์ พลาสติก สำ�หรบั ห่อหรือพนั ผลติ ภณั ฑ์ และลกั ษณะเปน็ ถงุ สำ�หรบั ใส่ผลติ ภณั ฑ์ตา่ ง ๆ ซ่ึงบรรจภุ ัณฑป์ ระเภทนี้แบ่งไดเ้ ป็น 2 ชนดิ ได้แก่ 1.1 ฟิลม์ พลาสตกิ (Plastic Film) เปน็ พลาสติกบาง ๆ มาใช้ในการหอ่ หรือพนั ผลติ ภัณฑ์เพื่อชว่ ยรักษาคณุ ภาพของผลติ ภณั ฑไ์ ว้ รวมทงั้ การใชฟ้ ลิ ์มเพอ่ื รวมหน่วยของบรรจุภัณฑ์ ฟลิ ์มพลาสตกิ สามารถใช้งานได้หลากหลายลกั ษณะข้ึนอย่กู ับการใช้งาน ซ่งึ จำ�แนกตามการใชง้ านของ ฟลิ ์มพลาสตกิ ออกได้เป็น 4 ลักษณะ ดงั นี้ 1.1.1 แผน่ ฟลิ ม์ หอ่ (Wrapping Film) เปน็ การน�ำ พลาสตกิ แผน่ บาง ๆ มา ห่อผลิตภณั ฑ์ เพอื่ ปอ้ งกนั การสมั ผัสกบั อากาศหรอื สิ่งแวดล้อมภายนอก พลาสตกิ ชนิดท่ีนำ�มาใชท้ �ำ แผน่ ฟลิ ์มห่อ เชน่ LDPE, PVC เปน็ ต้น แผน่ ฟิล์มห่อนีม้ ที ง้ั แบบหอ่ ดว้ ยมือและห่อดว้ ยเครื่องจักร เชน่ การห่อลกู กวาด การหอ่ ซองบหุ ร่ี การห่อเนยกอ้ น เปน็ ตน้ ดังแสดงในภาพที่ 5.15

ภาพที่ 5.15 แผน่ ฟลิ ์มห่อ

130

1.1.2 ฟิลม์ หด (Shrink Film) เปน็ การน�ำ พลาสตกิ ทีจ่ ะหดตวั เม่อื ได้รับความ ร้อน พลาสติกชนิดท่ีน�ำ มาใช้ท�ำ ฟิล์มหด เช่น LDPE, HDPE, PVC, PVDC, PET เป็นตน้ แผน่ ฟลิ ม์ หดน ้ี มีทัง้ แบบใชเ้ ปน็ ฉลากสวม เช่น ฉลากรดั ขวด ฉลากรัดกล่อง เปน็ ตน้ ดงั แสดงในภาพที่ 5.16 ภาพ ซา้ ยมอื ยงั มแี บบใชเ้ พ่อื การรวมหน่วยหรอื การบรรจุผลิตภัณฑ์มากกว่า 1 หนว่ ย เช่น นํา้ อัดลมกระป๋อง บรรจรุ วมหนว่ ย 6 กระป๋อง เปน็ ต้น ดังแสดงในภาพท่ี 5.16 ภาพกลาง และแบบใช้เพ่ือการขนส่ง โดย การหดรดั แทน่ รองสนิ ค้าเพอื่ การขนส่ง เชน่ การรัดสนิ คา้ จำ�นวนมากทว่ี างบนแท่นวางสนิ คา้ หรอื พาเลต (Pallet) เพอ่ื สะดวกและปลอดภัยในการขนส่งไปพร้อมพาเลต ดังแสดงในภาพที่ 5.16 ภาพขวามือ Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 แบบใช้เปน็ ฉลากสวม แบบใชเ้ พอื่ การรวมหนว่ ย แบบใช้เพื่อการขนสง่

ภาพที่ 5.16 ฟิล์มหด

1.1.3 ฟลิ ์มยดื (Stretch Film) เปน็ การนำ�พลาสติกทีม่ ีความเหนียว ความ ยดื หยุน่ ตวั สงู สามารถเกาะติดกนั เองได้โดยไม่ตอ้ งใชก้ าวชว่ ย เม่ือไดร้ ับแรงดงึ พลาสตกิ จะยืดตวั ออก พลาสตกิ ชนดิ ทนี่ �ำ มาใชท้ ำ�ฟิลม์ ยืด เชน่ LDPE, PVC, PVDC, PP เปน็ ตน้ ฟิล์มยดื น้ีมีทงั้ แบบใช้เพอ่ื การค้าปลกี หรอื เพอ่ื เก็บรกั ษาผลิตภัณฑ์ เชน่ ฟลิ ม์ ยืดติด (Cling Film) ท่ใี ช้แพคอาหาร ผกั ผลไม้ เปน็ ตน้ ดงั แสดงในภาพที่ 5.17 ภาพซ้ายมือ ยงั มีแบบใชเ้ พ่ือการขนสง่ โดยการพันรดั แท่นรองสนิ คา้ เพ่อื การขนสง่ เชน่ การรดั สินค้าจำ�นวนมากทวี่ างบนแท่นวางสนิ ค้าหรอื พาเลต ซึว่ มีลักษณะคลา้ ย ๆ ฟิลม์ หด แต่ไม่ต้องใช้ความร้อนในการห้มุ จะใช้แรงดึงพันรอบ ๆ เทา่ นั้น ดงั แสดงในภาพท่ี 5.17 ภาพขวามอื

แบบใช้เพื่อการค้าปลีก แบบใช้เพอื่ การขนส่ง

ภาพที่ 5.17 ฟิล์มหด

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 131 1.1.4 ฟิลม์ เพอ่ื การปิดผนึกบรรจุภัณฑ์ เป็นการนำ�ฟิลม์ พลาสติกมาใช้ปดิ ผนกึ บนบรรจภุ ณั ฑ์ ลักษณะเหมือนเปน็ ฝาสามารถปดิ ผนกึ และเปดิ ดงึ ไดเ้ มื่อต้องการใช้งาน พลาสติกชนดิ ทนี่ �ำ มาใช้ทำ�แผ่นฟลิ ์มปดิ ผนกึ เช่น LDPE, PP และพลาสตกิ ลามิเนตที่มพี ลาสตกิ หลายช้ันหรือเคลอื บ พลาสติกลงบนอะลูมิเนยี มฟอยล์ เปน็ ตน้ ตวั อย่างบรรจภุ ัณฑ์ทน่ี ำ�มาใช้ตดิ ผนึก เช่น แผน่ ปิดถว้ ยอาหาร ก่งึ สำ�เรจ็ รปู แผ่นปิดถ้วยน้าํ แผ่นปิดถ้วยโยเกริ ์ต แผ่นปดิ ขวดนม เปน็ ตน้ ดังแสดงในภาพที่ 5.18

ภาพที่ 5.18 ฟิลม์ เพ่ือการปดิ ผนกึ บรรจุภัณฑ์ 1.2 ถุงพลาสตกิ (Plastic bag) เปน็ พลาสติกบาง ๆ มาข้ึนรปู เป็นถุงพลาสติก ซึ่งมี หลากหลายรูปแบบและหลากหลายขนาด ขน้ึ อยกู่ บั ลักษณะการบรรจผุ ลิตภัณฑต์ า่ ง ๆ ในการทจี่ ะชว่ ย รกั ษาคุณภาพของผลติ ภณั ฑไ์ ว้ มตี ั้งแตถ่ ุงหิ้วพลาสตกิ ท่ใี ชก้ ันทั่วไป จนถึงถุงท่ีใชใ้ นอุตสาหกรรมสำ�หรบั ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มกี ารจำ�แนกชนิดของถุงไว้หลายแบบ เชน่ จำ�แนกตามลักษณะของการปดิ ผนกึ บนถงุ ได้แก่ การปิดผนกึ ตรงกลางของถุง หรือซีลกลาง (Center Seal) ดังแสดงในภาพท่ี 5.19 ภาพซา้ ยมือ การปิดผนึก 3 ดา้ น หรือซีล 3 ด้าน (Three Side Seal) ดังแสดงในภาพท่ี 5.19 ภาพกลาง และการปิด ผนึก 4 ด้าน หรือซีล 4 ดา้ น (Four Side Seal) ดังแสดงในภาพท่ี 5.19 ภาพขวามือ

การซีลกลาง การซีล 3 ด้าน การซีล 4 ด้าน

ภาพท่ี 5.19 ถงุ พลาสตกิ จำ�แนกตามลกั ษณะของการปิดผนึกบนถุง

132

ยังมีการจำ�แนกถงุ พลาสตกิ ตามลักษณะการใชง้ าน ได้แก่ ถุงต้งั (Stand Up Pouch) เป็นถุงพลาสติกชนดิ ต้งั ได้ ทำ�จากฟิลม์ หลายชั้น มีลกั ษณะโดดเดน่ คือเปน็ ถงุ ท่ีสามารถวางตง้ั ได้ โดยท่ีฐานหรอื กน้ ถงุ จะขยายออกชว่ ยเพิ่มพืน้ ท่ใี นการทรงตวั ของถงุ ได้ ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์ทว่ั ไป เช่น ถงุ แบบเตมิ (Refill Pouch) ทีใ่ ชก้ บั ผลิตภัณฑ์ของเหลวประเภท นา้ํ ยาปรบั ผ้านมุ่ ซอสมะเขอื เทศ นาํ้ มันพืช เปน็ ตน้ ดงั แสดงในภาพท่ี 5.20 ภาพซา้ ยมือ และถงุ แบบรีทอรต์ (Retort Pouch) หรือถงุ ต้ม ฆา่ เชอื้ ซ งึ่ ท�ำ จากพลาสตกิ หลายชนั้ ทม่ี คี ณุ สมบตั ทิ นความรอ้ นและความดนั ของหมอ้ ตม้ ฆา่ เชอื้ นยิ มใชก้ บั บรรจุภณั ฑอ์ าหาร เช่น แกงตา่ ง ๆ ดังแสดงในภาพท่ี 5.20 ภาพขวามือ Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 ถงุ แบบเตมิ ถุงแบบรีทอรต์

ภาพท่ี 5.20 ถงุ พลาสตกิ ชนดิ ถุงต้ังแบบถุงเตมิ และถุงรที อร์ต

นอกจากน้ยี ังมีถงุ พลาสตกิ บรรจุภณั ฑ์แบบพิเศษ ท่ีน�ำ มาใชใ้ นการบรรจุผลติ ภัณฑเ์ พ่ือ เพ่มิ ประสิทธภิ าพหรอื เพิม่ สะดวกในการใช้ผลิตภัณฑ์ ไดแ้ ก่ ถงุ ในกล่อง ถงุ ติดซปิ ล็อก ถงุ ตดิ วาล์วระบาย ซงึ่ อธิบายไดด้ งั น้ี ถุงในกล่อง (Bag in Box) เปน็ การน�ำ ถงุ พลาสตกิ มาผนกึ ตดิ ไว้ในกลอ่ งกระดาษ เพอ่ื บรรจุผลิตภณั ฑข์ องเหลวและสามารถเปดิ ปิดการใช้ ผลติ ภณั ฑโ์ ดยผ่านวาล์วเปดิ ปิดทม่ี ีลกั ษณะเหมอื น กอ็ กน้ํา เมอื่ ตอ้ งการใหผ้ ลิตภัณฑภ์ ายในถุงออกมาก็จะกดวาล์วให้เปดิ ของเหลวท่ีบรรจอุ ย่กู จ็ ะไหล ออกมา เม่อื ปล่อยวาลว์ กจ็ ะทำ�ใหข้ องเหลวหยุดไหล พลาสติกท่ีใชจ้ ะเปน็ พลาสตกิ หลายชัน้ ซงึ่ ถุง พลาสตกิ จะสัมผัสกบั ผลิตภณั ฑ์โดยตรง ส่วนกล่องกระดาษจะทำ�หนา้ ท่เี พ่มิ ความแขง็ แรงให้เกดิ ขึ้นกบั ถงุ พลาสตกิ และช่วยป้องกันแรงกระแทกจากภายนอก พลาสติกทีน่ �ำ มาใช้ในการทำ�ถงุ แบบนจี้ ะใชก้ าร ประกบติดกนั 3 ชนั้ เชน่ PE/AL/LDPE และ EVOH/PE/LDPE ถงุ แบบนมี้ กั ใชบ้ รรจุผลิตภัณฑข์ องเหลว ประเภทไวน์ นม นาํ้ ผลไม้ น้ํามัน เปน็ ตน้ ดงั แสดงในภาพท่ี 5.21

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 133

ภาพที่ 5.21 ถงุ พลาสติกชนิดถุงตัง้ แบบถงุ ในกลอ่ ง ถุงพลาสติกติดซปิ ลอ็ ก (Zip Lock Bag) เปน็ การนำ�ถุงพลาสตกิ มาผนกึ ตดิ ซิปล๊อกบรเิ วณ ปากถุง เพือ่ ช่วยปดิ ปากถุงไม่ให้อากาศเข้าในกรณีที่ใช้ครง้ั เดียวไมห่ มด ซิปลอ็ กชว่ ยใหส้ ะดวกในการ เปิดปิดถุงทำ�ให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ภายในไม่เปล่ียนแปลงหรือเปล่ียนแปลงน้อยลงกว่าการเปิดปาก ถุงทงิ้ ไว้ พลาสตกิ ทน่ี ำ�มาใชใ้ นการท�ำ ถงุ แบบน้ี เชน่ PE, PP มักใชก้ บั ถงุ ตัง้ ได้และถุงปดิ ผนกึ 4 ดา้ น ถงุ แบบนีม้ กั ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์ประเภทขนมขบเคย้ี ว นํ้ายาลา้ งจาน ขนมคุ๊กก้ี เป็นต้น ดงั แสดงในภาพ ที่ 5.22

ภาพท่ี 5.22 ถงุ พลาสติกชนิดตดิ ซปิ ล็อก ถุงพลาสติกตดิ วาลว์ ระบาย (One-way Valve) หรือถงุ ติดวาล์ววันเวย์ เปน็ การน�ำ ถุงพลาสตกิ มาผนกึ ตดิ วาล์วระบายอากาศไว้ท่ถี ุง วาลว์ จะชว่ ยระบายอากาศออกจากภายในถุง และ ป้องกนั ไม่ให้อากาศภายนอกผ่านเขา้ ไปในถุงได ้ พลาสติกท่ีน�ำ มาใช้ในการท�ำ ถงุ แบบน้ี เชน่ PE ถุง แบบนี้มักใชบ้ รรจผุ ลิตภณั ฑ์ประเภทเมลด็ กาแฟ เนอ่ื งจากเมล็ดกาแฟทคี่ ่วั แล้ว เมอ่ื อย่ใู นถุงจะเกดิ กา๊ ซ คาร์บอนไดออกไซดข์ น้ึ ในถุง ดังนน้ั เพ่ือเป็นการรกั ษาคณุ ภาพของกาแฟ คงความหอมและรสชาติ จงึ ตอ้ งระบายเอากา๊ ซออก ดังแสดงในภาพท่ี 5.23

134 Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

วาลว์ ระบาย

ภาพท่ี 5.23 ถงุ พลาสติกชนดิ ตดิ วาลว์ ระบาย

2. บรรจภุ ัณฑ์พลาสตกิ ประเภทกึง่ คงรปู (Semi Rigid Forms) หรอื ประเภทก่ึงแขง็ ตัว เปน็ บรรจภุ ณั ฑพ์ ลาสตกิ ท่มี ีความคงรปู มากกว่าบรรจภุ ัณฑ์รปู ทรงยืดหย่นุ สามารถต้งั ได้ นิยมใชบ้ รรจุ ผลติ ภัณฑ์ทั้งของแข็งและของเหลว บรรจุภณั ฑพ์ ลาสตกิ ประเภทนี้ ได้แก่ กลอ่ ง ถว้ ยและถาดพลาสติก ขวดพลาสติก หลอดพลาสตกิ ซ่ึงสามารถอธบิ ายได้ ดงั นี้ 2.1 กล่อง ถ้วยและถาดพลาสติก (Bฺ ox Cup and Tray) เป็นบรรจภุ ณั ฑก์ ง่ึ คงรปู ที่ มปี รมิ าณการใชม้ าก สามารถบรรจุผลิตภณั ฑ์ไดห้ ลากหลายชนดิ ขน้ึ อยคู่ ุณลกั ษณะของพลาสติกแตล่ ะ ชนิดทีน่ ำ�มาใช้ 2.1.1 กล่องพลาสติกจะมีรูปทรงหรือรูปแบบคล้ายกล่องพับได้ในบรรจุภัณฑ์ กระดาษ จะเปน็ ลักษณะกลอ่ งผนงั บาง สามารถท�ำ ไดห้ ลากหลายรปู ทรง ไม่วา่ จะเปน็ รปู ทรงสี่เหล่ยี ม สามเหลยี่ ม หกเหลี่ยม มีทั้งชนดิ มฝี าตดิ กับตวั กล่องและมฝี าแยกจากตวั กล่อง ใช้บรรจผุ ลติ ภณั ฑ์ ของแข็งและของเหลวได ้ ดังแสดงในภาพท่ี 5.24

ภาพที่ 5.24 บรรจุภัณฑ์พลาสตกิ ประเภทกึ่งคงรปู ชนิดกล่องพลาสติก

2.1.2 ถว้ ยพลาสติกจะมลี กั ษณะเป็นหลุมลงไป ถว้ ยสว่ นใหญ่จะมรี ปู ทรงแบบ ทรงกระบอก ส�ำ หรบั บรรจุผลติ ภณั ฑ์ไวภ้ ายใน มที ้ังชนิดมีฝาตดิ กบั ตัวถว้ ยและมีฝาแยกจากตวั ถว้ ย

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 135 มีหลากหลายขนาดขึน้ อยู่กับขนาดและปรมิ าณของผลติ ภัณฑ์ ใช้บรรจุผลิตภณั ฑข์ องแข็งและของเหลว ได้ เช่น ซอสมะเขือเทศ นมสด แยม โยเกิรต์ น้าํ พรกิ เปน็ ต้น ดังแสดงในภาพที่ 5.25

ภาพท่ี 5.25 บรรจภุ ัณฑ์พลาสตกิ ประเภทกงึ่ คงรปู ชนดิ ถว้ ยพลาสตกิ

2.1.3 ถาดพลาสตกิ จะลักษณะเปน็ หลมุ ลงไปลักษณะคลา้ ยถ้วยพลาสติก แตจ่ ะ มคี วามลกึ น้อยกวา่ ถว้ ย สว่ นใหญจ่ ะไมม่ ฝี าปิดหากตอ้ งการป้องกนั ไมใ่ ห้ผลิตภณั ฑ์สัมผสั กบั อากาศ อาจ ห้มุ ด้วยฟลิ ม์ ยดื ถาดพลาสตกิ มีหลากหลายขนาดขึ้นอยูก่ บั ขนาดและปรมิ าณของผลิตภัณฑ์ ใช้บรรจุ ผลิตภัณฑ์ของแขง็ มากกวา่ ของเหลวได้ เพราะถาดมคี วามลึกน้อย สามารถใสผ่ ลิตภณั ฑท์ ี่มขี องเหลว ผสมอย่บู า้ งหรือเปน็ ผลิตภณั ฑ์กึง่ ของเหลวกไ็ ด้ ถาดพลาสติกสว่ นใหญจ่ ะเปน็ โฟมซงึ่ ทำ�จากพลาสตกิ ประเภทพอลสิ ไตรีน ถาดพลาสตกิ มกั ใชบ้ รรจผุ ลิตภณั ฑ์ประเภท เชน่ ถาดใสเ่ นอ้ื สัตว์ ถาดใส่ผัก อาหารแช่แขง็ ถาดใส่อาหารในรา้ นค้าหรือซปุ เปอรม์ ารเ์ กต็ เป็นตน้ ดงั แสดงในภาพท่ี 5.26

ภาพท่ี 5.26 บรรจภุ ัณฑพ์ ลาสติกประเภทกง่ึ คงรูปชนิดถาดพลาสติก 2.2 ขวดพลาสติก (Bottle) เป็นบรรจุภัณฑก์ งึ่ คงรปู ที่ใช้บรรจุผลติ ภัณฑ์ประเภท ของเหลวและกงึ่ ของเหลว พลาสตกิ ท่ีน�ำ มาท�ำ ขวดขึ้นอยู่คณุ ลักษณะของพลาสติกแตล่ ะชนดิ ท่ีนำ�มาใช้ ขวดพลาสตกิ มีท้ังทท่ี �ำ จากพลาสติกชัน้ เดียวหรอื จากพลาสติกชนิดเดียว ท�ำ จากพลาสติกชนิด HDPE, PET, PP เปน็ ต้น และทำ�จากพลาสติกหลายชนั้ เพือ่ ให้มีคณุ สมบตั ดิ ีขึ้น อาจะมี 2 ช้นั 3 ชั้น ถงึ 6 ชั้น

136 Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 ขวดพลาสตกิ สามารถข้ึนรปู ขวดไดห้ ลายวิธี ได้แก่ การเป่าขนึ้ รปู การฉดี ขน้ึ รูป การเปา่ แบบฉดี และ การเป่าแบบยืด บรรจภุ ณั ฑท์ ี่ใช้ขวดพลาสติก เชน่ ขวดนา้ํ ดื่ม ขวดยาสระผม ขวดนาํ้ ปลา ขวดยา เป็นต้น ดงั แสดงในภาพที่ 5.27

ภาพที่ 5.27 บรรจุภณั ฑพ์ ลาสตกิ ประเภทกงึ่ คงรูปชนิดขวดพลาสติก 2.3 หลอดพลาสตกิ (Tube) หรือหลอดบีบ (Collapsible Tube) เปน็ บรรจุภณั ฑ์ กึ่งคงรปู ทใ่ี ช้บรรจุผลติ ภัณฑ์ประเภทของเหลวและก่งึ ของเหลว พลาสตกิ ที่นำ�มาท�ำ หลอดขึ้นอยู่ คุณลกั ษณะของพลาสตกิ แตล่ ะชนิดทนี่ �ำ มาใช้ หลอดพลาสติกมที ้ังทที่ �ำ จากพลาสตกิ ช้นั เดียวหรือ จากพลาสตกิ ชนิดเดียว ท�ำ จากพลาสตกิ ชนดิ LDPE, HDPE, PP และท�ำ จากพลาสตกิ หลายชนั้ เพ่ือให้ มคี ณุ สมบตั ิดีข้นึ บรรจภุ ัณฑท์ ใ่ี ช้หลอดพลาสตกิ เชน่ หลอดยาสระผม หลอดนมข้นหวาน หลอดยา ประเภทครมี หลอดซอสมะเขอื เทศ หลอดยาสฟี นั เป็นต้น ดงั แสดงในภาพท่ี 5.28

ภาพท่ี 5.28 บรรจภุ ณั ฑ์พลาสติกประเภทก่งึ คงรปู ชนิดหลอดพลาสตกิ 3. บรรจภุ ัณฑ์พลาสติกประเภทคงรูป (Rigid Forms) หรือประเภทแข็งตัว เป็น บรรจภุ ัณฑพ์ ลาสติกท่ีมีความคงรูปมากกว่าบรรจภุ ัณฑ์ประเภทก่งึ คงรปู มคี วามเแขง็ แรง สามารถตัง้ ได้

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5 137 ไมบ่ ดิ งอได้ง่าย คอ่ นข้างมีนํ้าหนกั นิยมใช้บรรจผุ ลติ ภณั ฑท์ ง้ั ของแขง็ และของเหลว ใช้ในการขนสง่ บรรจภุ ัณฑ์พลาสตกิ ประเภทน้ี ไดแ้ ก ่ ถงั และลงั พสาสติก ซ่งึ สามารถอธิบายได้ ดังนี้ 3.1 ถงั พลาสตกิ (Plastic Drum) เป็นพลาสตกิ หนา เหนยี ว และแข็งแรง สามารถรอง รบั นํ้่าหนกั ได้มาก มีท้งั ชนิดมหี ูห้ิวและไมม่ ีหูหวิ้ มฝี าหรอื ไมม่ ีฝาก็ได้ มหี ลายรูปแบบและรปู ทรง ใชบ้ รรจุ ผลิตภัณฑ์ของแข็งและของเหลวได ้ ถังพลาสติกมักใช้บรรจผุ ลติ ภณั ฑ์ประเภทถงั สที าบ้าน ถงั นํา้ มัน ถงั ใส่สารเคมี เปน็ ตน้ ดงั แสดงในภาพท่ี 5.29

ภาพที่ 5.29 บรรจภุ ัณฑพ์ ลาสตกิ ประเภทคงรูปชนดิ ถงั พลาสตกิ 3.2 ลังพลาสตกิ (Plastic Crate) เปน็ พลาสตกิ หนา เหนยี วแตน่ ้อยกวา่ ถงั พลาสติก มีความแข็งแรง สามารถรองรบั น้ํ่าหนกั ไดม้ าก รองรับการซอ้ นทับไดด้ ี มฝี าหรือไมม่ ีฝาก็ได้ มหี ลาย รปู แบบและรปู ทรง ใช้บรรจผุ ลิตภณั ฑ์ของแข็ง มีหลากหลายขนาด หากมีขนาดเลก็ มกั เรยี กตระกร้า พลาสตกิ มากกว่าลังพลาสติก ลังพลาสติกมักใชบ้ รรจผุ ลิตภัณฑ์ประเภทผลิตผลทางการเกษตร เชน่ ผัก ผลไม้ เปน็ ต้น ดังแสดงในภาพท่ี 5.30

ภาพท่ี 5.30 บรรจุภณั ฑพ์ ลาสติกประเภทคงรปู ชนดิ ลงั พลาสติก

138

สรุป บรรจภุ ัณฑ์พลาสติกเปน็ บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีนิยมใช้เปน็ อย่างมากในปัจจบุ นั เพราะมรี าคาของ พสาสติกไมแ่ พงมาก พลาสติกบางชนิดสามารถเวียนใช้ใหมไ่ ด้หลายครง้ั บางชนดิ สามารถน�ำ ไปรไี ซเคิล ใหมไ่ ด้ สามารถบรรจุผลิตภัณฑต์ า่ ง ๆ ได้ ทงั้ ของแขง็ และของเหลว สามารถปกปอ้ งรกั ษาคณุ ภาพของ ผลิตภัณฑ์ไดด้ กี ว่าบรรจุภัณฑแ์ บบกระดาษ สามารถปอ้ งกนั อากาศ ไอนํ้าและความชน้ื ได้ เหมาะสำ�หรบั การทำ�เป็นบรรจภุ ัณฑ์เพอ่ื การคา้ ปลีก ยังสามารถท�ำ บรรจภุ ัณฑเ์ พื่อการรวมหนว่ ยและเพอื่ การขนส่งได้ ด้วย การเลือกใชพ้ ลาสติกแต่ละประเภทตอ้ งเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกับคณุ ลักษณะและความตอ้ งการของ ผลิตภณั ฑด์ ว้ ย ดงั นัน้ การเลอื กประเภทและชนิดของพลาสตกิ จะเปน็ สว่ นสำ�คญั ในการรกั ษาคณุ ภาพ ของผลติ ภณั ฑ์ใหม้ คี ุณภาพจนถึงผู้ใชผ้ ลติ ภัณฑ์น้ัน ๆ พลาสติกท่ีนำ�มาใชก้ ารพมิ พ์บนพลาสตกิ ก็สามารถ พิมพไ์ ด้สวยงาม เช่น การพิมพด์ รายออฟเซต การพมิ พร์ ะบบเฟล็กโซกราฟี การพิมพอ์ อฟเซต การพิมพ์ กราเวยี ร์ การพิมพ์สกรีน การพิมพ์ดิจทิ ลั เปน็๋ ต้น Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

139

ค�ำ ถามท้ายบท

1. สว่ นประกอบของพลาสติกมีอะไรบา้ ง 2. โครงสรา้ งพลาสติกมีอะไรบา้ ง 3. พลาสตกิ ท่ีสามารถน�ำ กลบั มารไี ซเคลิ ไดม้ คี วามหมายวา่ อยา่ งไร 4. พลาสติกประเภทใดที่สามารถน�ำ กลับมารีไซเคิลได้่ 5. พลาสติกบางชนิดไม่สามารถน�ำ กลบั มารไี ซเคิลได้เพราะสาเหตุใด 6. พลาสติกชนิดใดเมือ่ ถกู ความร้อนจะหดตวั ได้และมกั ใช้กับบรรจุภณั ฑป์ ระเภทใด 7. ฟิล์มพลาสตกิ มกี ่ชี นดิ อะไรบ้าง 8. ถ้าจะบรรจุนํ้ายาล้างแบบเตมิ จ�ำ นวน 750 ซซี ี เม่ือค�ำ นวณต้นทนุ ของพลาสตกิ แล้ว ควรเลือกบรรจุภณั ฑ์พลาสตกิ ประเภทใดจึงจะมตี น้ ทนุ ตาํ่ ท่สี ดุ 9. บรรจุภัณฑก์ ีง่ คงรปู มลี กั ษณะอย่างไรและลองยกตวั อยา่ งบรรจุภณั ฑป์ ระเภทน้ีมาสกั 2 ตวั อย่าง 10. บรรจุภัณฑ์คงรูปมลี กั ษณะอยา่ งไรและลองยกตัวอย่างบรรจภุ ัณฑป์ ระเภทน้มี าสัก 2 ตัวอยา่ ง Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

140

เอกสารอา้ งองิ

EMR Labs, LLC. (2008). Guide to Plastic Recycling Symbols. Retrived February, 15, 2016, from https://www.quantumbalancing.com/recycle.htm

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5

Packaging PrinPtinagckTaegcinhPgnaoPclorkignaytgini5nggTPercinhtninogloTgeyc5hnology 5