Dayjight saving time ม กนำมาใช ปร บเวลาในช วงใด ฤด ใดของป

โดยทั่วไปประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกจะใช้เวลามาตรฐานตามเวลามาตรฐานสากล (UTC) เวลามาตรฐานจะกำหนดตามแต่ละประเทศหรือภูมิภาค

เวลามาตรฐานจะถูกกำหนดโดยประเทศและภูมิภาคโดยมี “เขตเวลา” ซึ่งใช้เพื่ออ้างอิงถึงพื้นที่ทั้งหมดที่ใช้เวลามาตรฐานเดียวกัน ในปัจจุบันโลกแบ่งออกเป็น 38 เขตเวลา (เมื่อ มกราคม 2019)

Daylight Saving Time (DST)

Daylight Saving Time (DST) จะมีการตั้งค่าแตกต่างกันไปตามพื้นที่ต่างๆ

Daylight Saving Time หมายถึงเวลาในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยยืดเวลาในช่วงกลางวัน โดยการปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงที่ช่วงกลางวันมีเวลายาวในช่วงฤดูร้อน

มีการใช้ Daylight Saving Time ในประมาณ 80 ประเทศ โดยส่วนมากจะเป็นประเทศในยุโรปและอเมริกาเหนือ การใช้และระยะเวลาของ Daylight Saving Time จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

ขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนเข้าใจตรงกันว่า ถ้าเราพูดถึงวันเวลาเท่านี้ในประเทศหนึ่ง จะมีค่าเท่าไรในประเทศอื่น ๆ

⏰ โดยปัจจุบันโลกเรากำหนดจุดเริ่มต้นของเวลามาตรฐาน (Universal Time Coordinated : UTC) ไว้ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นั่นหมายความว่า กรุงลอนดอนจะมีค่า UTC = 0 และเมืองหรือประเทศอื่นที่อยู่ถัดไปซ้ายหรือขวา เวลา UTC ก็จะเป็น -1 หรือ +1 ไปเรื่อย ๆ

เช่น ประเทศไทย ที่อยู่ทิศตะวันออกหรือฝั่งขวาของกรุงลอนดอน ก็จะมีเวลา UTC = +7 กล่าวคือ ถ้ากรุงลอนดอนเป็นเวลา 10.00 น. กรุงเทพฯก็คือเวลา 17.00 น. นั่นเอง

แต่สำหรับในบางประเทศ การมีเวลาที่คงที่เดินตรง 24 ชั่วโมงตลอดทั้งปี อาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป โดยเฉพาะประเทศในซีกโลกเหนือและใต้ ที่มีภูมิประเทศอยู่ใกล้แกนโลก จะพบว่าดวงอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นตรงเวลาในทุก ๆ วัน เช่น ในช่วงฤดูร้อนของประเทศเหล่านี้ จะมีช่วงกลางวันที่ยาวนานไปจนถึงสามสี่ทุ่มเลย เรียกว่า สว่างเร็วกว่าเดิมและยังค่ำช้ากว่าปกติอีก

📗 นั่นจึงเป็นที่มาของข้อตกลงที่ชื่อว่า Daylight Saving Time (DST) หรือ “เวลาออมแสง” หรือหากเป็นคำเรียกของฝั่งสหรัฐฯ จะเรียกว่า “เวลาฤดูร้อน” โดยการมี DST ก็เพื่อให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นลงของดวงอาทิตย์ ปรับเวลาให้เข้ากับสภาพกลางวันและกลางคืนจริง ๆ

☀ ก็ในเมื่อคนเราต้องตื่นตามการขึ้นของดวงอาทิตย์อยู่แล้ว ในเมื่อฤดูร้อน ดวงอาทิตย์ขึ้นเร็ว เราก็ตื่นเร็ว ๆ ไปเลยสิ จะได้ออกไปทำงานได้เร็วขึ้นด้วย

DST จึงเป็นการปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในฤดูร้อนที่ดวงอาทิตย์ขึ้นเร็ว และกลับมาปรับให้ช้าลง 1 ชั่วโมงตามเดิม เมื่อสิ้นสุดหน้าร้อนหรือกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว

ในฐานะนักลงทุน Dime! พวกเราก็อาจได้รับผลกระทบจากการปรับเวลาของตลาดหุ้นต่างประเทศด้วย วันนี้เลยขอมาเล่าตารางเวลา DST ของประเทศสหรัฐฯ รวมถึงเวลาเปิดปิดตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตาม DST เพื่อให้เพื่อน ๆ ไม่พลาดทุกการลงทุนไม่ว่าจะในหน้าร้อนหรือหน้าหนาวยาว ๆ ไป ดังนี้ครับ

น้อง ๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสหราชอาณาจักรหรือสหภาพยุโรป คงคุ้นชินกันดีกับการปรับเวลาแบบ Daylight Saving Time หรือมีชื่อเรียกโดยทั่วไปอีกอย่างว่า British Summer Time (BST) คือการปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงหน้าร้อน และปรับกลับมาเป็นเวลาปกติในช่วงหน้าหนาว แต่สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อ หรือเคยได้ยินมาแต่ก็ยังสงสัยว่าเขาปรับเวลากันยังไง มาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันเลย

Q: ทำไมต้องมีการปรับเวลา?

A: เพราะพระอาทิตย์ในสหราชอาณาจักรและประเทศในแถบยุโรปจะขึ้นเร็วกว่าปกติในช่วงฤดูร้อน ผู้คนก็จะตื่นกันเร็วขึ้นตามแสงพระอาทิตย์เจิดจ้า และพระอาทิตย์ก็จะตกช้าลง บางครั้งสี่ทุ่มแล้วผู้คนก็ยังเดินชิลกันเหมือนหกโมงเย็น (เพราะมันสว่างมากจริง ๆ ไม่ได้โม้นะ!) ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่พระอาทิตย์จะขึ้นในเวลา 6 โมงเช้า และตกในเวลา 6 โมงเย็นตลอดทั้งปี

ดังนั้น เพื่อไม่ให้พระอาทิตย์ที่ขึ้นก่อนเวลาสูญเสียพลังงานไปโดยใช่เหตุ ก็เลยมีการตกลงกันว่า ‘ทุกอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมและตุลาคมของทุกปี’ จะมีการปรับเวลาในช่วงฤดูร้อนให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง และปรับกลับในช่วงฤดูหนาว เพื่อให้ผู้คนตื่นมาใช้ชีวิต และใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์กันได้อย่างยาวนานและคุ้มค่ามากขึ้น

Q: แล้วมันปรับอย่างไรคะ?

A: เชื่อว่าน้อง ๆ ทุกคนก็คงสงสัย และอยากไปนั่งดูนาฬิกาตอนมันปรับเวลาเหมือนกับพี่ไรท์เตอร์ ซึ่งเข้าใจถูกแล้วค่ะ ในเวลา 01:00 ของทุกวันอาทิตย์สุดท้ายในเดือนมีนาคม เวลาจะกระโดดไปเป็น 02:00 ในนาทีถัดไป ซึ่งเปลี่ยนจากความต่างจากไทย 7 ชั่วโมง เป็น 6 ชั่วโมง โดยปรับจาก GMT +0 เป็น GMT +1 และในเวลา 02:00 ของทุกวันอาทิตย์สุดท้ายในเดือนตุลาคม เวลาจะถูกตีกลับมาเป็น 01:00 ซึ่งถ้าเป็นนาฬิการะบบดิจิตอลหรือนาฬิกาในโทรศัพท์ แล็ปท็อปต่าง ๆ เวลาจะถูกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าใครใช้นาฬิกาแบบเข็มก็ต้องมีการหมุนปรับเวลาก่อนเข้านอนกันสักนิด

Q: ทำไมต้องปรับเวลาในช่วงตี 1 ตี 2 คะ?

A: ก็เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังหลับใหล เป็นอีกเหตุผลว่าทำไมประเทศในทวีปยุโรปจึงเลือกปรับเวลากันในคืนวันอาทิตย์ของอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมและตุลาคม เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิตของประชากรยุโรปมาก ก็แค่ตื่นมาตามความเคยชินแล้วนอนต่ออีก 1 ชั่วโมง หรือตื่นมาตามเสียงนาฬิกาปลุกในช่วงฤดูหนาวแล้วรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม เพราะเวลานอนหายไป 1 ชั่วโมงนั่นเอง

พอเห็นภาพกันมากขึ้นไหมเอ่ย? ใครอยากลองเฝ้านาฬิกาช่วงปรับเวลาเหมือนพี่ไรท์เตอร์ ปี 2023 ที่สหราชอาณาจักรจะปรับเข้าเวลาฤดูร้อนในวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม และปรับกลับเป็นเวลาฤดูหนาวในวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม ใครต้องเดินทางในช่วงวันนั้น อย่าลืมเช็กเวลากันให้ดี ๆ เพื่อไม่ให้พลาดเที่ยวบิน เที่ยวเดินทาง หรือนัดสำคัญนะ


สนใจเรียนต่อสหราชอาณาจักร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รับคำแนะนำ และสมัครเรียนกับพี่ ๆ One Education ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรมา 30 ปี One Education ทุกสาขาพร้อมให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอน ฟรี!! Add Line: @one-edu คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ

โทรสอบถามสาขาใกล้บ้านคุณ สาขาชิดลม: 02-652-0718 สาขาปิ่นเกล้า: 02-884-5328 สาขาพระราม 2: 02-896-1445

One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว