Classy Clinic ฉีดปาก Pantip

สารบัญ ฟิลเลอร์ Restylane Kysse

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse คือฟิลเลอร์รุ่นเดียว ที่ออกแบบมาเพื่อฉีดและแก้ไขปัญหาริมฝีปากโดยเฉพาะ โดยลักษณะพิเศษของ Restylane Kysse คือเป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สามารถช่วยสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้น เพิ่มความความชุ่มชื้น เติมความอวบอิ่ม และปรับสีปากให้ดูสดใสขึ้นได้

“

“Your KYSSE, Your Confidence”

“

“ ข้อควรรู้ : Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่เริ่มผลิตมาได้ยาวนานที่สุดในโลกและยังคงความนิยมถึงปัจจุบัน เป็นของบริษัท Galderma บริษัทยาเจ้าใหญ่โดยฟิลเลอร์ Restylane ผลิตในประเทศสวีเดน เทคโนโลยีในการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ คือ NASHA techology และ OBT technology ”

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse ฉีดปากดีไหม ?

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี OBT Technology หรือ Optimal Balance Technology ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ฟิลเลอร์แบบ 2 in 1 จุดเด่นคือจะทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น แต่ยังมีความคงตัว ฉีดแล้วสามารถคงรูปได้ดี จึงเหมาะกับการฉีดบริเวณริมฝีปากซึ่งเป็นจุดที่มีการขยับบ่อย หลังจากฉีดจะได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน โดย Restylane Kysse สามารถตอบโจทย์ 3 ทรงปากยอดนิยมของผู้หญิงไทย ได้แก่ 

1. Sexy KYSSE ทรงปากสายฝอ เพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากทั้งบนและล่างในสัดส่วน 1:1 
2. Cherry KYSSE ทรงปากกระจับ ริมฝีปากล่างอวบอิ่ม สไลต์เกาหลี คล้ายผลเชอร์รี่
3. Classy KYSSE เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก อวบอิ่ม ดูสุขภาพดี กลบร่องบนริมฝีปากให้ตื้นขึ้น

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก สิ่งที่คนไข้หลายคนกังวลคือฉีดปากมาแล้วจะดูไม่เป็นธรรมชาติ ดูแข็ง เวลาพูดหรือยิ้มจะรู้สึกเป็นก้อน เนื่องจากปากเป็นผิวเนื้อที่แตกต่างกับจุดอื่นในร่างกาย จึงต้องใช้เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ในการฉีดเพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติที่สุด 

ซึ่งฟิลเลอร์ Restylane Kysse ถูกออกแบบมาเพื่อปิดจุดอ่อนเหล่านี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้เมื่อฉีด Restylane Kysse กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ออกแบบทรงปากที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยปรับทรงปากให้สวยขึ้น ยังทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นและมีมิติหน้ามองมากขึ้นด้วย ช่วยเสริมบุคคลิกภาพเวลาพูดหรือยิ้ม สามารถเพิ่มความมั่นใจด้วยฟิลเลอร์เพียง 1-2 CC เท่านั้น

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse อยู่ได้นานแค่ไหน ?

โดยปกติปากเป็นจุดที่มีการขยับบ่อย ๆ กระทบกระเทือนได้ง่าย หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ หากรู้สึกว่าปากเริ่มเล็กลงก็สามารถเติมฟิลเลอร์เพิ่มได้ครับ และสำหรับ ฟิลเลอร์ Restylane Kysse เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถให้ผลลัพธ์หลังฉีดได้ยาวนานถึง 1 ปี 

Restylane Refyne vs Kysse

ฟิลเลอร์ปาก จริง ๆ แล้วสามารถใช้ได้หลายรุ่น ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ สภาพผิวริมฝีปาก และการประเมินของแพทย์ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมี Restylane Kysse ฟิลเลอร์ Restylane Refyne ก็ได้รับความนิยมในการนำมาฉีดปากครับ โดยสามารถสรุปข้อแตกต่างได้ดังนี้

• Restylane Refyne ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่ม ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม และเน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ 
• Restylane Kysse ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้น อวบอิ่ม ปรับสีปากให้ดูสุขภาพดี ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปาก เซ็กซี่แบบธรรมชาติ ทรงปากที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุด  

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse vs Juvederm

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ Restylane เพียงอย่างเดียวครับ แบรนด์ฟิลเลอร์อย่าง Juvederm จากอเมริกาก็เป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานระดับโลกและเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ทั่วโลก ข้อแตกต่างของทั้งสองยี่ห้อคือการใช้เทคโนโลยีการผลิตเฉพาะที่แตกต่างกัน 

ฟิลเลอร์ Juvederm จะใช้เทคโนโลยี Hylacross Technology และ Vycross Technology สำหรับฟิลเลอร์ปากจะเหมาะกับ Vycross ที่มีจุดเด่นคือสามารถฉีดเพื่อเติมความอวบอิ่มของริมฝีปากได้ดี เช่น Juvederm Voluma, Juvederm Volift, Juvederm Volite และเทคโนโลยี Hylacross เช่น Juvederm ultra plus ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นและเพิ่มความอวบอิ่ม

สำหรับใครอยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ หมอเคยเขียนอธิบายไว้ในบทความ ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ใต้ตา ปาก ร่องแก้ม คาง ควรเลือกใช้รุ่นไหนดีที่สุด?

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse ราคาเท่าไหร่ ?

สำหรับที่ V Square Clinic ฟิลเลอร์ Restylane Kysse ราคา 16,000.-/ 1CC ฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์กว่า 15 ปี และออกแบบทรงปากสำหรับแต่ละเคสโดยเฉพาะครับ โดยใช้เทคนิคพิเศษในการฉีดทำให้ได้ทรงปากที่สวยงาม ขอบชัด และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด 

ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก นอกจากต้องเลือกเนื้อฟิลเลอร์ให้เหมาะสมแล้ว แพทย์ผู้ทำการฉีดจะต้องใส่ใจในบริเวณ Vermilion border (ขอบปาก) และ Philtrum (ร่องบนริมฝีปาก) เนื่องจากคนไข้หลายคนมีปัญหาขอบปากไม่ชัด หรือปากเรียบแบนไม่เป็นทรง การฉีดฟิลเลอร์ที่ดีจะต้องช่วยสร้างขอบปาก เติมติ่งริมฝีปาก (Tubercle) ทำให้เป็นทรงกระจับสวยมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มความหนาเท่านั้นครับ

โปรโมชั่นฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse รีวิว

รีวิว ฟิลเลอร์ Restylane Kysse 2CC

รีวิว ฟิลเลอร์ Restylane Kysse 1CC

รีวิว ฟิลเลอร์ Restylane Kysse 2CC

รีวิว ฟิลเลอร์ Restylane Kysse 2CC

button

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ Restylane Kysse

ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณใด การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว ทรงสวย และอยู่ได้นานครับ โดยเฉพาะฟิลเลอร์ปาก ควรดูแลตัวเองหลังฉีด ดังนี้

1. ห้ามกด นวด คลึง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด Restylane Kysse
2. ใน 12 ชั่วโมงแรก ควรงดการใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติก งดสูบบุหรี่ งดการทำกิจกรรมหรือออกกำลังหนัก ๆ ที่จะทำให้ปากเสียรูปทรง เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี
3. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจเกิดทำให้ปากเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้ง่ายขึ้น
4. ห้ามดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง 
5. การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น และอยู่ได้นานขึ้น ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์
6. หลังจาก 12 ชั่วโมงสามารถทาลิปเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากได้

ฉีดฟิลเลอร์ Restylane Kysse ที่ไหนดี ?

1. คลินิกได้มาตรฐานและมีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยสังเกตได้จากมีป้ายชื่อสถานพยาบาล พร้อมเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ตามกฎหมายต้องระบุให้แสดงใบอนุญาตให้ชัดเจน
2. ใช้ฟิลเลอร์แท้ ก่อนฉีดหมอมีการแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า และสามารถขอกล่องกลับบ้านได้
3. แพทย์ผู้ทำหัตถการสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริง มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างชำนาญ
4. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ผลการรักษา ก่อนทำ-หลังทำ ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบได้ เช่น Facebook Review, Pantip
5. มีการติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ และมีข้อแนะนำการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด
6. มีช่องทางที่สามารถติดต่อได้สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดตามแพทย์ที่เป็นเจ้าของเคสได้ทันที เช่น เบอร์โทรศัพท์, line@, Facebook messenger