ในสถานการณ์วิกฤตอย่างกรณีโควิด-19 หลายคนอาจมีปัญหาการเงินแบบชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะรายได้ลดลง บางคนอาจถึงขั้นขาดรายได้ไปเลย ทำให้ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และประหยัดกันให้มากขึ้น สำหรับใครที่มีหนี้ต้องจ่าย ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะสามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ การคิดว่า ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย อาจทำให้เรื่องบานปลายจนถึงขั้นถูกยึดทรัพย์สิน และเสียประวัติเครดิตไปเลยก็เป็นได้ การขอปรับโครงสร้างหนี้เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้ไม่ผิดนัดชำระ และรักษาทรัพย์สินไว้ได้ โดยในเว็บไซต์ของศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แนะนำการปรับโครงสร้างหนี้ไว้ 4 แบบ แต่ละแบบก็เหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป 1. จ่ายไหว แต่อยากประหยัดรายจ่ายที่เป็นดอกเบี้ยลง สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ ดังนี้
2. จ่ายได้ไม่เต็มจำนวนที่ถูกเรียกเก็บ หรือจ่ายไม่ได้ตามสัญญา สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ ดังนี้
3. มีเงินก้อนแต่ไม่พอปิดหนี้ทั้งหมด สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ ดังนี้
4. จ่ายไม่ไหวเลย สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการ
สิ่งที่คนอยากมีบ้านกังวลที่สุดก็คือ การ กู้ซื้อบ้าน ไม่ผ่าน ใครกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ อย่าเพิ่งถอดใจ แล้วจะทำยังไงให้กู้ผ่าน มาดูวิธีจัดการเมื่อ กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน กัน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถกู้ผ่านและมีบ้านในฝันได้ง่ายขึ้น 1.กู้ไม่ผ่านเพราะมีหนี้สินเมื่อยื่นขอกู้เงิน ทางสถาบันการเงินจะตรวจสอบหนี้สินที่มีอยู่ทั้งหมดของคุณ ไม่ว่าจะ หนี้ผ่อนรถ หนี้บัตรเครดิต และหากรวมยอดแล้วคุณมีภาระหนี้สินมากกว่า 40% ของรายได้ส่วนใหญ่ จะมีโอกาสโดนปฏิเสธสูงมาก ดังนั้นควรรีบปิดหนี้ให้หมดก่อนที่จะขอยื่นกู้ ซึ่งถ้าไม่สามารถจัดการหนี้ได้ทั้งหมด แนะให้ทำการรีไฟแนนซ์เพื่อให้จำนวนเงินผ่อนต่อเดือนลดลง ก่อนทำการยื่นกู้อีกครั้ง 2.ติดเครดิตบูโรประวัติการชำระเงินของคุณจะปรากฏอยู่ในเครดิตบูโร ซึ่งสถาบันการเงินจะเช็กประวัติการชำระเงินของคุณจากเครดิตบูโรเพื่อใช้ในการพิจารณา โดยบางธนาคารอาจดูย้อนไปถึง 3 ปี ดังนั้นต้องพยายามรักษาวินัยทางการเงิน ถ้าเคยมีการประนอมหนี้หรือการปรับโครงสร้างหนี้เกิดขึ้น จะไม่สามารถขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคลได้อีก จนกว่าจะปิดบัญชีหนี้ที่เคยปรับโครงสร้างหนี้จนครบ 3 ปี และข้อมูลหายไปจากเครดิตบูโร หากปิดยอดเรียบร้อยแล้วอย่าลืมขอเอกสาร และแนบเอกสารเมื่อยื่นกู้สินเชื่อครั้งใหม่ 3.ติดผ่อนรถยนต์คันแรกหลายคนอาจไม่ทราบว่า นี่เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้ยื่นกู้ไม่ผ่าน ดังนั้นหากมีภาระผ่อนรถยนต์คันแรกอยู่ ก่อนยื่นกู้ให้สอบถามกับทางสถาบันการเงินให้ชัดเจนว่าเรายังมีความสามารถที่จะผ่อนชำระหนี้เพิ่มได้อีกหรือไม่ 4.หาผู้กู้ร่วมไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถมาเป็นผู้กู้ร่วมได้ เพราะคน ๆ นั้นต้องมีความน่าเชื่อถือ มีอาชีพที่มั่นคง เช่น ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ อัยการ แพทย์ ส่วนผู้กู้ร่วมที่ไม่ได้เป็นพนักงานประจำ หรือประกอบอาชีพอิสระต่าง ๆ หากไม่มีทุนทรัพย์หนา ไม่มีกิจการเป็นของตัวเอง และเสียภาษีเข้ารัฐอย่างถูกต้อง ก็ยากที่จะกู้ผ่านได้ 5.ไม่มีเงินออมการมีเงินออม โดยเฉพาะการออมเงินอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ทำให้สถาบันการเงินเห็นว่าคุณมีวินัยทางการเงินที่ดี และถ้าเงินออมมีจำนวนมากพอสมควร ก็ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ได้ ดังนั้นหากยังไม่ออมเงิน ก่อนยื่นกู้ซื้อบ้าน ควรออมเงินในบัญชีเงินฝากประจำก่อน 1-2 ปี หากคุณยื่นกู้ซื้อบ้านแล้วไม่ผ่าน กลับมาดูว่าปัญหาของคุณคืออะไร ถ้าอยู่ใน 5 ข้อนี้ก็จัดการแก้ไขให้พร้อมเสียก่อน ทีนี้ไม่ว่าจะยื่นกู้กับสถาบันไหนรับรองผ่านฉลุย |