บริษัท เค อ รี่ โล จิ สติ ค ส์ บางนา จำกัด

เคอรี่ โลจิสติกส์ ปลื้มกลุ่มลูกค้าด้านสินค้าไอทียักษ์ใหญ่จากจีน วางใจใช้บริการคลังสินค้าบางนา กม. 21 มั่นใจว่าปี 65 รายได้เติบโตมากกว่า 40%

วันที่ 11 เมษายน 2565 นายพงศ์ศิริ ศิริธร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เคอรี่ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Kerry Logistics Network Limited หรือ KLN บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเปิดให้บริการคลังสินค้าในโครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีลูกค้าให้ความสนใจเข้าใช้บริการมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ บริษัทจึงตั้งเป้าทำรายได้ในปีนี้ เติบโตมากกว่า 40% เมื่อเทียบจากปี 2564

• บำรุงราษฎร์-เมดพาร์ค ชิงแย่งตัวพยาบาล ทุ่มเงินแสนล็อกตัวหัวกะทิอยู่ยาว
• ขั้นตอน เช็กราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566 ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
• งานฉลองสมรส ลูกสาวสุวัจน์ บิ๊กการเมือง-นักธุรกิจชั้นนำ แห่ยินดีคับคั่ง

สำหรับลูกค้าหลักๆ ที่สนใจและใช้บริการคลังสินค้าของ เคอรี่ โลจิสติกส์ ยังเป็นกลุ่มแฟชั่นแอนด์ไลฟ์สไตล์ ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ธุรกิจแฟชั่นแอนด์ไลฟ์สไตล์ระดับบน ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย คาดว่าในปีนี้ในกลุ่มธุรกิจแฟชั่นแอนด์ไลฟ์สไตล์ จะมีสัดส่วนรายได้เติบโตขึ้นเท่าตัว

บริษัทได้ประเมิน หลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ธุรกิจแฟชั่น & ไลฟ์สไตล์จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตโดดเด่นจะเห็นได้จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบ ขณะที่กลุ่มธุรกิจแฟชั่น & ไลฟ์สไตล์ระดับบน ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย และในอนาคตประเทศไทยมีโอกาสเป็นศูนย์รวมแฟชั่นของแบรนด์ระดับโลกมากขึ้น

“คลังสินค้าใหม่ อยู่ในทำเลที่เหมาะสม และสะดวกในการขนส่งสินค้า เป็นคลังสินค้าที่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ การเดินทางเข้าใจกลางเมืองก็มีความสะดวกรวดเร็ว น่าจะเป็นโลเคชั่นที่ลูกค้าพึงพอใจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า แบรนด์เนม ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่เป็น แบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่มาให้บริการด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์ ส่งผลให้รายได้สินค้ากลุ่มแฟชั่นแอนด์ไลฟ์สไตล์ ที่บริษัทให้บริการด้านคลังสินค้ามีอัตราการเติบโตถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้บริษัทยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีจากประเทศจีน ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง มีสินค้าหลากหลาย มีทั้งสินค้าทั่วไปและสินค้าไฮเอนด์ เข้าใช้บริการคลังสินค้าของเคอรี่ โลจิสติกส์ ” นายพงศ์ศิริ

นายพงศ์ศิริ กล่าวอีกว่า การที่ เคอรี่ โลจิสติกส์ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า เพราะบริษัทมีทีมงานเป็นคนรุ่นใหม่เข้าใจธุรกิจของลูกค้า เข้าใจความต้องการของผู้บริโภค จึงทำให้บริษัทมีบุคลากรที่มีศักยภาพในการให้บริการ รวมทั้งบริษัทยังมีความพร้อมของเครือข่ายการให้บริการทั่วโลก ในขณะที่อัตราการให้บริการอยู่ในราคาที่เหมาะสม และในส่วนของทำเลที่ตั้งของคลังสินค้าเอื้ออำนวยความสะดวกต่อการเป็นศูนย์คัดแยก และการกระจายสินค้าซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

“ข้อดีของการที่ เคอรี่ โลจิสติกส์ มีเครือข่ายทั่วโลก ช่วยให้การทำงานของพนักงานพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและมีศักยภาพ เราได้เรียนรู้การทำงานจากเคอรี่ฯ ในต่างประเทศที่มีประสบการณ์มาก่อน ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ในอนาคตอยากเห็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกันกับเคอรี่ฯ ในประเทศอื่นๆ ทำการตลาดร่วมกัน สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าด้วยขั้นตอนการทำงานที่มีมาตรฐาน และมั่นใจเลือกใช้บริการกลุ่มเคอรี่ฯ ในทุกประเทศ”

นายพงศ์ศิริ ศิริธร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Kerry Logistics Network Limited หรือ KLN เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเปิดให้บริการคลังสินค้าในโครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 ตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา มีลูกค้าให้ความสนใจเข้าใช้บริการมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ บริษัทจึงตั้งเป้าทำรายได้ในปีนี้ เติบโตมากกว่า 40% เมื่อเทียบจากปี 2564

สำหรับลูกค้าหลักที่สนใจและใช้บริการคลังสินค้าของ เคอรี่ โลจิสติคส์ ยังเป็นกลุ่มแฟชั่นแอนด์ไลฟ์สไตล์ ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ธุรกิจแฟชั่นแอนด์ไลฟ์สไตล์ระดับบน ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย คาดว่าในปีนี้ในกลุ่มธุรกิจแฟชั่นแอนด์ไลฟ์สไตล์ จะมีสัดส่วนรายได้เติบโตขึ้นเท่าตัว

นายพงศ์ศิริ กล่าวอีกว่า บริษัทได้ประเมิน หลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ธุรกิจแฟชั่น&ไลฟ์สไตล์จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตโดดเด่นจะเห็นได้จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบ ขณะที่กลุ่มธุรกิจแฟชั่น&ไลฟ์สไตล์ระดับบน ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย และในอนาคตประเทศไทยมีโอกาสเป็นศูนย์รวมแฟชั่นของแบรนด์ระดับโลกมากขึ้น 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีจากประเทศจีน ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง มีสินค้าหลากหลาย มีทั้งสินค้าทั่วไปและสินค้าไฮเอนด์

"คลังสินค้าใหม่อยู่ในทำเลที่เหมาะสม และสะดวกในการขนส่งสินค้า เป็นคลังสินค้าที่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ การเดินทางเข้าใจกลางเมืองก็มีความสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งบริษัทยังมีความพร้อมของเครือข่ายการให้บริการทั่วโลก ในขณะที่อัตราการให้บริการอยู่ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า"

นายนายพงศ์ศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดแข็งของเคอรี่ โลจิสติคส์ คือ การมีเครือข่ายอบู่ทั่วโลก จึงได้มีการได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ระหว่างกัน โดยในอนาคตอาจมีโอกาสทำการตลาดร่วมกันกับเคอรี่ ในประเทศอื่น เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการบริการในทุกประเทศ