เปิด ร้าน กาแฟ ขาย อะไร เสริม ดี

ความนิยมในการดื่มกาแฟ อาจได้เรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมสากลอย่างหนึ่งของโลกไปแล้วก็ว่าได้ ทำให้การเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวกับกาแฟที่สำคัญอย่าง ร้านกาแฟ คาเฟ่ เป็นที่สนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าหลายๆ คนที่รักการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว ก็คงจะมีความฝันอยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเองขึ้นสักร้านหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าการเริ่มต้นทำกิจการด้วยเองนั้น จำเป็นจะต้องรู้เรื่องการวางแผนต่างๆ มากมาย 

บทความนี้ Aroma จึงมีข้อมูลดีๆ สำหรับใช้เป็นแนวทางในการคิดวางแผนให้กับคนที่อยากเปิดร้านกาแฟกันว่า จะต้องรู้อะไรบ้างก่อนเริ่มลงทุน เพื่อให้ร้านกาแฟของเรานั้นประสบความสำเร็จมาฝากกัน

ข้อควรรู้ก่อนการลงทุน หากอยากเปิดร้านกาแฟ

ความนิยมในการดื่มกาแฟนั้นเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ จนปฏิเสธไม่ได้ว่าการเติบโตของธุรกิจกาแฟอย่าง ร้านกาแฟ คาเฟ่ในปัจจุบันก็มีเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน อัตราการแข่งขันด้านธุรกิจนี้จึงสูงตามไปด้วย หากว่าอยากเปิดร้านกาแฟให้ประสบความสำเร็จได้ ก็จะต้องสร้างเอกลักษณ์และความโดดเด่นที่แตกต่างให้กับร้านกาแฟของเราเพื่อดึงดูดลูกค้าให้ได้ ดังนั้นก่อนจะวางแผนในเรื่องของการลงทุนอย่างจริงจังในการเปิดร้านกาแฟ จึงจำเป็นจะต้องสำรวจตัวเองด้วยข้อควรรู้สำคัญหลักๆ ได้แก่

  • การลงทุน: อย่างแรกที่สำคัญและเป็นหัวใจหลักในการเริ่มดำเนินธุรกิจเลยก็คือ งบประมาณในการลงทุน ควรตั้งงบให้กับตัวเองก่อนว่ามีประมาณไหน เพื่อที่จะสามารถกำหนดขอบเขตของธุรกิจของเราได้ว่า เราจะเปิดร้านกาแฟในรูปแบบไหนได้บ้าง รวมถึงการจัดสรรงบประมาณสำรองไว้ดูแลธุรกิจในช่วงแรกของการคืนทุนก่อนที่จะได้กำไรอย่างเต็มที่ด้วย
  • ความพร้อม: ต่อมาเราจะต้องรู้ก่อนว่ามีความพร้อมขนาดไหน ในเรื่องของรายละเอียดในการเปิดร้านกาแฟว่าจำเป็นจะต้องใช้อะไรบ้าง ทั้งเครื่องมือในการชงกาแฟ วัตถุดิบร้านกาแฟ เมล็ดกาแฟ อุปกรณ์ต่างๆ ว่าเรามีความรู้มากแค่ไหน การศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนจะทำให้เราสามารถรู้ข้อดี-ข้อเสียเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบ และกำหนดกลุ่มเป้าหมายของเราได้
  • ทำเล: สถานที่หรือทำเลที่ตั้งดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว เพราะการเข้าถึงที่ง่ายและสะดวกจะช่วยให้ร้านกาแฟของเรามีโอกาสสร้างรายได้ได้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นหลักการในข้อนี้ก็ควรนำไปพิจารณาและไม่ควรมองข้ามกันนะ เพราะหากได้ทำเลที่ดีก็ถือเป็นตัวช่วยได้มากเลยทีเดียว
  • สไตล์และเอกลักษณ์: พูดถึงทำเลที่ดีไปแล้ว หากอยากเปิดร้านกาแฟจริงๆ แต่ยังหาทำเลดีๆ ที่เหมาะสมยาก ทำให้หลายคนกลัวว่าจะไม่มีลูกค้า เพราะหากร้านของเรามีสไตล์ที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว คอกาแฟสมัยนี้ก็จะตามไปนั่งดื่มด่ำกันให้ได้อย่างแน่นอน

กำหนดเมนูในร้าน: สิ่งสำคัญสำหรับการเปิดร้านกาแฟเลยก็คือ เมนูเครื่องดื่มต่างๆ โดยเราจะต้องกำหนดว่า จะคัดสรรเมนูอะไรมาไว้บริการบ้าง เพื่อสร้างเอกลักษณ์และความโดดเด่น อาจจะคิดค้นเมนู Signature ที่ใครมาร้านเราก็ต้องสั่งหรือจะต้องเป็นเมนูที่หาดื่มได้ที่เราร้านเท่านั้น เพื่อให้เกิดการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้ และอาจจะมีเมนูขนม เบเกอรีควบคู่ไปด้วย เหล่านี้จำเป็นจะต้องกำหนดให้ลงตัวก่อนด้วย เพื่อการกำหนดขอบเขตการลงทุนนั่นเอง

เปิด ร้าน กาแฟ ขาย อะไร เสริม ดี

ร้านกาแฟที่เหมาะกับมือใหม่ เปิดรูปแบบไหนดี

ร้านกาแฟ คาเฟ่สามารถเปิดได้หลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสมทางธุรกิจ แต่สำหรับผู้เริ่มต้นนั้นเราจำเป็นจะต้องพิจารณาและวิเคราะห์เบื้องต้นจาก งบในการลงทุน และการประเมินว่าเราสามารถจัดการบริหารการให้บริการได้อย่างครอบคลุม และต้องไม่หนักเกินไป ดังนั้นสำหรับผู้ที่เริ่มต้นอยากเปิดร้านกาแฟ ก็อาจจะเหมาะกับรูปแบบร้านกาแฟที่ไม่ใหญ่มาก สามารถบริหารได้ด้วยตัวเองหรือใช้พนักงานไม่มาก เช่น

  • ร้านกาแฟขนาดเล็ก: การเลือกเปิดร้านกาแฟขนาดเล็กนั้น ทำให้เราสามารถบริหารจัดการร้านได้ด้วยตัวเอง โดยอาจไม่ต้องจ้างพนักงาน อาจเป็นร้านกาแฟที่เป็นแบบสั่งกลับบ้าน จะเลือกเป็นร้านกาแฟสดหรือกาแฟโบราณก็ได้ ด้วยการใช้พื้นที่ที่มีอยู่แล้ว แบ่งโซนออกมาโดยที่ไม่ต้องเสียค่าเช่า เช่น บริเวณหน้าบ้าน เป็นต้น หากเปิดเป็นร้านกาแฟสดที่บ้าน แนะนำให้ลงทุนกับเครื่องชงกาแฟแบบหัวเดียว ที่มีราคาไม่สูง  เพราะจะช่วยประหยัดงบ ลงทุนไม่ต้องสูง เพียงเท่านี้ก็มีร้านกาแฟเป็นของตัวเองได้แล้ว
  • ร้านกาแฟขนาดกลาง: ร้านขนาดกลางก็สามารถบริหารได้ด้วยตัวเองเช่นกัน แต่อาจต้องพึ่งพาพนักงาน 1 – 2 คนสำหรับให้บริการลูกค้า หากมีงบเพียงพอเราก็สามารถจัดตกแต่งพื้นที่รองรับการนั่งดื่มกาแฟแบบเล็กๆ ได้ตามสไตล์ที่เราชอบเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้าน โดยหากเปิดร้านกาแฟสด แนะนำให้ซื้อเครื่องชงกาแฟแบบสองหัว เพื่อรองรับลูกค้าได้อย่างเพียงพอ
  • ร้านกาแฟเคลื่อนที่: ร้านกาแฟรูปแบบนี้เหมาะกับผู้ที่อยากเปิดเป็นอาชีพเสริม ที่สามารถเปิดขายตามจุดต่างๆ ได้ เพราะเป็นรูปแบบร้านที่สามารถเปิดขายได้ตามวันเวลาและสถานที่ที่สะดวกนั่นเอง

4 แนวทางการลงทุนต้องรู้ หากอยากเปิดร้านกาแฟในฝันให้เป็นจริง

หากมั่นใจและกำหนดรูปแบบร้านกาแฟในฝันของตัวเองได้แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาที่ต้องรู้และวางแผนให้ดีๆ เลยก็คือ แนวทางการลงทุนนั่นเอง เพราะหากเราอยากเปิดร้านกาแฟให้ประสบความสำเร็จได้ท่ามกลางการแข่งขันที่สูง นอกจากเรื่องรูปแบบทางธุรกิจแล้ว ยังมีในเรื่องของงบประมาณที่ต้องเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบด้วย

1.รู้เป้าหมายชัดเจน กำหนดเงินทุนได้เหมาะสม

เมื่อมั่นใจแล้วว่าร้านกาแฟของเราจะต้องออกมาในรูปแบบไหน สิ่งสำคัญคือ เงินลงทุน ต้นทุน ค่าใช้จ่าย และราคาขายจะต้องสอดคล้องกัน นั่นก็เพราะว่าในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่กำหนดและส่งผลต่อระยะเวลาการคืนทุนของร้าน ฉะนั้นหากเรากำหนดราคาขายกาแฟหรือเมนูต่างๆ ภายในร้านได้สอดคล้องกับเงินลงทุนด้านต่างๆ เราก็จะได้คืนทุนในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย ยิ่งในกรณีของผู้ที่มีการกู้เงินมาลงทุน ในส่วนนี้ยิ่งจะต้องวิเคราะห์และคำนวณให้ดี เพื่อจะได้ไม่เป็นการสร้างภาระการคืนทุนนานจนเกินไปนั่นเอง

2.วิเคราะห์เงินทุนเริ่มต้นให้ถูก เตรียมเงินทุนสำรองให้ดี

ในการเปิดกิจการใดๆ ก็ตาม การวิเคราะห์เงินทุนนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก สำหรับการเปิดร้านกาแฟ หลักๆ แล้ว เราจะต้องมีเงินทุนเตรียมไว้ 2 ส่วน คือ เงินทุนเริ่มต้น ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมดของการสร้างร้านกาแฟขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นค่าตกแต่งร้าน ค่าพนักงาน ค่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้ในร้านกาแฟ ซึ่งโดยประมาณแล้วเงินทุนเริ่มต้นของการเปิดร้านกาแฟทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 300,000 บาท ไปจนถึง 2,000,000 บาท ตามขนาดและรูปแบบของการเปิดร้าน และในส่วนของ เงินทุนหมุนเวียน จะเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของ ค่าวัตถุดิบสินค้า เช่น เมล็ดกาแฟ และอื่นๆ เป็นต้น ค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าจ้างพนักงาน ค่าสาธารณูปโภค และค่าเช่าสถานที่ ซึ่งเงินทุนหมุนเวียนที่ว่านี้จะต้องเตรียมเงินสดสำรองไว้ในกรณีที่รายได้ยังไม่คงที่ เพื่อเป็นการจัดแบ่งเงินไว้เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการหมุนเวียนธุรกิจยามฉุกเฉิน

3.ค่าใช้จ่ายต่อเดือน ต้องอาศัยการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน

เป้าหมายขั้นต่ำในการดำเนินธุรกิจในแต่ละเดือนนั้น ต้องอาศัยการวิเคราะห์จุดคุ้มทุนด้วย เพราะหากมียอดขายที่ต่ำกว่าจุดคุ้มทุน หรือมีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย นั่นแปลว่ากำลังขาดทุนอยู่ ดังนั้นจึงต้องหาจุดคุ้มทุนให้ได้ จากการคำนวณเมนูหรือกาแฟแต่ละแก้วที่ต้องขายให้ได้โดยประมาณ หักลบกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ก็จะได้เป็นจุดคุ้มทุน ส่วนจุดคุ้มทุนที่ต่ำที่สุดคือ จุดที่รายได้หักลบค่าใช้จ่ายแล้วจะได้มากกว่า 0 ขึ้นไป

4.ประเมินระยะเวลาคืนทุน และอัตราผลตอบแทน เพื่อประโยชน์ต่อการวางแผนบริหาร

หากเราสามารถประเมินระยะเวลาคืนทุน และวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนได้ จากการคำนวณต้นทุนเริ่มต้นทั้งหมด (ไม่รวมเงินทุนหมุนเวียน) หารด้วยกำไรต่อเดือน (จากจำนวนการขายต่อแก้วลบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแต่ละเดือน) ก็จะได้ระยะเวลาทั้งหมดก่อนจะถึงจุดคืนทุน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลแนวทางดีๆ ในการเริ่มต้นทำธุรกิจร้านกาแฟที่ทาง Aroma ได้สรุปและรวบรวมนำมาฝาก หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนได้ดีมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่อยากเปิดร้านกาแฟ โดยเฉพาะในเรื่องของแนวทางการลงทุนที่เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ในการดำเนินธุรกิจให้สำเร็จ

หากใครที่กำลังมองหาและต้องการตัวช่วยดีๆ สำหรับธุรกิจร้านกาแฟในฝัน ทาง Aroma เราพร้อมให้บริการด้านธุรกิจกาแฟอย่างครบวงจร ตั้งแต่วัตถุดิบร้านกาแฟ และอุปกรณ์อย่างครบครัน ไปจนถึงการเปิดหลักสูตรสอนทำกาแฟและการบริหารจัดการร้าน ที่รับรองได้ว่าจะเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับสานฝันร้านกาแฟของคุณเองให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

WE ARE

Aroma Group คือผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรและจัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดี การจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์คุณภาพสูง สถาบันสอนพัฒนาธุรกิจร้านกาแฟ รวมถึงธุรกิจร้านกาแฟ จวบจนวันนี้ Aroma Group ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านเบเกอรี่ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ Aroma กว่า 2,000 ราย ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านค้า และ Aroma Shop กว่า 30 ร้าน พร้อมเสียงตอบรับที่มากขึ้นทุกวัน