แผนการ สอน การอ่าน ออกเสียง ป. 1

บริษัทธารปัญญา จำากดั

สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒
ห้�มมิให้น�ำ แผนก�รจัดก�รเรียนรนู้ ้ี
ไปใช้เพอื่ ก�รจำ�หน�่ ยหรือก�รค�้ ใดๆ
ในทุกรปู แบบ ไม่ว�่ จะเปน หนงั สอื
หรือในระบบคอมพวิ เตอรท์ กุ ชนิด

แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้

อ�่ นออก เขยี นได้

ประถมศกึ ษ�ปที ่ี ๑

เลม่ ๑

กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นร้ภู �ษ�ไทย

ต�มหลักสตู รแกนกล�งก�รศกึ ษ�ข้ันพนื้ ฐ�น พทุ ธศักร�ช ๒๕๕๑

ค�ำ แนะน�ำ การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรอู้ า่ นออก เขยี นได้

หนงั สืออา่ นออก เขยี นได้ ชดุ นี้ ออกแบบขึ้นมา เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเรยี นรอู้ ยา่ งเป็นขน้ั เปน็ ตอน ไมม่ ี
การข้ามขัน้ ตอน แต่ละเลม่ จะก้าวไปทีละขนั้ (step) คณุ ครูทุกท่านทใ่ี ช้แผนการจัดการเรียนรู้น้ี โปรด
ทำ�ความเข้าใจหลกั การของแผนการจดั การเรียนรู้ชุดนี้ ดงั น้ี

๑. กระบวนการสอน ๕ ขน้ั แบบ Brain-based Learning (BBL)

กระบวนการสอนอา่ นออก เขยี นได้ ในแผนการจดั การเรียนรูน้ ้ี ยึดการสอนทแ่ี บง่ ออกเป็น ๕
ขน้ั ดังรายละเอียดขา้ งลา่ งนี้ เพื่อประกันผลส�ำ เรจ็ วา่ นกั เรียนจะอา่ นออก เขียนได้แมน่ ยำ� คอื

๑.๑ อุ่นเครอ่ื ง (Warm-up)
ก ารอุ่นเครอื่ ง (warm-up) เป็นกจิ กรรมทท่ี �ำ เพ่ือใหส้ มองต่ืนตวั เตรยี มพรอ้ มที่จะเรยี น
ร้วู ชิ าตอ่ ไป หรือระหวา่ งชวั่ โมง ถา้ เนือ้ หาทีจ่ ะเรยี นรนู้ ้ันค่อนข้างยาก คณุ ครูสังเกต
ว่านกั เรียนเร่ิมหมดความสนใจหรืออ่อนลา้ ควรใหท้ ำ� Warm-up เพือ่ กระตุ้นสมอง
การ Warm-up น้นั ท�ำ ได้ ๓ วธิ ี คือ ๑) Brain Exercise ๒) การเคลอ่ื นไหวเป็นจังหวะ
(Rhythm) อาจมีเสยี งเพลงและค�ำ กลอนประกอบ และ ๓) ยดื เสน้ ยืดสาย (Stretching)

๑.๒ ขนั้ นำ�เสนอความรู้ (Present)
น ักเรยี นทุกคนมีความตา่ งกนั มีประสบการณ์ มีพน้ื ฐานเฉพาะตัว ดังน้ัน การนำ�เสนอ
ความรู้ (การสอน) จึงควรเปดิ โอกาสให้เดก็ ทุกคนได้เรียนรู้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ โดย
นำ�เสนอความรูใ้ หม่ ผ่านสื่อการเรียนรู้ท่ีนา่ สนใจ เชน่ สอ่ื ของจรงิ บัตรภาพ บัตรค�ำ บตั ร
ตัวเลข ชารต์ บทกลอน บทเพลง กระดานเคล่ือนที่ เป็นต้น

๑.๓ ข ั้นลงมือเรียนร-ู้ ฝกึ ทำ�-ฝกึ ฝน (Learn-Practice)
เปิดโอกาสให้นักเรียนฝกึ ท�ำ โดยลงมือทดลองใชค้ วามรู้ ดว้ ยกิจกรรมตา่ งๆ เชน่ ฝึกท�ำ
โดยใชส้ อ่ื จากมุมสอ่ื BBL พานกั เรยี นไปดูของจริง ส�ำ รวจและบันทกึ จากสง่ิ ที่พบเห็น ท�ำ
กจิ กรรมจากใบงาน เชน่ กจิ กรรมตดั ปะ เล่นเกมบิงโก ใชอ้ ปุ กรณ์เคาะลงบนขอ้ ความ
หรอื ค�ำ ศพั ท์ ให้เดก็ ได้เคล่อื นไหว เช่น ลกุ ขึ้นจากโต๊ะเพือ่ ไปทำ�กิจกรรม และควรมี
ใบงานท่ีให้นักเรียนได้ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ และคิดสรา้ งสรรคด์ ้วยตัวเอง

๑.๔ ขนั้ สรปุ ความรู้ (Summary)
แ ม้ว่าการเรียนรจู้ ะดำ�เนนิ มาตั้งแต่ข้ันเร่มิ เรยี นรคู้ วามรใู้ หม่ (present) ขัน้ ทน่ี ักเรียน
ได้ทดลองน�ำ ความรู้ใหม่นั้นมาลงมอื ปฏิบัติ ฝกึ ลองท�ำ ด้วยตวั เอง (learn-practice)
ลงมือท�ำ แบบฝึกหดั แล้วกต็ าม แต่ในทสี่ ดุ การนำ�ประสบการณท์ ัง้ หมดมาสรปุ รวบยอด
เป็นความรู้ท่ีชดั เจนอกี ครงั้ หนึ่ง กม็ ีความจ�ำ เป็นอย่างยิง่ โดยเฉพาะเรามกั สงั เกตได้วา่
นักเรียนอาจทำ�การฝกึ ผดิ พลาด ท�ำ แบบฝกึ หดั ไมถ่ ูก สร้างความรจู้ าก concept ท่ีผิด
เปน็ ต้น ความผดิ พลาดเหล่านี้ แม้จะเกดิ ข้นึ เพียง ๑๐-๓๐% แต่ก็แสดงวา่ มสี ่งิ ผดิ พลาด
เกดิ ขึน้ แล้ว การเขียนกากบาทหรือ comment นักเรียนว่า ยังมสี ่งิ ผิดพลาด ก็ไม่ไดช้ ่วย
อะไรมากนัก ทางเดยี วทจี่ ะแก้ไขได้ก็คือ การใหฝ้ ึกซ้าํ ในส่วนผดิ นน้ั และต้องท�ำ การสรุป
ความร้รู ว่ มกบั นกั เรียน

บริษทั ธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 2

๑.๕ ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ (Apply)
ถ ้าเป็นไปได้และมีเวลา กระบวนการเรียนรู้ควรทำ�ไปถึงข้ันให้นักเรียนประยุกต์ใช้ความรู้
ในสถานการณ์ใหม่ๆ ในขั้นน้ี โดยมากนกั เรียนจะเรมิ่ น�ำ ความร้ไู ปสร้าง (make) หรอื ผลิต
(produce) ช้ินงานใหมๆ่ เช่น แตง่ นทิ าน ทำ�หนังสอื เลม่ เลก็ แสดงละคร โต้วาที จัดบอรด์
ผลงาน นทิ รรศการ เปน็ ตน้ แตง่ านขน้ั น้ี เปน็ ไปไดย้ ากทจ่ี ะท�ำ ทกุ ชว่ั โมง ทกุ เนอื้ หาทเี่ รยี น
เพราะเวลาเรียนไม่พอ อีกทั้ง เน้ือหาที่เรียนมีมากเกินกว่าท่ีจะเน้นให้นักเรียนลงมือทำ�
กจิ กรรมตา่ งๆ ได้หมดสิ้น ดว้ ยเหตนุ ี้ ข้ันประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ จงึ อาจเลือกทำ�เฉพาะหวั ข้อท่ี
ส�ำ คัญ หรือหัวข้อทีพ่ อจะน�ำ ไปประยกุ ต์ใชไ้ ดส้ �ำ หรบั เด็กแต่ละวัย ในหวั ขอ้ ง่ายๆ เช่น การ
ประสมพยญั ชนะกบั สระ อาจจะยงั ไมม่ คี วามจ�ำ เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ เปน็ ตน้ แต่
ท้ังนี้ กข็ นึ้ อยูก่ ับความรู้ ความสามารถ และความช�ำ นาญของผู้สอนเอง

๒. วธิ กี ารปรบั แผนการจดั การเรยี นรู้ในช่ัวโมงการสอนจริง

แมว้ า่ ในแผนการจดั การเรยี นรชู้ ดุ นี้ ในทกุ บทจะเสนอแนะการสอนครบ ทกุ ขนั้ ตอน แตใ่ นชว่ั โมง
การสอนจริง คณุ ครูอาจปรบั แผนบางขัน้ การสอนให้กระชบั รวดเร็ว ลัดขน้ั ตอนได้ตามความเหมาะสม
ไม่จ�ำ เป็นต้องเดิน ๕ ขัน้ อย่างเครง่ ครดั ส�ำ หรับอา่ นออก เขยี นได้ เล่ม ๑ นักเรยี นยงั ไม่รจู้ ักพยัญชนะ
และสระ คุณครูอาจตอ้ งสอนละเอยี ด ใช้เวลายาวนาน และอดทน แต่เมอ่ื นักเรยี นเริม่ แม่นยำ�แลว้ ก้าว
สู่เล่มที่ ๒ และ ๓ นักเรียนอาจจะอ่านได้มากข้ึน สะกดได้ดีข้ึน ทำ�ให้เรียนคำ�ท่ีมีวรรณยุกต์และคำ�ที่
มีตัวสะกดได้รวดเร็ว เมื่อนักเรียนเรียนเร็วข้ึนมากแล้ว บางข้ันคุณครูก็ไม่ควรเสียเวลามากเกินไป เช่น
จำ�นวนใบงานในขัน้ ลงมือเรยี นรู้ กับข้ันสรุปความรู้ อาจลดจำ�นวนลง หรอื บรู ณาการสองข้นั น้ี รวบเป็น
ขน้ั เดยี วกนั กไ็ ด้ สว่ นขนั้ ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรนู้ น้ั เราเพมิ่ เขา้ มาเพอื่ ใหแ้ ผนการสอนสมบรู ณ์ เสนอแนะครบ
ถว้ น แต่คณุ ครอู าจไม่มเี วลาทำ�ในชัว่ โมงการสอนจรงิ เพราะจำ�นวนชวั่ โมง ๒๐๐ ชว่ั โมงต่อปที ่กี ำ�หนดไว้
น้ันน่าจะไมพ่ อสำ�หรบั กระบวนการสอนให้ครบทุกข้ัน

๓. ท่านสามารถสร้างแผนการจัดการเรยี นรทู้ ีด่ ีกวา่

คณุ ครทู กุ คน โรงเรยี นทกุ โรงเรยี นลว้ นมคี วามแตกตา่ งกนั ไมม่ แี ผนการจดั การเรยี นรใู้ ดใชไ้ ดก้ บั
ทกุ หอ้ งเรยี น ๑๐๐% คณุ ครทู ม่ี คี วามรคู้ วามสามารถ มปี ระสบการณส์ งู เอาใจใสน่ กั เรยี นมาก จะทราบดี
วา่ แผนการจดั การเรยี นรแู้ ตล่ ะแผนจะตอ้ งเพมิ่ หรอื ลด แมก้ ระทง่ั ตอ้ งเปลย่ี นกระบวนการใดบา้ ง เพอ่ื ให้
เหมาะสมกบั นักเรียนในหอ้ งเรียนของตน ดังนั้น คุณครสู ามารถนำ�แผนการจัดการเรยี นรชู้ ดุ น้ี ไปพฒั นา
ตอ่ ยอด สรา้ งเปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ใหม่ๆ เพอ่ื ใหเ้ ป็นประโยชนส์ ูงสุดต่อการเรยี นรขู้ องนักเรียน

๔. ในกรณที ี่ตอ้ งการปรับใช้แผนการจัดการเรยี นรนู้ ้ีกบั หนังสือเรียนชดุ อนื่ ๆ ท่ไี ม่ใช่
ชดุ อา่ นออก เขยี นได้ ชุดน้ี

ในกรณีที่คุณครูใช้หนังสือเรียนชุดอ่ืนๆ ที่ไม่ใช่ชุดอ่านออก เขียนได้ ของเรา ท่านสามารถนำ�
แผนการจดั การเรยี นรชู้ ดุ นไี้ ปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ แมจ้ ะไมค่ รบขนั้ ตอน ท�ำ ไมไ่ ดท้ ง้ั หมด และเนอื้ หาของหนงั สอื
ไมต่ รงกนั คณุ ครกู ส็ ามารถน�ำ เอาเทคนคิ การสอนในบางขนั้ ตอน เขา้ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวั่ โมงการสอนของ
ทา่ น โดยเลอื กขน้ั ตอนทจ่ี ะชว่ ยใหน้ กั เรยี นมคี วามสขุ ในการเรยี นรู้ สนใจการเรยี นมากขน้ึ เรยี นไดเ้ รว็ ขน้ึ
มีส่ือและใบงานช่วยในการสอนตามความเหมาะสม

บริษัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 3

แผนการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยการเรยี นรู้ อา่ นออก เขยี นได้ เล่ม ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑

หน่วยท่ี ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ จำ�นวนช่ัวโมง

๑ สระ -า ๓
๒ สระ -ี ๓
๓ สระ -ู ๓
๔ สระ -อื ๓
๕ สระ แ- ๓
๖ สระ -ะ ๓
๗ สระ -ิ ๓
๘ สระ เ- ๓
๙ สระ -ุ ๓
๑๐ สระ โ- ๓
๑๑ สระ -ำ� ๓
๑๒ สระ ไ- ๓
๑๓ สระ เ-า ๓
๑๔ สระ ใ- ๓
๑๕ สระ -ัว ๓
๑๖ สระ -อ ๓
๑๗ สระ เ -ีย ๓

บรษิ ทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 4

แผนการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยการเรียนรู้ อ่านออก เขยี นได้ เลม่ ๑
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑

หน่วยที่ ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง

๑๘ สระ เ -ือ ๓
๑๙ สระ เ-อ ๓
๒๐ สระ เ-าะ ๓
๒๑ สระ เ-ะ ๓
๒๒ สระ แ-ะ ๓
๒๓ สระ เ-อะ ๓
๒๔ สระ -ึ และ สระ โ-ะ ๔
๒๕ สระ -ัวะ และ สระ เ -ยี ะ ๔
๗๗
รวม

หมายเหตุ
จำ�นวนบทเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ หรือเวลาในการสอน สามารถปรบั เปล่ียน
และยดื หยุ่นได้ตามความเหมาะสม ขน้ึ อย่กู บั ดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 5

แผนก�รจดั ก�รเรียนรู้
หน่วยก�รเรียนรู้ อ่�นออก เขยี นได้ เลม่ ๑
กลุม่ ส�ระก�รเรียนรูภ้ �ษ�ไทย ช้ันประถมศึกษ�ปีท่ี ๑

บทท่ี ๑ สระ -� จำานวน ๓ ช่ัวโมง

ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชีวติ และมีนิสัยรกั การอา่ น
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ

๒. ตัวชวี้ ัด

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี งคาำ คาำ คล้องจอง และขอ้ ความส้นั ๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๑ บอกและเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียนสะกดคำาและบอกความหมาย ของคาำ

ส�ระส�ำ คัญ

การอ่านคำาท่ปี ระสมด้วยสระ -า ต้องหัดอา่ นด้วยการสะกดคาำ แจกลูก เช่น คาำ วา่ กา ใหอ้ า่ นวา่ กอ อา กา รวม
ทงั้ ใช้บทคลอ้ งจองท่ีมีคำา สระ -า ให้เด็กได้ทอ่ ง อ่าน การมองเหน็ การฟัง จะช่วยให้ผเู้ รียนสามารถเรียนรไู้ ดด้ ียิ่งข้ึน

จุดประสงค์

๑. นักเรียนสามารถอา่ นและเขยี นสะกดคาำ ทีป่ ระสมดว้ ยสระ -า
๒. นักเรียนบอกความหมายของคำาท่ีประสมด้วยสระ -า ได้

ส�ระก�รเรียนรแู้ กนกล�ง

การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำา คำาคล้องจอง
การสะกดคาำ การแจกลกู และการอา่ นเป็นคาำ

กระบวนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ 1 2

๑. ข้นั น�ำ เข้�สู่บทเรยี น ตบมือตวั เอง ตบมือเพ่อื น
๑. คุณครูทักทายนกั เรียน ให้นักเรียนแนะนาำ ตวั เพอ่ื ทาำ ความรจู้ ัก
กนั 3 4
๒. คณุ ครใู หน้ กั เรียนเคลือ่ นไหวประกอบบทกลอน “คุณปา้ ” ใน
ท่าทีม่ ีจงั หวะสนุกสนาน ตบมือตวั เอง ตบมอื เพ่อื น
๓. ใหน้ กั เรยี นจับคกู่ บั เพ่อื น แล้วตบมอื เป็นจงั หวะ คือ ตบมือตวั
เอง ยน่ื มอื ขวาตบมอื เพอื่ น ตบมอื ตวั เอง ยน่ื มอื ซา้ ยตบมอื เพอื่ น
๔. คุณครตู ิดชารต์ บทกลอน “คุณปา้ ” บนกระดานเคลือ่ นที่ หรือ
แสดงเน้ือเพลงบนจอ ชอี้ า่ นใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ใหน้ ักเรยี นอา่ น
ตามจนคล่อง

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำากดั สงวนลิขสิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 6

๒. ขนั้ นำ�เสนอคว�มรู้
๑. คณุ ครสู อนอา่ นสะกดคาำ ท่ี ประสมดว้ ยสระ -า โดยใชก้ ระดานเคลอ่ื นท่ี
และไมช้ อี้ า่ นตามไปดว้ ย สอนใหน้ กั เรยี นอา่ นพรอ้ มๆ กนั วา่ ก - า - กา
/ ย - า - ยา / ท - า - ทา ฯลฯ ไปจนครบทกุ คาำ
๒. คุณครูชูบัตรคำาศัพท์ ท่ีประสมด้วยสระ -า ให้นักเรียนอ่าน ฝึกอ่าน
หลายๆ รอบจนคล่อง
๓. ให้นักเรยี นหัดอ่านคาำ สระ -า จากหนังสอื เรียน ในขณะท่นี ักเรยี นอา่ น
ใหใ้ ชน้ ้ิวชี้ตามตวั หนังสอื ไปดว้ ย

๓. ข้ันลงมือเรียนรู้
๑. แบ่งนกั เรียนเปน็ ๒ - ๓ กลมุ่ เขา้ แถวตอนลึกหนา้ กระดาน
๒. คุณครูจะพูดคำาศัพท์ ให้นักเรียนที่อยู่หัวแถวเขียนคำาศัพท์บนกระดาน เมื่อเขียนเสร็จให้ไปต่อท้ายแถว
เปลยี่ นคนเขียนไปเรอ่ื ยๆ จนครบทุกคน
๓. เฉลยพร้อมกนั บนกระดาน กลุ่มไหนเขยี นถูกต้องมากทีส่ ดุ เปน็ ฝ่ายชนะ
๔. นักเรียนทุกคนเขียนคาำ ศัพทท์ ี่ได้จากกจิ กรรมลงในสมุดของตนเอง
๕. หลังการทาำ กิจกรรมใหท้ าำ แบบฝึกหดั เพม่ิ เติม ในหนังสอื เรียน

๔. ขน้ั สรปุ คว�มรู้
๑. คณุ ครูแจกใบงาน “จับคู่ สระ -า” ให้นกั เรียน
๒. นกั เรียนตดั ใบงาน แลว้ จับคู่ภาพและ คาำ สระ -า
๓. ติดภาพและคาำ ทจ่ี ับคู่แลว้ ลงในสมุด

๕. ขั้นประยกุ ต์ใชค้ ว�มรู้
คณุ ครใู หน้ กั เรยี นหาคาำ ทปี่ ระสมสระอา จากสง่ิ รอบตวั เชน่ หนงั สอื ดอกสรอ้ ย ก.ไก่ หนงั สอื สาำ เนยี งเสยี งสตั ว์
หนังสือพมิ พ์ ซองขนม ฯลฯ คนละ ๕ คาำ เขยี นลงในสมดุ ของตนเอง แล้วแลกเปล่ยี นกับเพือ่ นๆ ในช้นั เรยี น
อกี ๕ คาำ อาจบนั ทกึ ดว้ ยรูปแบบตาราง ดังนี้

คําสระ -า ของฉนั คําสระ -า จากเพื่อนๆ

1. 1.
2. 2.

เครื่องมือ - สื่อก�รเรยี นรู้

๑. ชารต์ บทกลอน “คุณปา้ ”
๒. บัตรพยญั ชนะ บตั รสระ -า
๓. กระดานเคล่อื นท่ี / เคร่ืองฉาย power point
๔. บัตรภาพ บตั รคาำ สระ -า
๕. ใบงาน “จับคู่ สระ -า”

ก�รวัดและประเมินผล

๑. สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น / การสะกดคาำ ของนักเรียน
๒. ประเมนิ ผลจากคะแนนการทาำ แบบฝึกหดั ของนักเรียน
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบ
ก่อนเรยี น - หลงั เรยี น การเขียนตามคาำ บอก การทดสอบการอ่าน ฯลฯ)

บรษิ ทั ธารปัญญา จาำ กัด สงวนลขิ สิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 7

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ บทท่ี ๑ : ตดั ตามรอยประ➜

จับคู่ สระ -� ฝ�

✰ ตัดคาำ ศัพท์และรปู ภาพตามรอยประ จบั คู่ให้ถูกตอ้ ง แล้วติดลงในสมุด

ล� ต�

ย� ข� ร�ช�

บริษทั ธารปัญญา จาำ กัด สงวนลขิ สิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 8

แผนก�รจัดก�รเรยี นรู้
หน่วยก�รเรียนรู้ อ่�นออก เขียนได้ เล่ม ๑
กลุม่ ส�ระก�รเรยี นรูภ้ �ษ�ไทย ช้ันประถมศกึ ษ�ปีท่ี ๑

บทที่ ๒ สระ -ี จำานวน ๓ ชั่วโมง

ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ

๒. ตวั ช้ีวดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสียงคำา คาำ คลอ้ งจอง และขอ้ ความสัน้ ๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกดคาำ และบอกความหมาย ของคำา
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๓ เรียบเรยี งคาำ เปน็ ประโยคงา่ ย ๆ

ส�ระส�ำ คัญ

บทคล้องจอง มีส่วนช่วยในการเรียนรู้เร่ืองการอ่าน เช่น บทคล้องจอง “ผีตัวดำา” นอกจากจะสอดแทรกคำาท่ี
ประสมดว้ ยสระ -ี แลว้ เนือ้ หาในบทคลอ้ งจองท่สี นุกสนาน จะกระตนุ้ ความสนใจ สง่ เสริมทักษะการอ่าน กอ่ นจะ
นำาไปสบู่ ทเรยี นท่ีผู้เรียนตอ้ งหดั สะกดแจกลกู คำา

จุดประสงค์ก�รเรียนรู้

๑. นักเรยี นสามารถอ่านและเขียนสะกดคำาที่ประสมดว้ ยสระ -ี
๒. นกั เรียนบอกความหมายของคำาที่ประสมด้วยสระ -ี ได้
๓. นักเรยี นสามารถแตง่ ประโยคงา่ ยๆ ได้

ส�ระก�รเรียนรู้แกนกล�ง

การอ่านออกเสยี งและบอกความหมายของคาำ คำาคล้องจอง
การสะกดคาำ การแจกลกู และการอ่านเปน็ คำา
การแต่งประโยค

กระบวนก�รจดั ก�รเรียนรู้ 1 ตบมอื
2 ตบโตะ
๑. ข้ันน�ำ เข�้ สบู่ ทเรียน
๑. คุณครูนำาเข้าบทกลอน “ผีตัวดำา” โดยถามว่า “ใครกลัวผีบ้าง” ให้นักเรียน
ท่องบทกลอนจนคล่อง และเคล่ือนไหวประกอบบทกลอน “ผีตัวดำา” ในท่า
ที่มจี ังหวะสนกุ สนาน เช่น ตบมือ - ไขวม้ อื ตบโตะ๊ - ตบมือ - ไขว้มอื ตบโตะ๊
๒. คุณครูติดชาร์ตบทกลอน “ผีตัวดำา” บนกระดานเคลื่อนที่ คุณครูช้ีอ่านให้
นักเรียนฟงั แล้วใหน้ ักเรียนร้องตามไปทีละประโยคจนคล่อง

บรษิ ัทธารปัญญา จำากัด สงวนลิขสิทธิ์ © ๒๕๖๒ 9

๒. ขั้นน�ำ เสนอความรู้
๑. ค ณุ ครูสอนอา่ นสะกดค�ำ โดยใช้บัตรคำ�ท่สี ามารถ เปดิ -ปดิ ได้
๒. ค ุณครูแสดงบัตรคำ�ให้เห็นพยัญชนะก่อน เช่น ตัว ส. เสือ ครูพา
นักเรยี นออกเสียงวา่ “สอ” แล้วเปดิ สระ -ี ตาม แล้วออกเสียงว่า
“อ”ี และอา่ นรวมเปน็ ค�ำ วา่ “ส”ี จากนน้ั สะกดซาํ้ อกี ครง้ั สอ - อี - สี
๓. ฝ กึ อา่ นค�ำ และเรมิ่ อา่ นประโยคสนั้ ๆ จากหนงั สอื เรยี น และใหน้ กั เรยี น
ชีน้ ิว้ ตามขณะอ่าน ฝึกอ่านหลายๆ รอบจนคล่อง

๓. ขน้ั ลงมือเรียนรู้ มี ผี มา กา
๑. คณุ ครตู ดิ บัตรคำ�บนกระดาน ดา้ นหนง่ึ ติดบัตรคำ� สระ - ี อกี อี ตี ตา ทา
ด้านหนง่ึ ตดิ บตั รค�ำ สระ -า ดังตัวอยา่ ง นา สา
๒. ใ หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั จบั คคู่ �ำ บนกระดาน เชน่ อกี า ทาสี เปน็ ตน้ ดี สี
๓. อ่านออกเสียงคำ�ท่ีได้ จนครบทุกคำ� จากน้ันเขียนคำ�ที่ได้ลง
ในสมดุ
๔. ห ลงั การท�ำ กจิ กรรม ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรยี น

๔. ข้ันสรุปความรู้
๑. คณุ ครแู จกใบงาน สระ - ี สรา้ งสรรค์ (3D-GO : Windows 6 บาน) ใหน้ กั เรยี น
๒. นักเรยี นทำ�ใบงานแลว้ ติดลงในสมุด
๓. นกั เรยี นอา่ นค�ำ และประโยคจากใบงาน

๕. ขัน้ ประยกุ ต์ใช้ความรู้
๑. ใหน้ กั เรียนทุกคนยืนข้ึน คณุ ครจู ะเร่มิ เล่าเรือ่ งเป็นคนแรก เป็นเร่อื งส้นั ๆ ทีม่ ีค�ำ สระ -ี อยู่ดว้ ย
๒. ใหน้ ักเรยี นแตง่ เรื่องต่อกันไปเร่ือยๆ แตต่ ้องมคี �ำ ที่มสี ระ -ี อยใู่ นประโยคทแี่ ต่งตอ่
๓. เมอื่ ถึงคนสดุ ท้าย ให้รว่ มกนั สรปุ บทเรียน ว่าแตล่ ะคนได้เรียนรู้ค�ำ ศัพท์สระ -ี ค�ำ ใดบ้าง

เครอ่ื งมอื - สื่อการเรยี นรู้

๑. ชาร์ตบทกลอน “ผตี ัวดำ�”
๒. กระดานเคลอ่ื นท่ี
๓. บัตรภาพ บัตรคำ� สระ -ี สระ -า / บัตรคำ�เปดิ ปดิ ได้
๔. ใบงาน “สระ -ี สร้างสรรค์ (3D-GO : Windows 6 บาน)”

การวัดและประเมนิ ผล

๑. สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น / การสะกดคำ� ของนกั เรยี น
๒. ป ระเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝกึ หดั ของนกั เรยี น
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสม บางช้ันเรียนอาจมีการทดสอบ
ก่อนเรียน - หลงั เรยี น การเขียนตามคำ�บอก การทดสอบการอา่ น ฯลฯ)

บรษิ ทั ธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 10

ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ บทที่ ๒ :

สระ - ี สร�้ งสรรค์ (3D - GO : Windows 6 บ�น)

✰ ตดั รปู และใบงานตามรอยประ แลวตดิ ลงในชอ งท่ีมีความหมายตรงกนั จากน้ันแตง ประโยคไวดา นใน 3D-GO

สี
ผี
มีข�
อกี �
ย�ดี
กฬี �


ตัดตามรอยประ
พับตามรอย

บริษัทธารปัญญา จาำ กัด สงวนลิขสทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 11

แผนก�รจดั ก�รเรียนรู้
หน่วยก�รเรียนรู้ อ�่ นออก เขียนได้ เล่ม ๑
กล่มุ ส�ระก�รเรียนรู้ภ�ษ�ไทย ชั้นประถมศกึ ษ�ปีที่ ๑

บทที่ ๓ สระ -ู จาำ นวน ๓ ชัว่ โมง

ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชีวติ และมีนสิ ัยรกั การอา่ น
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึก
ในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ

๒. ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสียงคำา คำาคล้องจอง และขอ้ ความส้ันๆ
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟังคาำ แนะนาำ คำาสัง่ ง่ายๆ และปฏบิ ัติตาม
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกดคาำ และบอกความหมาย ของคำา

ส�ระสำ�คญั

คาำ ที่สะกดดว้ ยสระ -ู มรี ูปแบบการสะกดเหมอื นกับสะ สระ -า และ สระ - ี ซ่งึ เป็นสองบทแรก ผเู้ รียนจงึ เรมิ่
คุ้นเคย เมื่อถงึ สระ -ู นอกจากสอนเรอ่ื งการสะกดคาำ แล้ว จงึ ตอ้ งสอดแทรกประโยค ทม่ี คี าำ จากสระต่างๆ ทีเ่ รียนมา
แล้ว จะทำาให้ผเู้ รยี นเขา้ ใจความหมาย และบรบิ ทของคาำ ไดม้ ากข้นึ

จุดประสงค์

๑. นักเรยี นสามารถอา่ นและเขยี นสะกดคาำ ที่ประสมด้วยสระ -ู
๒. นักเรียนบอกความหมายของคาำ ที่ประสมด้วยสระ -ู ได้

ส�ระก�รเรยี นรู้แกนกล�ง 1 2
3 ตบมอื
การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำา คาำ คล้องจอง ตบโตะ๊ ด้วยมือขวา
การสะกดคาำ การแจกลกู และการอา่ นเปน็ คำา ตบมอื
การฟงั และปฏบิ ัติตามคำาแนะนาำ คำาสงั่ งา่ ยๆ 4

กระบวนก�รจัดก�รเรียนรู้ ตบโตะ๊ ด้วยมือซา้ ย

๑. ขน้ั นำ�เข้�สบู่ ทเรียน
๑. คุณครูให้นักเรียนเคล่ือนไหวร่างกายประกอบบทกลอน
“ดหู นูส่รู ูง”ู ในท่าทีม่ จี งั หวะสนกุ สนาน เชน่ ตบมือ - ตบ
โต๊ะดว้ ยมอื ขวา - ตบมอื - ตบโตะ๊ ดว้ ยมือซ้าย
๒. คณุ ครตู ดิ ชารต์ บทกลอน “ดหู นสู รู่ งู ”ู บนกระดานเคลอ่ื นที่
คณุ ครอู า่ นใหน้ กั เรยี นฟงั แลว้ ใหน้ กั เรยี นรอ้ งตามจนคลอ่ ง

บริษทั ธารปญั ญา จาำ กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 12

๒. ขน้ั นำ�เสนอความรู้
๑. ค ุณครแู นะนำ�สระ -ู และการออกเสยี งสระ -ู
๒. ค ุณครูสอนอ่านแจกลูกสะกดคำ� โดยใช้บัตรพยัญชนะติดบนบอร์ดตะแกรงแล้วใช้
ไม้ไอศกรีม สระ -ู วางใตบ้ ตั รพยัญชนะ แลว้ ออกเสยี งสะกดค�ำ เปน็ ตัวอยา่ ง เช่น
งอ - อู - งู
๓. เ ปลี่ยนพยัญชนะเป็นตัวอื่นๆ แล้วให้นักเรียนสะกดคำ�พร้อมกัน ฝึกอ่านหลายๆ
รอบจนคลอ่ ง
๔. ฝ กึ อา่ นพร้อมกันในหนังสือเรียน

๓. ขั้นลงมือเรียนรู้
๑. คุณครตู ดิ บตั รคำ�บนบอร์ดตะแกรง หรอื ฉายบน power point แลว้ ใหน้ กั เรียน
อา่ นพร้อมกนั
๒. น กั เรยี นนั่งล้อมเปน็ วงกลม คณุ ครูน�ำ “กะหลํ่าปลีค�ำ ศัพท”์ ใหน้ ักเรยี น (กระดาษ
ทเ่ี ขยี นคำ�ศพั ท์ ขย�ำ ซอ้ นกันเปน็ ก้อนกลมคลา้ ยกะหลา่ํ ปลี เช่น ค�ำ ว่า งู ปูนา คนู า
ดกู า เป็นต้น)
๓. คุณครเู ปดิ เพลงหรือใหน้ ักเรียนรอ้ งเพลง แล้วส่งกะหลา่ํ ปลีค�ำ ศพั ทต์ ่อกันไปเรอ่ื ยๆ
เมื่อเพลงหยุด กะหลา่ํ ปลีคำ�ศพั ท์อยู่ท่ีใคร นักเรยี นคนน้นั จะต้องแกะกระดาษออก
๑ แผน่ จากนั้นชกู ระดาษ อ่านคำ�ศัพท์ และใหน้ กั เรยี นคนอืน่ อา่ นตาม
๔. เมอื่ จบเกมให้นักเรยี นทบทวนความรู้ โดยท�ำ แบบฝึกหดั ในหนังสอื เรียน

๔. ข้นั สรุปความรู้
๑ . คุณครแู จกใบงาน “สระอูของฉัน” ใหน้ ักเรียน
๒. นักเรียนท�ำ ใบงาน โดยเขียนคำ�สระอูลงใน GO : Picture
๓. ตดิ ใบงานลงในสมดุ

๕. ขั้นประยุกต์ใชค้ วามรู้
๑. ให้นักเรียนท่องบทคล้องจอง “ดูหนูสู่รูงู” พร้อมกันอีกครั้ง
๒. พ ดู คยุ ถามตอบเกีย่ วกับเรื่องราวในบทคลอ้ งจอง เชน่ หนู งู จากน้นั ใหน้ กั เรยี นวาดภาพ ระบายสี โดยใช้
เรอ่ื งราว ตัวละคร หรือคำ�ศพั ทจ์ ากบทคลอ้ งจองดงั กลา่ ว

เครื่องมอื - สือ่ การเรยี นรู้

๑. ชารต์ บทคลอ้ งจอง “ดหู นูสรู่ งู ”ู
๒. บอร์ดตะแกรง / กระดานเคล่อื นท่ี / เคร่อื งฉาย power point
๓. บัตรภาพ บตั รค�ำ แถบประโยค ไม้ไอศกรมี สระอู
๔. ใบงาน สระอขู องฉัน (GO : Picture)

การวัดและประเมินผล

๑. ส งั เกตพฤติกรรมการอ่าน / การสะกดคำ� ของนกั เรยี น
๒. ประเมนิ ผลจากคะแนนการทำ�แบบฝึกหดั ของนักเรยี น
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบ
กอ่ นเรียน - หลงั เรียน การเขยี นตามค�ำ บอก การทดสอบการอา่ น ฯลฯ)

บรษิ ัทธารปัญญา จ�ำ กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 13

ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ บทที่ ๓ : ตดั ตามรอยประ

สระอขู องฉัน (GO : Picture)

✰ เขยี นคำาที่ประสมดว้ ยสระอลู งในภาพ ตัดตามรอยประ แล้วตดิ ลงในสมุด

บรษิ ทั ธารปญั ญา จาำ กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 14

แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้
หนว่ ยก�รเรียนรู้ อ�่ นออก เขยี นได้ เลม่ ๑
กลุ่มส�ระก�รเรยี นรภู้ �ษ�ไทย ชนั้ ประถมศึกษ�ปที ่ี ๑

บทท่ี ๔ สระ -ือ จาำ นวน ๓ ชัว่ โมง

ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชีวิต และมนี สิ ยั รกั การอ่าน
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ

๒. ตัวชี้วดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี งคำา คำาคล้องจอง และขอ้ ความสัน้ ๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกดคำาและบอกความหมาย ของคาำ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๔ ตอ่ คำาคลอ้ งจองงา่ ยๆ

ส�ระส�ำ คัญ

คาำ คลอ้ งจอง คอื คาำ ทส่ี มั ผสั กนั มสี ระ หรือ พยญั ชนะท้ายเหมือนกัน เช่น คำาคล้องจอง สระ -อื มมี อื - ถือมา
เมอื่ นกั เรยี นเรยี นเนอื้ หามากขน้ึ กค็ วรเรยี นรคู้ าำ คลอ้ งจอง เพราะเสยี งคาำ คลอ้ งจองจะชว่ ยกระตนุ้ ความจาำ ความเขา้ ใจ

จดุ ประสงค์ก�รเรียนรู้

๑. นักเรยี นสามารถอา่ นและเขียนสะกดคำาท่ีประสมดว้ ยสระ -อื
๒. นักเรยี นบอกความหมายของคาำ ท่ปี ระสมด้วยสระ -อื ได้
๓. นักเรียนสามารถเขียนคำาคลอ้ งจองได้

ส�ระก�รเรียนรแู้ กนกล�ง

การอ่านออกเสยี งและบอกความหมายของคำา คำาคลอ้ งจอง
การสะกดคาำ การแจกลูก และการอา่ นเปน็ คำา
คาำ คลอ้ งจอง

กระบวนก�รจัดก�รเรียนรู้ 1 ตบโตะ 2
3 ตบโตะ
๑. ขนั้ นำ�เข้�สู่บทเรียน ตบไขวม อื ขวาอยบู น
๑. คุณครูให้นักเรียนท่องบทกลอน “ม้าดื้อ” จน
คล่อง และเคล่ือนไหวประกอบบทกลอน ในท่าที่ 4
มีจังหวะสนกุ สนาน เชน่ ตบโตะ๊ - ตบไขวม้ ือขวา
อยูบ่ น - ตบโต๊ะ - ตบไขว้มือซ้ายอยู่บน ตบไขวม อื ซายอยูบน
๒. คุณครูติดชาร์ตบทกลอน “ม้าด้ือ”บนกระดาน
เคล่ือนที่ คุณครูช้ีอ่านให้นักเรียนอ่านตามทีละ
ประโยคพร้อมกัน

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำากัด สงวนลิขสทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 15

๒. ขน้ั น�ำ เสนอความรู้
๑. ค ุณครูแนะนำ�ให้นักเรียนรู้จักสระ -ือ แล้วให้นักเรียนใช้นิ้วเขียนสระ -ือ กลาง
อากาศพร้อมกับออกเสียง
๒. เ คคุณลคอื่ รนูสทอี่ นใชก้คานรลสะะสกีดเชคน่ำ�แตจิดกสลรกู ะพอือยสญั แี ชดนงะใช+้พสยรญั ะช-นอื ะโสดีนย้�ำใชเงบ้ นิ ัตรค�ำ ตดิ บนกระดาน
๓. ค ณุ ครูชอ้ี ่าน เช่น คอ - ออื - คอื แล้วเปลยี่ นพยญั ชนะไปเรอ่ื ยๆ ใหน้ กั เรียนออก
เสยี งพรอ้ มกัน
๔. อ่านออกเสียงแตล่ ะคำ�อีกคร้งั เช่น กือ คือ มือ ถือ สอื ฝึกอา่ นหลายๆ รอบจนคลอ่ ง
๕. อา่ นค�ำ ทม่ี ีสระอน่ื อยู่ด้วย เชน่ มือชา ตาจอื มีมือ จากนนั้ อ่านในหนังสอื เรยี น

๓. ขัน้ ลงมอื เรยี นรู้
๑. ใ หน้ กั เรียนจบั คู่กนั จากนน้ั คณุ ครแู จกใบงาน “เซยี มซี สระ -ือ” ให้
นกั เรยี นตัดเป็นชิน้ แลว้ น�ำ ใส่แก้ว (๑๖ ค�ำ )
๒. นกั เรยี นคนหนึ่งเขย่าหรอื หยิบเซยี มซีขึน้ มา ๑ ใบ แลว้ ใหเ้ พอ่ื นอกี
คนอา่ น
๓. ผลดั กันเลน่ จนกระท่งั เซยี มซีหมดแก้ว
๔. อ่านคำ�ในเซียมซีพรอ้ มกนั อีกครัง้ ท้งั หอ้ ง
๕. ห ลงั การท�ำ กจิ กรรม ใหน้ ักเรียนทำ�แบบฝึกหดั ในหนังสอื เรยี น

๔. ข้ันสรุปความรู้
๑. คุณครแู จกใบงาน “ถุงมือ สระ -ือ (GO : Picture)” ใหน้ ักเรียน
๒. นกั เรยี นตดั ใบงานตามรอยประ
๓. เขียนคำ�ทสี่ ะกดด้วย สระ -ือ ลงในใบงาน GO
๔. ตดิ ลงในสมดุ

๕. ขั้นประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
๑ . ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๓ - ๕ คน
๒. คณุ ครูแจกกระดาษใหก้ ลมุ่ ละ ๑ แผ่น
๓. คณุ ครอู ธบิ ายเร่อื งคำ�คล้องจอง แลว้ ใหน้ ักเรยี นเขียนคำ�คล้องจองลงในกระดาษ
๔. ใหเ้ วลาประมาณ ๑๐ นาที แลว้ น�ำ เสนอหนา้ ชน้ั เรียน

เครอ่ื งมอื - สื่อการเรียนรู้

๑. กระดานเคลื่อนท่ี / บอร์ดตะแกรง / แผน่ ชารต์ หรอื เครอ่ื งฉาย power point
๒. บัตรภาพ บัตรคำ� แถบประโยค ในข้ันท่ี ๒ - ๓
๓. ใบงาน เซยี มซี สระ -ือ
๔. ใบงาน ถงุ มือสระ -อื (GO : Picture) และ กระดาษส�ำ หรับเขียนคำ�คล้องจอง
๕. แกว้ กระดาษ หรอื พลาสติกส�ำ หรับใบงาน เซียมซี สระ -ือ

การวดั และประเมนิ ผล

๑. ส ังเกตพฤตกิ รรมการอ่าน / การสะกดคำ� ของนักเรยี น
๒. ประเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝกึ หดั ของนักเรียน
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบ
ก่อนเรยี น - หลังเรยี น การเขยี นตามคำ�บอก การทดสอบการอ่าน ฯลฯ)

บรษิ ัทธารปัญญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 16

ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ บทท่ี ๔ : ✄

เซยี มซี สระ -อื ตัดตามรอยประ

มอื
ถอื
ลอื
คือ
มือถอื
ชูมอื
ถอื ม�
ห�รือ
สะดือ
ฮือ ฮอื
มือช�
ฝีมอื
ต�จอื
ถอื ย�
ถือดี
มมี ือ

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำากัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 17

ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ บทท่ี ๔ :

ถงุ มือ สระ -อื (GO : Picture)

✰ เขยี นคาำ ศัพทท์ ี่ประสมดว้ ยสระ -ือ ลงในภาพถงุ มือ จากนั้นตดั แล้วติดลงในสมุด

ตัดตามรอยประ

บรษิ ัทธารปัญญา จาำ กดั สงวนลขิ สิทธิ์ © ๒๕๖๒ 18

แผนก�รจดั ก�รเรียนรู้
หนว่ ยก�รเรยี นรู้ อ�่ นออก เขยี นได้ เล่ม ๑
กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้ภ�ษ�ไทย ชน้ั ประถมศกึ ษ�ปที ี่ ๑

บทท่ี ๕ สระ แ- จาำ นวน ๓ ช่ัวโมง

ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชีวติ และมีนสิ ัยรกั การอา่ น
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ

๒. ตัวชี้วดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสียงคำา คาำ คลอ้ งจอง และขอ้ ความส้ันๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียนสะกดคำาและบอกความหมาย ของคำา

ส�ระสำ�คญั

เม่ือประสม สระ แ- กับพยัญชนะ จะทำาให้นักเรียนได้เรียนรู้คำาศัพท์ใหม่เพิ่มขึ้น และสามารถทบทวนความรู้
ฝึกฝนดว้ ยกจิ กรรมเสรมิ ทท่ี าำ ให้การอา่ นเป็นเรอ่ื งน่าสนใจ เช่น กิจกรรม “พลกิ แล้วอา่ น Flip & Read”

จุดประสงค์ก�รเรียนรู้

๑. นกั เรยี นสามารถอา่ นและเขยี นสะกดคำาท่ีประสมดว้ ย สระ แ- ได้
๒. นกั เรียนเข้าใจความหมายของคำาท่ีประสมดว้ ย สระ แ-

ส�ระก�รเรยี นรแู้ กนกล�ง

การอ่านออกเสยี งและบอกความหมายของคาำ คำาคลอ้ งจอง
การสะกดคาำ การแจกลูก และการอา่ นเป็นคำา

กระบวนก�รจัดก�รเรยี นรู้ 12

๑. ขนั้ นำ�เข้�สู่บทเรยี น ตบโตะ ตบมอื
๑. ใหน้ กั เรียนทอ่ งบทกลอน “ลงิ กะเสอื ” และเคลอ่ื นไหวประกอบ
บทกลอน ในท่าท่มี จี ังหวะสนุกสนาน เช่น ตบโต๊ะ - ตบมือ - 3
ตบมอื เพื่อน
๒. คุณครูติดชาร์ตบทกลอน “ลิงกะเสือ”บนกระดานเคล่ือนที่ ตบมือเพื่อน
คณุ ครชู อี้ า่ น ใหน้ ักเรยี นอ่านตามทลี ะประโยคจนคล่อง

บรษิ ัทธารปญั ญา จาำ กัด สงวนลิขสิทธิ์ © ๒๕๖๒ 19

๒. ขั้นน�ำ เสนอความรู้
๑. ค ุณครูนำ�เข้าบทเรยี นโดยใหน้ ักเรียนดภู าพ เช่น แม่ คนแก่ กาแฟ
แลว้ ถามวา่ ในภาพนคี้ อื อะไร
๒. คุณครสู อนการอ่านแจกลูก โดยใชบ้ ัตรคำ�ทเี่ ปดิ -ปดิ ได้
๓. ค ณุ ครแู สดงบัตรค�ำ ใหเ้ ห็นพยญั ชนะก่อน เชน่ ตัว ล. ลิง ครูพานักเรยี นออกเสียงวา่ “ลอ” แลว้ เปดิ สระ
แ- ตาม พร้อมออกเสยี งวา่ “แอ” และอ่านรวมเปน็ คำ�ว่า “แล” ฝึกอา่ นหลายๆ รอบจนคลอ่ ง
๔. ฝ กึ อ่านคำ�และเริม่ อา่ นประโยคสั้นๆ จากหนงั สือเรยี น และให้นักเรยี นชี้นวิ้ ตามขณะอ่าน

๓. ขัน้ ลงมอื เรียนรู้
๑. คุณครใู ห้นักเรียนอ่านค�ำ จากบตั รภาพบัตรค�ำ หรอื power point พร้อมกนั
๒. แบง่ นักเรยี นเปน็ ๕ กลมุ่ คณุ ครแู จกการ์ดคำ�ใหน้ กั เรียน กลมุ่ ละ ๑ ชุด (๙ คำ�)
๓. ค ณุ ครอู า่ นค�ำ ศพั ท์ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ แขง่ กนั หยบิ การด์ ค�ำ ตามทคี่ ณุ ครู
อ่าน ใครหยิบได้มากทส่ี ุดเป็นผู้ชนะ
๔. ทำ�แบบฝกึ หดั ในหนังสือเรียน เพอื่ ทบทวนความเข้าใจ

๔. ขั้นสรปุ ความรู้
๑. คณุ ครูแจกใบงาน “พลกิ แล้วอา่ น” (GO : Flip & Read)
๒. นกั เรยี นท�ำ ใบงานแล้วตดิ ลงในสมุด
๓. นกั เรียนอ่านออกเสยี งพรอ้ มกัน

๕. ขน้ั ประยุกต์ใช้ความรู้
๑. คณุ ครูน�ำ ชารต์ บทกลอน “ลงิ กะเสอื ” ใหน้ ักเรยี นทุกคนอา่ นออกเสยี งอกี ครงั้
๒. ป ดิ ขอ้ ความบางสว่ น แลว้ ใหน้ กั เรยี นทกุ คนชว่ ยกนั เลอื กบตั รค�ำ บนบอรด์ ตะแกรง ซงึ่ จะมคี �ำ ตรงกบั ขอ้ ความ
ที่หายไป มาตดิ แทนทีข่ ้อความดงั กลา่ ว
๓. ให้นักเรียนเขียนและวาดภาพจากบทกลอน “ลงิ กะเสือ” ตามจนิ ตนาการ ลงในสมดุ ของตนเอง

เคร่ืองมือ - ส่อื การเรียนรู้

๑. ชาร์ตบทคล้องจอง “ลิงกะเสอื ”
๒. กระดานเคล่ือนที่ / เครือ่ งฉาย power point
๓. บตั รภาพ บตั รคำ�
๔. ใบงาน “พลกิ แล้วอ่าน (Flip & Read)”
๕. การด์ ค�ำ ศัพท์ สระ แ-

การวัดและประเมินผล

๑. สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน / การสะกดค�ำ ของนกั เรยี น
๒. ประเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝกึ หดั ของนักเรียน
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบ
ก่อนเรยี น - หลังเรียน การเขียนตามคำ�บอก การทดสอบการอ่าน ฯลฯ)

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 20

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรียนรู้ บทที่ ๕ :

ก�ร์ดคำ�ศพั ท์ สระ แ-

✰ ตดั ตามรอยประ

แห แพ แข
ดูแล ก�แฟ แงแง

มอื แป แลดู แบมอื

บริษทั ธารปัญญา จาำ กดั สงวนลิขสิทธิ์ © ๒๕๖๒ 21

ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ บทท่ี ๕ : ตัดตามรอยประ

พลกิ แลว้ อ�่ น (Flip & Read)

✰ ต ัดใบงานตามรอยประ ทากาวตดิ พยัญชนะทั้งหมดซ้อนกนั ลงในกรอบสี่เหลย่ี ม
(ดงั ภาพ) แล้วระบายสีให้สวยงาม

บรษิ ทั ธารปัญญา จาำ กดั สงวนลขิ สิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 22

แผนก�รจดั ก�รเรียนรู้
หนว่ ยก�รเรยี นรู้ อ่�นออก เขียนได้ เล่ม ๑
กลุม่ ส�ระก�รเรยี นรู้ภ�ษ�ไทย ชัน้ ประถมศกึ ษ�ปีท่ี ๑

บทท่ี ๖ สระ -ะ จำานวน ๓ ชั่วโมง

ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอ่าน
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความร้สู กึ
ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ

๒. ตัวชว้ี ัด

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสียงคำา คาำ คลอ้ งจอง และขอ้ ความสนั้ ๆ
มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.๓/๔ พูดสอ่ื สารได้ตามวตั ถุประสงค์
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียนสะกดคาำ และบอกความหมาย ของคำา

ส�ระส�ำ คัญ

สระ -ะ เปน็ สระเสียงสน้ั สระแรก ทีผ่ เู้ รยี นจะไดเ้ รียน ควรทบทวนสระเดมิ ประกอบ ดว้ ยการสอนคำาทป่ี ระกอบ
ด้วยสระอืน่ ๆ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนเขา้ ใจคำา การออกเสยี งมากขน้ึ เชน่ ชะนี ระกา

จดุ ประสงค์ก�รเรียนรู้

๑. นักเรียนสามารถอา่ นและเขยี นสะกดคำาท่ีประสมดว้ ยสระ -ะ
๒. นกั เรยี นบอกความหมายของคำาที่ประสมด้วยสระ -ะ ได้
๓. นักเรยี นสามารถเลา่ เร่ืองสนั้ ๆ โดยใช้คำา สระ -ะ เปน็ หวั ขอ้ ในการพูดได้

ส�ระก�รเรียนรู้แกนกล�ง

การอา่ นออกเสยี งและบอกความหมายของคำา คำาคลอ้ งจอง
การสะกดคาำ การแจกลูก และการอา่ นเป็นคำา
การพูดส่อื สารในชวี ติ ประจาำ วนั

กระบวนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ 1 2

๑. ขั้นน�ำ เข�้ สบู่ ทเรียน ปากแกว เคาะ กนแกวเคาะ
๑. ให้นกั เรยี นทอ่ งบทกลอน “มานะ กะ มานี” และทำาท่าทาง
ประกอบบทกลอน ในทา่ ทม่ี จี งั หวะสนกุ สนาน เชน่ ปากแกว้
เคาะ ก้นแกว้ เคาะ สลับตามจงั หวะจนจบ
๒. คณุ ครตู ิดชาร์ตหรอื ฉาย Power Point บทกลอน “มานะ
กะ มานี” คุณครูช้ีอ่านให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนอ่าน
ตามทลี ะประโยคจนคลอ่ ง

บรษิ ัทธารปญั ญา จำากดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 23

๒. ขั้นน�ำ เสนอความรู้
๑. ค ุณครูสอนอ่านสะกดคำ�ท่ี ประสมด้วยสระ -ะ โดยใช้กระดานเคล่ือนท่ี
และชี้อ่านตามไปด้วย สอนให้นกั เรยี นอ่านพรอ้ มๆ กันว่า ก - ะ - กะ / ช -
ะ - ชะ / น - ะ - นะ ฯลฯ ไปจนครบทกุ คำ� ฝกึ อ่านหลายๆ รอบจนคลอ่ ง
๒. น กั เรียนหัดอา่ นค�ำ สระ -ะ จากบัตรภาพ บัตรค�ำ หรอื ใชส้ ่อื จริงประกอบ
เช่น ผลมะระ กะลามะพรา้ ว เปน็ ตน้
๓. ฝ ึกอา่ นเพิ่มเตมิ จากหนงั สอื เรียน ในขณะที่นักเรยี นอา่ น ใหใ้ ช้นิ้วชต้ี ามตวั
หนังสือไปด้วย

๓. ขั้นลงมอื เรยี นรู้
๑. คุณครูพาอ่านค�ำ ศัพท์ สระ -ะ บนกระดานหรอื ฉาย Power point
๒. ค ณุ ครแู จกแผน่ ปา้ ย (ขนาดเอส)่ี ใหน้ กั เรยี นคนละ ๑ แผน่ เปน็ ค�ำ ๑ พยางค์
เช่น มะ ยะ มา กะ
๓. นักเรียนจะต้องจับคู่หรือจับกลุ่มกับเพื่อนท่ีถือคำ� ที่สามารถต่อกับตนเอง
แลว้ เปน็ คำ�ที่มีความหมาย เชน่ มะ+ระ มา+นะ ยะ+ลา กะ+ละ+แม
เปน็ ต้น
๔. คู่ไหน หรือ กลุ่มไหน ท่ีคำ�ต่อกันแล้วมีความหมาย ให้ยกมือแล้ว
อ่านออกเสยี งค�ำ นัน้ ใหเ้ พือ่ นคนอน่ื ออกเสยี งตาม
๕. ห ลังการท�ำ กิจกรรม ให้นักเรียนท�ำ แบบฝึกหัดในหนังสอื เรยี น

๔. ข้ันสรปุ ความรู้
๑. ค ุณครแู จกใบงาน “การด์ สระ -ะ ๓ มิติ (3D-GO)” ใหน้ กั เรียนทุกคน
๒. นักเรยี นทำ�ใบงานโดยตดั แล้วตดิ ใหพ้ ลิกเปิดภาพและพยญั ชนะได้
๓. นักเรียนอา่ นออกเสียงคำ�ศพั ท์พรอ้ มกนั

๕. ขน้ั ประยกุ ต์ใช้ความรู้
๑. ให้นักเรยี นเลอื กคำ�ศพั ทท์ ่ีประสมด้วยสระ -ะ ท่ชี อบ ๑ ค�ำ
๒. เลา่ เรอ่ื งจากค�ำ ศพั ทน์ นั้ เชน่ กะลา - นกั เรยี นบางคนเคยเหน็ แมข่ ดู มะพรา้ วไปท�ำ ขนม ขดู จนเหลอื แตก่ ะลา
เปน็ ตน้ คณุ ครตู อ้ งแนะน�ำ แนวทางในการเลา่ อาจจะเปน็ ประสบการณ์ หรอื ความรสู้ กึ คนละ ๒ - ๓ นาที

เครื่องมือ - สื่อการเรียนรู้

๑. กระดานเคลื่อนท่ี / บอร์ดตะแกรง / ชารต์ หรอื เครื่องฉาย power point
๒. บตั รภาพ บตั รค�ำ (ค�ำ ศพั ทบ์ ทที่ ๖ พยัญชนะ และสระ)
๓. ใบงาน “การ์ดสระ -ะ ๓ มิติ (3D-GO)”
๔. แก้วพลาสตกิ ส�ำ หรับเคาะ

การวัดและประเมนิ ผล

๑. ส ังเกตพฤติกรรมการอา่ น / การสะกดคำ� ของนักเรยี น
๒. ประเมนิ ผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝึกหดั ของนกั เรียน
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสม บางช้ันเรียนอาจมีการทดสอบ
กอ่ นเรียน - หลังเรียน การเขียนตามคำ�บอก การทดสอบการอา่ น ฯลฯ)

บริษทั ธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสิทธิ์ © ๒๕๖๒ 24

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ บทที่ ๖ :

ก�รด์ สระอะ ๓ มิติ (3D - GO)

✰ ต ัดตามรอยประแล้วพับ ให้เป็นการ์ด ๓ มิติ จากน้ันตัดภาพติดลงบนการ์ดและเขียนคำาศัพท์ให้ถูกต้อง
(ถา่ ยเอกสารหน้านเี้ พ่ืิม เพ่ือใหไ้ ด้การด์ จาำ นวน ๖ ใบ )
ตดั ตามรอยประ
พบั ตามรอย

บรษิ ัทธารปญั ญา จำากดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 25

แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้
หน่วยก�รเรยี นรู้ อ�่ นออก เขยี นได้ เล่ม ๑
กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรภู้ �ษ�ไทย ช้ันประถมศกึ ษ�ปที ่ี ๑

บทที่ ๗ สระ -ิ จำานวน ๓ ช่วั โมง

ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอ่าน
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ

๒. ตัวช้วี ดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสยี งคำา คำาคล้องจอง และข้อความสนั้ ๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกดคาำ และบอกความหมาย ของคาำ

ส�ระสำ�คญั

คำาท่ีประสมดว้ ยสระ -ิ จะมีความหมายหลากหลายมากข้นึ หากประสมกบั คาำ ท่ปี ระสมสระอื่นๆ นอกจากการ
แจกลกู สะกดคาำ แล้ว จึงต้องเชอ่ื มโยงกับคาำ ในบทเรยี นทผ่ี ่านมา สระ - ิ เปน็ สระทมี่ รี ูปร่างคลา้ ยสระ - ี อาจทำาให้ผู้
เรยี นเกดิ ความสับสนได้ ในขั้นการสอนจึงต้องเนน้ ยำ้าให้ผเู้ รยี นสามารถแยกแยะสระได้

จดุ ประสงคก์ �รเรียนรู้

๑. นักเรยี นสามารถอา่ นและเขยี นสะกดคาำ ทป่ี ระสมด้วยสระ -ิ
๒. นักเรียนบอกความหมายของคาำ ทปี่ ระสมดว้ ยสระ -ิ ได้
๓. นักเรียนสามารถจับประเดน็ / ใจความสาำ คญั ในบทเรียนนี้ คือ คำาในเรยี น จากการฟงั สือ่ ตา่ งๆ ได้

ส�ระก�รเรียนร้แู กนกล�ง

การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคาำ คำาคลอ้ งจอง
การสะกดคำา การแจกลูก และการอ่านเป็นคำา

กระบวนก�รจัดก�รเรียนรู้ 1

๑. ข้ันน�ำ เข�้ สู่บทเรยี น แตะหวั
๑. ให้นักเรียนท่องบทกลอน “หนูมา กะ หนูมี” จนคล่อง และเคลื่อนไหว
ประกอบ ในทา่ ทมี่ ีจังหวะสนกุ สนาน เชน่ แตะหวั - แตะไหล่ 2
๒. คุณครูแบ่งนักเรียนเป็นสองฝ่ังคือฝั่งซ้าย และขวา เม่ือคุณครูชี้ฝั่งไหน ฝ่ัง
นนั้ ต้องร้องบทกลอนท่อนนน้ั แตท่ งั้ สองฝ่ังจะยังคงทำาทา่ ทาง Brain Gym แตะไหล
ตลอดทง้ั เพลง
๓. คณุ ครูตดิ ชาร์ตบทกลอน “หนูมา กะ หนูมี” บนกระดานเคลือ่ นท่ี คณุ ครูช้ี
อา่ นให้นักเรยี นฟัง แลว้ ให้นักเรยี นอา่ นตามทีละประโยคจนคล่อง

บริษัทธารปญั ญา จำากัด สงวนลขิ สทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 26

๒. ขนั้ นำ�เสนอความรู้
๑. คุณครูสอนอ่านสะกดค�ำ โดยใชบ้ ตั รคำ�ทีส่ ามารถ เปิด-ปดิ ได้
๒. คณุ ครูแสดงบตั รค�ำ ใหเ้ หน็ พยัญชนะกอ่ น เช่น ตัว ท.ทหาร นกั เรียน
ออกเสยี งว่า “ทอ” แลว้ เปดิ สระ - ิ ตาม ซง่ึ นักเรียนจะออกเสียงว่า
“ท”ิ และอา่ นรวมเป็นค�ำ วา่ “ทิ” แลว้ สะกดซ�้ํำ อกี ครงั้ ทอ - อิ - ทิ
๓. ค ณุ ครชู บู ตั รค�ำ ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสยี ง ฝกึ อา่ นหลายๆ รอบจนคลอ่ ง
๔. ฝึกอ่านค�ำ และเรมิ่ อา่ นประโยคส้นั ๆ ในหนังสอื เรยี น และให้นักเรียนชนี้ วิ้ ตามขณะอ่าน

๓. ขนั้ ลงมือเรียนรู้
๑. คุณครูพาอ่านค�ำ ศัพท์ สระอิ ประมาณ ๑๐ - ๑๕ คำ� บนกระดานหรอื ฉาย Power Point
๒. คณุ ครแู จกตารางบิงโกใหน้ ักเรยี น
๓. นกั เรยี นเลือกเขียนคำ�ทีค่ ณุ ครพู าอ่านลงในตาราง
๔. คุณครสู ุม่ อา่ นคำ�บนกระดาน หรือ ส่มุ ค�ำ จากการหยิบปงิ ปองสลาก ฯลฯ นักเรียนท�ำ เคร่ืองหมาย ทบั
ค�ำ ศัพท์ทีค่ ุณครอู ่าน
๕. นกั เรียนท่บี งิ โกก่อนเปน็ ผู้ชนะและไดร้ บั รางวลั
๖. ห ลงั การทำ�กิจกรรม ให้นักเรยี นทำ�แบบฝกึ หดั ในหนังสือเรยี น

๔. ขั้นสรปุ ความรู้
๑. คุณครแู จกใบงาน “จับคำ� จับคู”่ ให้นักเรยี น
๒. นกั เรยี นตดั ใบงานตามรอยประ แลว้ น�ำ บตั รค�ำ มาตดิ ลงในชอ่ งวา่ ง ใหต้ รง
กบั ภาพ และเขยี นค�ำ ศพั ทท่ไี ด้อีกครัง้
๓. อ่านออกเสียงค�ำ ศพั ทใ์ นใบงานพรอ้ มกัน

๕. ข้ันประยกุ ต์ใช้ความรู้
๑. นกั เรยี นจบั คูก่ ัน เตรยี มปากกาคนละสี
๒. ค ณุ ครูแจกใบงาน “เจอก่อน วงก่อน (Word Race)” แล้วอา่ นคำ�ในใบงาน
๓. นักเรียนแยง่ กนั วงกลมลอ้ มรอบค�ำ ทค่ี ุณครูอา่ น
๔. เ มอื่ วงกลมครบทุกค�ำ แลว้ ใหน้ บั สีปากกา สปี ากกาของใครมากที่สุด เป็น
ผู้ชนะ

เคร่ืองมือ - สือ่ การเรยี นรู้

๑. กระดานเคลือ่ นที่ / บอรด์ ตะแกรง / แผน่ ชารต์ หรอื เครอ่ื งฉาย power point
๒. บตั รภาพ บัตรค�ำ
๓. ใบงาน “จับคำ� จบั คู่”
๔. ใบงาน “เจอกอ่ น วงก่อน (Word Race)”
๕. ตารางบิงโก

การวัดและประเมินผล

๑. ส ังเกตพฤติกรรมการอ่าน / การสะกดค�ำ ของนักเรยี น
๒. ป ระเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝึกหดั ของนักเรียน
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสม บางช้ันเรียนอาจมีการทดสอบ
ก่อนเรยี น - หลงั เรยี น การเขยี นตามคำ�บอก การทดสอบการอา่ น ฯลฯ)

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สิทธิ์ © ๒๕๖๒ 27

ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ บทท่ี ๗ :

จบั คำ� จบั คู่

✰ ตัดคาํ ตามรอยประ แลวนาํ มาตดิ ในกรอบใหม ีความตรงกับภาพ แลวเขียนคาํ น้นั อีกคร้ังในชอ งวา ง

ตัดตามรอยประ

รา ป ดา น� กะ วิ ✄
บิ ชิ กา ชา ิ นา

บริษัทธารปัญญา จาำ กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 28

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรียนรู้ บทที่ ๗ :

ต�ร�งบิงโก

บรษิ ัทธารปญั ญา จาำ กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 29

ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรยี นรู้ บทท่ี ๗ :

เจอกอ่ น วงกอ่ น (WORD RACE)

✰ ว งกลมล้อมรอบคาำ ท่ีได้ยนิ

ชมู ือ ร�ชินี ฝ� คอื
บดิ � ดดู ี ร�หู

กฬี � ท�สี ปี
ห�รือ กะป
ปนู � แพ ก� ดแู ล
แจ
วิช� หิมะ
ร�ช� ระก�

บรษิ ัทธารปญั ญา จำากดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 30

แผนก�รจัดก�รเรียนรู้
หนว่ ยก�รเรยี นรู้ อ�่ นออก เขียนได้ เล่ม ๑
กลุม่ ส�ระก�รเรยี นรภู้ �ษ�ไทย ชน้ั ประถมศกึ ษ�ปที ี่ ๑

บทท่ี ๘ สระ เ- จำานวน ๓ ชว่ั โมง

ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชวี ิต และมีนสิ ยั รักการอา่ น
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ

๒. ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี งคาำ คาำ คล้องจอง และขอ้ ความสัน้ ๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกดคาำ และบอกความหมาย ของคำา
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๓ เรียบเรียงคำาเปน็ ประโยคง่ายๆ

ส�ระส�ำ คัญ

คาำ ทีป่ ระสมด้วยสระ เ- จะมีความหมายหลากหลาย เมื่อประสมกับคำาท่ปี ระสมดว้ ยสระอ่ืนๆ เชน่ ทะเล เซมา
เพือ่ ให้ผู้เรยี นไดเ้ หน็ รปู แบบการใช้คาำ มากข้ึน จงึ ควรให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้คาำ แต่งประโยค

จุดประสงค์ก�รเรียนรู้

๑. นักเรียนสามารถอ่านและเขียนสะกดคาำ ทป่ี ระสมดว้ ยสระ เ-
๒. นกั เรียนบอกความหมายของคำาท่ีประสมดว้ ยสระ เ- ได้
๓. นกั เรยี นสามารถแต่งประโยคจากคาำ ทกี่ าำ หนดให้

ส�ระก�รเรยี นร้แู กนกล�ง

การอา่ นออกเสยี งและบอกความหมายของคาำ คำาคลอ้ งจอง
การสะกดคาำ การแจกลกู และการอ่านเป็นคำา
การแต่งประโยค

กระบวนก�รจัดก�รเรยี นรู้ 2 1

๑. ขั้นนำ�เข้�สู่บทเรียน แตะหวั
๑. ใหน้ กั เรยี นทอ่ งและเคลอ่ื นไหวประกอบบทกลอน “ตาเข
กะ ตาขาำ ” ในทา่ ทม่ี จี งั หวะสนกุ สนาน เชน่ แตะหวั - แตะ 3
ไหล่ - ตบมือ 2 คร้ัง
๒. คุณครตู ดิ แผน่ ชารต์ หรือ ฉาย Power Point บทกลอน
“ตาเข กะ ตาขำา” คุณครูชี้อ่านให้นักเรียนฟัง แล้วให้
นักเรียนอา่ นตามทลี ะประโยคจนคล่อง

แตะไหล ตบมือ 2 ครั้ง

บริษทั ธารปญั ญา จาำ กัด สงวนลขิ สิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 31

๒. ขน้ั น�ำ เสนอความรู้
๑. ค ณุ ครสู อนอา่ นสะกดค�ำ ท่ี ประสมดว้ ยสระ เ- โดยใชก้ ระดานเคลอ่ื นที่ และ
ชี้อา่ นตามไปด้วย สอนใหน้ ักเรยี นอา่ นพรอ้ มๆ กันวา่ จ - เ - เจ / ม - เ - เม
/ ท - เ - เท ฯลฯ ไปจนครบทุกค�ำ
๒. น กั เรียนหดั อา่ นคำ� สระ เ- จากบตั รภาพ บตั รค�ำ หรือ ใชภ้ าพจรงิ อา่ น
หลายรอบๆ หรือหาคำ�อื่นเพม่ิ เติม เพื่อใหน้ ักเรียนอ่านจนคล่อง
๓. ฝึกอ่านเพ่มิ เติมจากหนงั สือเรียน ในขณะทน่ี ักเรียนอา่ น ให้ใช้นว้ิ ชีต้ ามค�ำ
ที่ก�ำ ลังอา่ นไปดว้ ย

๓. ขั้นลงมอื เรียนรู้
๑. คุณครแู จกใบงาน “อักษรซอ่ นค�ำ ” ให้นักเรียน
๒. น ักเรยี นหาค�ำ ศพั ท์ วงกลมลอ้ มรอบคำ�น้นั แล้วเขียนคำ�ท่หี าไดล้ งในช่องว่าง
๓. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งค�ำ ศัพทพ์ รอ้ มกนั
๔. ลงมือทำ�แบบฝกึ หดั ในหนังสือเรียน เพื่อทบทวนความเขา้ ใจ

๔. ขั้นสรปุ ความรู้
๑. คณุ ครแู จกใบงาน “สระเอของเจ้าหมี (3D - GO : Fan)” ใหน้ ักเรียน
๒. นกั เรียนลงมือท�ำ ใบงาน
๓. ติด 3D -GO ลงในสมดุ
๔. อ่านออกเสยี งคำ�ศพั ทท์ ีละคน (หรือพร้อมกนั กไ็ ด)้

๕. ข้ันประยกุ ตใ์ ช้ความรู้
ค ณุ ครแู จกใบงาน “ค�ำ สรา้ งประโยค” ใหน้ กั เรยี นลงมอื ท�ำ ใบงาน โดยเลอื กค�ำ ทก่ี �ำ หนด
ใหม้ าเรยี งกนั ใหเ้ ปน็ ประโยค ๕ ประโยค ใชค้ �ำ ซ�ำ้ กนั ได้ จากนนั้ อา่ นประโยคของตนเอง

เคร่ืองมือ - สื่อการเรยี นรู้

๑. กระดานเคลอื่ นที่ / บอรด์ ตะแกรง / แผน่ ชาร์ต หรอื เครือ่ งฉาย power point
๒. บตั รภาพ บตั รค�ำ
๓. ใบงาน “อักษรซอ่ นค�ำ ”
๔. ใบงาน “สระเอของเจา้ หมี (3D - GO : Fan)”
๕. ใบงาน “คำ�สรา้ งประโยค”

การวัดและประเมินผล

๑. สงั เกตพฤตกิ รรมการอา่ น / การสะกดค�ำ ของนกั เรยี น
๒. ประเมนิ ผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝึกหดั ของนักเรียน
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบ
ก่อนเรียน - หลงั เรียน การเขียนตามคำ�บอก การทดสอบการอา่ น ฯลฯ)

บริษัทธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 32

ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรียนรู้ บทที่ ๘ :

อักษรซอ่ นค�ำ

✰ วงกลมลอ มรอบคาํ ทีป่ ระสมดวยสระ เ- แลว เขียนคาํ ที่ไดในชอ งวางดา นลาง

เกเ ร เะคเ
ด ท ทิ ต ฬ ะ ซ ว
เ ทย�บทปล
วสตเผะ เ �
ที ะ น ข อ เ ธ ช
ร เ จ ฝ ถ ล ฟ ลิ
เ ซม�หคะ เ
ป� เ ฮฮ�มก

เขยี นค�ำ ศพั ทท์ เ่ี ธอเจอ...

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรษิ ทั ธารปญั ญา จาำ กัด สงวนลขิ สทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 33

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรียนรู้ บทที่ ๘ : ตดั ตามรอยประ
พับตามรอย
สระเอของเจ�้ หมี (3D - GO : Fan)

✰ ตัดตามรอยประและพับ จากน้ันเขียนคาำ ศพั ทใ์ ห้ตรงกบั ภาพ แล้วติดลงในสมุด

บริษัทธารปัญญา จำากดั สงวนลขิ สิทธิ์ © ๒๕๖๒ 34

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ บทท่ี ๘ :

คำ�สร�้ งประโยค

✰ เลอื กคำาทก่ี าำ หนดให้ เขียนเรยี งต่อกนั ใหเ้ ปน็ ประโยค ๓ ประโยค (ใช้คำาซา้ำ กนั ได้) ดงั ตัวอยา่ ง

ดี กาหถาอื เททยาสาี ต�ถอื ย�ม�๑ --------------------------------------------------------------
ตา
๒ --------------------------------------------------------------
มา ๓ --------------------------------------------------------------

๑ -------------------------------------------------------------- เว อา ชู
๒ -------------------------------------------------------------- ดู กะ มี
๓ -------------------------------------------------------------- นา ลา มอื
มา แล

บริษัทธารปญั ญา จาำ กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 35

แผนก�รจัดก�รเรยี นรู้
หน่วยก�รเรยี นรู้ อ่�นออก เขียนได้ เล่ม ๑
กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นร้ภู �ษ�ไทย ชนั้ ประถมศึกษ�ปที ่ี ๑

บทที่ ๙ สระ -ุ จำานวน ๓ ชัว่ โมง

ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชวี ิต และมีนสิ ัยรกั การอ่าน
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ

๒. ตัวช้ีวดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสียงคาำ คำาคล้องจอง และข้อความส้นั ๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียนสะกดคาำ และบอกความหมาย ของคาำ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๓ เรยี บเรียงคาำ เปน็ ประโยคง่ายๆ

ส�ระสำ�คัญ

สระ -ุ มเี สียงและรูปพยญั ชนะที่ใกลเ้ คียงกับสระ -ู จงึ ตอ้ งแนะใหผ้ ้เู รยี น ได้เหน็ ถงึ ความแตกตา่ งระหว่างสอง
สระ รวมถึงการทบทวนการใช้คำาทป่ี ระสมด้วยสระ -ุ ผ่านการแตง่ ประโยค ซึ่งสามารถเปลย่ี นรปู แบบ จากการแต่ง
ประโยคด้วยการเขยี น เปน็ การแตง่ ประโยคผา่ นการพดู เพอื่ กระตุ้นทกั ษะการคดิ และการใช้ภาษา

จดุ ประสงค์ก�รเรยี นรู้

๑. นกั เรียนสามารถอ่านและเขยี นสะกดคำาท่ีประสมด้วยสระ -ุ
๒. นกั เรยี นบอกความหมายของคำาที่ประสมด้วยสระ -ุ ได้
๓. นักเรยี นสามารถแต่งประโยคจากคาำ ศัพท์ในบทเรียน

ส�ระก�รเรียนรูแ้ กนกล�ง

การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคาำ คำาคล้องจอง
การสะกดคาำ การแจกลูก และการอา่ นเปน็ คาำ
การแต่งประโยค

กระบวนก�รจดั ก�รเรียนรู้ 1 2

๑. ขัน้ น�ำ เข้�สู่บทเรยี น ตบมอื ตบตกั
๑. ใหน้ กั เรยี นท่องบทกลอนและเคลือ่ นไหวประกอบบทกลอน
“กินจุ” ในทา่ ที่มจี ังหวะสนกุ สนาน เช่น ตบมอื - ตบตกั -
ตบมือ - ตบตัก สลบั ตามจังหวะ
๒. คณุ ครตู ดิ ชารต์ บนกระดานเคลอื่ นทหี่ รอื ฉาย Power Point
บทกลอน “กนิ จ”ุ คณุ ครชู อ้ี า่ นใหน้ กั เรยี นฟงั แลว้ ใหน้ กั เรยี น
อ่านตามทีละประโยคจนคลอ่ ง

บริษัทธารปญั ญา จาำ กัด สงวนลิขสิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 36

๒. ขน้ั น�ำ เสนอความรู้
๑. ค ุณครูแนะนำ� -ุ และการออกเสียงสระ -ุ โดยเน้นยํ้า เปรียบเทียบความแตกต่าง
ระหว่างสระ -ุ และ สระ -ู
๒. ค ุณครูสอนอ่านแจกลูกสะกดคำ� โดยใช้บัตรพยัญชนะติดบนบอร์ดตะแกรงแล้วใช้
ไมไ้ อศกรมี สระ -ุ วางใตบ้ ัตรพยัญชนะ ก่อนจะออกเสียงสะกดคำ�เปน็ ตวั อยา่ ง เช่น
จอ - อุ - จุ
๓. เ ปลย่ี นพยญั ชนะเปน็ ตัวอ่นื ๆ แล้วให้นักเรียนสะกดค�ำ พรอ้ มกนั เชน่ พุ ผุ กุ จุ คุ ฯลฯ
ฝึกหลายๆ รอบจนคล่อง
๔. ฝกึ อา่ นพรอ้ มกันในหนังสอื เรยี น

๓. ขั้นลงมอื เรียนรู้
๑. นักเรยี นทำ�แบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรยี น
๒. คณุ ครพู าอา่ นค�ำ ศพั ทจ์ ากบทเรยี นอกี ครงั้ โดยใชบ้ ตั รภาพ บตั รค�ำ หรอื ฉายภาพและค�ำ บน power point
แล้วให้นกั เรียนอา่ นออกเสยี งเอง
๓. ใ หน้ กั เรยี นเขยี นตามค�ำ บอก ๑๐ - ๑๕ ค�ำ อาจตงั้ เงอื่ นไขพเิ ศษวา่ ใครไดค้ ะแนนมากทสี่ ดุ จะไดร้ บั คะแนน
หรือรางวัล เพ่ือกระตนุ้ สมองให้เกดิ ความทา้ ทาย
๔. ทำ�แบบฝึกหัดเพ่มิ เตมิ ในหนังสือเรียน

๔. ขน้ั สรปุ ความรู้
๑. คณุ ครแู จกใบงาน “สมดุ จว๋ิ สระอุ” ใหน้ ักเรยี น
๒. ต ัดตามรอยประ แลว้ พับ จากน้นั เขยี นค�ำ ศัพทด์ า้ นในให้
ตรงกบั ภาพ พร้อมระบายสีใหส้ วยงาม
๓. อ่านคำ�ศัพท์ทอี่ ยู่ในสมดุ เล่มเลก็ พร้อมกัน

๕. ขน้ั ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
๑. ค ณุ ครแู จกใบงาน “เคาะจังหวะสระสนกุ ” ให้นักเรียน เพื่อทบทวนสระจากบท
เรียน บทท่ี ๑ - ๘
๒. คุณครูจะบอกตัวเลขแล้วให้นักเรียนเคาะแก้ว หรือบล็อกไม้ช้ินเล็กๆ บนสระ
ตัวนน้ั พรอ้ มออกเสียง เช่น ครบู อกว่า ๑ ๒ นักเรียนจะต้องเคาะช่องสระ -ะ -า
ออกเสียงวา่ อะ อา เมื่อเหน็ วา่ นกั เรียนเริม่ คลอ่ ง คุณครูสามารถเพ่ิมความเรว็
และ step การเคาะเป็น ๓ ๔ และ ๕ หรอื สามารถสง่ั หมายเลขสลบั กนั ได้

เครอ่ื งมอื - สอ่ื การเรียนรู้

๑. กระดานเคลอื่ นท่ี / บอรด์ ตะแกรง / แผน่ ชารต์ หรือ เครอ่ื งฉาย power point
๒. บัตรภาพ บตั รค�ำ ค�ำ ทีป่ ระสมด้วยสระ -ุ
๓. ใบงานใบงาน “สมุดจิ๋ว สระอุ”
๔. ใบงาน “เคาะจงั หวะสระสนกุ ”

การวัดและประเมนิ ผล

๑. สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน / การสะกดค�ำ ของนกั เรียน
๒. ป ระเมนิ ผลจากคะแนนการทำ�แบบฝึกหดั ของนักเรียน
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม บางช้ันเรียนอาจมีการทดสอบ
กอ่ นเรียน - หลังเรียน การเขยี นตามค�ำ บอก การทดสอบการอ่าน ฯลฯ)

บริษัทธารปัญญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สิทธิ์ © ๒๕๖๒ 37

เคาะ ัจงหวะสระสนุกเะ แา ืิ ูี
1234
5678

บรษิ ัทธารปัญญา จ�ำ กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 38

ใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรยี นรู้ บทที่ ๙ : พับตามรอย
ตัดตามรอยประ
สมดุ จ๋วิ สระอุ

✰ ตดั ตามรอยประและพบั จากนน้ั ตดั คาำ ศพั ทด์ ้านลา่ งมาตดิ ใหต้ รงกบั ภาพ

สมดุ จ๋วิ

พ�ยุ สุข� ส�ธุ ทะลุ ✄
อบุ ะ จฬุ � ฝ�ผุ

บริษทั ธารปญั ญา จำากัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 39

แผนก�รจัดก�รเรยี นรู้
หน่วยก�รเรียนรู้ อ่�นออก เขยี นได้ เล่ม ๑
กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรู้ภ�ษ�ไทย ชัน้ ประถมศกึ ษ�ปที ี่ ๑

บทที่ ๑๐ สระ โ- จำานวน ๓ ชั่วโมง

ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชวี ติ และมีนสิ ยั รักการอา่ น
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ

๒. ตัวชว้ี ัด

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสียงคาำ คำาคล้องจอง และขอ้ ความสั้นๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกดคาำ และบอกความหมาย ของคาำ

ส�ระสำ�คญั

สระ โ- เป็นคำาท่ีมีรูปร่างแตกต่างไปจากสระในบทเรียนที่ผ่านมา จึงต้องใชวิธีท่ีช่วยกระตุ้นความจำา เช่น การ
เขยี นกลางอากาศและออกเสียง นอกจากน้ี สระ โ- ยงั เป็นสระทป่ี ระสมกับพยญั ชนะและคาำ สระอน่ื ไดห้ ลากหลาย
เหมาะกับการเรยี นรู้ผ่านการทำากจิ กรรมท่สี นุกสนาน

จุดประสงคก์ �รเรยี นรู้

๑. นกั เรียนสามารถอ่านและเขยี นสะกดคำาท่ีประสมดว้ ยสระ โ-
๒. นักเรยี นบอกความหมายของคำาทีป่ ระสมด้วยสระ โ- ได้

ส�ระก�รเรยี นร้แู กนกล�ง

การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำา คำาคล้องจอง
การสะกดคำา การแจกลูก และการอา่ นเป็นคำา

กระบวนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ 12

๑. ขนั้ นำ�เข�้ สบู่ ทเรียน ตั้งมือซ้าย แบไว้ ใชม้ ือขวาตบมือซ้าย
๑. คณุ ครถู ามเกย่ี วกบั โยโย่ วา่ ใครรจู้ กั หรอื เคยเลน่ โยโยบ่ า้ ง
๒. คณุ ครใู หน้ กั เรยี นทอ่ งบทกลอนและเคลอื่ นไหวประกอบ 34
บทกลอน “โยโย”่ ในทา่ ทมี่ จี งั หวะสนกุ สนาน เชน่ ตงั้ มอื
ซา้ ย แบไว้ ใชม้ อื ขวาตบมอื ซา้ ย ๑ ครงั้ - ใชม้ อื ขวาตบโตะ๊ มือขวาตบโต๊ะ ๒ ครงั้ ใช้มอื ขวา
๒ ครง้ั - ใชม้ ือขวาตบบนมอื ซา้ ยของเพือ่ นทน่ี ั่งอยขู่ ้างๆ ตบมือซ้ายของเพ่อื น
๓. คณุ ครตู ิดชาร์ตหรือฉาย Power Point บทกลอน “โย
โย”่ จากนัน้ คุณครชู อี้ า่ นให้นักเรยี นฟัง แลว้ ให้นกั เรยี น
ร้องอา่ นตามทีละประโยคจนคล่อง

บริษัทธารปญั ญา จาำ กดั สงวนลขิ สิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 40

๒. ขนั้ นำ�เสนอความรู้
๑. ตค ะณุ แคกรรูสงอในชก้คานรลสะะสกี ดเชคน่ �ำ แตจิดกสลรูกะโพอยสญัแี ดชงนพะย+ญั ชสนระะสโีน-�้ำ โเงดินยใชบ้ ัตรคำ�ติดบนบอร์ด
๒. ค ุณครพู าอ่านกอ่ น เชน่ ทอ - โอ - โท แลว้ เปลี่ยนพยญั ชนะไปเรอื่ ยๆ ให้นักเรียน
ออกเสียงพรอ้ มกัน
๓. น ักเรียนอา่ นออกเสียงแตล่ ะค�ำ อกี ครัง้ เชน่ โท โก โต โบ โม โผ โห ฝึกอ่านหลายๆ
รอบจนคล่อง
๔. ฝ ึกอ่านในหนงั สือเรียน

๓. ขน้ั ลงมือเรียนรู้
๑. แบง่ นกั เรียนเป็น ๓ กลุ่ม
๒. คุณครูแจกกระดาษปร๊ฟู ให้นักเรยี นกล่มุ ละ ๑ แผน่
๓. นกั เรยี นช่วยกันเขียนคำ�ทีป่ ระสมสระ โ- ใหไ้ ดม้ ากทีส่ ุด โดยจำ�กดั เวลา ๗ - ๑๐ นาที
๔. เม่อื หมดเวลา ติดผลงานแต่ละกลุ่มบนกระดาน แลว้ สรุปวา่ มคี ำ�ไหนท่ีเหมือนกนั หรอื แตกต่างกนั โดย
อ่านค�ำ เหลา่ น้ันไปด้วย
๕. กล่มุ ใดมคี ำ�ท่แี ตกต่างจากกลุม่ อน่ื มากทสี่ ุดเปน็ ฝา่ ยชนะ
๖. ท�ำ แบบฝกึ หัดเพ่ือทบทวนในหนงั สือเรยี น

๔. ข้นั สรุปความรู้
๑. ค ณุ ครแู จกใบงาน “จะ๊ เอส๋ ระโอ” (3D - GO : Windows 5 บาน) ให้
นกั เรยี น
๒. ต ัดตามรอยประ แล้วพบั จากนนั้ ตัดค�ำ ศพั ท์ มาติดใหต้ รงกบั ภาพ
๓. ตดิ ใบงานลงในสมุด

๕. ขน้ั ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
ค ุณครูแจกในงานดูโลมา ให้นักเรียนใช้ปากกาเน้นข้อความ ไฮไลต์หรือขีดคำ�ที่
ประสมด้วยสระโอในบทอ่านดังกล่าว คุณครูพาอ่านออกเสียงทีละวรรค แล้วให้
อ่านต่อกันคนละวรรค ต่อกนั เรอ่ื ยๆ หรืออา่ นพร้อมกนั ท้งั หอ้ ง

เครื่องมอื - ส่ือการเรยี นรู้

๑. กระดานเคล่อื นท่ี / บอร์ดตะแกรง / เคร่ืองฉาย power point
๒. บตั รภาพ บัตรค�ำ ค�ำ ทป่ี ระสมด้วยสระโอ
๓. ใบงาน “จ๊ะเอส๋ ระโอ” (3D - GO : Windows 5 บาน)
๔. ใบงาน “ดโู ลมา”
๕. ปากกาเน้นข้อความ
๖. กระดาษปรู๊ฟ

การวัดและประเมนิ ผล

๑. ส งั เกตพฤตกิ รรมการอา่ น / การสะกดค�ำ ของนกั เรียน
๒. ป ระเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝึกหดั ของนกั เรียน
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบ
ก่อนเรียน - หลังเรียน การเขยี นตามค�ำ บอก การทดสอบการอ่าน ฯลฯ)

บรษิ ัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 41

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ บทที่ ๑๐ :

จะ เอส ระโอ (3D - GO : Windows 6 บ�น)

✰ ตดั ตามรอยประแล้วพับ จากน้ันตัดคาำ ไปตดิ ใน 3D-GO ให้ตรงกับภาพ

ตดั ตามรอยประ
พบั ตามรอย

โยคะ
โรตี
มโี บ
โมโห
โลม�

บริษทั ธารปัญญา จาำ กัด สงวนลิขสทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 42

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ บทท่ี ๑๐ :

ดโู ลม�

✰ อานเรือ่ ง โลมา ไฮไลตคําสระโอ แลวเขียนคาํ น้นั อีกครง้ั ดา นลา ง

ดโู ลม�

อาโกพามานะ มะลิ และฟารีดา ไปทะเล
มะลทิ าำ ตาโต ร้อง “โอโ้ ห! น่นั โลมา”
อาโกกะมานะขำา บอกให้มะลิดดู ดี ี นั่นพะยูน ไมใ่ ชโ่ ลมา

มะลิโมโห รอ้ งไห้โฮ พอดีฟารีดาถือโรตีมา
มานะบอก “ไมต่ อ้ งเสียใจ กนิ โรตีกันดีกวา่ ”
อาโกว่า “ไม่เจอโลมา จะพาไปดูปลานโี มแทน”
มานะ มะลิ ฟารีดา เฮโล ร้องไชโย !

คำ�ท่ปี ระสมสระโออยูต่ รงไหนบ�้ งเอย่ ?
ไฮไลต์ และเขยี นลงในช่องว�่ งด�้ นล่�งน้ดี ว้ ยนะ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำากดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 43

แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้
หนว่ ยก�รเรยี นรู้ อ�่ นออก เขยี นได้ เล่ม ๑
กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรภู้ �ษ�ไทย ชัน้ ประถมศึกษ�ปที ี่ ๑

บทที่ ๑๑ สระ -ำ� จำานวน ๓ ช่วั โมง

ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชีวิต และมนี ิสยั รกั การอ่าน
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ

๒. ตัวชีว้ ดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี งคาำ คำาคล้องจอง และข้อความสัน้ ๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกดคำาและบอกความหมาย ของคำา
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๓ เรียบเรียงคำาเปน็ ประโยคงา่ ยๆ

ส�ระสำ�คัญ

สระ -าำ เปน็ สระที่มีรูปรา่ งตา่ งจากสระในบทเรยี นที่ผ่านมา เปน็ สระทีป่ ระกอบด้วย นคิ หิต (หยาดนาำ้ ค้าง) และ
ลากข้าง จงึ ตอ้ งเน้นยา้ำ เปน็ พเิ ศษเพ่อื ใหส้ ามารถจดจำาและแยกแยะได้

จดุ ประสงค์

๑. นกั เรยี นสามารถอ่านและเขียนสะกดคำาท่ปี ระสมดว้ ยสระ -าำ
๒. นักเรียนบอกความหมายของคาำ ท่ปี ระสมด้วยสระ -ำา ได้
๓. นักเรียนแตง่ ประโยคเปน็ เร่อื งราวสัน้ ๆ จากคาำ ศัพทใ์ นบทเรียนได้

ส�ระก�รเรยี นรู้แกนกล�ง

การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคาำ คาำ คล้องจอง
การสะกดคาำ การแจกลูก และการอ่านเปน็ คาำ
การแตง่ ประโยค

กระบวนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ 1 2

๑. ข้ันน�ำ เข้�สบู่ ทเรยี น ตบมอื ตวั เอง ตบวดื
๑. คุณครูให้นักเรียนท่องบทกลอนและเคลื่อนไหวประกอบ
บทกลอน “ตาสี กะ ตาขาำ ” ในทา่ ท่มี ีจังหวะสนกุ สนาน 3 4
๒. ใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ บั เพอื่ น แลว้ ตบมอื เปน็ จงั หวะ คอื ตบมอื ตวั
เอง ตบวืด ตบมอื ตัวเอง ตบมือเพื่อน ตบมอื ตวั เอง ตบมอื เพ่อื น
๓. คุณครูติดชาร์ตบทกลอน “ตาสี กะ ตาขำา” บนกระดาน
เคล่ือนท่ี และช้ีอ่านให้นักเรียนฟัง ให้นักเรียนอ่านตามทีละ
ประโยคจนคลอ่ ง

บรษิ ทั ธารปัญญา จาำ กัด สงวนลขิ สิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 44

๒. ขั้นนำ�เสนอความรู้
๑. ค ณุ ครสู อนอา่ นสะกดค�ำ ทปี่ ระสมดว้ ยสระ -�ำ โดยใชก้ ระดานเคลอ่ื นท่ี หรอื บอรด์ ตะแกรง สอนใหน้ กั เรยี น
อ่านพรอ้ ม กนั ว่า ก --�ำ - ก�ำ / ข --ำ� - ขำ� / ย --�ำ - ย�ำ ฯลฯ ไปจนครบทกุ คำ� โดยที่คณุ ครูใช้ไม้ชี้อา่ นให้
นักเรียนอา่ นตามไปด้วย
๒. น ักเรยี นหดั อ่านค�ำ สระ -ำ�- จากบัตรภาพ บัตรคำ� รวมถึงการใชส้ ื่อจริงมาประกอบการสอน เชน่ ดอก
จ�ำ ปา ผลระกำ� ส�ำ ลี ย�ำ สดี �ำ เป็นต้น ฝึกอา่ นหลายๆ รอบ หลายๆ คำ�จนคลอ่ ง
๓. ฝ ึกอา่ นเพิม่ เตมิ จากหนังสอื เรยี น ในขณะทนี่ กั เรียนอ่าน ให้ใช้นว้ิ ชตี้ ามตวั หนงั สือไปดว้ ย

๓. ขน้ั ลงมอื เรยี นรู้
๑. ใ ห้นกั เรียนจับคกู่ ับเพ่อื น จากนนั้ คณุ ครแู จกการด์ ค�ำ สระ -ำ� ให้คลู่ ะ ๑ ชุด (๑๒
คำ�)
๒. ว างการด์ กระจายไวบ้ นโต๊ะ ให้เหน็ ค�ำ ศพั ท์ชัดเจน
๓. ค ณุ ครอู า่ นคำ�ทีอ่ ยู่ในการด์ ทลี ะค�ำ ให้นกั เรียนแยง่ กนั ตบการด์ คำ�ทค่ี ณุ ครอู า่ น
ใครตบการ์ดไดใ้ หเ้ ก็บไวท้ ต่ี วั เอง
๔. ใ ครตบการด์ ไดม้ ากที่สดุ เป็นผชู้ นะ จากน้นั ใหน้ ักเรยี นผลดั กันอ่านคำ�ในการ์ด ในคู่ของตนเอง
๕. หลังการท�ำ กจิ กรรม ให้นกั เรยี นทำ�แบบฝึกหดั ในหนงั สอื เพื่อทบทวนความเข้าใจ

๔. ข้นั สรุปความรู้
๑. คุณครูแจกใบงาน เปิดโลก สระ -�ำ (3D - GO : Windows 6 บาน) ใหน้ กั เรียน
๒. นักเรียนลงมือทำ�ใบงาน
๓. อา่ นออกเสยี งโดยพร้อมเพรยี งกนั

๕. ขน้ั ประยุกตใ์ ช้ความรู้
ให้นกั เรียนเขยี นเรื่องราวสัน้ ๆ ๓ - ๕ บรรทัดในสมุด จากชดุ ค�ำ ศพั ท์ทกี่ ำ�หนดให้ เช่น
“ทำ� ดำ� ยำ� ข�ำ ” เปน็ ตน้ จากนัน้ ใหอ้ า่ นออกเสียงเร่อื งทเี่ ขียนหน้าช้ันเรียน

เคร่อื งมอื - ส่อื การเรยี นรู้

๑. กระดานเคลือ่ นท่ี / บอร์ดตะแกรง / เคร่อื งฉาย power point
๒. บัตรภาพ บัตรค�ำ ค�ำ ท่ีประสมดว้ ยสระอำ� และ สอ่ื จรงิ ประกอบการสอน
๓. ใบงาน เปดิ โลก สระ -ำ� (3D - GO : Windows 6 บาน)
๔. การ์ดค�ำ สระ -ำ�

การวัดและประเมนิ ผล

๑. ส ังเกตพฤติกรรมการอา่ น / การสะกดคำ� ของนักเรยี น
๒. ป ระเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝึกหดั ของนักเรยี น
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม บางช้ันเรียนอาจมีการทดสอบ
ก่อนเรียน - หลงั เรยี น การเขยี นตามค�ำ บอก การทดสอบการอ่าน ฯลฯ)

บรษิ ทั ธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 45

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ บทที่ ๑๑ :

ก�รด์ คำ�ศัพท์ สระ -ำ�

✰ ตัดตามรอยประ

ร�ำ ยำ� ตำ�

ขำ� จ�ำ ป� โคดำ�

กำ�ยำ� ทำ�ดี คะมำ�

ทำ�น� ส�ำ ลี กำ�มอื

บรษิ ทั ธารปญั ญา จาำ กดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 46

สี ํดาใบง�นประกอบแผนก�รจัดก�รเรยี นรู้ บทที่ ๑๑ :

เปดโลก สระ -�ำ (3D - GO : Windows 6 บ�น)

✰ ตัดตามรอยประ พบั และตดิ ลงในสมุด ใหส้ ่วนท่มี ีภาพเปดิ ได้ แลว้ เขียนคาำ ศพั ท์ใตร้ ูปภาพให้ถกู ต้อง
ตดั ตามรอยประ
พบั ตามรอย

คำ�ทม่ี สี ระ

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำากดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © ๒๕๖๒ 47

แผนก�รจดั ก�รเรียนรู้
หน่วยก�รเรียนรู้ อ่�นออก เขยี นได้ เล่ม ๑
กลุ่มส�ระก�รเรียนร้ภู �ษ�ไทย ชน้ั ประถมศกึ ษ�ปที ี่ ๑

บทที่ ๑๒ สระ ไ- จาำ นวน ๓ ช่วั โมง

ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้

๑. ม�ตรฐ�นก�รเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาำ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาำ เนนิ
ชวี ติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของ
ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ

๒. ตัวช้ีวดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสียงคำา คาำ คลอ้ งจอง และข้อความสัน้ ๆ
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียนสะกดคำาและบอกความหมาย ของคำา

ส�ระสำ�คญั

สระ ไ- เปน็ สระทมี่ ีรปู รา่ งสงู กว่าพยัญชนะ ในการเรยี นรูผ้ ู้สอนจงึ ต้องแนะให้เห็นความสาำ คญั ของตาำ แหน่งและ
การเขียนสระ

จุดประสงค์ก�รเรยี นรู้

๑. นักเรียนสามารถอา่ นและเขียนสะกดคาำ ท่ปี ระสมด้วยสระ ไ-
๒. นักเรยี นบอกความหมายของคาำ ท่ีประสมด้วยสระ ไ- ได้
๓. นักเรยี นแตง่ ประโยคเากคาำ ศพั ทใ์ นบทเรยี นได้

ส�ระก�รเรียนรูแ้ กนกล�ง 1 2

การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำา คำาคลอ้ งจอง ตบมอื ตัวเอง ตบมอื ซ้ายบนโต๊ะ
การสะกดคาำ การแจกลูก และการอ่านเปน็ คำา
3 4
กระบวนก�รจดั ก�รเรยี นรู้
ตบมือขวาบนโต๊ะ ตบมอื ตวั เอง
๑. ข้ันน�ำ เข้�สู่บทเรยี น
๑. คุณครูให้นักเรียนท่องบทกลอนและเคล่ือนไหวประกอบ
บทกลอน “หนไู ผ่ กะ หนขู ำา” ในท่าท่ีมจี งั หวะสนุกสนาน
เชน่ ตบมอื ตัวเอง - ตบมอื ซา้ ยบนโต๊ะ -- ตบมอื ขวาบนโต๊ะ
ตบมอื ตวั เอง
๒. คุณครูติดชารต์ บทกลอน “หนไู ผ่ กะ หนูขำา” บนกระดาน
เคลอื่ นท่ี หรอื แสดงเนอ้ื เพลงบนจอ คณุ ครชู อ้ี า่ นใหน้ กั เรยี น
ฟงั แล้วใหน้ ักเรยี นอ่านตามทีละประโยคจนคลอ่ ง

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำากดั สงวนลิขสิทธ์ิ © ๒๕๖๒ 48

๒. ขน้ั น�ำ เสนอความรู้
๑. คุณครูสอนอา่ นสะกดค�ำ ท่ี ประสมดว้ ยสระ ไ- โดยใช้กระดานเคลื่อนที่ และ
ใช้ไม้ช้ีอ่าน ให้นกั เรียนอ่านตามพร้อมกนั วา่ ขอ - ไ - ไข / ตอ - ไ - ไต / รอ -
ไ - ไร ฯลฯ ไปจนครบทกุ คำ�
๒. น ักเรียนหัดอ่านคำ� สระ ไ- จากบัตรภาพ บัตรคำ� รวมถึงการใช้สื่อจริงมา
ประกอบการสอน เชน่ กำ�ไล ล�ำ ไย ไชโย ไอ ฝกึ อา่ นหลายๆ รอบ หลายๆ ค�ำ
จนนกั เรยี นอ่านได้คล่อง
๓. ฝ ึกอา่ นเพมิ่ เติมจากหนังสอื เรียน หนา้ ๗๑ ในขณะที่นกั เรียนอ่าน ใหใ้ ช้
น้ิวช้ีอ่านตามไปด้วย

๓. ข้ันลงมอื เรียนรู้
๑. คุณครูแจกใบงาน “สะกดคำ�สระ ไ-” ให้นกั เรยี น
๒. เขยี นสระไอบนกระดาษ แล้วตดิ บนไมไ้ อศกรีม
๓. ใ ช้ไม้ไอศกรีมวางบนใบงาน แลว้ หัดอา่ นไปพร้อมๆ กนั
๔. ห ลังการท�ำ กจิ กรรม ให้นกั เรียนลงมอื ทำ�แบบฝกึ หัด
ในหนงั สอื เรียน

๔. ขนั้ สรุปความรู้
๑. คุณครแู จก ใบงาน“ไขไ่ กส่ ระไอ (3D - GO : Flip)”
ใหน้ ักเรียน
๒. นกั เรียนจับคูภ่ าพกับค�ำ ติดลงในสมดุ
๓. แต่งประโยคจากค�ำ น้ัน
๔. อา่ นค�ำ และประโยคของตนเองใหเ้ พื่อนฟงั

๕. ขนั้ ประยุกต์ใช้ความรู้
๑. คุณครูแจกใบงาน “ไอศกรมี สระไอ” ให้นักเรยี น
๒. นกั เรยี นจบั คู่ภาพกับคำ�ติดลงในสมดุ
๓. เมื่อไดค้ ำ�แล้ว ให้นกั เรยี นแตง่ ประโยคโดยใชค้ �ำ ทีไ่ ด้
๔. อา่ นค�ำ และประโยคของตนเองให้เพ่ือนฟัง

เครื่องมอื - สอ่ื การเรียนรู้

๑. กระดานเคลอ่ื นที่ / บอร์ดตะแกรง / เครือ่ งฉาย power point
๒. บตั รภาพ บัตรคำ� คำ�ทป่ี ระสมดว้ ยสระไอ และ สือ่ จรงิ ประกอบการสอน
๓. ใบงาน “สะกดคำ�สระไอ”
๔. ใบงาน“ไข่ไกส่ ระไอ (3D - GO : Flip)”
๕. ใบงาน “ไอศกรีมสระไอ”

การวดั และประเมนิ ผล

๑. ส ังเกตพฤติกรรมการอา่ น / การสะกดคำ� ของนกั เรียน
๒. ประเมนิ ผลจากคะแนนการทำ�แบบฝึกหดั ของนักเรยี น
(การวัดและการประเมินผล คุณครูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม บางชั้นเรียนอาจมีการทดสอบ
ก่อนเรยี น - หลงั เรยี น การเขียนตามค�ำ บอก การทดสอบการอา่ น ฯลฯ)

บริษัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 49

ใบง�นประกอบแผนก�รจดั ก�รเรียนรู้ บทที่ ๑๒ :

สะกดค�ำ สระไอ

✰ ตดั สระ ไ- ดา้ นล่าง นาำ ไปติดบนไมไ้ อศกรีม แลว้ นาำ มาวางลงในชอ่ ง  แลว้ หดั อา่ น

กต
ปอ
ขถ
ฟว

ไ ตดั ตามรอยประ
แลว ตดิ บนไมไ อศกรมี

บรษิ ัทธารปญั ญา จาำ กัด สงวนลิขสทิ ธ์ิ © ๒๕๖๒ 50