“เด็กในวันนี้ก็คือผู้ใหญ่ที่จะก้าวเข้าสู่สังคมวัยทำงานในวันข้างหน้า” เป็นความจริงที่อยู่คู่กับโลกใบนี้ และเมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ทัศนคติของคนรุ่นใหม่ที่มีต่องานและองค์กรก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เมื่อ “คน” เป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในองค์กร แล้วองค์กรควรปรับตัวอย่างไรให้เป็นองค์กรยุคใหม่ที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย ? วัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงสนใจ และอยากร่วมงานกับองค์กรของเรา วิธีการเลือกงาน การตัดสินใจ และความคาดหวังที่คนรุ่นใหม่มีต่องานและองค์กรเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา รายงานจาก LinkedIn โซเชียลมีเดียสำหรับคนหางานชื่อดังบอกว่า มุมมองที่มีต่องานและอาชีพของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคน GenZ มักจะเปลี่ยนตัวเองจากคนที่ถูกเลือก มาเป็นคนที่เลือกเข้าไปทำงานในบริษัทที่สนใจ โดยพิจารณาจาก ค่าตอบแทนและสวัสดิการ วัฒนธรรมองค์กร โปรแกรม Training หรือโอกาสพัฒนาตัวเองระหว่างทำงานที่องค์กรมอบให้ และ Work-life balance ที่ยังเหลือพื้นที่ให้ได้มีเวลาพักผ่อนใช้ชีวิตด้านอื่นนอกจากทำงานอย่างเดียว รวมไปถึงความเปิดกว้างทางความคิดในที่ทำงาน มีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้แสดงความคิดเห็น ทดลองไอเดียใหม่ ๆ กับงาน ให้โอกาสได้ท้าทายตัวเอง เพื่อ career path ที่เติบโต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นโจทย์สำหรับองค์กรที่อยากได้แรงงานคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาองค์กรให้พร้อมรับกับโลกที่หมุนเร็วอย่างไม่หยุดยั้ง วัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) แบบไหนที่คนรุ่นใหม่มองหา วัฒนธรรมองค์กร เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กร ผ่านการดึงดูดและรักษาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพไว้ได้ คุณวิทยา แซ่จาว ผู้บริหารบริษัท เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและธุรกิจชั้นนำที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า นอกจากปัจจัยเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการที่สมน้ำสมเนื้อแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถดึงดูดคนเก่ง ที่ไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่เท่านั้นที่อยากทำงานด้วย แต่ยังรวมไปถึงคนเก่งจากทุก generation ก็อยากเข้ามาร่วมงานด้วยถ้าบริษัทมีองค์ประกอบเหล่านี้
นิยามงานที่ดีของคนยุคนี้ คือ งานที่ทำแล้วมีความสุขและทำให้เห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งเกิดจากงานที่ให้โอกาสได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และยังสามารถสร้าง impact ให้กับสังคมซึ่งจะเป็นการสะท้อนคุณค่าในตัวเองผ่านการใช้ความสามารถกับสังคมที่อยู่ เมื่อเห็นว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง และเห็นประโยชน์ต่อส่วนรวมชัดเจน ก็จะช่วยสร้าง purpose ในการทำงานและนำมาซึ่งความสุขในระหว่างทำงานด้วย จนรู้สึกว่างานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและสามารถหา balance เรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและลงตัว
ลืมภาพการนั่งทำงานเป็นคอกในออฟฟิศไปได้เลย เพราะเทรนด์ใหม่ที่มาแรงตอนนี้คือการทำงานแบบ Remote working ที่จะอนุญาตให้ทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการ work from home หรือ work from anywhere แก้ pain point สำคัญ ไม่ต้องฝ่ารถติดเข้ามาที่ออฟฟิศอีกแล้ว ได้มีเวลาเหลือเพื่อพักผ่อนหรือพัฒนาตัวเองเพิ่มเติม จัดการชีวิตของตัวเองให้ลงตัว มีอิสระในการทำงานเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการทำงานเท่าเดิมผ่านการติดต่อสื่อสารที่ยอดเยี่ยมระหว่างคนในทีม เรียกได้ว่าได้ทำงานเหมือนเดิม แต่มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นมากขึ้น ซึ่งหลายบริษัทที่ได้นำวิธีนี้ไปปรับใช้ก็พบว่า พนักงาน happy แถมบางคนยังมี productivity เพิ่มมากขึ้นด้วย
การรับฟัง เป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักในการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร องค์กรที่ดีต้องมีพื้นที่ให้พนักงานได้คิดและแสดงความเป็นตัวเอง เปิดกว้างทางไอเดีย ที่ไม่ว่าจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร หรือทำงานตำแหน่งไหนก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ บริษัทเองก็พร้อมที่จะรับฟังและเคารพในความคิดเห็นของทุก ๆ คนเท่ากัน สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงาน หรือ Working environment ที่ดี ทำให้พนักงานทุกคนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่รับฟังเสียงจากคนอื่น ๆ ในบริษัทอย่างเคารพและให้เกียรติทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือลูกน้อง ทำให้เกิดสังคมที่ทำงานที่มีคุณภาพ
เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาจากการล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน องค์กรจึงจำเป็นที่จะต้องเปิดโอกาสให้คนทำงานได้สร้างมาเสนอไอเดียใหม่ ๆ กล้าที่จะให้ลองทำงานที่ไม่เคยทำมาก่อน เปิดโอกาสให้ได้ทำโปรเจกต์ที่อยากทำ หรือลองทำงานในตำแหน่งหน้าที่ใหม่ ๆ ที่สนใจ ซึ่งเป็นการ empower พนักงานเพื่อสร้างความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับคนทำงาน และความท้าทายนี้เองจะช่วยให้คนทำงานมี passion ในการทำงานอยู่เสมอ
โปรแกรม Training ที่ดี เป็นอีกเครื่องมือที่จะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและน่าทำงานด้วย เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าความรู้มีให้เรียนรู้ใหม่ทุกวัน องค์กรควรส่งเสริมให้คนทำงานได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ทั้ง Soft skills และ Hard skills ไปพร้อม ๆ กัน นอกจากการจัดโปรแกรม Training ที่จำเป็นให้พนักงานแล้ว บริษัทควรเปิดโอกาสให้พนักงานได้เลือกเรียนรู้ในทักษะที่ตนเองสนใจเองด้วย พนักงานจะได้ explore และพัฒนาตัวเองไปสู่พื้นที่การทำงานใหม่ ๆ ที่อาจจะใช้แสดงความสามารถได้ดียิ่งขึ้น เมื่อองค์กรเลือกที่จะปรับตัวและพร้อมพัฒนาตัวเอง เพื่อนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีในองค์กรที่เปิดกว้าง เป็นธรรม พร้อมสร้างพื้นที่และสนับสนุนให้คนทำงานได้แสดงความคิดเห็นและเรียนรู้ ทดลอง พัฒนาทักษะใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อนั้นตัวองค์กรเองก็จะดึงดูดและเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่คนทำงานเก่ง ๆ และมีความสามารถสูง ระดับหัวกะทิของตลาดแรงงานให้อยากเข้ามาร่วมงานกับบริษัทได้ไม่ยาก และพร้อมพัฒนาองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองตำแหน่งงานใหม่ ในบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี สนับสนุนให้พนักงานได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และให้คุณค่ากับทุกความเห็นของพนักงานอย่างเท่าเทียม ลองเข้ามาค้นหาตำแหน่งงานที่คุณถนัดในบริษัทชั้นนำที่คุณสนใจได้ที่แอปพลิเคชัน JobsDB แอปหางานที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว จบทุกขั้นตอนการหางานและสมัครงานได้ในแอปเดียว ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android Workation เทรนด์ใหม่ของคนชอบเที่ยว อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ ใดใด คือ Workation…งานทิพย์ ที่สายงานไหนก็อยากให้มี ติดสปีดให้ธุรกิจด้วยแนวคิดการบริหารองค์กรแบบ Agile ไม่ปรับไม่ได้! Agile Mindset เมื่อโลกเปลี่ยน ความคิดคนทำงานก็ต้องปรับ |