วัฒนธรรมองค์กร 4 ประเภทมีอะไรบ้าง

           “เด็กในวันนี้ก็คือผู้ใหญ่ที่จะก้าวเข้าสู่สังคมวัยทำงานในวันข้างหน้า” เป็นความจริงที่อยู่คู่กับโลกใบนี้ และเมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ทัศนคติของคนรุ่นใหม่ที่มีต่องานและองค์กรก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เมื่อ “คน” เป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในองค์กร แล้วองค์กรควรปรับตัวอย่างไรให้เป็นองค์กรยุคใหม่ที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย ? วัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงสนใจ และอยากร่วมงานกับองค์กรของเรา

วัฒนธรรมองค์กร 4 ประเภทมีอะไรบ้าง

           วิธีการเลือกงาน การตัดสินใจ และความคาดหวังที่คนรุ่นใหม่มีต่องานและองค์กรเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา รายงานจาก LinkedIn โซเชียลมีเดียสำหรับคนหางานชื่อดังบอกว่า มุมมองที่มีต่องานและอาชีพของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคน GenZ มักจะเปลี่ยนตัวเองจากคนที่ถูกเลือก มาเป็นคนที่เลือกเข้าไปทำงานในบริษัทที่สนใจ โดยพิจารณาจาก ค่าตอบแทนและสวัสดิการ วัฒนธรรมองค์กร โปรแกรม Training หรือโอกาสพัฒนาตัวเองระหว่างทำงานที่องค์กรมอบให้ และ Work-life balance ที่ยังเหลือพื้นที่ให้ได้มีเวลาพักผ่อนใช้ชีวิตด้านอื่นนอกจากทำงานอย่างเดียว รวมไปถึงความเปิดกว้างทางความคิดในที่ทำงาน มีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้แสดงความคิดเห็น ทดลองไอเดียใหม่ ๆ กับงาน ให้โอกาสได้ท้าทายตัวเอง เพื่อ career path ที่เติบโต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นโจทย์สำหรับองค์กรที่อยากได้แรงงานคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาองค์กรให้พร้อมรับกับโลกที่หมุนเร็วอย่างไม่หยุดยั้ง

วัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) แบบไหนที่คนรุ่นใหม่มองหา

           วัฒนธรรมองค์กร เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กร ผ่านการดึงดูดและรักษาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพไว้ได้ คุณวิทยา แซ่จาว ผู้บริหารบริษัท เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและธุรกิจชั้นนำที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า นอกจากปัจจัยเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการที่สมน้ำสมเนื้อแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถดึงดูดคนเก่ง ที่ไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่เท่านั้นที่อยากทำงานด้วย แต่ยังรวมไปถึงคนเก่งจากทุก generation ก็อยากเข้ามาร่วมงานด้วยถ้าบริษัทมีองค์ประกอบเหล่านี้

  • งานที่สมดุล ลงตัวกับไลฟ์สไตล์

           นิยามงานที่ดีของคนยุคนี้ คือ งานที่ทำแล้วมีความสุขและทำให้เห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งเกิดจากงานที่ให้โอกาสได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และยังสามารถสร้าง impact ให้กับสังคมซึ่งจะเป็นการสะท้อนคุณค่าในตัวเองผ่านการใช้ความสามารถกับสังคมที่อยู่ เมื่อเห็นว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง และเห็นประโยชน์ต่อส่วนรวมชัดเจน ก็จะช่วยสร้าง purpose ในการทำงานและนำมาซึ่งความสุขในระหว่างทำงานด้วย จนรู้สึกว่างานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและสามารถหา balance เรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและลงตัว

  • Work from Anywhere ทำงานที่ไหนก็ได้

           ลืมภาพการนั่งทำงานเป็นคอกในออฟฟิศไปได้เลย เพราะเทรนด์ใหม่ที่มาแรงตอนนี้คือการทำงานแบบ Remote working ที่จะอนุญาตให้ทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการ work from home หรือ work from anywhere แก้ pain point สำคัญ ไม่ต้องฝ่ารถติดเข้ามาที่ออฟฟิศอีกแล้ว ได้มีเวลาเหลือเพื่อพักผ่อนหรือพัฒนาตัวเองเพิ่มเติม จัดการชีวิตของตัวเองให้ลงตัว มีอิสระในการทำงานเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการทำงานเท่าเดิมผ่านการติดต่อสื่อสารที่ยอดเยี่ยมระหว่างคนในทีม เรียกได้ว่าได้ทำงานเหมือนเดิม แต่มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นมากขึ้น ซึ่งหลายบริษัทที่ได้นำวิธีนี้ไปปรับใช้ก็พบว่า พนักงาน happy แถมบางคนยังมี productivity เพิ่มมากขึ้นด้วย

  • รับฟังทุกความคิดเห็น

           การรับฟัง เป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักในการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร องค์กรที่ดีต้องมีพื้นที่ให้พนักงานได้คิดและแสดงความเป็นตัวเอง เปิดกว้างทางไอเดีย ที่ไม่ว่าจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร หรือทำงานตำแหน่งไหนก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ บริษัทเองก็พร้อมที่จะรับฟังและเคารพในความคิดเห็นของทุก ๆ คนเท่ากัน สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงาน หรือ Working environment ที่ดี ทำให้พนักงานทุกคนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่รับฟังเสียงจากคนอื่น ๆ ในบริษัทอย่างเคารพและให้เกียรติทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือลูกน้อง ทำให้เกิดสังคมที่ทำงานที่มีคุณภาพ

  • ให้โอกาสได้ลองผิดลองถูก

           เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาจากการล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน องค์กรจึงจำเป็นที่จะต้องเปิดโอกาสให้คนทำงานได้สร้างมาเสนอไอเดียใหม่ ๆ กล้าที่จะให้ลองทำงานที่ไม่เคยทำมาก่อน เปิดโอกาสให้ได้ทำโปรเจกต์ที่อยากทำ หรือลองทำงานในตำแหน่งหน้าที่ใหม่ ๆ ที่สนใจ ซึ่งเป็นการ empower พนักงานเพื่อสร้างความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับคนทำงาน และความท้าทายนี้เองจะช่วยให้คนทำงานมี passion ในการทำงานอยู่เสมอ

  • พร้อมส่งเสริมให้คนทำงานได้พัฒนาทักษะใหม่ ๆ

           โปรแกรม Training ที่ดี เป็นอีกเครื่องมือที่จะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและน่าทำงานด้วย เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าความรู้มีให้เรียนรู้ใหม่ทุกวัน องค์กรควรส่งเสริมให้คนทำงานได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ทั้ง Soft skills และ Hard skills ไปพร้อม ๆ กัน นอกจากการจัดโปรแกรม Training ที่จำเป็นให้พนักงานแล้ว บริษัทควรเปิดโอกาสให้พนักงานได้เลือกเรียนรู้ในทักษะที่ตนเองสนใจเองด้วย พนักงานจะได้ explore และพัฒนาตัวเองไปสู่พื้นที่การทำงานใหม่ ๆ ที่อาจจะใช้แสดงความสามารถได้ดียิ่งขึ้น

           เมื่อองค์กรเลือกที่จะปรับตัวและพร้อมพัฒนาตัวเอง เพื่อนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีในองค์กรที่เปิดกว้าง เป็นธรรม พร้อมสร้างพื้นที่และสนับสนุนให้คนทำงานได้แสดงความคิดเห็นและเรียนรู้ ทดลอง พัฒนาทักษะใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อนั้นตัวองค์กรเองก็จะดึงดูดและเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่คนทำงานเก่ง ๆ และมีความสามารถสูง ระดับหัวกะทิของตลาดแรงงานให้อยากเข้ามาร่วมงานกับบริษัทได้ไม่ยาก และพร้อมพัฒนาองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

           ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองตำแหน่งงานใหม่ ในบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี สนับสนุนให้พนักงานได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และให้คุณค่ากับทุกความเห็นของพนักงานอย่างเท่าเทียม ลองเข้ามาค้นหาตำแหน่งงานที่คุณถนัดในบริษัทชั้นนำที่คุณสนใจได้ที่แอปพลิเคชัน JobsDB แอปหางานที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว จบทุกขั้นตอนการหางานและสมัครงานได้ในแอปเดียว

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android

วัฒนธรรมองค์กร 4 ประเภทมีอะไรบ้าง

เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า​
Workation เทรนด์ใหม่ของคนชอบเที่ยว อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้
ใดใด คือ Workation…งานทิพย์ ที่สายงานไหนก็อยากให้มี
ติดสปีดให้ธุรกิจด้วยแนวคิดการบริหารองค์กรแบบ Agile
ไม่ปรับไม่ได้! Agile Mindset เมื่อโลกเปลี่ยน ความคิดคนทำงานก็ต้องปรับ