แอร์ vrv กับ vrf ต่าง กัน อย่างไร

งานระบบVRF/VRV

VRF/VRV คืออะไร?

VRF ย่อมาจาก Variable Refrigerant Flow.

VRV ย่อมาจาก Variable Refrigerant Volume.


แอร์ vrv กับ vrf ต่าง กัน อย่างไร

ทั้งสองชื่อนั้นแตกต่างกันแต่หลักการทำงานเหมือนกันครับ

นอกจากนี้แล้วยังขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์จะตั้งชื่อว่าอย่างไร

ซึ่งแต่ละเจ้าแต่ละแบรนด์นั้นก็มีชื่อของตัวเองทำให้คนซื้อคนติดตั้งสับสนงงงวยไปตามๆกัน

อย่าไรก็ตามครับ ถ้าบอกว่า VRF หรือ VRV ก็จะเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นระบบแบบนี้

เรามาทำความเข้าใจง่ายดีกว่าครับว่า VRF/VRV คือระบบอะไร

VRF/VRV นั้นเป็นระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน (Split Type) ที่ชุดภายนอก (Outdoor Unit) 1 ชุด สามารถต่อเข้ากับชุดภายในได้หลายชุด (Multi-Indoor Unit)โดยใช้คอมเพรสเซอร์ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีการปรับน้ำยาโดยใช้คอมเพรสเซอร์ที่สามารถปรับความเร็วรอบได้ ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์สามารถทำงานได้ตามสภาวะการใช้งานจริงทำให้ประหยัดพลังงานได้ หรือง่ายๆเลยครับคือระบบคอมเพรสเซอร์แบบ INVERTER ที่ทุกท่านเคยจะได้ยินมาบ้างแล้ว

แอร์ vrv กับ vrf ต่าง กัน อย่างไร

ข้อดีของระบบนี้คือ

1. ประหยัดพลังงานสูง

2. สามารถเดินท่อน้ำยาได้ไกลกว่าปกติมาก (ประมาณ 150 เมตร)

3. ใช้พื้นที่ในวางติดตั้งคอยด์ร้อนหรือ Outdoor Unit น้อย (เพราะมีคอยด์ร้อนไม่กี่ตัว) ทำให้อาคารสถานที่ดูสวยงาม

4. มีขนาด BTU ที่เยอะ คือไม่ว่าจะพื้นที่ที่ต้องการปรับอากาศใหญ่แค่ไหน ก็มี BTU ที่รองรับได้

ข้อเสียของระบบนี้คือ

1. ราคาสินค้าและค่าติดตั้งสูงกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป

2. หากเครื่องมีปัญหาจะทำให้ไม่สามารถทำความเย็นได้หลายจุดพร้อมกัน ดังนั้นจึงต้องมีการดูแลรักษาตรวจเช็คเป็นประจำ

3. ช่างผู้ชำนาญงานยังมีไม่แพร่หลาย

สถานที่ที่เหมาะสมกับการติดตั้งระบบนี้

1. บ้านที่มีจำนวนห้องเยอะ และ/หรือ ที่วางคอยด์ร้อนไม่มาก

2. สำนักงานอาคาร

3. โรงเรียน/สถานศึกษา

4. โรงแรมขนาดเล็ก/โรงแรมขนาดกลาง

แอร์ vrv กับ vrf ต่าง กัน อย่างไร

สรุประบบ VRF/VRV

VRF/VRV เป็นระบบที่ประหยัดพลังงานมากในขณะที่ พื้นที่ที่ต้องการปรับอากาศมีภาระทางความร้อนน้อย เช่น เวลา เย็นและกลางคืน และการเปิดใช้ที่ไม่แน่นอน โดยระบบนี้จะคุ้มค่ามากหากมีช่วงเวลาในการใช้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงแรมขนาดเล็ก/โรงแรมขนาดกลาง ที่มีห้องเยอะและการเปิดใช้ที่ไม่แน่นอนจากจำนวนผู้เข้าใช้ ทำให้ระบบนี้เหมาะอย่างยิ่งกับ อาคารสำนักงาน และ โรงแรมขนาดเล็ก/โรงแรมขนาดกลาง ด้วยการออกแบบให้ระบบใช้ง่ายต่อผู้ใช้ (FRIENDLY USE) และประสิทธิภาพที่สูงทำให้ค่าไฟลดลงได้อย่างชัดเจน ทำให้ VRF/VRV เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆใยขณะนี้

ระบบเครื่องปรับอากาศแบบ VRV/VRF

ระบบ VRV (Variable Refrigerant Volume) หรือ ระบบ VRF (Variable Refrigerant Flow)

หมายเหตุ: ชื่อมาตรฐานคือ ระบบ VRF (ระบบ VRV เป็นชื่อเรียกเฉพาะของ แบรนด์ไดกิ้น)

แอร์ vrv กับ vrf ต่าง กัน อย่างไร
  
แอร์ vrv กับ vrf ต่าง กัน อย่างไร

               เป็นระบบของเครื่องปรับอากาศของเครื่องปรับอากาศที่มีลักษณะการทำงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงปริมาณสารทำความเย็นตามภาระของโหลดและเครื่องปรับอากาศ ขณะที่มีการทำงานของเครื่องปรับอากาศเยอะตัวควบคุมจะทำงานโดยสั่งให้มีการจ่ายน้ำยาเข้าไปในระบบเยอะ ขณะที่เครื่องปรับอากาศทำงานน้อย ระบบจะควบคุมในการจ่ายปริมาณน้ำยาให้เพียงพอกับการทำงาน ระบบนี้เหมาะกับการติดตั้งในอาคารที่ถูกจำกัดในเรื่องของพื้นที่วางคอยล์ร้อน (CONDENSOR UNIT) เพราะคอยล์ร้อน 1 ตัว สามารถทำการเชื่อมต่อกับคอยล์เย็น (FAN COIL UNIT) ภายในอาคารได้หลายตัว ซึ่งอาจจะอยู่ชั้นเดียวกันหรือหลายชั้นก็ได้ ซึ่งการทำงานของคอยล์เย็นนั้นมีการทำงานที่แยกอิสระต่อกัน จึงสามารถทำการควบคุมอุณหภูมิได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ

แอร์ vrv กับ vrf ต่าง กัน อย่างไร
               
แอร์ vrv กับ vrf ต่าง กัน อย่างไร

               ในปัจจุบันประเทศไทยได้มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศแทบทุกอาคาร และพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ส่วนใหญ่นั้นก็มาจากระบบเครื่องปรับอากาศ จึงทำให้มีการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมในระบบเครื่องปรับอากาศ โดยที่กำลังนิยมติดตั้งในอาคารนั้นคือ ระบบเครื่องปรับอากาศแบบ VRV หรือ VRF

  • อุปกรณ์ในการควบคุมมีอยู่ 4 แบบ
  1. Individual Control มีแบบ remote และแบบ wired
  2. Centralized Control มี indoor unit control และ outdoor unit monitor
  3. BMS Gateway Controller มี 4 อุปกรณ์ให้เลือกในการส่งข้อมูล ได้แก่ BACNET LONWORKS MODBUS และ KNX
  4. Intelligent Control เป็นระบบอัจฉริยะที่ควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ Network

ข้อดีของแอร์ระบบ VRV/VRF คือ

1. ระบบนี้เป็นเทคโนโลยีที่ควบคุมการจ่ายปริมาณสารทำความเย็นโดยตรงโดยติดตัวควบคุมการจ่ายสารทำความเย็นไว้ที่ตัวคอยล์เย็น (Indoor Unit) ทำให้ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ และประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศอื่น ๆ

2. มีระบบปรับปรุงคุณภาพของอากาศให้ดีขึ้นได้ด้วยการระบายอากาศลดความชื้น และกระบวนการอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้งานมีอยู่ในสภาวะสบายตลอดเวลา

3. การเดินท่อน้ำยา สามารถทำได้ในระยะที่ไกลกว่าแอร์ระบบทั่วไปเป็นอย่างมาก จึงสามารถหาตำแหน่งวาง Condensing Unit หรือ คอยล์ร้อน ได้ง่าย และเข้ากับงานโครงสร้างของแต่ละอาคารได้เป็นอย่างดี

3. ใช้พื้นที่ในวางติดตั้งคอยล์ร้อนหรือ Outdoor Unit น้อย (เพราะมีคอยล์ร้อนไม่กี่ตัว) ทำให้อาคารสถานที่ดูสวยงาม 

4.  Indoor Unit หรือ คอยล์เย็น สามารถควบคุมได้อย่างอิสระต่อกัน

5. มีขนาด BTU ที่เยอะ คือไม่ว่าจะพื้นที่ที่ต้องการปรับอากาศใหญ่แค่ไหน ก็มี BTU ที่รองรับได้

6. มีประเภท Indoor Unit ให้เลือกหลายประเภท ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเลือกให้เข้ากับงานออกแบบภายใน ไม่ว่าจะเป็น แอร์ติดผนัง  แอร์แขวน  แอร์ฝังฝ้า  แอร์ตู้ตั้ง  แอร์ต่อท่อลม  

7. สามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศจากส่วนกลาง ซึ่งเทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้ ได้สร้างความสะดวกสบาย และสามารถทำให้เจ้าของอาคาร สามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศจากห้องควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลา เปิด-ปิด ล่วงหน้า, ตั้งอุณหภูมิแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน, เลือกที่จะปิด หรือเปิดเครื่องปรับอากาศแต่ละโซน แต่ละห้อง, อนุญาต หรือ ไม่อนุญาตให้ทาง user หรือผู้ใช้งานปรับอุณหภูมิ เป็นต้น

ข้อเสียของแอร์ระบบ VRV/VRF คือ

1. ราคาสินค้าและค่าติดตั้งสูงกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป

2. หากเครื่องมีปัญหาจะทำให้ไม่สามารถทำความเย็นได้หลายจุดพร้อมกัน ดังนั้นจึงต้องมีการดูแลรักษาตรวจเช็คเป็นประจำ

3. การซ่อมบำรุง แอร์ระบบธรรมดา หรือ split type ช่างทั่วไปซ่อมได้ แต่ถ้าเป็น แอร์ระบบ VRV VRF นั้น ต้องใช้ช่างผู้ชำนาญการมากกว่า

ทางบริษัทเรายินดีให้คำปรึกษา และรับติดตั้งแอร์โครงการระบบ VRV / VRF ค่ะ

 


06 มีนาคม 2563

ผู้ชม 6368 ครั้ง