ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔๐
คำนำ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ หอพระสมุดสำหรับพระนครได้พิมพ์พงศาวดารขึ้นเรื่องหนึ่ง ว่าด้วยไทยกับฝรั่งเศสเปนไมตรีกันครั้งแผ่นดินสมเด็จ พระนารายณ์มหาราช ซึ่งแปลมาจากฉบับภาษาฝรั่งเศสของมองซิเออร์ลันเย ในคำปรารภหนังสือเล่มนั้นได้กล่าวเปนความไว้ข้อหนึ่งว่า
มองซิเออร์ลันเยตรวจค้นจดหมายเหตุ แลหนังสือซึ่งแต่งว่าด้วยฝรั่งเศสเปนไมตรีกับไทยครั้งพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ มาเรียบเรียงเปนพงศาวดารขึ้นดังนี้ ต่อมากรรมการจึงได้เลือกหาบันดาจดหมายเหตุอันเกี่ยวด้วยเรื่องนั้นมารวมพิมพ์ขึ้นเปนประชุมพงศาวดาร เพื่อเปนเครื่องมือสอบสวนได้จดหมายเหตุ คณะบาดหลวงฝรั่งเศสซึ่งเข้ามาตั้งกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทรเพียงรัชกาลที่ ๑ แลต้นรัชกาลที่ ๒ ซึ่งบาดหลวงโลเนรวมพิมพ์ไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ เรื่องหนึ่ง ได้พิมพ์มาตลอดแล้ว รวมเปนประชุมพงศาวดาร ๖ ภาค
นอกจากนี้ยังมีจดหมายเหตุอื่นอีกเปนอันมาก กรรมการได้จัดให้มีผู้แปลไว้ในราชบัณฑิตยสภา เมื่อมีโอกาศจะได้จัดการพิมพ์ต่อไป บัดนี้รองอำมาตย์เอก หลวงศรีวิเศษ (โจ้ กนิษฐรัต) ปรารภศพรองอำมาตย์โท ขุนนรพิติพิจารณ์ ( เข้ม กนิษฐรัต) ผู้เปนน้องชายใคร่จะพิมพ์หนังสือประเภทนี้แจกในงานนั้น จดหมายเหตุคณะพ่อค้าฝรั่งเศสเรื่องนี้ ศาสตราจารย์ ยอช เซเดส์
เลขานุการราชบัณฑิตยสภาได้ขอคัดมาจากประเทศฝรั่งเศส คราวออก -
จดหมายเหตุคณะพ่อค้าฝรั่งเศสที่เข้ามาตั้ง ครั้งกรุงศรีอยุธยานี้ว่า โดยรูปเรื่องที่เกี่ยวกับพงศาวดารก็คล้าย กับจดหมายเหตุคณะบาดหลวง
ฝรั่งเศส ผิดกันแต่ความมุ่งหมายของคณะ คือพวกบาดหลวงมุ่งหมายในการสอนสาสนามาก มีเหตุการณ์อันใดเกี่ยวแก่การสาสนาก็จดลงโดยพิสดาร
ราชบัณฑิตยสภา
สารบารพ์
จดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยา ตอนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ ฯ สำเนาสาสนโป๊ปคเลมังที่ ๙ ถวายสมเด็จพระนารายณ์
(หน้า ๒)
(หน้า ๓) คำสั่งเจ้าพระยาพระคลังเรื่องต้องการของบางอย่างในประเทศฝรั่งเศส คำสั่งเจ้าพระยาพระคลังอรรคมหาเสนาบดี ของสมเด็จพระนารายณ์ให้ไว้แก่ ออกขุนวรวาที ล่ามของพวกฝรั่งเศส ตามที่ท่านมาเล่าว่า ท่านสังฆราช ขอให้ข้าพเจ้าทูลถามต่อ
พระเจ้ากรุงสยามนายของข้าพเจ้า ว่าจะมีพระราชประสงค์ในของใด ๆ ที่แปลก ๆ ในประเทศฝรั่งเศสบ้างนั้น (หน้า ๔) ของเหล่านี้จะเปนสิ่งที่พอพระทัยพระเจ้ากรุงสยามมาก เพราะเปนของที่ต้องการใช้ในเมืองนี้ ว่าด้วยสมเด็จพระนารายณ์ทรงแต่งทูตไปฝรั่งเศสครั้งแรก ว่าด้วยการที่สมเด็จพระนารายณ์ พระเจ้าแผ่นดินสยาม จัดให้ราชทูตไปเจริญพระราชไมตรีกับพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ พระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสเปนการสำคัญอย่างไร การที่สมเด็จพระนารายณ์ส่งราชทูตไปเจริญทางพระราชไมตรีกับฝรั่งเศส เปนเกียรติยศต่อพระเจ้าหลุยที่
๑๔ เพียงไรนั้น เปนการที่จะพอเห็นได้โดยง่าย การที่ไทยแต่งทูตมาคราวนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คงจะเล่าลือกันไม่เฉพาะแต่ในทวีปยุโรปแห่งเดียว แต่คงจะเล่าลือทั่วไปตลอดถึงเมืองเปอเซีย เมืองยี่ปุ่น เมืองจีน และเมืองอื่น ๆ
แต่อย่างไรก็ดี บรรดาผู้ที่เข้าใจขนบธรรมเนียมของราชการฝ่ายตวันออกแล้ว ได้ลงเนื้อเห็นเปนเสียงเดียวกันว่า นอกจากนั้น จะเปนพระราชสาสนของเจ้าแผ่นดินองค์ใด ๆ ก็ตาม ก็โปรดให้อรรคมหาเสนาบดีเปนผู้รับและตอบพระราชสาสนแทนพระองค์ทั้งสิ้น (หน้า ๖)
การที่ไทยได้แต่งราชทูตไปประเทศฝรั่งเศสคราวนี้
ยังเปนข้อสำคัญอีกอย่าง๑ ก็คือ ที่จะทำให้การค้าขายเจริญขึ้น ในที่นี้จะต้องกล่าวด้วยว่า พระเจ้ากรุงสยามมีพระทัยเอื้อเฟื้อแก่บริษัทฝรั่งเศส ดังได้เห็นปรากฎเมื่อครั้งเรือฝรั่งเศสได้แวะเข้าไปในท่าเรือเมืองตะนาวศรีเมื่อเร็ว ๆ นี้ เมื่อฝรั่งเศสได้ทำการติดต่อกับไทยในคราวที่ราชทูตไทยไปฝรั่งเศสครั้งนี้แล้ว ก็คงจะเปนการกระทำให้พระเจ้ากรุงสยาม ได้ทรงเอื้อเฟื้อและเปนพระธุระกับบริษัทฝรั่งเศสมากขึ้นอีกเปนแน่
- สังฆราชได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์นั้น ก็ดูพระองค์ ก็ทรงอ่อนเข้าหาสาสนาเราอยู่บ้างแล้ว และสังเกตดูสมเด็จพระนารายณ์ก็ทรงนับถือพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ มากอยู่ เรื่องสมเด็จพระนารายณ์ทรงพระราชดำริห์จะแต่งทูตไปฝรั่งเศส ค.ศ. ๑๖๘๐ - ๑๖๘๑ (พ.ศ. ๒๒๒๓ - ๒๒๒๔) ด้วยสมเด็จพระนารายณ์พระเจ้ากรุงสยาม
ซึ่งชนทั้งหลายรับรองว่า เปนพระเจ้าแผ่นดินอันทรงอานุภาพใหญ่ยิ่งฝ่ายตวันออกนั้น ได้ทรงพระราชดำริห์มาหลายปีแล้ว (หน้า ๘)
มองซิเออร์เดอเมเตโลโปลีศเข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์ เมื่อเรือฝรั่งเศสลำนี้ได้มาถึงสักสองสามวัน สมเด็จพระนารายณ์ ก็ได้เสด็จขึ้นไปยัง เมืองลพบุรี ซึ่งเปนเมืองอยู่บ้านนอกห่างจากราชธานีหนทาง ๒ วัน มองซิเออร์เดอเมเตโลโปลิศ ได้ขึ้นไปถึงเมืองลพบุรี ก็ได้พักอยู่ในบ้านหลัง ๑ ซึ่งพระเจ้ากรุงสยามได้โปรดให้จัดเปนที่พักของสังฆราชอย่างงดงามมาก ในเวลาที่เลี้ยงกันนั้น พระเจ้ากรุงสยาม ได้รับสั่งให้ข้าราชการไปรับประทานอาหารกับสังฆราชด้วยหลายคน ในตอนค่ำได้โปรดให้มาพักกับสังฆราช (หน้า ๙)
ครั้นถึงเวลาท่านสังฆราชกับมองซิเออร์เกมก็ได้เข้าไปในพระราชวังสมเด็จพระนารายณ์ได้เสด็จออกประทับอยู่บนพระโทรนแล้ว
และทรงพระมหามงกุฎประดับเพ็ชร์พลอยต่าง ๆ พระมหามงกุฎนี้ทรงแต่ฉเพาะเวลาที่ออกขุนนางใหญ่ ๆ เท่านั้น มองซิเออร์เดอเมเตโลโปลิศกับมองซิเออร์เกมได้ก้มตัวลงถวายคำนับเดอเมเตโลโปลิศกับมองซิเออร์เดอเมเตโลโปลิศนั่งกับพรมปักไหมทองตรงหน้าที่นั่ง ท่านอรรคมหาเสนาบดีหมอบอยู่บนพรมไหมตามแบบของบ้านเมืองข้างขวาสังฆราช และมองซิเออร์เกมนั่งลงข้างซ้ายสังฆราช สังฆราชได้เฝ้าอยู่ประมาณชั่วโมงครึ่ง ในระหว่างนั้นสมเด็จพระนารายณ์ได้รับสั่งถามถึงวิชาเลข และรับสั่งถามถึงวิธีปกครองบ้านเมืองของเจ้าแผ่นดินในทวีปยุโรป
แต่ข้อที่ทรงซักไซ้ไล่เลียงมากก็คือในสิ่งที่เกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส และถึงชื่อเสียงอันโด่งดังของพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศส สมเด็จพระนารายณ์ทรงแสดงความปลาดพระทัยว่าเหตุใดในบรรดาเจ้าแผ่นดินและเจ้านายต่าง ๆ ซึ่งแบ่งกันปกครองเมืองต่าง ๆ ในทวีปยุโรปมากองค์ด้วยกัน จึงได้ยินแต่พระนามของเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสองค์เดียวเท่านั้น แล้วได้รับสั่งต่อไปว่า การที่ทรงได้ยินได้ฟังถึงพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสอยู่ทุก ๆวันนั้น กระทำให้พระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะส่งราชทูตไปเฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสทวีขึ้นอีก
และในเรื่องนี้พวกแขกมัวก็คอยขัดขวางอยู่เนือง ๆ เพราะแขกมัวเปนผู้ที่มีอำนาจในราชสำนักไทย ทั้งชนชาติประเทศอื่นก็คิดอ่านกราบทูล -
(หน้า ๑๐)
เตรียมของที่จะมอบให้ทูตไป เพราะฉนั้นจึงได้ทรงปฤกษากับสังฆราชเพื่อจะได้รีบจัดการให้ทูตได้ออกไปโดยเร็ว ในการที่สังฆราชเดอเมเตโลโปลิศได้เฝ้าในคราวนี้ มีข้อสำคัญที่ควรจะสังเกตอยู่ข้อ ๑
คือในเวลาที่สังฆราชกราบทูลนั้นหาต้องใช้ล่ามไม่แต่ได้กราบทูลด้วยตัวเองตลอดเวลาที่เฝ้าอยู่ และสังฆราชได้โอกาศอันดีที่รู้สึกถึงพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนารายณ์ และรู้สึกว่าหนังสือต่าง ๆ ที่เกี่ยวด้วยสาสนาและที่แปลเปนภาษาไทยแล้ว สมเด็จพระนารายณ์ก็ได้ทรงอ่านและได้ทรงจำข้อความต่าง ๆ นั้นโดยแม่นยำ รุ่งขึ้น พระเจ้ากรุงสยามจะทรงแสดงความพอพระทัยในการที่สังฆราชได้เฝ้าในวันวารนี้นั้น จึงได้โปรดพระราชทานอาหารมาเลี้ยงสังฆราชดียิ่งกว่าวันก่อนไปอีก
ว่าด้วยจารึกพระราชสาสน
มองซิเออร์เกมก็ได้ไปยังวัดตามเวลา เพราะเรื่องนี้เปนการเกี่ยวทางราชการหาได้เกี่ยวทางสาสนาไม่
ว่าด้วยทูตไทยออกจากสยาม พระราชสาสนนั้นได้บันจุในกล่อง ฉบับไม้จันซึ่งมีราคาแพงเท่ากับทองคำเหมือนกัน แต่ก่อนที่จะเชิญพระราชสาสนบันจุในกล่องนั้น หีบซึ่งบันจุพระราชสาสนถึงโป๊ปนั้นหุ้มด้วยผ้าไหมทองสีม่วง และหีบซึ่งบันจุพระราชสาสนถวายพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ นั้น
มองซิเออร์เกมขอให้ฝรั่งเศสจ่ายเงินค่าใช้สอยให้ทูตไทย
(หน้า ๑๔)
จดหมายมองซิเออร์กิลเฮมบอกข่าวการรับรองทูตไทย
เมื่อเรือของท่านลำที่ชื่อ โซเลย์ดอริยัง ได้ทำการซ่อมแซมและบันทุกน้ำขึ้นเรือเสร็จแล้ว
มองซิเออร์บูโรผู้จัดการก็ได้ลงเรือ และได้สั่งให้ออกเรือเมื่อวันที่ ๒๐ เดือนกันยายน เพื่อกลับไปยังเมืองสุหรัต มองซิเออร์บูโรได้รับรองว่า มองซิเออร์บารองผู้อำนวยการใหญ่ จะได้ -
(หน้า ๑๖)
บอกข่าวเรื่องเปลี่ยนเจ้าเมืองบันตำแลเรื่องพวกฮอลันดา กีดกันการค้าขาย ในระหว่างที่รอเรือเหล่านี้อยู่นั้น ข้าพเจ้าจะเล่าให้ท่านฟังถึงการเปนไปของเมืองบันตำ คือ เจ้าแผ่นดินเมืองบันตำ ได้เวรราชสมบัติให้พระราชโอรสแล้ว ฝ่ายพวกฮอลันดาก็ได้แต่งทูตมา ๓ คน เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๖๘๐ (พ.ศ. ๒๒๒๓) ทูตฮอลันดาได้มาอยู่ที่นี่ ๑ เดือนหรือ ๕ อาทิตย์ โดยไม่ได้ทำความตกลงอย่างใด
เรื่องที่รอฟังว่าท่านจะเห็นชอบด้วยหรือไม่ และในเรื่อนี้เราคงจะทำแผ่ออกไปได้เพราะเรือของเรามีอยู่ ว่าด้วยสัญญาค้าขายซึ่งไทยทำกับบริษัทฝรั่งเศส
ห้ามมิให้พ่อค้าชาวต่างประเทศรับซื้อพริกไทยไว้เปนอันขาด
ถ้าใครฝ่าฝืนขืนซื้อไว้ จะต้องริบพริกไทยไว้ และ จะต้องถูกปรับด้วยเจ้าพนักงารด่านภาษี (หน้า ๒๒)
เรื่องท่านสังฆราชเดลีโอโปลิศอยู่ในกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันที่ ๒๙ เดือนธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๒ (พ.ศ. ๒๒๒๕) สังฆราชเดลีโอโปลิศได้มาถึงกรุงศรีอยุธยา (หน้า ๒๓)
(หน้า ๒๔) ท่านสังฆราชขอให้นำความกราบทูลพระเจ้าหลุยที่๑๔ ให้ทรงทราบถึงภาระของพวกมิชชันนารี และให้ทรงทราบถึงความขาดเหลือบกพร่องของพวกมิชชันนารีเเละขอให้กราบทูลว่า สังฆราชเดลีโอโปลิศมีความวิตกว่าจะรับภาระอันนี้ไปไม่ได้นานเท่าไร นอกจากคณะบาดหลวงที่จะไปตั้งในเมืองจีนแล้ว สังฆราชจะต้องเปนธุระเลี้ยงดูคณะบาดหลวงต่าง ๆ ที่ได้ตั้งขึ้นในเมืองตังเกี๋ยเมืองญวน เมืองเขมร และเมืองไทยแล้ว และคณะบาดหลวงในเมืองไทยก็ได้แยกออกไปถึง ๑๐ ตำบล ซึ่งห่างไกลจากกรุงศรีอยุธยาหนทางตั้ง ๘๐ ถึง ๑๐๐ ไมล์ แห่ง ๑ ต้องเลี้ยงคนวัน ๑ กว่า ๘๐ คน รวมทั้งที่บ้านบาดหลวง และโรงพยาบาลด้วย และยังมีร้านอยู่ร้าน ๑ ซึ่งเปิดรับคนป่วยทุกชนิดและจำหน่ายยาทุก อย่างตามแต่ใครจะมาขอยาชนิดไร เพราะเหตุฉนี้ สังฆราชจึงขอความร่วมมือ จากคณะบาดหลวงที่กรุงปาริศบ้าง หรือจะจัดเปนเงินเดือนประจำสำหรับคณะบาดหลวงในอินเดียก็ได้ สังฆราชได้จัดให้มองซิเออร์เลอเฟฟร์ ไปยังประเทศฝรั่งเสศแล้ว มองซิเออร์เลอเฟฟร์ จะได้อธิบายถึงเหตุการณ์ ต่าง ๆ อันเกี่ยวด้วยคณะบาดหลวงให้ทราบโดยเลอียดต่อไป ---
จดหมายมองซิเออร์เดลานด์บอกข่าวเรื่อง สังฆราชเดลิโอโปลิศ อยู่ในเมืองไทย
เมื่อวันที่ ๔ เดือนกรกฎาคม ข้าพเจ้าได้ทราบข่าวมาว่า
เรือลำเล็กชื่อ เซนต์โยเซฟ ได้เข้ามาในลำแม่น้ำนี้แล้ว และได้ทราบว่าท่านสังฆราชเดลิโอโปลิศกับพวกมิชชันนารี ซึ่งได้ลงเรือลำนี้ที่เมืองสุหรัต นั้น มีความสุขสบายดีด้วยกันทุกคน เสมียนประจำเรือได้นำหนังสือของท่านลงวันที่ ๑๘ เดือนเมษายนมาส่งให้ข้าพเจ้าแล้ว และเมื่อวันที่ ๒๙ เดือนกรกฎาคม มองซิเออร์ลำป์ตองก็ได้ส่งสำเนาหนังสือฉบับนั้นเองมา ให้ข้าพเจ้าแล้วเหมือนกัน ข้าพเจ้าจะได้ตอบจดหมายของท่านเปนบางข้อเสียก่อน จึงจะได้เล่าให้ท่านฟังถึงการงารของบริษัท
นับตั้งแต่คราวที่ข้าพเจ้าได้มีหนังสือมาถึงท่านฉบับก่อนเปนต้นไป ข้าพเจ้าได้สังเกตว่าท่านได้เขียนบอกมาว่าในปีนี้ บริษัทหาได้ส่งของมาถวายพระเจ้ากรุงสยาม และฝากเจ้าพระยาพระคลังไม่ ในเรื่องนี้จะควรอย่างไรก็แล้วแต่ท่านจะเห็นชอบ แต่ข้าพเจ้าจะต้องบอกให้ท่านทราบอีกครั้ง ๑ ว่า ทำอย่างไร ๆ พระเจ้ากรุงสยาม และเจ้าพระยาพระคลังคงจะไม่แสดงตัวว่ามีความประสงค์อยากจะได้ของถวาย และของฝาก ส่วนพระเจ้ากรุงสยามที่จะไม่ทรงแสดงว่าจะต้องพระราชประสงค์ของถวายนั้น ก็เพราะเหตุว่าพระองค์เปนพระเจ้าแผ่นดินซึ่งมีพระทัย -
(หน้า ๒๖)
บอกให้ส่งของมาถวาย แต่อย่างไรก็ดี เปนธรรมเนียมในเมืองนี้มาช้านานแล้ว ว่าถ้าเรือเข้ามาถึงลำใด จะเปนเรือของบริษัทก็ตาม หรือเปนเรือของบุคคลก็ตาม อนึ่งถ้าเราได้เอาเจ้าพระยาพระคลังเปนเพื่อนไว้แล้ว เราก็ดูจะได้มีโอกาศหลายพันครั้ง ที่จะได้รับประโยชน์คุ้มกับของเราที่จะให้แก่เจ้าพระยาพระคลัง เพราะฉนั้นเมื่อ เดือนมิถุนายน เปนเวลาที่พระเจ้ากรุงสยาม ได้เสด็จกลับมาจากเมืองลพบุรีแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้เอาผ้าไปให้เจ้าพระยาพระคลัง คิดเปนราคาประมาณ ๔๒๕ รูเปีย ข้าพเจ้าคอย มองซิเออร์คอช อยู่ทุก ๆ วัน ในปีนี้ข้าพเจ้าป่วยไม่สบายเลย ด้วยเกิดขาบวมขึ้น
ถ้าข้าพเจ้ามีกิจการที่จะต้องทำมากก็จะเปนการลำบากติดขัดที่สุด
ข้าพเจ้า จำเปนต้องขอพระราชทานยืมเงิน จากพระเจ้ากรุงสยามเปนเงิน ๔๐๐๐ รูเปีย เพื่อแบ่งใช้หนี้ซึ่ง บริษัทเปนหนี้คณะบาดหลวงอยู่ บอกการสินค้าแลการคิดตั้งบริษัท ข้าพเจ้าได้หวังใจว่า ท่านคงจะอนุญาตให้ข้าพเจ้าได้ไปเมืองสุหรัต สักคราว ๑ เพราะเห็นว่าการที่จะไปเมืองสุหรัตนั้น จะเปนประโยชน์มากกว่าที่ข้าพเจ้าจะอยู่ในเมืองนี้ ข้าพเจ้าได้พยายามแก้ไขในข้อถามเหล่านี้ โดยได้ให้กราบทูลว่า ท่านได้รับข่าวที่เมืองสุหรัตว่า เรือที่ได้ออกจากเมืองนี้ไปเมืองยี่ปุ่นแต่ปีกลายนี้ยังไม่ได้กลับมาเลยจนลำเดียว พระเจ้ากรุงสยามจึงได้รับสั่งตอบว่า มองซิเออร์ลำป์ตอง เปนแต่พ่อค้าบุคคล เท่านั้น ยังมาค้าขายในเมืองนี้ได้
ถ้าเเม้ว่า ท่านไม่เห็นด้วยใน การที่จะเลิกถอนห้างไปทีเดียว ก็ขอได้โปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าได้กลับไปเสียก่อน และส่วนการทางนี้ การที่ข้าพเจ้า ได้คิดไว้ว่า
จะแบ่งสินค้าส่งไปเมืองยี่ปุ่นเสียบ้างนั้น เปนการไม่สำเร็จ เพราะเหตุว่าเรือที่ได้ส่งไปเมืองยี่ปุ่นแต่ปีกลายนี้ยัง ไม่ได้กลับมาเลยจนลำเดียว (หน้า ๒๙)
ข้าพเจ้า ได้รับบาญชีของซึ่งมีทองแดง ๕๐ หีบ กับดีบุก ๑๐๐ หาบแล้ว ของเหล่านี้ ข้าพเจ้าได้บันทุกลงเรือชื่อ โวตูร์ การที่ขาย ทองแดงกับดีบุก คราวนี้ ได้กระทำให้มองซิเออร์ลำป์ตอง เกิดความเสียหายขึ้น เพราะไทยหาว่า สินค้าที่พระเจ้ากรุงสยามได้ฝาก มองซิเออร์ลำป์ตองไปจำหน่ายนั้น ข้าพเจ้า ขอท่านได้โปรดอธิบายข้อความในจดหมายของท่าน ในข้อที่ท่านสั่งมา
ให้ข้าพเจ้ากระทำการตามคำแนะนำของท่านสังฆราชทุกอย่างนั้นว่า (หน้า ๓๐)
ตามธรรมดานั้นถ้าข้าพเจ้ามีเรื่องสำคัญ ๆ ที่จะกราบทูลพระเจ้ากรุงสยาม หรือจะเรียนเจ้าพระยาพระคลังแล้ว ข้าพเจ้า มักจะบอกให้ท่านสังฆราชทราบทุกคราว ทั้งรู้ไม่ได้ด้วยว่าใครจะเปนเพื่อนของข้าพเจ้าบ้าง
และการต่าง ๆ เหล่านี้เปนสิ่งที่ข้าพเจ้า พยายามปฏิบัติและเล่าเรียนโดยเฉพาะ ตั้งแต่เจ้าพระยาพระคลัง
ได้รับหนังสือของท่านอธิบายเรื่อง กอลกอนด์ นั้นก็หาได้พูดถึงอีกต่อไปไม่ เพราะได้เชื่อตามคำอธิบายของท่าน ในเรื่อง มาดำเดอโฮเมนิล ถูกผู้ร้ายลักของไปนั้น คดีก็คงรูปเดิมนั้นเอง เจ้าพระยาพระคลัง ได้สั่งผู้พิพากษากว่า ๒๐ ครั้งแล้ว ให้รีบจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จไปเสียโดยเร็ว (หน้า ๓๑)
เมื่อทราบดังนี้ ข้าพเจ้าจะได้พยายามจัดการให้เราได้รับประโยชน์ที่สุดที่จะได้ ตั้งแต่ได้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ดังข้าพเจ้าได้เล่ามาแล้วนั้น พวกแขกมัว ซึ่งได้โดยสานเรือชื่อ โวตูร์ ในคราวที่ข้าพเจ้า มายังเมืองไทยนั้น ได้สัญญาว่า จะเสียค่าระวางบันทุกสินค้า
และจะยอมเสียเงินค่าโดยสานด้วย ข้าพเจ้าพึ่งมาถึงเมืองไทยใหม่ ๆ ยังไม่รู้จักในวิธีดำเนิรการของเมืองนี้ จึงได้ทำตามคำสั่งของ เจ้าพระยาพระคลังทุกประการ ผลที่สุดของการเรื่องนี้เมื่อข้าพเจ้า -
การที่ข้าพเจ้าได้เล่าในเรื่องนี้โดยยืดยาว ก็เพื่อประสงค์จะให้บริษัท จัดการให้ข้าพเจ้า ได้โดยสานเรือของบริษัทกลับไปอย่าง ๑ หรือมิฉนั้น ต้องมีหนังสือสำคัญของ เจ้าพระยาพระคลัง เปนหลักฐาน จึงควรให้ใช้เรือของบริษัทได้ เพราะ
พวกแขกมัวเปนพวกที่โกงมาก สุรา ๔ หีบ กับเหล้าบรั่น ๑ ถัง ที่ท่านได้ส่งมาให้ข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าได้รับไว้ถูกต้องแล้ว แต่สุรา ๔ หีบ นั้นซึ่ง โดยมากแห้งไปเสียส่วน ๑ นั้นไม่เพียงพอเลย อนึ่งของต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้า ได้ทำบาญชีส่งไปยังท่านเมื่อปีกลายนั้น ขอท่านได้โปรดกรุณาส่งมาให้ข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้าได้ขอแต่ของที่จำเปนแท้ ๆ
บอกข่าวสังฆราชเมืองมอริตาเนียแลเมืองญวน
ข้าพเจ้า ได้ให้บันทุกเสบียงบางอย่างที่ยังขาดอยู่ และไม่ได้สั่ง มองซิเออร์บาป์ตองอย่างใด นอกจากบอกให้กลับมาแวะเมืองนี้
เมื่อ มองเซนเยอร์เดอเมเตโลโปลิศ ได้ไปเมืองญวน ได้พามิชชันนารีไปด้วย ๖ หรือ ๗ คน และได้หาของไปถวายเจ้าแผ่นดินญวนด้วย พวกจีนวิวาทกับพวกมิชชันนารี เมื่อวันก่อนวันนักขัตฤกษอิศเตอร์ ได้มีพวกจีนพากันเข้ามาในบ้านบาดหลวง จีนคน ๑ ได้ตบหน้ามิชชันนารีผู้ ๑ คนในบ้าน บาดหลวงจึงได้ออกมาช่วยกันจับจีนผู้นั้นได้ เมื่อข้าพเจ้าได้ทราบข่าวว่า เกิดเรื่องขึ้นเช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงได้ชักชวนชาวฝรั่งเศส ๑๒ คน กับชาวยุโรปอื่น ๆ ที่จะชวนได้ถืออาวุธทุกคน พากันไปยังโรงเรียนสามเณร ท่านสังฆราชกับข้าพเจ้า จึงได้จัดให้ชาวฝรั่งเศสคน ๑ ซึ่งเปน แพทย์ของพระเจ้ากรุงสยาม กับล่ามอีกคน ๑ ให้ไปหาออกพระโชฎึก เพื่อขอให้ออกพระโชฎึกปล่อยตัวล่ามของเรามา (หน้า ๓๕)
ครั้นค่ำ ข้าพเจ้าก็ได้กลับมาบ้าน และได้เกิดความหวาดขึ้นหลายครั้ง เพราะมีเสียงพูดกันว่า
พวกจีนกำลังรวบรวมผู้คนจะยกมาตีพวกเรา เมื่อข้าพเจ้า ได้เห็นความดุร้ายของขุนนางจีนผู้นี้ และพรรคพวก ก็มาตรองเห็นว่าจะปล่อยให้เขาดูถูกเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ การที่พวกจีนดูถูกข้าพเจ้า ดังนี้ เจ้าพระยาพระคลัง ถือว่าเท่ากับดูถูกตัวท่านเองเหมือนกัน เพราะ ฉนั้นจำเปนต้องกราบทูลให้ทรงทราบ
เจ้าพระยาพระคลังได้เล่าต่อไปว่า พระเจ้ากรุงสยามได้มีรับสั่ง ให้จับพวกจีน ที่เข้าไปในบ้านสังฆราชจำตรวน ให้หมดด้วย บอกเรื่องที่บริษัทติดต่อกับฟอลคอล
ขุนนางผู้นี้ เปนคนฉลาดไหวพริบ ตรึกตรองการลึกซึ้ง จึงได้ทำการจนเปนคนโปรดปรานมาได้ ๒ ปีแล้ว และคนทั้งหลายก็เรียกล้อเล่นว่าเปน เจ้าพระยาพระคลังที่
๒ วัน ๑ คงเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน ๒ ครั้ง และ สมเด็จพระนารายณ์ มีพระนิสัยชอบเสาะแสวงหาความรู้ จึงโปรดฟังขุนนางผู้นี้กราบทูลการต่าง ๆ
ในเวลาที่พบปะสนทนากันนั้น โดยมากเราก็พูดแต่เรื่องอำนาจ และอภินิหารของพระเจ้าฝรั่งเศสมาก จนถึงกับเอาพระรูปแขวนไว้ในบ้านในที่เปิดเผย เมื่อ มองซิเออร์คอนซตันตินฟอลคอน ได้ฟังเราเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวด้วยพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ แล้ว ก็คาบความนั้นไปเล่าถวายต่อสมเด็จพระนารายณ์ เมื่อข้าพเจ้า มีกิจการอย่างใด ๆ ที่จะต้องไปพูดหรือทำธุระกับเจ้าพระยาคลัง แล้ว ข้าพเจ้าก็บอกให้ คอนซตันตินฟอลคอน ทราบทุกเรื่อง ถึงแม้ว่าข้าพเจ้า ได้เล่าถึงเรื่องคอนซตันตินฟอลคอนโดยยืดยาว เช่นนี้ ก็ยังไม่หมดความที่ข้าพเจ้าจะควรเล่าได้ และข้าพเจ้า เชื่อว่าข้าพเจ้าได้เอาอกเอาใจคอนซตันตินฟอลคอน คอนซตันตินฟอลคอนได้บอกข้าพเจ้าว่า เขาจะได้ - (หน้า ๓๘)
ของที่ฝากมาให้คอนซตันตินฟอลคอนนั้น จะเปนสุราเมืองเปอเซีย ๒-๓ หีบ น้ำดอกไม้เทศ ผลไม้เมืองเปอเซียและของรับประทานอย่างอื่นก็ได้ ข้าพเจ้าขอให้ท่านเชื่อเถิดว่า ของที่เราจะให้คอนซตันตินฟอลคอน ตีราคา ๑ เหรียญนั้น คงจะกลับเปนประโยชน์ต่อบริษัทเท่าราคา ๕๐ เหรียญ ขอท่านได้โปรดส่งข่าวในประเทศยุโรป มาให้ข้าพเจ้าทราบบ้างเพื่อ
ข้าพเจ้าจะได้ส่งข่าวนั้นไปกราบทูลพระเจ้ากรุงสยาม การที่ -
บอกข่าวเรื่องฮอลันดา หัวหน้าพวกฮอลันดาได้มาแจ้งต่อข้าพเจ้าว่าเรือชื่อชัมปียองได้ผ่านแหลมเคปออฟกุดโฮป
เมื่อเดือนเมษายนและได้แวะรับเสบียงอาหาร เมื่อเสร็จแล้วก็แล่นต่อไป พวกฮอลันดามีธรรมเนียมอยู่อย่าง ๑ ว่า ที่เมืองบาตาเวียต้องส่งข่าวของประเทศยุโรปและข่าวอินเดีย ให้หัวหน้าห้างฮอลันดาทราบทุก ๆ แห่ง และถ้าจะมีเหตุการณ์ของบริษัทฮอลันดาเกิดขึ้นอย่างใด ก็ต้องบอกให้รู้ทั่วกัน เพราะฉนั้นถ้าจะถามข่าวคราวอย่างใด ก็ต้องบอกให้รู้ทั่ว ๆ กัน เพราะฉนั้นถ้าจะถามข่าวคราวอย่างใด ๆ พวกฮอลันดาก็ตอบได้ โดยทันที ข้าพเจ้าเห็นว่า ถ้าเราจะเอาแบบของพวกฮอลันดามาทำบ้าง ก็คงจะได้ ในปีนี้ได้มีคนสำคัญ ๆ ในเมืองมาเก๊า
เขียนหนังสือถึงข้าพเจ้าหลายคน ถามว่าข้าพเจ้าจะทำการค้าขายกับเขาบ้างหรือไม่ และรับรองว่าเรือของเขาที่จะมายังเมืองนี้ จะไม่จำหน่ายสินค้าอย่างใดก่อน ข้าพเจ้าที่จะได้ตรวจเลือกตามที่ต้องการแล้ว แต่ในเวลานี้ข้าพเจ้ายังไม่พร้อมที่จะทำการค้าขายกับเมืองมาเก๊าได้ เมื่อเดือนมิถุนายน ได้มีคน ๆ หนึ่งชื่อดอนมิลกีออร์ดามาราล ออมีซัว ออกจากเมืองไทยไปเมืองมาเก๊า คนผู้นี้ได้แวะเข้ามาในเมืองไทยเมื่อเดือนสิงหาคม พอเขาได้มาถึงข้าพเจ้าก็ได้ขึ้นไปหาเพื่อต้อนรับ แต่เขาได้รับรองข้าพเจ้าอย่างไม่มีไมตรีเลย
ภายหลังอีกเดือนหนึ่ง หัวหน้าพวกฮอลันดาก็ได้ไปเยี่ยมเขาบ้าง และอีก -
เมื่อก่อนพระเจ้ากรุงสยามจะเสด็จกลับจากเมืองลพบุรีสักสามสี่วัน ได้มีคน ๆ หนึ่งซึ่งได้ทำการของรัฐบาลในเมืองบาตาเวียมา ๒๕ ปีแล้ว ข้าพเจ้าเห็นว่าเปนหน้าที่ของข้าพเจ้า ที่จะต้องบอกให้เจ้าพระยาพระคลังทราบในความคิดของพวกฮอลันดาเช่นนี้ ถ้าแม้ว่าพวกฮอลันดาได้มายึดบางกอกไว้แล้ว
พวกฮอลันดาก็จะเปนใหญ่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในทะเลแถบนี้ เพราะท่าเรือที่สำคัญอยู่ในเวลานี้ก็เหลือแต่บางกอกแห่งเดียวเท่านั้น บอกข่าวเกี่ยวข้องด้วยเมืองภูเก็จ
อีกสองสามวัน เจ้าพระยาพระคลังก็ตอบเรื่องราวของข้าพเจ้าว่า พวกฮอลันดาได้ขอเกาะภูเก็จนี้ และพวกฮอลันดาคิดจะเอาให้ได้ การที่เจ้าพระยาพระคลังได้ตอบมาดังนี้
ก็ตรงกับที่ข้าพเจ้าได้คาด ไว้ และตรงกับความต้องการของข้าพเจ้าด้วย
(หน้า ๔๓)
(หน้า ๔๖) เมืองนั้นอยู่ในท่ามกลาวพวกแขกมลายูซึ่งเปนคนโกง อย่างที่สุด
พวกฮอลันดาที่ไปตั้งการค้าขายในเกาะมาลากาเมืองบาตาเวียและแห่งอื่น ๆ ก็ได้รับความลำบากจากพวกแขกมลายูเหมือนกัน แต่พวกฮอลันดาปราบพวกมลายูไว้อยู่ เพราะเขาได้สร้างป้อมและมีทหารที่คอยปราบพวกนี้อยู่เสมอ การที่ข้าพเจ้าได้อธิบายถึงประโยชน์ของบริษัทดังนี้ ก็เปนแต่อธิบายอย่างเผิน ๆ เพราะทราบอยู่ว่าการที่ข้าพเจ้าอธิบายเพียงเท่านี้ ก็ พอเปนหนทางที่จะได้ให้ท่านตรึกตรองถึงการที่บริษัทจะไปตั้ง อยู่เมืองยะโฮนี้ และถ้าท่านปราถนาจะไปตั้งบริษัทอย่างว่านี้แล้ว
ขอท่านได้โปรดสั่งมายังข้าพเจ้าอย่างกว้างขวางและอย่างเด็จขาดด้วย ถ้าแม้ว่าบริษัทเปนอันตกลงจะไปตั้งเมืองยะโฮ ก็จะต้องเพิ่มคนและจะต้องมีเรือเล็ก ๆ ขนาดเรือเซนโยเซฟสักลำ ๑ สำหรับจะได้ไปมาได้ง่าย และเราก็คงจะหาทางให้เรือลำนี้ได้คุ้มโสหุ้ยได้เสมอ ในเวลาที่ข้าพเจ้าได้สนทนากับมองซิเออร์คอนซตันตินฟอลคอนนั้นได้เกิดความคิดขึ้นอย่าง ๑ ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าจะเปนประโยชน์ต่อบริษัทมาก ข้าพเจ้าเกรงว่าความคิดอันนี้ดูเหมือนเจ้าพระยาพระคลังจะได้มีหนังสือบอกไปยังเจ้าเมืองมัทราศแล้ว
แต่ส่วนข้าพเจ้านั้นก็ยังไม่ได้พูดกับใครเลย ความคิดของข้าพเจ้านั้นดังนี้ คือให้บริษัททำสัญญากับพระเจ้ากรุงสยาม รับสัญญาว่าในปี ๑ บริษัทจะได้ส่งเรือจากประเทศฝรั่เศส มากรุงสยาม ขนาด ๔๐๐-๕๐๐ ตัน ลำ ๑ ทุก ๆ ปี เรือนั้นจะได้บันทุกสินค้ามีราคาประมาณ ๑๐๐ บาทเปนผ้าชนิดที่พระเจ้ากรุงสยาม - (หน้า ๔๗)
บอกข่าวเรื่องสินค้า ถ้าเรือลำนี้ได้ออกจากประเทศฝรั่งเศสในเดือนมกราคม
ก็คงจะมาถึงเมืองไทยอย่างช้าราวเดือนกรกฎาคม สิงหาคม หรือกันยายน เมื่อขากลับให้พระเจ้ากรุงสยามอนุญาตให้บันทุกดินประสิวกลับไป เพราะข้าพเจ้าได้ทราบว่าดินประสิวในเมืองนี้ดีกว่าดินประสิวที่เมืองเบงกอล ข้าพเจ้าเชื่อว่าดินประสิวที่เมืองนี้พอจะซื้อได้หาบละ ๑๐ รูเปีย แต่โดยปรกติพระเจ้ากรุงสยามทรงขายหาบละ ๒๑ รูเปีย นอกจากดินประสิวก็ให้เรือบันทุกทองแดงและดีบุก ทองแดงนั้นคิดราคาหีบละ ๒๐ รูเปีย ดีบุกนั้นคิดราคาหาบละ ๔๐หรือ ๕๐ รูเปีย เรือลำนี้จะได้กำหนดให้ออกจากเมืองไทยในปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคม
เพื่อให้ไปถุงฝั่งคอรอมันดเลในเดือนธันวาคม เมื่อถึงฝั่งคอรอมันดเลแล้วจะได้เอาทองแดงกับดีบุกขึ้นจากเรือ เพราะทองแดงกับดีบุกนี้ต้องซื้อขายกันเปนเงินสดและคงจะได้กำไรไม่น้อยกว่า ๒๐ เปอเซน เมื่อเรือได้ถ่ายทองแดงกับดีบุกออกแล้ว ก็ให้บันทุกผ้าต่อไป และให้ออกเรือจากฝั่งคอรอมันดเล ในต้นเดือนกุมภาพันธ์เลยไปเมืองฝรั่งเศสทีเดียว ประโยชน์ที่จะได้แก่บริษัทนั้นก็พอจะเห็นได้ง่ายเพราะคงจะ ได้กำไรในการขายผ้าเมืองฝรั่งเศสไม่ใช่น้อย และบางทีในเที่ยวเดียวก็อาจจะได้กำไรจากผ้า ทองแดงและดียุกถึง ๔๐ - ๕๐ ยังการที่จะ
บันทุกดินประสิวนั้นก็จะเปนประโยชน์อีก เพราะจะได้เอาดินประสิวบันทุกแทบอับเฉาดีกว่าที่จะไปเอาหินจากฝั่งคอรอมันดเลมาเปนอับเฉา ถึงแม้ - (หน้า ๔๘)
บอกข่าวเข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์
เจ้าพระยาพระคลังได้บอกข้าพเจ้านานแล้วว่า ก่อนที่พระเจ้ากรุงสยามจะเสด็จขึ้นไปประทับเมืองลพบุรี
มีพระราชประสงค์จะทรงแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นว่า คั้รนเวลาเช้าวันที่๑๑ตุลาคมข้าพเจ้าได้ไปยังพระราชวัง ได้ผ่านชลาหลายชลาจนถึงชลาแห่ง ๑ ซึ่งตรงกับที่ประทับและมีทหารถืออาวุธอยู่ในที่นั้นมาก เจ้าพนักงารได้จัดให้ข้าพเจ้านั่งลงกับพื้น และจัดให้ทูตเมืองยำบี
นั่งข้างหลังข้าพเจ้าห่าง๑๒ หรือ๑๕ ก้าว คือว่าข้าพเจ้านั่งใกล้กับที่ประทับมากกว่าทูตเมืองยำบี ๑๕ ก้าว (หน้า ๔๙) ในทันใดนั้นเจ้าพนักงารได้เป่าแตรสังข์ เจ้าพนักงารจึงได้รูดพระ วิสูตร์อันงดงามซึ่งบังพระโทรนอยู่ จึงได้เห็นพระเจ้ากรุงสยามประทับอยู่ บนพระโทรน พระโทรนนั้นงามอย่างที่สุด และองค์พระเจ้าแผ่นดินก็งามด้วยประดับพระองค์ด้วยเพ็ชรพลอยต่าง ๆ เต็มทั้งพระองค์ เมื่อสุดเสียงแตรสังข์แล้ว เจ้าพระยาพระคลังได้กราบบังคมทูลว่า ตามที่ได้มีพระราชโองการไว้นั้น
บัดนี้เจ้าพระยาพระคลังได้นำข้าพเจ้า มาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทแล้ว สมเด็จพระนารายณ์จึงได้รับสั่งให้ ถามข้าพเจ้าถึงข่าวคราวพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และรับสั่งถามว่าเหตุใด จึงไม่เห็นมีเรือเข้ามาเลย ครั้นข้าพเจ้าได้กราบทูลตอบตามข้อรับสั่งแล้วเจ้าพนักงารได้เชิญพานเงินมาวางต่อหน้าข้าพเจ้า ๑ พาน ในพานเงินนั้นมีเสื้อทำด้วยแพรดอกเงินแลทอง ๑ เสื้อ กับดาบเมืองอินเดียมีลวดทอง ๑ ดาบ แพรที่ทำเสื้อนั้นเปนแพรที่ข้าพเจ้าได้ถวายเมื่อมาถึงเมืองไทยนั้นเอง ข้าพเจ้าจึงยกพานเงินทั้งเสื้อและดาบขึ้นชูบนศีร์ษะ ๓ ครั้ง
เจ้าพนักงารก็ได้เอาเสื้อมาสวมตัวข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าก็ลงกราบอย่างแบบธรรมเนียมของบ้านเมือง เมื่อเสร็จพิธีรับพระราชทาน เสื้อแล้ว สมเด็จพระนารายณ์จึงรับสั่งกับราชทูตเมืองยำบี ๒-๓ องค์ เจ้าพนักงารก็ได้เอาเสื้อพระราชทานมาสวมให้ราชทูต เสื้อที่พระราชทานราชทูตนั้นไม่ใคร่มีราคาเท่าไรนัก พอเสร็จเจ้าพนักงารก็เป่าแตรสังข์ ขึ้นอีก และพระวิสูตรก็รูดปิดพระโทรนจนมิด การที่พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงพระกรุณาแก่ข้าพเจ้าเช่นนี้ ทำให้คนทั้งหลายปลาดใจมาก และ
(หน้า ๕๐)
บอกข่าวเรื่องพระราชทานที่ให้สังฆราชสร้างวัด
ในเรื่องนี้เพื่อนของเราคนนี้คือ คอนซตันตินฟอลคอนได้จัดการตามที่ได้รับปากไว้ จนถึงกับพระเจ้ากรุงสยาม ได้มีรับสั่งให้มาขอแบบโบสถ์จากสังฆราช
สมเด็จพระนารายณ์ก็ได้มีรับสั่งให้สร้างบ้านขึ้นหลัง ๑ สำหรับคอยรับราชทูตฝรั่งเศสพระทรงหวังว่าพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ คงจะแต่งราชทูตมาเปนแน่ บ้านนี้จะเปนบ้านที่งามมากและบางทีพวกเราเองก็จะได้อาศรัยได้บ้าง พระเจ้ากรุงสยามก็ได้มีรับสั่งให้ทำเครื่องเงินสำหรับให้ราชทูตฝรั่งเศสใช้ด้วย อนึ่งได้มีรับสั่งให้ไปทำของแปลก ๆ ที่หายากในเมืองยี่ปุ่น สำหรับจะพระราชทานไปยังเมืองฝรั่งเศส และได้รับสั่งว่าถึงจะไม่ทรงแต่งทูตไปฝรั่งเศส ข้าพเจ้า ขอท่านได้โปรดส่งม้ามาให้ข้าพเจ้า ๑ ม้า ให้มีอานพร้อม ด้วยซึ่งเปนของจำเปนที่สุด เพราะในอาทิตย์ ๑ ข้าพเจ้า ต้องไปหาเจ้าพระยาพระคลังอยู่ใน ๓-๔ ครั้งทุกอาทิตย์ นอกจากนี้ข้าพเจ้า คาดคะเนว่า ข้าพเจ้าจะต้องขึ้นไปเมืองลพบุรีบ้าง เพราะในปี ๑ พระเจ้ากรุงสยามเสด็จขึ้นไปประทับที่เมืองลพบุรี (หน้า ๕๒) บอกข่าวเรื่องสินค้า
ข้าพเจ้าเชื่อว่าข้าพเจ้า ได้จัดการจำหน่ายสินค้าเหล่านี้ โดยมีกำไรมาก
เพราะการที่จะเก็บสินค้าเหล่านี้ไว้ หรือจะส่งสินค้าเเหล่านี้กลับไปที่เดิม ก็ไม่เปนประโยชน์อะไรเลย ข้าพเจ้า ได้ขายสินค้าให้แก่คลังหลวงคิดเปนราคาเงิน ๔๐๐๐ รูเปีย แต่แลกเปลี่ยนกันกับทองแดง คือว่า เมื่อเรือมาจากเมืองยี่ปุ่นแล้ว ดีบุกกับทองแดงนี้ ข้าพเจ้าจะได้ พยายามจำหน่าย ก่อนที่เรือจะได้มาจากเมืองสุหรัต ซึ่งเปนการทุ่นโสหุ้ยของเรือ ที่ท่านบอกข้าพเจ้าว่า จะได้ส่งมาในคราวมรสุมหน้า (หน้า ๕๓)
ข้าวเปลือกขึ้นราคาถึงเกวียนละ ๗๕ บาท แต่ก่อนเกวียน ๑ ราคา ๑๐-๑๕ บาทเท่านั้น แต่มาเดี๋ยวนี้ข้าวได้ลดราคาลงบ้างเล็กน้อย พอจะหาซื้อตามท้องตลาดได้บ้างแล้ว ถ้าแม้ว่าท่านจะส่งเรือและของฝากมายังเมืองนี้แล้ว
ควรท่านจะมีจดหมายถวายพระเจ้าแผ่นดินฉบับ ๑ มีมาถึงเจ้าพระยาพระคลังฉบับ ๑ ด้วย บอกข่าวเรื่องกลัวอังกฤษจะมาแย่งสินค้าพริกไทย เมื่อเดือนมิถุนายน เราได้ทราบข่าวมาว่าพวกฮอลันดาได้ยึดเมืองบันตำ ไว้ได้แล้ว และว่ามีเจ้าพนักงานอังกฤษมายังเมืองไทยหลายคน
ครั้นข้าพเจ้าได้รับหนังสือของท่านที่ท่านได้มีมาในปีนี้
ข้าพเจ้าก็ได้เลยไปพูดกับเจ้าพระยาพระคลังในเรื่องพริกไทยตามที่ข้าพเจ้าวิตกนั้น และขอให้เจ้าพระยาพระคลัง และการที่พวกฮอลันดาได้ยึดเมืองบันตำ เปนเรื่องที่ร้อนนัก ข้าพเจ้าจึงได้เลยพูดกับเจ้าพระยาพระคลังในเรื่องพริกไทยเสียทีเดียว ในเรื่องนี้ได้โต้ตอบกันอยู่ถึง ๕ เดือน การที่ได้ตกลงกันเช่นนี้ นับว่าได้เปรียบกว่าชาวต่างประเทศอื่น ๆ อยู่แล้ว แต่ข้าพเจ้า ยังหาได้รับหนังสือสำคัญรับรองในเรื่องนี้ไม่
ข้าพเจ้า ได้รับหนังสือสำคัญฉบับ๑ ซึ่งเปนพระราชโองการของ พระเจ้ากรุงสยาม พระราชทานพระราชานุญาตให้ข้าพเจ้า ซื้อทองแดงและสินค้าอื่น ๆ นอกจากพริกไทย ก็ยังจะมีดินประสิว และสินค้าอย่างอื่น บันทุกไปประเทศฝรั่งเศสได้อีกหลายอย่าง
พริกไทยนั้นจะส่งไปจำหน่ายที่ เมืองยี่ปุ่น เมืองจีน เมืองตังเกี๋ย เจ้าพระยาพระคลังได้บอกกับข้าพเจ้าว่าภายใน ๒ หรือ ๓ ปีก็พอจะเก็บพริกไทยได้มาก แต่อีก ๔ หรือ ๕ ปี ก็จะได้พริกไทยมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อวันที่ ๑๕ เดือนธันวาคม มองซิเออร์รอแรง เสมียนเรือ เซนต์โยเซฟ ได้มาหาข้าพเจ้าในเวลากลางคืนและได้มาบอกว่าเรือ เซนต์โยเซฟได้มาถึงแล้ว (หน้า ๕๖)
และข้าพเจ้าก็ได้สั่งเสมียนเรือให้คอยรับของไว้แล้ว กับ ข้าพเจ้าได้สั่งเสมียนเรือด้วยว่า
ถ้าท้องเรือยังว่างอยู่ก็ให้รับเอาไม้ฝางบันทุกให้เต็มลำ ข้าพเจ้าได้ให้ มองซิเออร์ชาปันเตีย หมอประจำเรือเซนต์โยเซฟ กับข้าพเจ้าต่อไปไม่ได้ไปกับเรือ และได้ชี้แจงมองซิเออร์ชาปันเตีย ฟังว่า มองซิเออร์ชาปันเตีย ก็ยินดี เพราะเขาเปนคนเขียนหนังสือดีและดูก็เปนคนฉลาด ทั้งอยากทำการต่าง ๆ นอกจากหน้าที่หมอด้วยหนังสือต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้าได้เขียนในปีนี้ (หน้า ๕๗)
(หน้า ๕๘) ข้าพเจ้าคิดเห็นว่าถ้าท่านคิดจะค้าขาย กับเมืองตังเกี๋ยต่อไปแล้วทางดีที่สุดก็ควรท่านจะส่งเรือเซนต์โยเซฟมาประจำอยู่ที่เมืองนี้ เราจะได้เปนธุระให้เรือเซนต์โยเซฟไปคอยอยู่ที่ปากน้ำใน ปลายเดือนมิถุนายนเพื่อคอยรับบันทุกสินค้าที่จะส่งไปยังเมืองตังเกี๋ย เพราะข้าพเจ้าเข้าใจว่าบริษัทจะได้ส่งเรือมายังเมืองไทยทุก ๆ ปี เรือลำนี้ก็คงจะกลับมาทัน บันทุกของที่จะส่งไปเมืองสุหรัต
สินค้าเหล่านี้เปนของอย่างดีที่จะรับมาจากเมืองตังเกี๋ยสำหรับส่งไปเมืองฝรั่งเศส และในเวลาที่เรือพ่อค้ามาจากยี่ปุ่น เรือของเราก็พอจะรับสินค้าอย่างอื่นได้ที่จะทำให้เรามีกำไรราว ๓๐ หรือ ๔๐ เปอเซน ในระหว่างนั้นเราก็จะได้ใช้เรือเซนต์โยเซฟ สำหรับไปค้าขายทางฝั่งแหลมมลายู ซึ่งจะทำให้เรามีประโยชน์และทำให้เรารู้จักคนกว้างขวางออกไปด้วย พระเปนเจ้าได้ โปรดเอาตัวมองซิเออร์บัวตูไปจากโลกย์นีเสียแล้วและมองซิเออร์คาลเวก็ บังคับการอยู่ในเรือ เซนต์โยเซฟคนเดียว
ข้าพเจ้าจึงได้จัดให้มองซิเออร์ดรูยาด์คนนำร่องลงไปช่วยอีกคน ๑ ข้าพเจ้าได้สัญญาว่าจะตั้งเงินเดือนให้เขาเดือนละ ๕๐ แฟรง ซึ่งเปนจำนวนเดือนเท่ากับที่เขาได้รับจาก มองซิเออรฟรังซัวมาแตง ในเวลาที่เขาจะลงไปประจำในเรือโวตูร์ที่เมืองปอนดีเชรี ข้าพเจ้าได้จัดให้มองซิเออร์มาโกตาเปนคนช่างทำปืน ออกร้านขายสินค้าของบริษัทและภายหลังได้เลยมาอยู่ในบ้านของเรา บัดนี้มองซิเออร์มาโกตา จะเดิรสารเรือเซนต์โยเซฟกลับไปแล้ว มองซิเออร์มาโกตา ผู้นี้ได้ทำการทุกอย่างตามคำสั่งของข้าพเจ้า และได้ตั้งใจทำการให้แก่บริษัทด้วย - (หน้า ๕๙) เรื่องฟอลคอนขอให้บริษัทซื้อของส่งมาให้ มองซิเออร์คอนซตันตินฟอลคอน ซึ่งข้าพเจ้าได้ออกชื่อมาในหนังสือฉบับนี้หลายครั้งแล้วนั้น ได้มีหนังสือมาถึงท่านฉบับ ๑ และได้ฝากเงินมากับมองซิเออร์ลำป์ตอง เงินที่ยังเหลืออยู่เท่าไรนั้น ขอให้ท่านจัดซื้อผ้าดอกเมืองอามาดาบัต อย่างสีเขียว สีขาว และสีแดง กับให้ซื้อผ้าแดงมีลายทองด้วย ผ้าต่าง ๆ เหล่านี้ เมื่อเวลาบริษัทจะซื้อสินค้า
จะต้องส่งเงินสดมาซื้อ ซึ่งเปนการอาจทำให้ขาดทุนได้เสมอ เพราะฉนั้น มองซิเออร์คอนซตันตินฟอลคอน จึงขอให้ข้าพเจ้าสั่งของต่าง ๆ (หน้า ๖๐)
ผ้าใบอย่างหนา ๖ พับ น้ำมันดิน ๖ ถัง ไส้เทียน ๖ ขด ถ้าหาในเมืองสุหรัตได้
เมื่อข้าพเจ้า จะปิดผนึกจดหมายฉบับนี้อยู่แล้ว พระเจ้ากรุงสยาม ได้มีรับสั่งให้เอาดีบุก บันทุกลงเรือเซนต์โยเซฟ ๒๐ บาหา ขอท่านได้โปรดกรุณาข้าพเจ้าเสมอ และข้าพเจ้า
ก็มีความนับถือท่านอย่างยิ่ง สมเด็จพระนารายณ์ทรงพระดำริห์จะแต่งทูตไปฝรั่งเศสครั้งที่ ๒
ครั้นสมเด็จพระนารายณ์พระเจ้ากรุงสยามได้ทรงทราบว่า ไม่มีใครทราบเลยว่า ราชทูตที่ทรงแต่งไปประเทศฝรั่งเศสจะหายไปข้างไหน จึงทรงพระราชดำริห์จะแต่งทูตเปนครั้งที่ ๒ ให้ไปกับเรืออังกฤษ แต่เสนาบดีบางคนได้กราบทูลทัดทานว่า บางทีเรือที่พาราชทูตไปจะยังไม่แตกก็เปนได้
ถ้าหากว่าราชทูตต่อราชทูตไปพบกันที่ประเทศฝรั่งเศสพร้อมกันเข้าก็จะเกิดความลำบากขึ้น สมเด็จพระนารายณ์จึงทรงงดในการที่จะแต่งทูต เปนแต่มีรับสั่งให้อัคมหาเสนาบดีมีหนังสือ -
จดหมายมองซิเออร์เดลานด์บุโร บอกข่าวเรื่องสมเด็จพระนารายณ์ จะให้ไปสืบทูตไทย แล เรื่องสัญญาพริกไทย
ถ้าพวกปอตุเกตจับตัวมองซิเออร์ เดลีโอโปลิศส่งไปเมืองปอตุเกตจริงดังว่า ก็คงจะทำการโดยไม่เต็มใจ เพราะเขาทราบอยู่ว่าพลเมือง ๆ
มาเก๊าทุกคนมีความรักใคร่พวกมิชชันนารีมาก ได้ส่งของ คือ หีบเล็กหีบ ๑ ไป พร้อมกับจดหมายของมองซิเออร์มอเรล ผู้อำนวยการบริษัทฝ่ายอินเดีย
ด้วยพระเจ้ากรุงสยาม ไม่ทรงทราบเลยว่า ราชทูตที่ทรงแต่งให้ไปเฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสโดยเรือโซเลย์ดอริยังจะหายสูญไปไหน จึงได้รับสั่งว่ามีพระราชประสงค์จะให้มองซิเออร์เดลานด์บูโรไปยังเมืองสุหรัตเพื่อไปสืบข่าวเรื่องราชทูต และเพื่อไปชี้แจงในเรื่องที่เสนาบดีของพระเจ้ากรุงสยามได้ทำสัญญากับมองซิเออร์เดลานด์ด้วย
ในสัญญาฉบับนี้พระเจ้ากรุงสยามได้พระราชทานพริกไทย ซึ่งเพาะปลูกกันในพระราชอาณาเขต ให้แก่บริษัทคิดราคาบาหาละ ๑๖ แฟรงค์ บาหา ๑ นั้นคิดเท่าน้ำหนัก ๓๖๐ ปอนด์ ฝรั่งเศส ถ้าพริกไทยได้งอกงามดังคาดแล้ว ก็จะเปนประโยชน์ต่อบริษัทเปนอันมาก เพราะเวลานี้เมืองบันตำก็ตกไปอยู่ในอำนาจของพวกฮอลันดาแล้ว และสินค้าพริกไทยนี้จำหน่ายได้ดีในประเทศยุโรป ประเทศจีน เมืองตังเกี๋ย เมืองเบงกอล และเมืองสุหรัต ใน ๓ หรือ ๔ ปีคงจะเก็บพริกไทยได้มีจำนวนพอบันทุกเรือได้ ๒ ลำ มองซิเออร์มาแตงรับรองจะส่งสำเนาหนังสือสัญญานี้
และถ้าจะมีข้อหนึ่งข้อใดซึ่งจะเปนข้อเสียหายแก่บริษัทแล้วก็พอจะแก้ไขได้ง่าย การที่พระเจ้ากรุงสยามทรงโปรดปรานประเทศฝรั่งเศสอย่าง ๑ การที่บริษัทจะได้ประโยชน์จากสัญญาฉบับนี้อย่าง ๑ และการที่จะได้มีโอกาศค้าขายในระหว่างฝั่งคอรอมันเดล เมืองสุหรัต เมืองไทยและเมืองตังเกี๋ยอีกอย่าง ๑นั้น ควรจะเปนเครื่องประกอบสำหรับให้บริษัทตั้งห้างในเมืองไทยต่อไปได้ (หน้า ๖๔)
ซึ่ง ออกขุนพิพัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าพระยาพระคลังได้ทำในพระนามของพระเจ้ากรุงสยาม มองซิเออร์เดลานด์หัวหน้าของบริษัทฝรั่งเศส ได้เขียนและมอบหนังสือสัญญาไว้ฉบับ ๑ ตามคำขอร้องที่มองซิเออร์เดลานด์ได้
ยื่นต่อท่านออกญาศรีธรรมราชาเดโชชาติอำมาตยานุชิด พิพิธรัตนราชโกษาธิบดี พิริยพาหนะออกญาพระคลัง ขอให้นำความกราบทูลแด่พระเจ้ากรุงสยามให้ทรงทราบว่าองซิเออร์เดลานด์ได้รับหนังสือจากมองซิเออร์ฟรังซัวบารอง ผู้อำนวยการของบริษัทฝรั่งเศสประจำอยู่ที่เมืองสุหรัต สั่งมาให้มองซิเออร์เดลานด์กราบทูลพระเจ้ากรุงสยาม ขอให้ต่างคนต่างทำสัญญากันทั้งสองฝ่ายให้เปนหลักฐานว่า ต่อไปในภายภาคหน้า บริษัทจะมีอำนาจซื้อทองแดงและสินค้าอย่างอื่น ๆ ซึ่งจะมาจากนอกพระราชอาณาเขตสยาม และอีก ๓ ปีนับตั้งแต่วันนี้เปนต้นไป
บริษัทมีอำนาจที่จะซื้อพริกไทยได้ทั้งหมดอันได้เพาะปลูกไว้ ในกรุงเทพมหานครบวรรัตนราชธานีศรีอยุธยา ซึ่งหมายความว่าทั่วพระราชอาณาจักร์สยาม ทั้งฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ตั้งแต่เมืองนครศรีธรรมราชตลอดถึงกรุงศรีอยุธยา คิดราคาบาหาละ ๑๖ ปาตาก ถ้าคิดตามเงินสยามเปนราคา ๖ ตำลึง ๒ บาท พริกไทย - (หน้า ๖๕)
อนึ่งหัวหน้าบริษัทจะต้องทำบาญชียื่นต่อเจ้าคลังบอกจำนวนพริกไทย ที่บริษัทได้ซื้อไว้ และในพริกไทย ๑๐๐ บาหานั้น ให้เจ้าคลังชักเอาไว้ ๑๐ บาหาสำหรับใช้ในราชการ ถ้าแม้ว่าพริกไทยที่ชักไว้ ๑๐๐ ละ ๑๐ นั้นจะยังไม่เพียงพอแก่ราชการ ก็ให้เจ้าคลังชักไว้ ๑๐๐ ละ ๒๐ ก็ได้ แต่เมื่อเปนเช่นนี้แล้ว
ก็ให้เจ้าพนักงารของพระเจ้ากรุงสยามและเจ้าพนักงารของบริษัทปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรดีจึงจะเปนการสดวกด้วยกันทั้งสองฝ่าย ถ้าหากว่าเจ้าพนักงารของเจ้าคลังจะไม่ต้องการพริกไทยแล้ว ก็ให้บริษัทรับซื้อไปได้ทั้งหมด ส่วนเงินค่าพริกไทยซึ่งบริษัทได้รับซื้อไปนั้น ให้บริษัทชำระเปนเงินปาตากเมืองมนิลา และต้องเลือกเนื้อเงินที่บริสุทธิ์แท้ ถ้าหากว่าจะหาเงินปาตากเมืองมนิลาไม่ได้แล้ว และบริษัทมีความประสงค์จะชำระเงินเปนปาตากอย่างอื่น หรือจะชำระเปนเงินต่างประเทศซึ่งเนื้อเงินไม่เหมือนกันแล้ว
บริษัทจะได้ชำระเงินนั้นให้ครบโดยเอาเงินเมืองมนิลาเปนเกณฑ์ อนึ่งส่วนพริกไทยในเมืองนครศรีธรรมราชนั้นบริษัทจะได้จัดคนให้ไปประจำอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราช และให้คอยซื้อพริกไทยตามราคาที่พ่อค้าในเมืองนั้นได้ซื้อขายกัน
(หน้า ๖๘)
(หน้า ๖๙) สำเนาหนังสือสัญญาดังได้คัดมาในที่นี้ ได้แปลออกจากต้นฉบับซึ่งเก็บไว้ที่ห้างในกรุงศรีอยุธยา
และมองซิเออร์เปเรศบาดหลวงมิชชันนารีชาติปอตุเกตได้แปลจากภาษาไทยเปนภาษาปอตุเกต แล้วภายหลัง ข้าพเจ้าผู้มีชื่อข้างท้ายนี้ได้แปลจากภาษาปอตุเกตเปนภาษาฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๔(พ.ศ. ๒๒๒๗)
หนังสือสัญญาว่าด้วยพริกไทยฝ่ายไทย วันที่ ๓ ธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗) หนังสือสัญญา ว่าด้วยเรื่องพริกไทย ด้วยมองซิเออร์เดลานด์ได้
ยื่นเรื่องราวต่อออกญาศรีธรรมราชเดโชชาติอำมาตยานุชิตพิพิธรัตนราชโกษาธิบดีอภัยพิรียพาหะ ออกญาพระคลัง ขอให้นำความขึ้นกราบทูลพระกรุณาว่า มองซิเออร์เดลานด์ ได้รับหนังสือจากมองซิเออร์ฟรังซัวบารอง ผู้อำนวยการบริษัทฝรั่งเศสที่เมืองสุหรัตส่งมาให้มองซิเออร์เดลานด์กราบทูลพระเจ้ากรุงสยาม ขอพระมหากรุณาให้ทำหนังสือสัญญาให้เปนหลักฐานมั่นคง อนุญาตให้บริษัทฝรั่งเศสมีอำนาจอย่างเด็ดขาดที่จะซื้อทองแดง และสินค้าอย่างอื่นอันจะมาจากเมืองต่างประเทศและให้บริษัทฝรั่งเศสได้ซื้อพริกไทยทั้ง หมด
ที่ได้เพะปลูกไว้ในพระราชอาณาเขตสยาม ตั้งเเต่เหนือตลอดซึ่งมีอยู่ตามหัวเมืองและดินแดนอันขึ้นแก่กรุงสยาม ตั้งแต่เหนือตลอดลงไป - (หน้า ๗๐)
ในสัญญาฉบับนี้มีใจความอนุญาตให้บริษัทฝรั่งเศสซื้อทองแดงและสินค้าอย่างอื่น ซึ่งชาวต่างประเทศจะได้นำเข้ามาในพระราชอาณาเขตโดยผู้หนึ่งผู้ใดจะขัดขวางกีดกันไม่ได้ และอนุญาตให้บริษัทฝรั่งเศสได้ซื้อพริกไทยอันมีอยู่ในพระราชอาณาเขต ตั้งแต่เหนือตลอดจนถึงเมืองนครศรีธรรมราช
(หน้า ๗๒)
ทั้งนี้สำหรับให้บริษัทได้ทราบว่า ได้มีคนนำพริกไทยเข้ามาเท่าไร และได้นำออกไปเท่าไร ซึ่งเปนพริกไทยนอกจากจำนวนที่บริษัทได้รับซื้อไว้ ถ้าหากว่าเจ้าพนักงารคลังหลวง มีความประสงค์จะส่งพริกไทยอันเปนพริกไทยที่ชักไว้เปนภาคหลวง
๑๐๐ละ ๑๐หรือ ๑๐๐ละ ๒๐ ก็ดีหรือเปนพริกไทยที่ได้ซื้อไว้จากพ่อค้า อันได้นำมาจากที่อื่นนอกเขตที่อนุญาตไว้แก่บริษัทฝรั่งเศสก็ดี เมื่อจะส่งพริกไทยนั้น ๆ ทื ไปยังเมืองใดก็ตาม เจ้าพนักงารคลังหลวงจะต้องทำบาญชีบอกจำนวนพริกไทย ที่จะส่งออกไปนอกพระราชอาณาเขต ยื่นต่อหัวหน้าบริษัทให้ทราบ ถ้าหากว่าจำนวนพริกไทยจะมีมากกว่าความต้องการของบริษัทแล้ว หัวหน้าบริษัทจะต้องแจ้งความให้เสนาบดีของพระเจ้ากรุงสยามทราบล่วงหน้า ๒ ปีว่าต่อไปบริษัทจะต้องการพริกไทยจำนวนเท่าใด เพื่อเจ้าพนักงารจะได้จัดการมิให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน
ได้ขาดทุนในเรื่องพริกไทยนี้ได้ (หน้า ๗๓) หัวหน้าบริษัทจะได้นำข้อความในหนังสือสัญญานี้ แจ้งไปให้ผู้อำนวยการบริษัททราบ ทั้งในเมืองฝรั่งเศสและเมืองอื่น ๆ ในอินเดียเพื่อว่าต่อไป ถ้าจะมีเจ้าพนักงารของพระเจ้ากรุงสยามอยู่ในที่แห่งใด ๆ ซึ่งบริษัทได้ตั้งห้างอยู่นั้น เมื่อบริษัทได้ช่วยเหลือข้าราชการเหล่านั้นในราชการของพระเจ้ากรุงสยามแล้ว ถ้าเปนเงินที่บริษัทได้ทดรองให้แก่ข้าราชการนั้น ๆ แล้ว ก็ให้บริษัทส่งบาญชีมายังหัวหน้า ของห้างในกรุงศรีอยุธยา
และหัวหน้าของบริษัทจะได้รับสินค้าไปแทนเงินที่บริษัทจะได้รองจ่ายไปนั้น เมื่อออกขุนพิพัฒน์โกษาราชาพิทักษ์กับหัวหน้าของบริษัทฝรั่งเศสได้เซ็นหนังสือสัญญาฉบับนี้แล้ว ก็ให้สัญญานี้เปนสัญญาอันมั่นคงใช้ได้ชั่วกาลนาน หัวหน้าบริษัทจะได้คัดหนังสือสัญญานี้เปนภาษาไทยฉบับหนึ่ง ภาษาฝรั่งเศสฉบับหนึ่ง มอบไว้แก่ออกขุนพิพัฒน์ และฝ่ายออกขุนพิพัฒน์ก็จะได้ทำหนังสือให้แก่หัวหน้าบริษัทดุจเดียวกัน คำแปลเปนภาษาฝรั่งเศส แปลที่กรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ค.ศ. ๑๖๘๔ (พ.ศ. ๒๒๒๗)
บันทึกความเห็นแลวิธีการของบาดหลวงเดอชัวซีที่จะเข้ามา เมืองไทย
ด้วยการที่พระเจ้าหลุยที่ ๑๔ ได้แต่งทูตไปเฝ้า และส่งเครื่องราชบรรณาการไปถวายสมเด็จพระนารายณ์นั้นไม่ได้มีพระราชประสงค์ - ๑๐
- อย่างใด นอกจากจะให้เปนคุณเปนประโยชน์แก่สาสนาเท่านั้น เพราะฉนั้นจึงควรกราบทูลให้ทรงทราบข้อความทุกๆอย่าง ที่จะให้พระราชดำริห์นี้เปนผลสำเร็จ
เพราะความคิดอันใหญ่ยิ่งที่จะชักชวนให้พระเจ้าแผ่นดินอันมีชื่อเสียงโด่งดังได้เข้ารีด และจัดการให้ประเทศอันใหญ่ ได้นับถือสาสนาคริสเตียนนั้น ถ้าท่านเชอวาเลียเดอโชมอง ได้ออกจากเมืองฝรั่งเศสในเดือนมกราคม ค.ศ. ๑๖๘๕ (พ.ศ. ๒๒๒๗) คงจะไปถึงเมืองไทยราวเดือนตุลาคม และจำเปนจะต้องออกจากเมืองไทยในเดือนธันวาคม จึงจะทันมรสุมจะได้พาเรือฝรั่งเศสกลับมาพร้อมด้วยราชทูตสยาม ซึ่งสมเด็จพระนารายณ์คงจะแต่งมาให้เฝ้าพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ เปนแน่
เพราะฉนั้นเชอวาเลียเดอโชมอง คงจะมีเวลาอยู่ในเมืองไทยราวสองหรือสามเดือนเท่านั้น และในเวลาน้อยเช่นนี้ยากที่เชอวาเลียเดอโชมองจะจัดการสำเร็จทุกอย่างได้ และถ้าสมเด็จพระนารายณ์จะยังไม่ปลงพระทัยที่ จะเข้ารีต เราจะทอดทิ้งไว้เช่นนั้นได้ละหรือ และถ้าได้มีข้าราชการสมเด็จพระนารายณ์ปลงพระทัยง่ายขึ้นหรือ เพราะต้องนับว่าเวลานี้เปนเวลาที่สาสนาคริสเตียนพึ่งจะเกิดขึ้น แต่ข้อนี้พอจะแก้ได้ คือบาดหลวงเดอชัวซีรับอาสาจะไปพร้อมกับเชอวาเลียเดอโชมอง โดยไม่มีตำแหน่งหน้าที่อย่างใด
แต่ในเวลาที่เชอวาเลียเดอโชมองจะกลับไปประเทศฝรั่งเศสนั้น บาดหลวงเดอชัวซีจะไม่กลับ แต่จะขออยู่ใน - (หน้า ๗๕)
(หน้า ๗๖)
ถ้าแม้ว่าเชอวาเลียได้ ไปเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์ และได้แน่แก่ใจว่า ทำอย่างไรสมเด็จพระนารายณ์ก็จะไม่เข้ารีตถือสาสนาคริสเตียนแล้ว
หรือในที่สุดสมเด็จพระนารายณ์จะไม่ทรงแต่งทูตและส่งเครื่องบรรณาการไปถวายให้สมพระเกียรติยศแล้ว ถ้าฉนั้นบาดหลวงเดอชัวซีจะได้กลับมายังประเทศฝรั่งเศสโดยไม่ต้องใช้หมายตั้ง และโดยไม่ให้เสียพระเกียรติยศของพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ อย่างใด คือว่าการที่บาดหลวงเดอชัวซีจะออกหน้าเปนราชทูตนั้น จะต้องได้รับคำแนะนำของเชอวาเลียเดอโชมองและสังฆราชฝรั่งเศสเสียก่อน ถึงอย่างไร ๆ บาดหลวงเดอชัวซีหวังใจว่า เมื่อได้กลับมาถึงประเทศฝรั่งเศสแล้ว ก็คงจะได้มีความรู้อย่างดีถึงบ้านเมืองต่าง ๆ ในฝ่ายทิศตะวันออก
เพราะกรุงศรีอยุธยาเปนที่ชุมนุมของชนต่างภาษา ก่วา๒๐ชาติ ซึ่งไปตั้งบ้านเรือนอยู่ในกรุงศรีอยุธยา และต่างชาติก็มีค่ายอยู่เปนหมวดหมู่แยกกันทุก ๆ ชาติ เพราะฉนั้นบาดหลวงเดอชัวซีจะได้มีโอกาศสนทนากับชาวเมืองจีน เมืองยี่ปุ่น เมืองญวน เมืองตังเกี๋ย เมืองมอญ และเมืองอื่น ๆ และจะได้จดจำทำจดหมายเหตุอย่างแน่ถึงวิธีการปกครองบ้านเมือง ถึงกำลังทหารฝ่ายบกและฝ่ายทะเล ถึงการค้าขาย และ ถึงเรื่องพงศาวดารของประเทศเหล่านี้ - (หน้า ๗๗) -
บาดหลวงเดอชัวซีจะยังแปลหนังสือที่ดีของประเทศเหล่านี้เปนภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ แต่ก็พอจะจดจำชื่อไว้ได้ ถ้าหากว่าได้คนชำนาญวิชาต่าง ๆ อย่างว่านี้แล้ว บาดหลวงเดอชัวซี จะได้พยายามเอาพวกนี้เปนสายสำหรับหาหนทางทำความคุ้นเคยกับพระเจ้ากรุงสยาม
ความเห็นของบาดหลวงเดอชัวซี เห็นว่าตัวคงจะทำการให้เปนประโยชน์แก่สาสนา กับทั้งให้เปนพระเกียรติยศแก่พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ ซึ่งเชอวาเลียเดอโชมองจะทำไม่ได้ ถ้าจะเพิ่มเติมความอีกข้อ ๑ ก็ได้
คือว่าสมเด็จพระนารายณ์ได้มีรับสั่งให้แก่ข้าราชการว่า ถ้าพระเจ้าหลุยที่ ๑๔ จะแต่งทูตมายังเมืองไทยแล้ว (หน้า ๗๙) ความเห็นของบาดหลวงเดอชัวซีที่จะเข้ามาเมืองไทย
ด้วยพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสได้ทรงพระกรุณารับสั่งให้ข้าพเจ้าไปยังเมืองไทย
เพราะฉนั้นจำเปนจะต้องบรรยายถึงการต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้าควรจะทำประโยชน์ได้เปนข้อ ๆ (หน้า ๘๐)
บางทีพระเปนเจ้า อันมีอำนาจศักดิ์สิทธิ์จะดลพระทัยเพื่อพระเจ้าหลุยที่๑๒ จะได้มีพระเกียรติยศและชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่
ที่ได้ช่วยจัดการกู้วิญญาณของมนุษย์ด้วยจำนวนล้านคน แต่จะอย่างไรก็ตามเชอวาเลียเดอโชมองจะได้จัดการทำทางไว้ก่อนและข้าพเจ้าจะได้ดำเนิรตามทางที่เชอวาเลียเดอโชมองได้ทำไว้ ฝ่ายสังฆราชฝรั่งเศสเมื่อได้รู้สึกว่าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ทรงหนุนอยู่ข้างหลังแล้ว ก็จะได้ทำการสอนสาสนาแข็งแรงดีขึ้นอีก ข้าพเจ้ายังจะกล้ารับรองต่อไปอีกว่า ข้าพเจ้าอาจจะจัดการให้พวกมิชชันนารีเเละพวกคณะเยซวิตได้ปรองดองกันได้ต่อไป เพราะพวกมิชชัน -
ในระหว่างที่ข้าพเจ้าเดิรทางอยู่ในราวอย่างน้อย ๘ เดือนนั้น ข้าพเจ้าจะได้พยายามเรียนภาษาปอตุเกต เพื่อจะได้พูดจาสนทนากับเสนาบดีของสมเด็จพระนารายณ์โดยไม่ต้องใช้ล่าม เพราะเสนาบดีไทยพูดภาษาปอตุเกตเปนทุกคน ด้วยภาษานี้เปนภาษาสามัญที่ใช้กันทั่วไปในฝ่ายทิศตวันออก ในส่วนที่เกี่ยวด้วยการค้าขายนั้น ข้าพเจ้าหวังใจว่าคงจะได้ทำประโยชน์ให้บ้างเหมือนกัน
เพราะบริษัทฝรั่งเศสในอินเดียจะส่งคนแทนไปอยู่กรุงศรีอยุธยาแล้ว คนของบริษัทนี้จะได้ตรวจตราพิเคราะห์ดูว่าจะควรทำการค้าขายในประเทศสยามอย่างใด สินค้าเมืองนั้นมีอะไรบ้าง (หน้า ๘๒)
ในข้อที่จะหาเรื่องแปลก ๆ
นั้นเปนเรื่องที่คงจะไม่มีที่สิ้นสุด แต่ถ้าจะสรุปรวมความแล้วก็คือ ข้าพเจ้าหวังใจว่าข้าพเจ้าคงจะมีความรู้อย่างแน่นอนของการในประเทศสยาม เพราะในเวลาที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในเมืองไทยถึง ๒ ปี เมื่อได้พยายามจนสุดกำลังโดยไม่ต้องคิดถึงการใช้จ่ายและโดยมีอำนาจอยู่บ้างเล็กน้อย ก็ยากอยู่ที่ข้าพเจ้าจะไม่รู้ในเรื่องของประเทศสยามเท่าที่ข้าพเจ้ามีความรู้ ในเรื่องของประเทศฝรั่งเศส ข้าพเจ้ายังเชื่อใจว่าความรู้อันนี้จะไม่ใช่แต่มีความรู้ในเรื่องของเมืองไทยแห่งเดียว แต่คงจะมีความรู้ถึงเรื่องเมืองใกล้เคียงด้วย
เพราะในกรุงศรีอยุธยานั้นข้าพเจ้าคงจะได้พบกับพวกจีน, ยี่ปุ่น, ลาว,ญวนและชาวเมืองอื่น ๆ อีกเปนอันมาก ข้าพเจ้าจะได้สนทนากับคนเหล่านี้และจะได้สืบถึงการบ้านในเวลาปัจจุบัน สืบถึงวิธีปกครองบ้านเมืองเหล่านี้ สืบถึงกำลังทหารทั้งทางบกและทางทะเล สืบถึงการค้าขายของเมืองนั้น ๆ และสืบถึงเรื่องพงศาวดารของเมืองเหล่านั้นด้วย ถ้าในข้อใดที่คนเหล่านี้จะตอบข้าพเจ้าไม่ได้ ข้าพเจ้าก็จะได้ขอให้เขามีหนังสือ - (หน้า ๘๓)
ท่านเชอวาเลียเดอโชมอง ได้พาบาดหลวงคณะเยซวิตมาด้วย ๔ คน สำหรับให้ไปประจำอยู่ที่เมืองจีน ข้าพเจ้าจะได้มีหนังสือโต้ตอบกับบาดหลวง ๔ คนนี้อยู่เสมอ และจะได้มีหนังสือโต้ตอบกับบาดหลวง ๔ คนสืบในเมืองจีน เมื่อเรือของพระเจ้ากรุงสยามกลับจากเมืองจีน บาดหลวงก็จะฝากคำตอบมากับเรือหลวงได้
เพราะเรือหลวงเหล่านี้ได้ไปเมืองจีนทุก ๆ ปี การที่ข้าพเจ้าให้บาดหลวงเยซวิต ๔ คนสืบเรื่องเมืองจีนนั้นเขาคงจะไม่รังเกียจเพราะเขาคงทราบว่าเปนเรื่องที่พอพระทัยของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ทั้งเปนหนทางที่เขาจะได้ข่าวในประเทศยุโรปจากข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าจะได้พาช่างเขียนคน ๑ ผู้ชำนาญวิชาดาราศาสตร์ คน ๑ หมอคน ๑ และผู้ชำนาญการแปรธาตุคน ๑ไปกับข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าจะได้จัดให้คนใดคนหนึ่งในคน ๔ คนนี้ ไปตามบ้านเมืองที่ใกล้เคียงกับเมืองไทย และจดข้อความที่จะให้เขาไปเที่ยวสืบตามเมืองเหล่านี้
เพื่อให้รู้ความจริงของการในเมืองตังเกี๋ย เมืองญวนและเมืองอื่นๆ ด้วย เพราะข้าพเจ้าได้สนทนากับมองซิเออร์เฟเนโรต์ ถึงเรื่องความลำบากและความขัดข้องที่มีอยู่กับเมืองต่าง ๆ ฝ่ายตวันออกแล้ว และถ้าข้าพเจ้าได้ตอบคำถามของมองซิเออร์เฟเนโรต์ ๑๐ ข้อ ตอบได้เพียงข้อเดียว เห็นว่าข้าพเจ้าไม่ได้ไปเสียเวลาเปล่า ๆ เลย (หน้า ๘๔) ข้าพเจ้าจะได้เอาหมอและผู้ชำนาญการแปรธาตุ ไว้กับข้าพเจ้าที่กรุงศรีอยุธยา และข้าพเจ้าจะได้พยายามให้คนทั้ง ๒ นี้ได้เปนประโยชน์แก่พลเมืองที่อยู่ในเมืองไทย
วิธีที่จะเข้าไปตามบ้านได้ง่ายไม่มีอะไรจะดีกว่าการรักษาไข้เจ็บ และถ้าการรักษานั้นได้ทำกันโดยไม่ได้คิดหาผลประโยชน์แล้ว การเข้าไปในบ้านต่าง ๆ ก็กลับง่ายขึ้นอีก ข้าพเจ้าได้เอาตำรายาสำหรับรักษาโรคต่าง ๆ ไปด้วย และได้เอาน้ำมันใส่แผลกับยาแก้โรคต่าง ๆ ไปด้วยถึง ๒ หีบใหญ่ ๆส่วนช่างเขียนนั้น จะได้เขียนพระรูปพระเจ้ากรุงสยาม ส่วนผู้ที่ชำนาญดาราศาสตร์นั้น ก็คงจะทำประโยชน์ได้เหมือนกันเพราะในเมืองไทยนับถือวิชาเลขกันมาก นอกจากการที่ข้าพเจ้าได้บรรยายมานี้ (หน้า ๘๕)
จดหมายบันทึกว่าด้วยการค้าขายในประเทศสยาม
บริษัทฝรั่งเศสควรจะต้องถือว่าการค้าขายในเมืองไทยเปนสิ่งที่จะเปนประโยชน์แก่บริษัทอย่าง ยิ่งในเวลาต่อไปภายหน้าด้วยเหตุ ๒ ประการคือ ๑ เพราะบริษัทจะได้รับความอุดหนุนและความปกครองของพระเจ้ากรุงสยาม ซึ่งได้มีรับสั่งแก่มองซิเออร์เดลานด์หลายครั้งหลายหนว่า ถ้าบริษัทได้มาตั้งการค้าขาย (หน้า ๘๖)
แต่สินค้าอันสำคัญซึ่งจะทำเปนหลักฐาน
ในเมืองไทยได้ต่อไปนั้นก็คือสินค้าพริกไทย เพราะตามที่มองซิเออร์เดลานด์ได้บอกมาก็คงได้ความว่าพระเจ้ากรุงสยามทรงขายให้แก่บริษัทโดยราคาอย่างถูก เพราะฉนั้นเปนเรื่องที่บริษัทควรจะดำริห์ต่อไป ตามปรกติเรือที่มาจากเมืองจีนและยี่ปุ่นได้ ไปถึงกรุงศรีอยุธยาในราวเดือนมกราคมและเดือกุมภาพันธ์ เรือเหล่านี้ล้วนแต่บันทุกสินค้าอย่างดีอันมีราคามาก เมื่อเรือจีนและยี่ปุ่นได้มาถึงกรุงศรีอยุธยาแล้ว พระเจ้ากรุงสยามก็โปรดให้ข้าราชการลง ไปเลือกของที่พอพระทัยไว้ก่อน เมื่อทรงเลือกไว้แล้วยังเหลืออยู่มากน้อยเท่าใด
ผ้าอย่างอื่นยังมีอยู่อีกหลายอย่างซึ่งไม่ใช่ผ้าอย่างดีนักแต่ราคาถูก พอจะซื้อขายในเมืองฝรั่งเศสได้กำไรมากแต่อย่างไรก็ตาม
ควรจะหาผ้าทุกอย่าง ๆ ละ ๒๐ ผืนสำหรับส่งไปเปนตัวอย่าง ที่เมืองฝรั่งเศสแพรขาวอันมาจากเมืองจีนนั้นเปนสินค้าอย่างดีที่สุด สำหรับประเทศฝรั่งเศส แพรชนิดนี้ซื้อเอาในเมืองไทยได้ (หน้า ๘๘)
แต่เมื่อจะซื้อหีบชนิดนี้ต้องระวังเลือกกุญแจที่ทำอย่าประณีตยังมีหีบเล็ก
ๆ อย่างอื่น ๆ อีกเปนอันมาก ขนาดต่าง ๆ กันและลวดลายก็ต่างกันทั้งนั้น ยังมีถาดหรือกระบะมีขอบสำหรับใส่ถ้วยกาแฟหรือถ้วยน้ำชา ยาว๑๔ หรือ ๑๕ นิ้ว กว้าง ๑๐ หรือ ๑๒ นิ้ว กระบะอย่างนี้ต้องซื้อไว้ให้มาก เพราะเปนของที่จะขายได้ดี ยังมีหีบรูปร่างคล้ายหีบสำหรับใส่เสื้อผ้าลงรักปิดทองเหมือนกันแต่หีบชนิดนี้จะขายในเมืองฝรั่งเศสไม่ได้ ยกเว้นแต่หีบชนิดนี้แล้ว ของ - (หน้า ๘๙)
สินค้าที่มาจากเมืองจีนนั้นยังมีของที่ทำด้วยเงินอีกเปนอันมาก ของเหล่านี้ทำโดยฝีมืออย่างละเอียดจะใช้สำหรับทำอะไรได้ทุกอย่าง และเปนของที่จะขายในเมืองฝรั่งเศสได้ดีเหมือนกัน แต่เครื่องเงินเหล่านี้ต้องเลือกหาที่งามที่สุดและที่เปนลายดุนและต้องระวังเปนเงินแท้ จึงจะใช้ได้ เพราะของเหล่านี้ทำด้วยเงินไม่แท้ก็มีมาก เครื่องลายครามอย่างงามซึ่งเรียกกันว่าของเก่านั้น ก็มาจากเมืองจีนเหมือนกันและเครื่องลายครามใหม่ ๆ ก็มีมาจากเมืองยี่ปุ่น ๑๒ (หน้า ๙๐)
ส่วนถ้วยน้ำชานั้นจะได้จัดส่งตัวอย่างขนาดออกไปให้
เพราะถ้วยน้ำชานี้จะหาซื้อได้เปนอันมากทั้งถ้วยสีน้ำเงินและสีขาว และยังมีถ้วยพื้นขาวลายเปนสีต่างๆ อีกหลายอย่างหลายชนิด เมื่อจะซื้อถ้วยน้ำชาเเละถ้วยน้ำเย็นดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ต้องซื้อจานรองถ้วยทั้งสีน้ำเงินสีขาวและสีต่าง ๆ ด้วย และเพื่อจะไม่ให้ผิดขนาดไปได้นั้น จะได้ส่งตัวอย่างออกไปให้ดูเหมือนกันคนที่จะไปอยู่เมืองไทยแทนบริษัทนั้นจะต้องเปนคนที่ชำนาญดูเพ็ชร ทุกชนิด และชำนาญดูทับทิมกับพลอยสีต่าง ๆ ทั้งดูไข่มุกด์เปนด้วย
ยังมีของอื่น ๆ อีกซึ่งเปนของแปลก ๆ และจะขายได้ในเมืองฝรั่งเศส คือของที่ทำด้วยหยกและโมรา ซึ่งทำเปนรูปขวดก็มี เปนรูปถ้วยก็มี โมรานั้นเปนของที่แปลกและมีคนต้องการกันมาก ยังมีหินชนิดนี้ ที่จะเอามาทำเปนของรูปพรรณอย่างอื่นได้ เช่นทำด้ามมีด
ด้ามกระบี่หัวไม้เท้าเปนต้น การทั้งนี้ต้องแล้วแต่ความไหวพริบของผู้แทนบริษัท และในเวลานี้บริษัทก็ยังไม่ได้ดำริห์ที่จะค้าขายของเหล่านี้ เพราะฉนั้น ผู้แทนบริษัทจะต้องคอยดู (หน้า ๙๒)
ในเวลาที่จะส่งสินค้าต่าง ๆ ไปเมืองฝรั่งเศสนั้นต้องระวังหุ้มห่อและบัญจุให้ดี และยิ่งของที่ละเอียดต้องระวังให้มาก เพื่อจะไม่เสียตามทาง ผู้แทนบริษัทจะต้องทำบาญชีอย่างละเอียดและที่เข้าใจได้ง่ายที่สุดว่า
ได้ส่งสินค้าอะไรไปบ้าง และจะต้องทำรายงารอย่างละเอียดถึงสินค้าต่าง ๆ ในเมืองไทย นอกจากการที่ได้อธิบายมาข้างบนนั้นผู้แทนบริษัทยังจะต้องตรวจตราพิเคราะห์ดูว่าสินค้าฝรั่งเศสซึ่งจะจำหน่ายมีกำไรในเมืองไทย จะมีอะไรบ้าง (หน้า ๙๓)
ในเวลานี้นับว่าพึ่งจะตั้งต้นทดลองทำการค้าขายในเมืองไทย
กล่าวคือค้าขายสินค้าที่พวกจีน และยี่ปุ่นพามาจากเมืองกวางตุ้งเมืองมาเก๊าแลเมืองอื่น ฝ่ายท่านเชอวาเลียเดอโชมองก็คงมีใจช่วยในการของบริษัทอยู่แล้ว แต่ถึงดังนั้นผู้แทนบริษัทก็ควรจะเปนมิตร์ ไว้กับเชอวาเลียเดอโชมองในเวลาทีเดิรทางอยู่ด้วยกัน ยังมีสินค้าที่มาจากเมืองจีนอีกชนิด ๑ คือ ลับแลทำมาเปนแผ่น ๆ หรือ กลีบลับแล ที่จะขายได้ในเมืองฝรั่งเศสต้องเปนลับแลชนิดมี ๖ หรือ ๘ แผ่น (หน้า ๙๔)
ในจดหมายมองซิเออร์เดลานด์ ฉบับ ๑ มีความว่า ควรบริษัทจะทำสัญญากับพระเจ้ากรุงสยาม รับสัญญาจะส่งเรือไปเมืองไทยลำ ๑ ทุก ๆ ปี ถ้าเรือลำนี้ได้ออกจากเมืองฝรั่งเศสใน เดือนมกราคม ก็คงจะต้องถึงกรุงสยามในราวเดือน กรกฎาคม สิงหาคมหรือกันยายน (หน้า ๙๕)
นอกจากของที่กล่าวมาแล้วนั้นยังจะได้บันทุกพริกไทยอีกตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับพระเจ้ากรุงสยาม
การที่จะเดิรเรือค้าขายเช่นนี้กำไรของบริษัทจะได้จากผ้าที่เอาไปขายในเมืองไทย ข้อที่จะต้องดำริห์ในเรื่องที่จะบันทุกสินค้าจากเมืองไทยนั้น ก็คือในเวลาที่ผู้ไปทำการค้าขาย ยังไม่มีความรู้แน่ว่าสินค้าชนิดใดจึง จะสมควรเอาไปขายในเมืองฝรั่งเศสได้ (หน้า ๙๖)
คนโปรด ของพระเจ้ากรุงสยาม ซึ่งเรียกกันว่า พระคลังที่ ๒ หรือเสนาบดี นั้น เปนคนชาติกริก ชื่อ คอนซตันตินฟอลคอน ซึ่งเราจะต้องพยายามทำไมตรีด้วยให้จงได้ ในจดหมายมองซิเออร์เดลานด์มีข้อความว่า คนสำคัญ ๆ ในเมืองมาเก๊าหลายคน ได้มีหนังสือถาม มองซิเออร์เดลานด์ หลายครั้งว่าจะทำการค้าขายกับเมืองมาเก๊าหรือไม่ (หน้า ๙๗)
แต่ผ้านั้น ถ้าเปนสีแปลก เปนอันใช้ไม่ได้ เช่น สีเขียวทะเล สีกุหลาบแห้ง สีเทา สีน้ำเงินซีด สีม่วงคล้ายสีมูลนกพิราบ สีโคลน เช่นนี้ เปนต้น ชมดเชียง อย่างดีที่สุดก็มาจากเมืองไทย ซึ่งเปน ชมดเชียง ที่ดีและที่เลือกแล้ว ราคาหนัก ๑ ออนซ์เพียง ๔ แฟรงก์ ๑๐อัฐ(ฝรั่งเศส) หรือ ๕ แฟรงก์เท่านั้น ในส่วนเครื่องลายครามนั้น จะต้องระวังอย่า ให้หีบสำหรับบัญจุเครื่องลายครามนั้นเปนหีบใหญ่เกินไป จะได้ยกได้ง่าย ๆ แต่ควรจะให้เปนหีบขนาดเดียวกัน ชนิดเดียวกัน ๑๓ (หน้า ๙๘)
อนึ่งผู้แทนบริษัทจะต้องสืบด้วยว่าในเมืองไทยจะมีเครื่องเทศชนิดไร
บ้าง เช่น กานพลู กระวาน จันทน์เทศเปนต้น และสืบว่าของเหล่านี้ซื้อขายในราคาอย่างไร |