ทําไมถึงอยากรับราชการ สัมภาษณ์

Facebook

邮箱或手机号 密码

忘记帐户?

注册

无法处理你的请求

此请求遇到了问题。我们会尽快将它修复。

  • 返回首页

  • 中文(简体)
  • English (US)
  • 日本語
  • 한국어
  • Français (France)
  • Bahasa Indonesia
  • Polski
  • Español
  • Português (Brasil)
  • Deutsch
  • Italiano

  • 注册
  • 登录
  • Messenger
  • Facebook Lite
  • Watch
  • 地点
  • 游戏
  • Marketplace
  • Facebook Pay
  • Oculus
  • Portal
  • Instagram
  • Bulletin
  • 本地
  • 筹款活动
  • 服务
  • 选民信息中心
  • 小组
  • 关于
  • 创建广告
  • 创建公共主页
  • 开发者
  • 招聘信息
  • 隐私权政策
  • Cookie
  • Ad Choices
  • 条款
  • 帮助中心
  • 联系人上传和非用户
  • 设置
  • 动态记录

Meta © 2022

Facebook

邮箱或手机号 密码

忘记帐户?

注册

无法处理你的请求

此请求遇到了问题。我们会尽快将它修复。

  • 返回首页

  • 中文(简体)
  • English (US)
  • 日本語
  • 한국어
  • Français (France)
  • Bahasa Indonesia
  • Polski
  • Español
  • Português (Brasil)
  • Deutsch
  • Italiano

  • 注册
  • 登录
  • Messenger
  • Facebook Lite
  • Watch
  • 地点
  • 游戏
  • Marketplace
  • Facebook Pay
  • Oculus
  • Portal
  • Instagram
  • Bulletin
  • 本地
  • 筹款活动
  • 服务
  • 选民信息中心
  • 小组
  • 关于
  • 创建广告
  • 创建公共主页
  • 开发者
  • 招聘信息
  • 隐私权政策
  • Cookie
  • Ad Choices
  • 条款
  • 帮助中心
  • 联系人上传和非用户
  • 设置
  • 动态记录

Meta © 2022

สัมภาษณ์งาน/สำหรับคนที่เพิ่งโบกมือลารั้วมหาวิทยาลัยมาไม่นาน อาจยังนึกไม่ออกว่าการสัมภาษณ์งานสนามจริงนั้นเป็นยังไง หรือต้องเจอกับคำถามประเมินทักษะ ความคิด และอีคิวแบบไหนกันบ้าง เอาล่ะ ! อย่ามัวแต่เดาให้เสียเวลา มาดูตัวอย่างการสัมภาษณ์งานฉบับคร่าว ๆ ที่เรานำมาให้เตรียมตัวกันเลย

1. ทักทาย เล่าประวัติของตัวเอง

ด่านแรกที่ต้องเจอแน่ ๆ คงไม่พ้นการทักทาย และแนะนำตัวเองแบบสั้น ๆ ประมาณ​ 2-3 นาทีก็พอ โดยเน้นประวัติการศึกษา และจุดเด่นด้านนิสัยใจคอที่ตัวเองเป็น เช่น เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีนิสัยยืดหยุ่นสบาย ๆ และชอบการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เป็นต้น
 

2. ทำไมถึงเลือกสมัครตำแหน่งนี้

หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ คำถามถัดมาอาจเป็นความสนใจเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร ซึ่งหากเจอคำถามเช่นนี้ คุณอาจตอบแนว ๆ เลือกตำแหน่งนี้เพราะตรงกับสายที่เรียนมา หรือถ้าตำแหน่งงานไม่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่จบมา อาจตอบเลี่ยงไปก็ได้ว่า ขอบเขตของงานในตำแหน่งนี้น่าสนใจ รวมไปถึงคิดว่าลักษณะนิสัยและจุดเด่นที่ตัวคุณมีน่าจะเข้ากันได้ดีกับการทำงานตำแหน่งนี้

3. ทำไมถึงลาออกจากที่ทำงานเก่า

          สำหรับคนที่เคยผ่านการทำงานมาบ้างแล้ว ให้ตอบคำถามนี้แนว ๆ ว่า อยากหาประสบการณ์ใหม่ ต้องการพัฒนาตัวเองไปอีกขั้น และค่อนข้างเชื่อมั่นว่า งานในตำแหน่งที่สมัครกับบริษัทนี้น่าจะเป็นอะไรที่เหมาะกับเรามากกว่า และที่สำคัญคืออย่าพูดถึงบริษัทเดิมของคุณในเชิงลบ หรือบอกว่าบริษัทเก่าไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้เด็ดขาด ไม่งั้นคุณอาจไม่ได้งานใหม่แน่ ๆ

4. รู้ไหมว่าตำแหน่งงานที่คุณสมัครต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง


          นี่คือคำถามที่คุณต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานและข้อมูลโดยรวมของบริษัทไว้ให้ดี และพยายามตอบคำถามอย่างชัดถ้อยชัดคำ กระชับ ได้ใจความ ทว่าอย่าตอบคำถามด้วยความมั่นใจในตัวเองแบบผิด ๆ เช่น ได้ข่าวมาว่าบริษักำลังต้องการคนทำงานในตำแหน่งนี้ด่วนมาก และเชื่อว่าประสบการณ์และความรู้ที่มีอยู่จะช่วยบริษัทนี้ได้

5. รับมือกับความกดดันได้ดีแค่ไหน


          แน่นอนว่าการทำงานต่างจากการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยลิบลับ ฉะนั้นความกดดันจึงเป็นสิ่งสามัญที่คนทำงานทุกคนต้องเจอ และหากต้องตอบคำถามนี้ แนะนำให้ตอบอย่างมั่นใจไปเลยว่า คิดไว้อยู่แล้วว่าการทำงานจะไม่เหมือนการเรียน ดังนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจมาเจอกับความกดดันอย่างเต็มที่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราเองก็ต้องทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และพยายามมองทุกอย่างให้เป็นบวกเสมอ ถ้าทำได้แบบนี้ก็ไม่น่าต้องเจอกับความกดดันมากมายนัก

6. มีแผนอยากทำอะไรบ้างในอนาคต

คำถามนี้ส่วนมากต้องการวัดว่า คุณมีเป้าหมายในชีวิตไปในทางไหน เช่น คุณมีแผนที่จะเรียนต่อหรือเปล่า หรือคิดจะทำธุรกิจของตัวเองในอนาคตไหม เพราะเกือบทุกบริษัทย่อมต้องการคนทำงานให้กับบริษัทในระยะยาว ดังนั้นสิ่งที่ควรตอบออกไปก็คือ อยากมีงานประจำที่มั่นคงก่อนในตอนนี้ และคิดว่าจะสร้างตัวเองจากงานที่ชอบและถนัดต่อไปเรื่อย ๆ

7. ทำไมบริษัทถึงต้องเลือกคุณ

คำถามข้อนี้ก็เหมือนถามว่าเรามีจุดเด่นอะไรบ้างนั่นแหละค่ะ ดังนั้นตอบเสียงดังฟังชัดแบบกระชับได้ใจความไปเลยว่า อย่างแรกเลยคือความตั้งใจในการทำงาน และโดยส่วนตัวก็อยากทำงานในสายนี้มานานแล้ว คิดว่าเมื่อได้ทำในสิ่งที่รักก็คงทำงานออกมาได้ดี ที่สำคัญเป็นคนที่ชอบความยากและท้าทาย เพราะเป็นคนที่ชอบทุ่มเทความสามารถของตัวเองกับสิ่งที่ได้รับมอบหมายมาด้วย

8. จุดอ่อนของคุณคืออะไร

ควรตอบคำถามนี้ด้วยความเป็นจริง และควรเลือกตอบคำถามแบบไม่ทำร้ายตัวเองด้วย เช่น เลือกจุดอ่อนที่สามารถปรับปรุงและพัฒนาได้อย่างบอกไปว่ามีพื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนข้างต่ำ และตอนนี้กำลังเรียนทักษะภาษาอังกฤษเสริมอยู่ เป็นต้น

9. คุณมีปัญหากับการทำงานล่วงเวลาหรือต้องออกต่างจังหวัดหรือไม่

บางบริษัทอาจจำเป็นต้องให้พนักงานทำงานล่วงเวลาหรือออกไปทำงานนอกสถานที่บ้าง ซึ่งหากคุณทราบอยู่แล้วและไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ก็ควรตอบไปตามความจริงเลย หรืออาจจะเสริมให้ดูดีอีกนิดหน่อยว่า คุณมีความพร้อมเสมอกับการทำงานล่วงเวลา เพราะงานต้องมาก่อนสิ่งใด

10. คุณเคยมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนในวัยเรียนบ้างไหม

 จะตอบว่าไม่เคยมีปัญหากับใครเลยคงจะดูเฟคไปหน่อย ฉะนั้นข้อนี้คุณควรตอบประมาณว่า เคยมีปัญหาในเรื่องของความเข้าใจผิดมาบ้าง แต่ส่วนมากจะจบลงด้วยดี เพราะสามารถจัดการปัญหาได้ด้วยการปรับความเข้าใจ โต ๆ กันแล้วมีอะไรไม่เข้าใจก็ควรต้องคุยกันด้วยเหตุและผล

11. สมัครงานไปกี่ที่แล้ว

คุณควรตอบคำถามนี้ตามความเป็นจริง แต่ต้องเน้นพูดถึงความสนใจกับตำแหน่งงานของบริษัทที่กำลังสัมภาษณ์เป็นส่วนใหญ่ โดยอาจจะตอบก็ได้ว่า ลองหว่านใบสมัครไปหลายที่อยู่ แต่อยากร่วมงานกับที่นี่มากที่สุด เพราะเป็นสายงานตามความสนใจ

12. เงินเดือนที่ต้องการ

          แนะนำให้ลองสืบฐานเงินเดือนในตำแหน่งที่สมัครจากที่อื่นเยอะ ๆ รวมถึงดูภาพรวมของบริษัทไว้ด้วยว่า อัตราเงินเดือนมาตรฐานเริ่มต้นที่เท่าไร และอาจเรียกเงินเดือนเป็นระดับช่วงเงินเดือนไป ดีกว่าระบุตัวเลขที่ตายตัว

13. คุณมีอะไรจะถามไหม

คำถามสุดท้ายนี้เปิดกว้างให้คุณถามในเรื่องที่สงสัยได้เลย โดยคุณอาจจะถามไปว่า ตำแหน่งงานที่สมัครอยู่ในโครงสร้างใดของบริษัท เวลาทำงานปกติของบริษัทคือวันและเวลาไหนบ้าง และทางบริษัทมีเป้าหมายเกี่ยวกับตำแหน่งนี้ในแนวทางใด เพื่อที่จะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้องเหมาะสม

อย่างไรก็ดี ก่อนจะไปสัมภาษณ์งาน คุณควรต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่การแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เตรียมเอกสารการสมัครงานให้ครบถ้วน และอย่าลืมพกความมั่นใจในการตอบคำถามสัมภาษณ์งานไปด้วยนะคะ

ข้อมูลดีๆจาก: kapook

งานราชการที่เปิดสอบในตอนนี้