ตลอดระยะเวลามากกว่า 50 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian Nations) หรือ อาเซียน (ASEAN) ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2510 ตามปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) และได้ก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ในปี พ.ศ. 2558 อาเซียนได้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยเร่งเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันทั้งด้านกายภาพ กฎระเบียบ และระหว่างประชาชน เพื่อทำให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง อาเซียนได้ขยายความความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือกับภาคีภายนอก (ASEAN External Relations) เพื่อสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียนและส่งเสริมให้มหาอำนาจมีปฏิสัมพันธ์กับอาเซียนอย่างสร้างสรรค์ โดยให้ความสำคัญกับการรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียน (ASEAN centrality) ในโครงสร้างสถาปัตยกรรมภูมิภาค ภายใต้กรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม (ASEAN PLUS THREE) การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit : EAS) และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินความสัมพันธ์กับคู่เจรจาและภาคีภายนอกอื่น ๆ โดยมีท่าทีหนึ่งเดียวของอาเซียนเพื่อส่งเสริมบทบาทและรักษาผลประโยชน์อาเซียนเป็นสำคัญ ปัจจุบัน อาเซียนมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับ 10 คู่เจรจา (Dialogue Partner) ซึ่งประกอบด้วย 9 ประเทศ คือ อาเซียน – ญี่ปุ่น อาเซียน – ออสเตรเลีย อาเซียน – นิวซีแลนด์ อาเซียน – สหรัฐอเมริกา อาเซียน – แคนาดา อาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลี อาเซียน – อินเดีย อาเซียน – จีน อาเซียน – รัสเซีย และ 1 องค์กรระดับภูมิภาค คือ อาเซียน – สหภาพยุโรป (อียู) นอกจากนี้ ตามกฎบัตรอาเซียนข้อ 44 อาเซียนยังมีปฏิสัมพันธ์กับภาคีภายนอกในสถานะอื่นๆ เช่น การเป็นคู่เจรจาเฉพาะสาขา (Sectoral Dialogue Partner) ได้แก่ ปากีสถาน นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ และตุรกี และการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) คือ เยอรมนี และยังมีปาปัวนิวกินีเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์พิเศษ (Special Observer) ของอาเซียนอีกด้วย ความสัมพันธ์และความร่วมมือกับภาคีภายนอกเหล่านี้ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างสันติภาพและส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคแล้ว ยังมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายร่วมกัน ทั้งปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนผ่านความร่วมมือด้านการศึกษา สาธารณสุข และการพัฒนาที่ยั่งยืน
อาเซียน - สหรัฐอเมริกา (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
อาเซียน - แคนาดา (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
อาเซียน - สหภาพยุโรป (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
อาเซียน - ญี่ปุ่น (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
อาเซียน - จีน (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
อาเซียน - ออสเตรเลีย (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
อาเซียน - อินเดีย (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
อาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
อาเซียน - นิวซีแลนด์ (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
อาเซียน - รัสเซีย (ข้อมูลจากกรมอาเซียน กต.)
การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit – EAS)
กรอบความร่วมมืออาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี)
การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum – ARF)ด้วยจำนวนประชากร 650 ล้านคนและอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เฉลี่ยร้อยละ 5 มูลค่าเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งประชากรในวัยหนุ่มสาวที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี สมาชิกอาเซียนทั้งสิบประเทศรวมกันจึงเป็นภูมิภาคที่เปี่ยมพลวัตที่สุดภูมิภาคหนึ่งของโลก สหรัฐอเมริกาและอาเซียนทำงานร่วมกันตลอด 42 ปีที่ผ่านมาเพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรือง ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียนเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2520 ก่อนยกระดับเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ในปี 2558 ทั้งสองฝ่ายเล็งเห็นว่า หลักการที่เชิดชูไว้ในมุมมองของอาเซียนต่อแนวคิดอินโด–แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific) อันได้แก่ การมีส่วนร่วม การเปิดกว้าง การเป็นภูมิภาคซึ่งยึดถือหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล และการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการเหล่านี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของสหรัฐฯ ว่าด้วยภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ตลอดจนแนวทางดำเนินการในภูมิภาคของพันธมิตร หุ้นส่วน และมิตรประเทศของสหรัฐฯ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอันเข้มแข็งของสหรัฐฯ และอาเซียน เศรษฐกิจอันอุดมพลวัตและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงของอาเซียนทำให้อาเซียนเป็นตลาดการส่งออกและการลงทุนที่สำคัญของสหรัฐฯ
โครงการหุ้นส่วนเมืองอัจฉริยะสหรัฐฯ–อาเซียน (USASCP) – การลงทุนในนวัตกรรม เมืองอัจฉริยะ คือเมืองที่นำเทคโนโลยีด้านข้อมูลมาใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมและบริหารจัดการทรัพยากรของเมือง อันเป็นกุญแจสำคัญสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในสหรัฐฯ และอาเซียน
การสร้างศักยภาพของอาเซียนในโลกดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคนี้ยังคงเผชิญกับปัญหาท้าทายในด้านการเชื่อมโยงและความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งสหรัฐฯ ได้นำความรู้ความชำนาญมาช่วยจัดการ
หุ้นส่วนความมั่นคงด้านพลังงาน มีการประมาณการว่า ความต้องการพลังงานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 ใน 3 ภายในปี 2583 การสนับสนุนของสหรัฐฯ นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ความช่วยเหลือทางทะเลเพื่อความมั่นคงอาเซียน อาเซียนที่เข้มแข็งและมีความสามารถ ณ ใจกลางของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกนั้นมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาโครงสร้างระดับภูมิภาคซึ่งส่งเสริมการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยและสามารถระงับข้อพิพาทโดยสันติด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ
การส่งเสริมผู้นำเยาวชนผ่านความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ประชากรอาเซียนร้อยละ 65 มีอายุน้อยกว่า 35 ปี การส่งเสริมผู้นำรุ่นใหม่ให้มีบทบาทนำในชุมชนอาเซียนย่อมเป็นการรับรองว่าสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองจะธำรงสืบต่อไป
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของคณะผู้แทนสหรัฐอเมริกาประจำสำนักเลขาธิการอาเซียน https://asean.usmission.gov/ *การแปลนี้จัดทำขึ้นโดยความอนุเคราะห์และเฉพาะต้นฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้นที่ควรถือว่าเชื่อถือได้ โดย | 2 สิงหาคม, 2019 | ประเภท: ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก, เอกสารข้อเท็จจริง |