สำนวนสุภาษิตปะปนอยู่ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันของคนเรา ไม่ว่าจะเป็นการพูด อ่าน เขียน เพราะฉะนั้นการทำความเข้าใจความหมายของสำนวนต่าง ๆ จะช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และเข้าใจเจตนาของคู่สนทนามากขึ้น สำนวนไทย คือถ้อยคำเชิงเปรียบเปรยที่ถูกเรียบเรียงให้สั้น กระชับ สละสลวย เพื่อใช้เป็นข้อคิดหรือคติสอนใจ มีความหมายไม่ตรงไปตรงมาต้องอาศัยการตีความเพื่อให้เข้าใจถึงนัยยะที่แฝงอยู่ สำนวนไทยยังสามารถยังสามารถแบ่งแยกย่อยได้เป็น "สุภาษิต" และ "คำพังเพย" โดยมีจุดมุ่งหมายในเชิงสั่งสอน เสียดสี หรือติชม
ในบรรดาสำนวนไทย อาจมีบางกลุ่มที่มีความหมายคล้ายกัน ซึ่งทำให้หลายคนอาจสับสนและเลือกใช้ไม่ถูกต้อง หมวดที่ 1 :ได้ของมีค่ามา แต่ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น ขยายความ: สำนวนในหมวดนี้ เราใช้เปรียบเทียบถึงคนที่มีของดีใกล้ตัว เช่น มีคนรักที่ดี มีโอกาสในหน้าที่การงานดี แต่กลับปล่อยปะละเลยให้หลุดมือไป แทนที่จะเก็บรักษาเพื่อประโยชน์ต่อตัวเอง หมวดที่ 2 :ได้ของที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อตนเอง
ขยายความ: สำนวนในหมวดนี้ใช้เปรียบเทียบกับคนที่ได้สิ่งที่ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองตัวเอง หรือได้บางสิ่งไปแต่นำไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ แม้ว่าสิ่งของเหล่านั้นจะคุณค่าแค่ไหนท้ายที่สุดก็ไม่มีค่า เหมือนคนที่ “ตาบอดได้แว่น” ที่แม้จะสวมใส่แว่นก็ไม่ได้ทำให้เขามองเห็น หมวดที่ 3 :โต้ตอบหรือลดตัวไปยุ่งกับคนพาล
ขยายความ: สำนวนหมวดนี้ใช้เป็นคติสอนใจว่าไม่ควรเสียเวลาลดตัวลงไปทะเลาะ ต่อล้อต่อเถียงกับคนไม่ดี เพราะท้ายที่สุดมีแต่ตัวเราที่เสียศักดิ์ศรี เสียเวลา เหมือนกับการนำพิมเสนที่มีค่าไปแลกกับเกลือที่มีค่าน้อยกว่า หมวดที่ 4 :คัดค้านผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีอำนาจมากกว่า
ขยายความ: สำนวนในหมวดนี้ใช้เปรียบเทียบถึงการคิดเอาชนะผู้มีฐานะสูงกว่า หรือ ผู้มีอำนาจมากกว่า ซึ่งมักพยเจอกับความล้มเหลว และส่งผลร้ายต่อตัวเอง หมวดที่ 5 :หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว
ขยายความ: นิยมใช้เปรียบเทียบถึงคนที่มักหาเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องใส่ตัว ทำทุกอย่างทั้งที่ไม่ใช่ธุระของตนเอง จนทำให้ตัวเองวุ่นวาย เดือดร้อน หมวดที่ 6 :สอนในสิ่งที่เขารู้ดีอยู่แล้ว
ขยายความ: สำนวนในหมวดนี้ใช้เปรียบเทียบถึงคนที่ชอบสั่งสอน อวดรู้ หรือการแสดงความคิดเห็นโดยไร้ทักษะความรู้และประสบการณ์ โดยปราศจากการรับฟังจากผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี หมวดที่ 7 :ทำสิ่งที่เกินกำลังความสามารถของตัวเอง
ขยายความ: นิยมใช้ใช้เปรียบเทียบกับคนที่ทำอะไรโดยไม่ประเมินกำลังของตนว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่กำลังจะทำนั้นเกินกำลังของตนที่จะทำได้และสุดท้ายแล้วไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลย นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่่งของสำนวนไทยที่เรานำมาฝากเท่านั้น สามารถรับชมสาระเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้สำนวนให้ถูกต้อง ได้ที่รายการ ห้องเรียนติวเข้ม ตอน A-Level ภาษาไทย : การใช้สำนวนให้ถูกต้องตามความหมาย สํานวนสุภาษิตนี้ มักมีนำหน้าคือ “อย่าเอาพิมเสน ไปแลกกับเกลือ” หมายถึงการลดตัวเองไปเกลือกกลั้วเพื่อกระทำการใดๆ กับสิ่งที่ต่ำกว่าจะมีแต่เสียหายกับตนเองเปล่าๆ ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึง พิมเสนนั้นมีราคาแพงกว่าเกลือ แต่กลือนั้นมีราคาถูกกว่ามาก หากนำพิมเสนไปแลกเกลือแล้วมีแต่จะขาดทุน ที่มาของสํานวน : โดยปกติเนื้อ(เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่)มีีราคาแพงและมีประโยชน์มากกว่าหนัง หากจะนำมาแลกกันก็ย่อมไม่คุ้ม ตัวอย่าง เมื่อวานขณะสมชายขับรถกลับบ้าน ก็ได้เจอกลุ่มซิ่งรถของเด็กวัยรุ่น สมชายไม่อยากเอาเนื้อไปแลกกับหนัง เขาเลยจอดรถให้พวกวัยรุ่นนักซิ่งขับผ่านไปก่อน
Tags: คำพังเพย, สำนวน, สำนวนสุภาษิต, สำนวนไทย, สุภาษิต, สุภาษิตไทย, เสียเปรียบ, ได้ไม่คุ้มเสีย เรื่องน่าสนใจ
Digg it StumbleUpon Facebook Twitter del.icio.us Google Yahoo! reddit This entry was posted on Wednesday, March 11th, 2015 at 11:29 am and is filed under ขึ้นต้นด้วย ษ ส ห ฬ อ ฮ, สำนวน สุภาษิต คำพังเพย. สามารถติดตาม ศึกษาเรียนรู้สำนวนสุภาษิต และคำพังเพยไทย ได้ทาง RSS 2.0 feed. หากมีข้อสงสัย หรือมีอะไรจะแนะนำ สามารถฝากข้อความไว้ได้ที่กล่องแสดงความคิดเห็นได้เลยจ้า ^^ |