Show
บัญชีผู้ใช้เดียวกับบัญชีผู้ใช้ของนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยกเลิก ลงทะเบียน / ลืมรหัสผ่าน ลงชื่อเข้าใช้ผ่าน DGA BizID × ลงชื่อเข้าใช้ผ่าน DGA BizID (Service V3)ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน (Username) : รหัสผ่าน : ลืมรหัสผ่าน ? จดจำชื่อบัญชีฉันไว้
ปิดหน้าต่างนี้ ข้อตกลงและเงื่อนไขในการใช้บริการ
E-KYC ย่อมาจาก Electronic Know-Your-Customer คือ การยื่นยันตัวบุคคลผ่านช่องทาง Electronic นั่นแหละ เราไม่จำเป็นต้องไปด้วยตัวเรา แต่เราอาศัยขั้นตอนบางอย่างยื่นยัน ว่า รายการนี้เราเป็นคนทำจริง ๆ นะ แบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
มาตรฐานเกี่ยวกับ E-KYCIdentity ที่ได้รับการยอมรับในการเป็นตัวแทนบุคคลได้ เช่น เลขประจำตัว ชื่อบุคคล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด อีเมล หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ภาพใบหน้า หรือข้อมูลระบุอุปกรณ์ที่บุคคลใช้งาน ส่วน Identity สำหรับนิติบุคคล เช่น เลขทะเบียนนิติบุคคล ชื่อนิติบุคคล ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ หรือ ชื่อกรรมการนิติบุคคล สิ่งที่ใช้ยืนยันตัวตน authenticator หมายถึง สิ่งที่บุคคลครอบครองและควบคุมเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ประกอบด้วย
มาตรฐานระดับความน่าเชื่อถือมีการประเมินระดับความน่าเชื่อถือ เป็น 2 ด้าน ดังนี้ ระดับความน่าเชื่อถือของการพิสูจน์ตัวตน Identity assurance level : IAL เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานว่าน่าเชื่อถือแค่ไหน โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ IAL 1 ( ต่ำสุด ) -> IAL2 -> IAL3 ( สูงสุด ) ระดับความน่าเชื่อถือของการยืนยันตัวตน Authentication assurance level : AAL เป็นการพิจารณาหลักฐานต่าง ๆ ในการยืนยันตัวตน ว่ามีอะไรบ้าง มีกี่อย่าง น่าเชื่อถือแค่ไหน โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ AAL1 ( ต่ำสุด ) -> AAL2 -AAL3 ( สูงสุด ) ประหยัด และเหมาะสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กมือใหม่ ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง มาดูทีละขั้นตอนในบทความนี้ได้เลยจากบทความเรื่อง จดทะเบียนบริษัทตอนไหนดี หากคุณได้ลองประเมินความพร้อมในการมีบริษัทของตัวเองผ่านเช็กลิสต์ที่เราได้แนะนำไปแล้วก่อนหน้านี้ แล้วพบว่าไม่ติดปัญหาใดๆ เลย แสดงว่าคุณมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าของบริษัทแล้ว ดังนั้นเราก็มาเตรียมตัวเปิดบริษัทกันเลย
การจดทะเบียนบริษัท สามารถทำได้หลายช่องทาง ซึ่งแต่ละช่องทางนั้นก็มีความแตกต่างกันทั้งระยะเวลา การจัดเตรียมเอกสาร และค่าธรรมเนียม เราจะมาทำความรู้จักทั้ง 3 ช่องทางกัน เลือกอ่านได้เลย! 3 ช่องทางในการจดทะเบียนบริษัท
1. จดทะเบียนบริษัทผ่านการใช้บริการสำนักงานบัญชี หรือผ่านผู้ให้บริการรับจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ข้อดี: รวดเร็ว สามารถจดบริษัทได้ทันทีใน 1 วัน และไม่ต้องเตรียมเอกสารด้วยตัวเอง
ข้อเสีย: มีค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินงานที่สูง โดยปกติอาจจะอยู่ที่ 6,000-12,000 บาท รวทค่าธรรมเนียมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว 2. จดด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ DBD e-Registrationข้อดี: ประหยัด แถมยังได้ลดค่าธรรมเนียมการจัดตั้งบริษัทจาก 5,000 บาท เหลือ 2,750 บาท
ข้อเสีย: ดำเนินการด้วยตนเอง และใช้เวลารอประมาณ 3-5 วัน 3. จดด้วยตนเองแบบ walk-in ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ข้อดี: รวดเร็ว สามารถจดบริษัทได้ทันทีใน 1 วัน ประหยัดกว่าแบบที่ 1
ข้อเสีย: ดำเนินการด้วยตนเอง และไม่ได้ส่วนลดการจดทะเบียนแบบข้อที่ 2
ซึ่งเราจะมาแนะนำวิธีที่ประหยัด เหมาะสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กมือใหม่ นั่นก็คือการจดทะเบียนบริษัทผ่านระบบออนไลน์ DBD e-Registeration ด้วยตัวเอง ที่หลายคนคิดว่ายาก แต่จริงๆ แล้วคุณเองก็สามารถจดทะเบียนบริษัทได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้วเท่านั้นที่ เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เราไปดูขั้นตอนแบบละเอียดกันเลยดีกว่า
วิธีจดทะเบียนบริษัท ออนไลน์ ผ่านระบบ DBD e-Registration
1. ผู้ประกอบการจะต้องสมัครสมาชิกและทำการยืนยันตัวตนก่อน เพื่อให้ได้ User Name และ Password สำหรับใช้ในการจดทะเบียนบริษัท
เริ่มลงทะเบียนโดยเข้าไปที่หน้าแรกของ DBD ตามลิงก์นี้ กด “บริการออนไลน์” และเลือก “จดทะเบียนนิติบุคคลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration)”
เมื่อคลิกเข้าไปแล้วให้เลือก “ลงทะเบียนผู้ใช้งานระบบ” (หากลงทะเบียนด้วยตัวเองให้เลือก “ลงทะเบียนเป็นผู้ใช้งานทั่วไป”) เมื่อคลิกเข้าไปจะต้องกรอกข้อมูลเบื้องต้น และจะต้องมีการยืนยันตัวตนผ่านระบบ e-KYC
การยืนยันตัวตนผ่านระบบ e-KYC แนะนำให้ทำผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อความสะดวก เนื่องจากจะต้องมีการถ่ายรูปและอัดวิดีโอเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน
2. เมื่อได้ User Name และ Password มาแล้ว ก็พร้อมทำการ log-in เข้าไปในระบบและคลิกเลือกที่ “จดทะเบียนนิติบุคคล” เพื่อเริ่มดำเนินการจดทะเบียนบริษัท
3. เมื่อพบรายการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เลือกที่ “สร้างคำขอการจดทะเบียนนิติบุคคล”
4. ในกรณีนี้หากเราจดทะเบียนด้วยตนเอง ให้เลือกไปที่ “ผู้เริ่มก่อการ/กรรมการ/หุ้นส่วน/ผู้ชำระบัญชี”
5. เลือกรูปแบบนิติบุคคลในการทำธุรกิจ ในที่นี้เราขอเลือกเป็น “บริษัทจำกัด”
6. เลือกหัวข้อ “หนังสือบริคณห์สนธิและจัดตั้งบริษัทพร้อมกัน (ภายในวันเดียว)” และกดปุ่ม หน้าถัดไป
7. ตอบคำถามเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทจำกัดดังต่อไปนี้
8. ใส่ชื่อนิติบุคคลที่จะใช้ในการประกอบกิจการทั้งภาษาไทยและอังกฤษ หากชื่อที่เราเลือกนั้นซ้ำกับบริษัทอื่นที่มีอยู่แล้วก็จะไม่สามารถใช้ชื่อนั้นได้
9. คลิกว่า “ได้มีการจัดประชุม” และใส่รายละเอียดในการประชุมจัดตั้งบริษัท
10. ในการประชุมจัดตั้งบริษัท หากเราไม่ได้กำหนดวาระอย่างอื่นไว้ในการประชุม สามารถใช้รายงานการประชุมสำเร็จรูปที่ DBD กำหนดไว้ให้ได้เลย โดยกรอกรายละเอียดดังนี้
11. ในหน้านี้จะมีรายละเอียดให้กรอกหลายส่วน โดยมีรายละเอียดดังนี้
12. ในหน้านี้จะเป็นการให้ระบุจำนวนหุ้นที่จดทะเบียน และจำนวนเงินที่ชำระเงินค่าหุ้นต่อ 1 หุ้น
จากตัวอย่าง กำหนดทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท และเลือกชำระขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนดที่ 25% ต่อหุ้น ดังนั้นจะมีทุนชำระแล้วเท่ากับ 250,000 บาท
13. หลังจากนั้นจะมีกล่องให้ใส่รายละเอียดที่ตั้งของบริษัทตามทะเบียนบ้าน หากไม่มีสาขาก็ไม่ต้องใส่ข้ามส่วนนี้ไปส่วนถัดไปได้เลย (เลขรหัสประจำบ้าน จะอยู่หน้าแรกสุดของทะเบียนบ้าน)
14. ถ้าบริษัทไม่มีข้อบังคับ ให้ติ๊ก “ไม่มีข้อบังคับ” และให้ใส่วันสิ้นสุดรอบบัญชีของบริษัท เช่น วันสิ้นสุดรอบบัญชีที่นิยม คือ 31 ธันวาคม ของทุกปี ให้ใส่ว่า “3112” และเมื่อกรอกข้อมูลครบแล้วให้เลือก”หน้าถัดไป”เพื่อดำเนินการต่อ
15. จากนั้นจะมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อผู้ถือหุ้นและข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นให้ตรวจเช็กอีกครั้ง โดยข้อมูลเหล่านี้จะปรากฏใน บอจ.5 ของบริษัท ดังนั้นจะต้องมีการตรวจสอบให้ดี
ถ้าหากข้อมูลถูกต้องแล้วให้เลือก “หน้าถัดไป” เพื่อดำเนินการต่อได้เลย
16. ให้ใส่รายละเอียดกรรมการของบริษัทอย่างน้อย 1 ท่าน ซึ่งโดยปกติจะเป็นกลุ่มคนเดียวกับผู้ถือหุ้น
17. กำหนดอำนาจกรรมการ คือ การกำหนดว่าใครสามารถมีอำนาจลงนามทำธุรกรรมและมีผลผูกพันกับบริษัทได้บ้าง
18. ในส่วนนี้ คือ การเลือกแบบ ว. สำเร็จรูป คือ การบอกวัตถุประสงค์ของบริษัทว่า บริษัทนั้นประกอบธุรกิจอะไร โดย
แบบ ว.2 = เหมาะกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการ แบบ ว.3 = เหมาะกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมและหัตถกรรม แบบ ว.4 = เหมาะกับบริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับเกษตรกรรม แบบ ว.5 = เหมาะกับการประกอบธุรกิจสํานักงานปฏิบัติการภูมิภาค เช่น ประกอบกิจการให้บริการด้านการบริหาร หรือด้านเทคนิคแก่วิสาหกิจในเครือ หรือสาขาของตนไม่ว่าจะตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ
19. เนื่องจากการเลือกแบบ ว. แบบสำเร็จรูปอาจไม่ครอบคลุมธุรกิจที่เราประกอบอยู่ เราสามารถเพิ่มวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง เหมาะกับกิจการของเราเข้าไปได้ในส่วนนี้
20. หลังจากนั้นจะมีให้ใส่รายละเอียดลูกจ้างและผู้รับเหมาช่วงในกิจการของสถานประกอบการ หากยังไม่มีให้ข้ามไปได้เลย และด้านล่างสุดจะให้ใส่รายละเอียดสินค้า/บริการ (ขั้นตอนการใส่ตามข้อ 21) หากกรอกข้อมูลครบแล้วให้เลือก “หน้าถัดไป"
21. ในการระบุสินค้าและบริการ ให้ค้นหาธุรกิจที่ใกล้เคียงกับกิจการของเรา โดยใส่ Keyword ที่ใกล้เคียงกับธุรกิจของเรามากที่สุดเข้าไป แล้วกดค้นหา แล้วกดบันทึก
22. จากนั้นคลิกเลือกกรรมการผู้ลงนามของบริษัทว่าจะให้ใครบ้างที่มีอำนาจในการลงนามแทนบริษัท
23. ในส่วนถัดมาจะเป็นส่วนที่ให้ใส่ไฟล์เพิ่มเติมเข้าไป หลักๆ คือ
24. หลังจากที่เรากรอกข้อมูลมาทั้งหมด ระบบจะประมวลผลออกมาเป็นเอกสารทางราชการแบบนี้ ให้เราตรวจเช็กความถูกต้องอีกรอบ ถ้าไม่มีอะไรผิดกดส่งคำขอให้ตรวจสอบได้เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้เวลา 2-5 วันทำการในการตรวจสอบข้อมูล หากมีการแก้ไขจะมีการแจ้งบอกไปที่อีเมลของเราอีกครั้ง
26. เมื่อทำการเซ็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เรียบร้อยแล้ว ก็ให้เลือก “ยื่นคำขอจดทะเบียน” โดยจะต้องทำการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อน และเลือก “ชำระค่าธรรมเนียม” ในลำดับถัดไป และหลังชำระเงินก็จะได้รับเอกสารดังต่อไปนี้
เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้น วิธีจดทะเบียนบริษัท ผ่านระบบ DBD e-Registration คุณก็ได้กลายเป็นเจ้าของบริษัทเป็นที่เรียบร้อย
หากใครที่เพิ่งเป็นเจ้าของบริษัทก็อย่าละเลยการทำบัญชี ระบบ FlowAccount เป็นโปรแกรมบัญชีที่ใช้งานง่าย ออกบิลสะดวกสบาย เรียกเก็บเงินจากลูกค้าได้เร็ว ที่คุณเองก็สามารถทำบัญชีเองได้ สนใจสมัคร FlowAccount คลิกที่ลิงก์นี้ได้เลย https://auth.flowaccount.com/th/Account/Register หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ยังรู้สึกการจดทะเบียนบริษัทเป็นเรื่องยาก ติดต่อ FlowAccount ช่วยจัดการให้ได้เลยทันที
FlowAccount รับจดจัดตั้งนิติบุคคล พร้อมมอบโปรแกรมบัญชีออนไลน์ และสิทธิประโยชน์ อยู่เคียงข้างผู้ประกอบการในยุคดิจิทัล ให้บริหารธุรกิจด้วยตัวเองได้อย่างมั่นใจตั้งแต่ก้าวแรกด้วย 9 บริการจากเรา ในการช่วยเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ตามระเบียบขอจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อ่านรายละเอียดและติดต่อทีมงานได้เลย ที่นี่ About AuthorTAXBOOK ภาษีและบัญชีฉบับ101 เพจ TAXBOOK ภาษีและบัญชีฉบับ101 ให้ความรู้เรื่องบัญชีและภาษีสำหรับนักบัญชีและเจ้าของกิจการ ที่อยากอธิบายบัญชีและภาษีที่ใครมองว่ายากแบบง่ายๆ ด้วยภาษาของคนธรรมดา เหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง |