จดหมายสมัครงานแบบแยกประวัติ เหมาะกับใคร

จดหมายสมัครงานแบบแยกประวัติ เหมาะกับใคร

���ͤ����дǡ�
���͸Ժ�� ������������Ѥçҹ �͡�� 2 ������ ���¡ѹ ���

1. �����¹� (Covering Letter)

��� ��������Ѥçҹ����ջ���ѵ���ǹ��� (Resume)
Ṻ仾�����Ѻ��������Ѥçҹ ��觨����ª�Դ��������СѺ
������ջ��ʺ��ó�㹡�÷ӧҹ������ ����������ö�йӻ��ʺ��ó� ������
��������㹨����©�Ѻ������
����������Ңͧ�������繢����ŷ���Ӥѭ��ҹ��
�������÷��С���ǫ�ӡѺ㹻���ѵ���ǹ���

2. ��������Ѥçҹ (Application Letter)

��ͨ����·�������һ���ѵ���ǹ������������������Ѥçҹ����СѺ�����������¹�����ͼ���ջ��ʺ��ó�㹡�÷ӧҹ�������ͧ�ҡ�ѧ����բ����Ŵ�ҹ���ʺ��ó�㹡�÷ӧҹ�ҡ�ͷ��й�����¹�繻���ѵ���������ҧ����ó�֧��ͧ��һ��ʺ��ó�
��Т�������ǹ��������㹨����¹�����

����¡��������������ѡɳй������ա�˹���µ��
�¼����Ѥçҹ������
���¹���������Ҩ�����͡�騴���¹�㹡����Ѥçҹ���� �ҡ��������ҧ
���¹ �ջ��ʺ��ó�㹡����������Ԩ�������µ�ʹ�����դ��� ����ö
����ɷ��Դ��Ҩз�����¨�ҧ�ѹ��ʹ�㹵�Ǥس�ҡ��
������ö�����͡��¹�����»�����������
��觡�������Ѻ��Ҥس������ö ��¹����ѵ���ǹ��Ǣͧ�س
���֧�ٴ��¨�ҧ�����ҧ��


  • หน้าแรก

  • บทความที่เกี่ยวข้อง

  • Management Tips

  • ประเภทของจดหมายสมัครงาน


     เพื่อความสะดวกในการอธิบาย จะแบ่งจดหมายสมัครงาน ออกเป็น
2 ประเภทด้วยกัน คือ

 1. จดหมายนำ (Covering Letter)

คือจดหมายสมัครงานที่มีประวัติส่วนตัว (Resume) แนบไปพร้อมกับจดหมายสมัครงาน ซึ่งจดหมายชนิดนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้ว และไม่สามารถจะนำประสบการณ์ทั้งหมดมาใส่ไว้ในจดหมายฉบับเดียวได้ ทำให้เนื้อหาของจดหมายเป็นข้อมูลที่สำคัญเท่านั้น และไม่ควรที่จะกล่าวซ้ำกับประวัติส่วนตัว

2. จดหมายสมัครงาน (Application Letter)

คือจดหมายที่รวมเอาประวัติส่วนตัวเข้าไว้ในจดหมายสมัครงานเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเรียนจบหรือผู้มีประสบการณ์ในการทำงานน้อยเนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านประสบการณ์ในการทำงานมากพอที่จะนำมาเขียนเป็นประวัติย่อได้อย่างสมบูรณ์จึงต้องเอาประสบการณ์ และข้อมูลส่วนตัวมาไว้ในจดหมายนั้นเลย

 การแยกประเภทจดหมายในลักษณะนี้ไม่มีกำหนดตายตัว โดยผู้สมัครงานที่เพิ่งเรียนจบมาใหม่อาจจะเลือกใช้จดหมายนำในการสมัครงานก็ได้ หากว่าระหว่างเรียนมีประสบการณ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมมาโดยตลอดหรือมีความสามารถพิเศษที่คิดว่าจะทำให้นายจ้างหันมาสนใจในตัวคุณมากพอก็สามารถจะเลือกเขียนจดหมายประเภทนี้ก็ได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสามารถเขียนประวัติส่วนตัวของคุณให้ดึงดูดนายจ้างได้อย่างไร

  • Resume (ประวัติส่วนตัว) เป็นการแนะนำตัวเองว่าเราเป็นใครหรือทำอะไรมาบ้าง ใช้บอกข้อมูลส่วนตัว การศึกษา ประสบการณ์การทำงาน และทักษะต่าง ๆ ผ่านการเขียนเป็นลิสต์
  • Cover Letter (จดหมายสมัครงาน) เป็นการเขียนแนะนำตัวเองคร่าว ๆ ว่าทำไมถึงต้องการสมัครตำแหน่งนี้ และบริษัทจะได้อะไรจากการรับเราเข้าทำงาน

เรซูเม่ไม่ใช่จดหมายสมัครงานและจดหมายสมัครงานก็ไม่ใช่เรซูเม่ แต่ทั้งสองอย่างคือสิ่งสำคัญและจำเป็นต้องมีเพื่อใช้สมัครงาน และสามารถเป็นตัวกำหนดได้ว่าคุณจะถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานหรือไม่ แต่ก็มีหลายคนอาจสับสนและยังไม่เข้าใจว่าทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร

JobThai ได้สรุปความแตกต่างของ Resume (ประวัติส่วนตัว) และ Cover Letter (จดหมายสมัครงาน) มาให้เข้าใจกันได้แบบง่าย ๆ แล้ว

Resume หรือ ประวัติส่วนตัว

Resume คือเครื่องมือสรุปและนำเสนอตัวเองให้ HR อ่าน เพื่อพรีเซนต์ว่าเราน่าสนใจพอจะเรียกเข้ามาสัมภาษณ์ไหม จึงควรใส่ใจและสร้างความประทับใจใน Resume ให้ได้มากที่สุด เพื่อบอกรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของเราอย่าง ข้อมูลการติดต่อ ประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ทักษะและความสามารถ โดยการทำ Resume จะออกมาในรูปแบบของการลิสต์เป็นข้อ ๆ เช่น เรียนจบจากที่ไหนหรือเคยทำงานประเภทไหนมาก่อน

ความยาวของ Resume สามารถมีตั้งแต่ 1-2 หน้ากระดาษ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในการทำงานของผู้สมัคร แต่สำหรับนักศึกษาจบใหม่  Resume เพียงหน้าเดียวก็เพียงพอแล้ว  

Cover Letter หรือ จดหมายสมัครงาน

ส่วนการเขียน Cover Letter เป็นการนำเสนอจุดประสงค์ของการส่งจดหมายสมัครงาน ให้นายจ้างรู้ว่าเพราะอะไรถึงมาสมัครงานในตำแหน่งนี้ ประสบการณ์จากการทำงานที่ผ่านมามีประโยชน์ต่อการทำงานในตำแหน่งนี้ยังไง คุณสมบัติอะไรที่จะสามารถพัฒนาประสิทธิภาพของบริษัทได้ ถึงสิ่งสำคัญคือเนื้อหาในเรซูเม่แต่การมีจดหมายสมัครงานด้วย จะทำให้เราดูเป็นมืออาชีพขึ้น

สำหรับนักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน พื้นที่นี้จะเป็นที่สำหรับให้บอกเล่าถึงวิชาที่เรียน กิจกรรมที่เคยทำ หรือการฝึกงานที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานได้ ซึ่งจดหมายสมัครงานนั้นจะอยู่ในรูปแบบเหมือนแบบฟอร์มการเขียนจดหมาย มีคำขึ้นต้น คำลงท้าย มีหลายย่อหน้าและเป็นประโยคที่สมบูรณ์ จะเขียนออกมาในลักษณะที่เป็นการอธิบายและบอกเล่า โดยเนื้อความในจดหมายสมัครงานนั้นไม่ควรมีความยาวเกินหนึ่งหน้ากระดาษ และภาษาที่ใช้เขียนนั้นจะต้องเป็นภาษาที่สุภาพและเป็นทางการ

สรุปข้อแตกต่างระหว่าง เรซูเม่ และ จดหมายสมัครงาน

Resume (ประวัติส่วนตัว)

Cover Letter (จดหมายสมัครงาน)

จุดประสงค์

เพื่อบอกข้อมูลส่วนตัว และรายละเอียดด้านการทำงานและการศึกษาต่าง ๆ

เพื่อแนะนำตัวเอง และแสดงจุดแข็งของเรา

ให้บริษัทเห็นถึงเหตุผลที่ควรเรียกเราไปสัมภาษณ์งาน

เนื้อหา

ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการติดต่อ การศึกษา การทำงาน ทักษะและความสามารถ

ประสบการณ์การทำงาน โปรเจกต์ ทักษะการทำงาน หรือกิจกรรม ซึ่งเกี่ยวข้องและจำเป็นต่อตำแหน่งที่สมัคร

รูปแบบ

เขียนในรูปแบบที่เป็นลิสต์รายการลงมาเป็นข้อ ๆ ตามหัวข้อต่าง ๆ

เขียนในรูปแบบของจดหมาย ใช้ภาษาเขียนที่สุภาพ มีคำขึ้นต้น คำลงท้าย และมีได้หลายย่อหน้า

ความยาว

สามารถยาวได้มากกว่า 1 หน้า ขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์ในการทำงาน

ไม่ควรยาวเกิน 1 หน้า A4 แต่ต้องได้ใจความสำคัญครบถ้วน

 
จดหมายสมัครงานแบบแยกประวัติ เหมาะกับใคร
JobThai Official Group
Public group · 200,000 members
 

tags : เรซูเม่, จดหมายสมัครงาน, resume, cover letter, ทำงาน, สมัครงาน, นักศึกษาจบใหม่, career & tips, หางาน, สมัครงาน, เทคนิคสัมภาษณ์งาน, เด็กจบใหม่, freshgrad, ไม่มีประสบการณ์, job interview, เคล็ดลับสัมภาษณ์งาน, เคล็ดลับการทำงาน, สัมภาษณ์งาน, จบใหม่ต้องรู้