ธรรมะประจำวันนี้ ขอพูดเรื่อง ธรรมจักษุ หรือดวงตาเห็นธรรม หรือพุทธนิกาย ZEN ใช้คำว่า ชาโตริ หรือภาษาอังกฤษ คือ Enlighten นี่เป็นเรื่องของภาษาที่ต่างกัน แต่กล่าวถึงสภาวะเดียวกัน Show การที่จะมีดวงตาเห็นธรรมได้ เราก็จะต้องเจริญสติปัฎฐาน 4 กาย เวทนา จิต จนเข้าถึงธรรม เกิดวิปัสสนาญาณ เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง เห็นว่าสรรพสิ่งเกิดดับว่างจากตัวตน เห็นในความเป็นเช่นนั้นเองหรือ ตถตา การรู้เห็นเช่นนี้เราเรียกภาษาพระว่า ยถาภูตะญาณทัศนะ คือ รู้ เห็น ตามความเป็นจริง รู้ด้วยญาณ ที่เรียกว่า รู้อยู่ ว่างอยู่ เห็นอยู่ สภาวะนี้แหละที่เรียกว่า ธรรมจักษุ คือ เกิดดวงตาเห็นธรรม หรือดวงตาธรรม ญาณที่กล่าวถึงนี้ เป็น รู้ ที่บริสุทธิ์ เป็นรู้ที่มีศักยภาพเปรียบประดุจเรดาร์ คือ จะรู้รอบ 360 องศา คือ รู้ทั้งตัวเองที่ว่าง และรู้อีกฝั่งหนึ่งคือ รูป นาม ขันธ์ 5 ที่เกิดดับเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีสาระแก่นสารอะไรที่ยึดมั่นถือมั่นได้ ในสภาวะที่เรียกว่า ดวงตาเห็นธรรมนี้แหละเป็นสภาวะที่เห็นได้ทั้งสองฝั่ง คือ ทั้งฝั่งทุกข์ ที่เกิดจากเหตุปัจจัยปรุงแต่ง หรือที่เรียกว่า สังขาร และฝั่งที่พ้นไปจากทุกข์ คือ ฝั่งที่พ้นไปจากการปรุงแต่งทั้งปวง หรือที่เรียกว่า วิสังขาร เมื่อเข้าถึงญาณรู้ เห็นสภาวะสองฝั่งเช่นนี้ เท่ากับผู้ปฏิบัติเกิดการรู้แจ้งในอริยสัจ 4 คือ รู้ทุกข์ สภาวะที่ปรากฎขึ้นและเสื่อมสลายไป ละเหตุแห่งทุกข์ คือ ถอดถอนตัณหา อุปาทาน ปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น เข้าสู่ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ที่พ้นไปจากความทุกข์ทั้งปวง เจริญข้อปฎิบัติมรรคมีองค์ 8 เพื่อให้เข้าถึงการดับไม่เหลือแห่งทุกข์ สำหรับผู้ปฏิบัติที่เข้าถึงสภาวะนี้ก็จะได้ลิ้มชิมรสของนิพพานชิมลอง จะอยู่ในสภาวะนี้ได้ชั่วคราว แต่ก็จะได้เห็นหนทางเดินชัดเจน แล้วว่าการเจริญสติปัฎฐาน 4 นี่แหละ ที่จะนำเราให้พ้นไปจากความทุกข์ทั้งปวงในวัฎฎะสงสารได้ เพราะฉะนั้นการมีดวงตาเห็นธรรม หรือธรรมจักษุ จึงเป็นเพียงประตูที่เปิดไปสู่การบรรลุธรรมในขั้นต่าง ๆ ตั้งแต่ โสดาบัน ไปจนถึงอรหันต์ ดวงตาเห็นธรรม กับการบรรลุธรรม จึงเป็นคนละขั้นตอนกัน แต่จะบรรลุธรรมได้ต้องเกิดจากการมีดวงตาเห็นธรรมก่อน
Photo by Kristopher Roller on Unsplash Secret Magazine (Thailand) บทความน่าสนใจ อยากหมดทุกข์ต้องปฏิบัติทุกขณะ ธรรมะจากพระครูเกษมธรรมทัต (สุรศักดิ์ เขมรังสี) สมาธิวิธี โดย พระญาณวิศิษฎ์สมิทธิวีราจารย์ (หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม) ฟังอย่างไรให้กิเลสขาดไปสู่นิพพาน ท่านเจ้าคุณโชดก ญาณสิทธิเถร (พระธรรมธีรราชมหามุนี) ดับความโกรธเกลียดด้วยการเจริญเมตตา โดย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช อานิสงส์ของการมีครู ธรรมะจาก หลวงปู่หลุย จันทสาโร
ธรรมะ สุขใจ Dhamma Secret Dhamma Secret Magazine Thailand ซีเคร็ต ดวงตาเห็นธรรม ธรรมจักษุ ธรรมะ เมตตา อุทกะพันธุ์ เรื่องทั่วไป > ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) (1/1) kallaya: อ่านกระทู้ฝั่งนี้ แล้วได้ความรู้ มั่กมาก จริง ๆ โดยเฉพาะคุณณัฐพลสันต์ นี่อยากคุยด้วยจัง ถ้าจะเป็นศิษย์เอกพระอาจารย์แน่ เลย ( อิจฉา ;D อิ ;D อิ ) ที่จริงจะบอกว่าตัวเองรู้ ก็ยังไม่น่าจะใช่ เพราะเข้าใจว่า ดวงตาเห็นธรรม น่าจะเป็น พระโสดาบัน raponsan: ได้ให้ความหมายของ ดวงตาเห็นธรรมและธรรมจักษุ ไว้ดังนี้ จักษุ จักขุ ในทางพระพุทธศาสนา มีความหมายสองประการ คือ 1. มังสจักขุ ได้แก่ นัยน์ตาเนื้อใช้มองดูสิ่งต่างๆได้ เช่น นัยน์ตาของสัตว์ทั้งหลาย ปัญญาจักขุ ในทางพระพุทธศาสนาแสดงไว้เป็นห้าชนิด คือ ปัญญาจักขุห้าประการนี้ ตอบคำถามคุณกัลยา สำแดงปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตตนสูตรโปรดเบญจวัคคีย์ ให้ได้ดวงตาเห็นธรรม ผู้ฟังธรรมมี ๕ คน ที่เรียกว่า 'เบญจวัคคีย์' เรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เมื่อพระพุทธเจ้านิพพานแล้ว พระสาวกรุ่นทำสังคายนาตั้งชื่อเรื่องเทศน์กัณฑ์ที่พระพุทธเจ้า พอแสดงธรรมกัณฑ์นี้จบลง โกณฑัญญะ ผู้หัวหน้าเบญจวัคคีย์ได้เกิดดวงตาเห็นธรรม คือ โกณฑัญญะฟังธรรมจบแล้ว ได้ทูลขอบวชเป็นพระภิกษุ พระพุทธเจ้าจึงทรงประทานอนุญาต -------------------------------------- ขอนำบาลีและคำแปลบางส่วนของธัมมจักกัปปวัตตนสูตรมาแสดงดังนี้ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร คำขึ้นต้น เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา พาราณะสิยัง วิหะระติ อิสิปะตะเน มิคะทาเย ตัตระ โข ภะคะวา ปัญจะวัคคิเย ภิกขู อามันเตสิ คำช่วงกลาง อิทะมะโว จะ ภะคะวาฯ อัตตะมะนา ปัญจะวัคคิยา ภิขู ภะคะวะโต ภาสิตัง อะภินันทุง ฯ อิมัสมิญจะ ปะนะ เวยยากะระณัสมิ ภัญญะมาเน อายัส มะโต โกณฑัญญัสสะ วิระชัง วีตะมะลัง ธัมมะจักขุง อุทะปาทิ ยังกิญจิ สุมุทะยะธัมมัง สัพพันตัง นิโรธะธัมมันติ ฯ หมายเหตุ - คำบาลี “ธัมมะจักขุง” แปลว่า ธรรมจักษุ หรือ ดวงตาเห็นธรรม นั่นเอง คำลงท้าย จบ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร whanjai: สาธุ สาธุ สาธุ patra: :13: The-ring: :25: นำร่อง [0] ดัชนีข้อความ โกณฑัญญะเกิดธรรมจักษุหรือดวงตาเห็นธรรม หมายถึงอะไรดวงตาเห็นธรรม แปลมาจากบาลีว่า ธัมมจักขุ การที่โกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม ก็คือได้เกิดความรู้เห็นตามเป็นจริงซึ่งธรรมชาติและธรรมดาของสิ่งทั้งหลาย ว่ามีการเกิดขึ้นเป็นธรรมดา มีการดับสลายเป็นธรรมดา
ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลีเกิดขึ้นแก่โกณฑัญญะความว่าอย่างไรในขณะนั้นท่านเป็นอริยบุคคลชั้นไหน๒๙ ๔. ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลี เกิดขึ นแก่พระโกณฑัญญะความว่าอย่างไร ? ในขณะนั น ท่านเป็นพระอริยบุคคลชั นไหน ? ตอบ ความว่า สิ งใดสิ งหนึ งมีความเกิดขึ นเป็นธรรมดา สิ งนั นทั งหมดมีความดับไปเป็นธรรมดา ฯ เป็นพระอริยบุคคลชั นพระโสดาบัน ฯ ๕. พระศาสดาทรงแสดงอนุปุพพีกถา และอริยสัจ ๔ ตามลําดับ แก่บุคคลผู้มีคุณสมบัติเช่นไร ?
ผู้ได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระอริยบุคคลขั้นใด"ดวงตาเห็นธรรม" เป็นคำเรียกผู้ที่บรรลุ "โสดาปัตติผล" เป็นพระ "โสดาบัน" (ผู้แรกหยั่งลงสู่กระแสพระนิพพาน) ซึ่งถือเป็นพระอริยบุคคลขั้นต้นในสี่ขั้น กล่าวคือ (๑) พระโสดาบัน (๒) พระสกทาคามี (๓) พระอนาคามี (๔) พระอรหันต์
เมื่อพระสารีบุตรมีดวงตาเห็นธรรมได้ไปเล่าให้ใครฟังด้านการปฏิบัติที่เป็นแบบอย่างที่ดีนั้น พระสารีบุตรเถระเป็นผู้มีความกตัญญูอย่างยิ่ง ท่านได้บรรลุโสดาบัน และได้บวชในพระพุทธศาสนา เพราะได้ฟังธรรมจากพระอัสสชิตั้งแต่นั้นมาท่านนับถือพระอัสสชิว่า เป็นอาจารย์ของท่าน ทำการเคารพกราบไหว้เสมอ ทราบว่าพระอัสสชิอยู่ทางทิศใด จะยกมือไหว้และนอน ผินศีรษะไปทางทิศนั้น
|